อากาศเย็นๆ กินไรดีน้า ^^
555.... แน่นอน...หากไม่มีการอัพเดทเรื่องอาหาร ดูเหมือนจะไม่ช่าย blog ของข้าเจ้า....เนื่องจากช่วงนี้อากาศมันเย็น...ก้เลยทำให้ตกเย็น มีแต่การสังสรรค์ เพราะทุกคนอยากออกมาท้าลมหนาวพร้อมกับเพื่อนๆ และอาหารอันโอชะ เปิดสัปดาห์ด้วยการถูกเชื้อชวนไปกิน เอิ่มมม ไม่รุ้จะเรียกอะไรดี .. ซุปไก่ ไก่ตุ๋มโสม หรือ โจ๊กไก่... ก้มันดันใส่ไปซะทุกอย่าง มีทั้งไก่ เครื่องยาจีน โสม และก้ข้าว... มันเลยงง งง แปลไม่ถูก แต่ถ้าเอาง่ายๆ ตามภาษาของคนที่นี่ เค้าก้เรียกว่า 삼계탕 - Samgyetang หรือ ซัมเกทัง
หลังจากนั้นได้ไม่นาน ทุกคนก้เกิดอาการอยากอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเด็กลาว เด็กอินโด เด็กติมอร์ หรือแม้กระทั่งเด็กจากกัวเตมาลา...เราก้เลยมุ่งหน้ากันไป...ร้านอาหารไทย เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ Wonju ก้แอบมีร้านอาหารไทยชื่อดังมาเปิดอยู่เหมือนกันน่ะจ๊ะ ไม่ธรรมดา อิอิ..... ร้าน Thai House ถือว่าเป้นร้านที่แอบดังอยู่ที่เกาหลี เนื่องจากมีหลายสาขา อยุ่ในเมืองต่างๆ ที่ร้านนี้ เราเลยได้พบพี่เชฟคนไทย ใจเกินร้อย หลังจากสัมภาษณ์ไปสักพัก ก้ได้ความว่า พี่ก้อยุ่มาปีนึงแล้ว...ก้อยู่มันคนไทยคนเดียวในร้านนี่แหละ ไม่มีคนไทยอีกเล้ย..... แต่ว่า มีลูกค้าไทยเข้ามากินอย่างน้อย 1 คนต่อวัน มีแน่ๆๆ... ที่นี่คนไทยเย๊อะๆๆๆ เดินๆ ไปเด๋วก้ชน ..... โหยยยย ได้ฟังแล้วรู้สึกดีใจยังงัยก้มะรู้ ปอลิง. เดินมา 2 เดือนแล้ว ยังไม่ชนคนไทยเบยยย.... หลังจากเม้าท์มอยไป ก้เลย สั่งผัดไท ทะเลผัดผงกะหรี่ และต้มยำกุ้ง มารัปทานบรรเทาความอยากรสจัด... เสียหายไปเป็นหลักแสน แต่อิ่มอร่อย และสบายใจกันไปถ้วยหน้า.... ปอลิงตัวที่2. ต้มยำกุ้งออกจะหน้าตาประหลาดไปเล็กน้อย ตามแต่วัตถุดิบที่จะหาได้...แต่รสชาติการันตีว่า บรรเทาอาการคิดถึงบ้านไปได้ชั่วระยะนึงแน่นอน 555...ไม่แน่ใจว่าเพราะราคาด้วยรึเปล่า
จบจากต้มยำกุ้ง....วันต่อมาก้ถูกเชิญ แกมบังคับ จากเพื่อนๆในแลปว่า...นี่มันถึงเวลาของ Get Together Dinner แล้วน่ะ...เราเว้นมาจะสองเดือนแล้ว.....วันนี้น่ะ ทุ่มนึง เจอกันหน้า 7-11 ... ก้ตามนั้นจ้า.... พอไปถึง กัปตันประจำห้อง lab หรือน้องชอย...ฮีชื่อ ชอย เจรงๆๆๆ น่ะ...ก้ดำริว่า วันนี้เราจะกิน DakGalbi (หรือที่คนไทยเรียกว่า ทัคคาลบี่) กันจ้า..... หน้าตาของทัคคาบี้ที่ร้านนี้ก้จะเป็ ไก่ผัดกับผักกะหล่ำและต้อก กินกันร้อนๆ อ้อ...ใส่เส้นมาม่าลงไปด้วย ผัดๆๆๆ กินแกล้มผัก อร่อยเว่อร์..... พอเรากินหมดกะทะ เค้าก้จะเอาข้าวที่ปรุงรสด้วยซีอิ้วและสาหร่าย มาผัดกับซ้อสที่เหลือติดที่กะทะ กลายเป้นข้าวผัดที่แอบกรอบๆ เพราะแอบไหม้เล็กๆ หอมมาก แถมโป๊ะด้วยชีส.... กลายเป็นข้าวผัดชีสกะทะร้อนซ้อสทัคคาลบี้ อร้อย อร่อย คุณน้าที่เป้นเจ้าของร้านเป็นคนมาผัดข้าวให้ แอบใจดีทำเป้นรูปหัวใจให้ด้วยซะงั้น เนื่องจากเรามาฉลองวันเกิดของน้องในแล็ปคนนึงด้วย หน้าตาข้าวผัดโป๊ะชีสเลยออกมาให้เห็นตามรูปข้างล่าง... และตามธรรมเรียบ จิบโซจู หรือ เม็กจู (เบียร์) ตามเข้าไป ฟินนนน......
ยังไม่จบ.... อาทิตย์นี้ ยังมีอีก 555.... อากาศเย็นๆ แบบนี้ จะขาดหมูกะทะไปได้งัย... วันนี้เลยขอนำเสนอ หมูกะทะที่ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่กิน และคงไม่มีโอกาสบ่อยๆ ที่จะได้กิน เนื่องจากได้ยินข่าวลือว่า ร้านนี้แอบแพง สาธุ... บุญจริงๆ ได้เกาะชายเสื้อเพื่อนมากิน ร้านนี้ชื่ออะไรไม่ทราบ เพราะว่าอ่านไม่ออก แต่เป็นร้านชื่อดังที่ Wonju ขายหมูกะทะ แต่ที่ไม่เหมือนร้านอื่นคือ เป้นหมูจากเกาะเจจู เอิ่มม ก้ไม่ทราบว่ามันพิเศษยังงัย ไอ้หมูจากเจจู แต่จากที่ฟังๆๆๆ มา เค้าบอกว่า.... มันหันไม่เหมือนชาวบ้านเค้า แค่นั้นเอง...คือหมูที่อื่นจะหั่นบางๆ แต่หมูที่มาจากเจจู จะหั่นเป้นเต๋า ประมาณนั้น >< คนไทยเยี่ยงเรา ไม่สามารถดีเทคได้ ตอบตามตรง งุงิ งุงิ รู้แค่อร่อยเป้นพอ 555.... อ้อๆๆๆ อีกอย่างที่ทำให้รุ้สึกว่า มันช่างอร่อยซะเจรงๆ ก้คือ ไอ้น้ำจิ้มที่ถูกเผาไฟอยู่ในรูป คือเนื่องจากเจจูเป็นเกาะทางตอนใต้ ที่สามารถทำประมงได้ ก้เลยมีสูตรน้ำจิ้มเด็ด ไม่เหมือนที่อื่น...ไอ้น้ำจิ้มที่ว่านี้ น่าจะเกิดจากการหมักของกุ้งหรอืไม่ก้ปลา เลยมีรสชาติเหมือนน้ำปลาผสมกับกลิ่นกะปิเล็กๆ เหมือนที่บ้านเราเล้ย... มันมากับพริกและกระเทียมด้วย มันเลยเด็ดตรงนี้แหละ .... แล้วเค้าก้เอาไอ้เจ้า น้ำปลาพริกกระเทียม นี่ไปย่างไฟร้อนๆ แล้วก้เอาหมูย่างร้อนๆ จิ้มลงไป โหยยยย กินกับข้าวสวยร้อนๆ นี่มันสุดยอดเลยจริงๆ ทั้งเราและเด็กลาวหันมามองหน้ากันอย่างมีความสุข เด็กลาวบอกว่า นี่มัน "แจ่วซัดๆ"
ขอปิดท้ายด้วยขนมหวาน แต่อันนี้ไมได้ไปกินที่ร้านไหนจ้า...เพื่อนที่ไปสัมมนาที่เจจูเอามาฝาก เป็น chocolate 1 กล่องมี 4 รส... มีรสส้มธรรมดา รสชาเขียว รสส้มจากเกาะเจจู และรสดอกไม้...ไอ้เราก้เอ้อ...รสดอกไม้มันฟังดูแปลกดี ยกมือทันที เก๊าเอารสดอกไม้...พอได้มา ถึงกับอึ้ง มันไม่ใช่ดอกไม้ธรรมดา มันเป็นรสดอกกระบองเพชร....เย้ แปลกได้อีก... แน่นอน เจ๋งที่สุด ถ้าไม่แปลก จะลองกินไปทำไม้...จัดไป.... รสชาติออกขมๆ เล็กๆ แต่ก้อร่อยดี ถ้าไม่รุ้มาก่อนว่ารสอะไร ก้คงไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่สามารถจิ้นไปได้เจรงๆ ว่าเป้นรสดอกกระบองเพชร
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2556 |
|
3 comments |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2556 19:35:02 น. |
Counter : 957 Pageviews. |
|
|
|