|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สนใจธรรมะและการปฏิบัติธรรมกันไหมคะ
จะเขียนบล็อกเล่าเรื่องตัวเองก็รู้สึกขัดเขิน เพราะมีคนเข้ามาอ่าน เขียนอะไรก็กลัวว่าคนอ่านจะเบื่อว่ามาพล่ามอะไร ส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยอัพบล็อกเล่าเรื่องของตัวเองเท่าไรนัก
วันนี้เรื่องที่จะเล่าก็เป็นความสนใจอีกด้านหนึ่ง ในเรื่องธรรมะ ซึ่งให้ความสนใจมานานแล้ว แต่ว่าไม่ค่อยปะติดปะต่อ สมัยยังเรียนหนังสือ เคยไปปฏิบัติธรรมอยู่วัดอาทิตย์หนึ่ง หลังจากนั้นก็ห่างหายมานานไม่ได้ไปอีก
ช่วงนี้หันกลับมาศึกษาพระธรรมอย่างจริงจังขึ้น หยิบหนังสือธรรมะหลายๆ เล่มที่เมื่อก่อนอ่านไม่เข้าใจ รู้สึกว่าเข้าใจยาก พอเอามาใช้พร้อมกับการวิปัสสนากรรมฐานแล้ว รู้สึกว่าเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยคิดเอาหนังสือไปบริจาควัด ก็คิดว่าเก็บไว้อ่านให้ขึ้นใจก่อนดีกว่า
ตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้านั่งสมาธิได้ถึงสามชั่วโมงเมื่อไร จะไปสถานปฏิบัติธรรม อาจจะอยู่สักอาทิตย์ หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง มีเรื่องที่อยากรู้เพิ่มขึ้นมาก อยากซักถามผู้รู้ให้คลายสงสัย
วันก่อนจิ้มไปทัศนาบล็อกของคุณ Maxpal ที่มาเยี่ยมและคอมเม้นท์ทิ้งไว้ในบล็อกแจกแบนเนอร์หลังไมค์ ถึงได้เห็นว่าเธอไปปฏิบัติธรรมมา สถานที่นั้นน่าสนใจมาก จขบ.ไม่เคยทราบมาก่อน ว่ามีที่แห่งนี้อยู่ด้วย เพราะครั้งก่อนที่เพื่อนชวนไปปฏิบัติธรรมนั้นเป็นสถานปฏิบัติทางหางดง หรือที่เพื่อนอีกคนไปก็เป็นวัดทางแม่ริม
แต่ทางดอยสะเก็ดแม้จะนับว่าไกลจากที่จขบ.อยู่กว่าที่อื่นๆ ที่ว่ามาข้างต้น แต่สถานที่และมีการปฏิบัติเคร่งครัดน่าสนใจมาก
วินาทีแรกที่ได้ทราบว่าต้องนั่งสมาธิไม่กระดุกกระดิก ห้ามพูดคุยกับใคร ห้ามมองหน้า ให้มองต่ำ ต้องเดินและทำอะไรช้าๆ กำหนดจิตให้รู้หนอ
ณ ตอนนั้นมารในตัวมันกรีดร้องออกมาเลยว่า ไม่ได้ ทำไม่ได้แน่ๆ ใครจะไปทำแบบนั้นได้ แถมยังต้องนั่งสมาธิอย่างต่ำหนึ่งชั่วโมง อย่างยาวสามชั่วโมงด้วย โอย ตายๆๆ ตายแน่ ได้ปวดหลังตายกันพอดี
กิเลสมันเยอะ ก็โวยวายกันไป ต่อมาจขบ.จึงเริ่มอ่านและอ่าน ทั้งหนังสือและเว็บซึ่งตอบคำถามเกี่ยวกับข้อธรรมะ จึงได้รู้ว่า การเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั้น เขาปฏิบัติกันเช่นนี้แล...ที่เรารู้สึกว่ายากเพราะเราต้องบังคับใจตัวเอง ไม่ปล่อยปละให้มันเที่ยวเสาะกิเลสฟุ้งซ่าน มันจึงดูเหมือนยากสำหรับคนไม่เคยลงมือทำ เหมือนต้องเดินไปในห้องมืดๆ ที่ไม่รู้จัก ตอนแรกก็จะกลัวไม่กล้าเดิน ล้มลุกคลุกคลานเพราะไม่ชิน แต่ถ้าได้ลองเดินดูก็จะรู้ว่าเป็นทางที่ตรงไปสู่แสงสว่าง และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราสร้างภาพเลย
การคิดจากบ้านจากหน้าคอมพ์ไปสถานปฏิบัติธรรม ควรเริ่มมีพื้นฐานก่อนสักเล็กน้อย เพื่อเตรียมจิตใจและเป็นการปูพื้นฐาน อย่างเช่นการนั่งสมาธิ การฝึกเดินจงกรม
การเดินจงกรมไม่ใช่สักแต่เดินช้าๆ เดินสโลว์โมชั่น แต่มีการภาวนากำหนดรู้ทุกขณะจิต ไม่ใช่การเดินอย่างไร้จุดหมาย หรือเดินไกลๆ ระยะในการเดินจงกรมใช้เพียงสั้นๆ เพื่อที่เราจะได้หมุนตัวกลับ และกำหนดรู้ยืน จิตของคนเราเดินทางเร็วมาก เร็วกว่าทุกสิ่งในโลก เร็วกว่าแสงเสียอีก การกำหนดให้จิตอยู่กับเราทุกขณะการกระทำจึงเป็นเรื่องยากมาก
หลังจากเริ่มนั่งสมาธิ จึงได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า มันไม่ได้ทุกข์ทรมานถึงขนาดทนไม่ได้ ไม่มีใครตายเพราะนั่งสมาธิจริงๆ มีแต่นั่งแล้วจะยิ่งรู้สึกดีขึ้นๆ จนภาวะความเจ็บปวดนั้นมันเลือนหายไปเอง เพราะเราไม่ได้สนใจตรงนั้น ไม่ได้ยึดติดสังขาร ซึ่งเป็นแค่เปลือกอีกต่อไป โชคดีที่จขบ.ไม่มีปัญหาเรื่องปวดหลังสักเท่าไร มีแค่ปวดข้อเท้าซึ่งขัดสมาธิไว้ จึงนั่งได้นานหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
ครานี้มาถึงเรื่องรักษาศีล อาชีพเขียนหนังสือเป็นอะไรที่ช่วยให้จขบ.สามารถรักษาศีลได้ดีกว่าการทำอาชีพอื่น เพราะไม่ต้องพบปะผู้คน ไม่ต้องพูดคุยเพ้อเจ้อ ไม่ต้องโกหก ไม่ต้องคดโกงใคร ไม่ต้องไปเที่ยวกินดื่มเพื่อสังคม ไม่ต้องไปเจอคนไม่ดีทั้งหลาย
ในศีล 5 ข้อเดียวที่จขบ.คิดว่ามีปัญหาคือข้อมุสา เพราะการไม่พูดปด ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดนินทา ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเมาท์ไร้สาระ
มันยากจริงๆ นะ ไม่อย่างนั้นเจอเพื่อนจะทำอย่างไร พูดเรื่องละคร เมาท์ข่าวดาราตบกันไม่ได้ ได้แต่สนทนาธรรมกันกระมัง - -''
ดูรายการธรรมะ เขาเล่าว่า พระราหุลเมื่อครั้งอายุได้ 7 ขวบ บวชเป็นสามเณรองค์แรกของโลก ด้วยความเป็นเด็กจึงชอบเล่นและแกล้งเหล่าอัครสาวกทั้งหลาย พระพุทธองค์จึงตรัสสอนพระราหุลว่า 'ผู้ใดมุสา ผู้นั้นไม่กระทำชั่วไม่มี'
จึงเห็นได้ว่าไอ้กรรมที่ออกจากปากเรามันหนักทีเดียวและมากกว่ากรรมด้านอื่นๆ เสียด้วย
กรรมอื่นในศีลทั้ง 4 ข้อ อาจนานทีปีหนเผลอทำเสียทีหนึ่ง แต่ข้อมุสานี้ อาจเผลอทำผิดได้ทุกวัน วันละหลายหน
การรักษาศีลนั้นยาก แต่ถ้าทำได้ครบนับว่าประเสริฐ จขบ.ก็พยายามรักษาอยู่ หวังว่าคงไม่เผลอทำขาดไปตอนไม่รู้ตัว เอาแค่ศีล 5 เพราะศีล 8 คงถือได้เฉพาะตอนอยู่วัด แต่อยู่บ้านนี้ทำลำบากหน่อย ห้ามประโคมดนตรี (เปิดวิทยุทีวีไม่ได้) ห้ามประพรมของหอมเครื่องหอม (ทาแป้งชะโลมครีมไม่ได้) ห้ามนอนบนฟูก (ทำไงดีมีแต่เตียง ไม่เหลือที่จะลงไปนอนพื้น)
เอาไว้วันหลังจะมาเล่าเรื่องการนั่งสมาธิ
ฝากทิ้งท้าย
'ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราคถาคต'
อย่าเป็นเช่น กามนิต ที่เอาแต่ยึดมั่นในตัวพระพุทธองค์แต่ไม่เคยมองเห็นพระธรรมที่ท่านแสดง
|
Create Date : 22 ตุลาคม 2550 |
|
15 comments |
Last Update : 23 กันยายน 2552 3:30:04 น. |
Counter : 714 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: once_day 22 ตุลาคม 2550 18:10:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: hs_olj 22 ตุลาคม 2550 19:07:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: maxpal (maxpal ) 22 ตุลาคม 2550 20:17:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: นราเกตต์ 23 ตุลาคม 2550 23:37:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: RB..515 (muansuk ) 25 ตุลาคม 2550 23:20:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: donutty IP: 203.154.154.162 30 ตุลาคม 2550 13:02:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: oa (rosebay ) 1 พฤศจิกายน 2550 22:11:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: นราเกตต์ 4 พฤศจิกายน 2550 8:01:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: พัน IP: 118.172.102.178 19 กรกฎาคม 2551 23:31:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกสริน IP: 118.174.191.18 27 กรกฎาคม 2551 10:59:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: REE IP: 202.28.179.13 27 ตุลาคม 2551 15:49:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|