Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
ช่วงนี้หายหน้าไปไหน

การบริจาคเลือดเนื้อคือทานอันยิ่งใหญ่...

ใช่แล้วค่ะ จขบ.ไปบริจาคเลือดมา อันที่จริงแล้วชอบบริจาคเลือดมาก แต่อุปสรรคเดียวที่ขวางกั้นจขบ.กับเข็มดูดฮีโมโกบินก็คืออาการเลือดลอย อาการที่ว่านี้จะเกิดกับคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่อุตส่าห์งดกาแฟก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันแล้ว ยังไม่วาย...เจาะปั๊บเลือดลอยเท้งเต้งปุ๊บ

ในการบริจาคเลือดของจขบ.เจาะเลือดสองครั้งจะลอยสักครั้ง นั่นคือจะบริจาคสำเร็จเพียงครึ่งเดียวของการไปทั้งหมด (อีกครึ่งเจ็บตัวฟรี)

อดค่ะอด พอบอกว่าเดี๋ยวจะกลับมาใหม่ เจ้าหน้าที่ก็แสนใจดี ถามว่าจะเอาธาตุเหล็กไปบำรุงเลือดไหม ถ้ากินก็จะให้ ถ้าไม่กินก็ไม่ให้ ยาแพง

เออ เอาก็เอาฟะ สตรีควรบำรุงเลือดไว้เป็นดี ก็เลยรับมาค่ะ เพิ่งลองเอามากินเมื่อกี้นี้ เกือบตาย...

ไม่ใช่เพราะยาเม็ดใหญ่ ไอ้เรื่องกินยาเนี่ยถนัด สมัยเด็กๆ กินเป็นกำๆ แต่ที่ว่าจะตายคือ บนซองเขียนว่าให้กินตอนท้องว่างหรือก่อนนอน ทว่าพอกินเข้าไปสักพักปั่นป่วนมวนท้องพะอืดพะอมขึ้นมาหน้าซีดหน้าเซียว เหมือนมันมีอะไรแตกแล้วบิดโหวงอยู่ข้างใน คล้ายพวกโรคกระเพาะขั้นสุดท้ายกำเริบกะทันหัน (จขบ.ไม่ได้เป็นโรคกระเพาะนะคะ) คิดว่าจะไม่รอดเสียแล้ว ตัวก็เย็นลงๆ อ๊อก...

รีบคว้าแก้วน้ำมาดื่ม ดื่มหมดไปสองแก้ว ค่อยยังชั่วขึ้น แอบคิดว่าสงสัยยามันจะแรงเกินไป ไม่เอาอีกแล้ว ขืนบำรุงอีกคงเดี้ยงก่อนได้เลือดสมบูรณ์แน่ๆ เลย เดี๋ยวไว้นอนดีๆ ให้เต็มอิ่มแล้วค่อยไปก็ได้



ช่วงนี้หายหน้าไปไหน?

คิดว่าคงมีคนสงสัย บางทีก็เกิดอาการเบื่อการสื่อสารขึ้นมาน่ะค่ะ ก็จะหายหัว เอ๊ย ศีรษะไปจากการเสวนาวิสาสะกับชาวบ้าน หายไปใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มาก ไปอ่านหนังสือ ดูหนัง ทำงาน(เล็กน้อย) แล้วก็ทำอย่างอื่น แต่ส่วนใหญ่จะหมดไปกับหนังสือ ถ้าอ่านหนังสือเมื่อไรเป็นได้หายไปหลายๆ วันทุกที

ในเชียงใหม่มีร้านเช่าหนังสือเจ้าประจำอยู่ คิดว่าคนเชียงใหม่หลายๆ คนคงรู้จักกันดีเพราะร้านนี้ใหญ่มาก จขบ.เป็นลูกค้าเก่า(ยังไม่แก่นะ) ตั้งแต่ก่อนเปิดร้านเสียอีก

ทำไมถึงว่าก่อนเปิดร้าน ว่าด้วยพิกัดหน้าร.พ.ประสาท เมื่อก่อนมีร้านเช่าหนังสือสองร้านคือร้านสวนหนังสือ และร้านพลอย ตอนนั้นก็เป็นลูกค้ามันทั้งสองร้าน แต่ต่อมาเช่าแค่ร้านพลอย เพราะสวนหนังสือมีหนังสือน้อยกว่าแถมยังใช้ระบบเส้นสาย ต้องสนิทกะร้านถึงจะได้เล่มใหม่ๆ ไปอ่านก่อน ทำให้แอบเซ็ง

เลิกค่ะ มาเช่าร้านพลอยดีกว่า แต่ก็ติดว่าต้องวางบัตรประชาชนไว้อีกแหละ ต่อมาก็มีร้านดาวมาเปิด ร้านดาวนี้อันที่จริงคือร้านเดียวกับร้านพลอย แต่ร้านดาวจะทันสมัยกว่า ยิงบาร์โค้ดปื๊ดๆ ขณะที่ร้านพลอยใช้บัตรเสียบยืมยังกะห้องสมุด (ตอนหลังพัฒนาแล้วมั้ง) กระทั่งร้านและชั้นวางรวมถึงบรรยากาศก็โบราณๆ ค่ะ (เห็นคลาสสิกแบบนั้นหนังสืออะไรก็มีนะเออ)

พอร้านดาวซึ่งไม่ต้องใช้บัตรประชาชนเปิด แค่ทำบัตรสมาชิกก็ยืมได้แล้ว จขบ.เลยโยกมาเป็นสมาชิกร้านดาวค่ะ ผ่านมาก็อ่า...สิบกว่าปีเศษแล้ว

พูดถึงร้านดาว คิดว่าเป็นร้านเช่าหนังสือที่อลังการงานสร้างมากตรงที่มีหนังสือเกือบทุกอย่างทุกเล่มในเมืองไทย เว้นก็แต่หนังสือวิชาการและหนังสือเฉพาะกลุ่ม นอกนั้น ร้านดาวมีทุกอย่างที่เราต้องการ

จขบ.ใช้ร้านนี้เป็นแหล่งข้อมูลบ่อยๆ อยากได้อะไรก็ไปค้นๆ เพราะอยากได้หนังสือเก่าแค่ไหน ในร้านนี้ก็มักจะมี ไม่ใช่หนังสือที่ย้อนอายุแค่ สิบปี แต่สามารถย้อนไปได้ ยี่สิบสามสิบปีทีเดียว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อมันมีอ่ะ

ตอนที่เหล่าเพื่อนนักเขียนจากบางกอกขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่และเยี่ยมจขบ. ก็พาไปดูร้านนี้แหละ พวกนั้นถึงกับตะลึงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่แล้วก็วิ่งหายเข้าซอกหลืบร้านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพอได้หนังสือมาคนละตั้ง ก็พากันครวญว่าทำไมไม่มีร้านแบบนี้ที่กรุงเทพบ้าง

เออ ฉันก็ไม่เห็นร้านแบบนี้ที่อื่นเหมือนกัน

ร้านดาวถึงแม้จะเป็นร้านสองคูหา แต่ว่าหนังสือนั้นตั้งแต่เท้าจรดเพดาน แถมยังมีกรุแอบๆ มีชั้นสองสำหรับเก็บหนังสือเก่า หนังสือที่เข้าร้านแต่ละปกจะเข้าประมาณสามถึงสี่เล่ม ทำให้เราไม่ต้องรอคิวนานค่ะ พอหนังสือเก่าแล้วร้านก็จะเก็บไว้เล่มนึงแล้วที่เหลือก็โล๊ะไปไว้ร้านเช่าอื่นๆ ในเครือ หรือถ้าหนังสือในร้านดาวไม่มี เขาก็จะไปหยิบที่ร้านพลอยให้ค่ะ แบบว่ามีสำรองเก็บแบ่งปัน

หนังสือในร้านก็มี การ์ตูนทุกค่าย นิยายไทยทุกเล่ม นิยายแปลทุกค่าย นิยายจีน วรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี สืบสวน ฆาตกรรม โรคจิต เหนือธรรมชาติ ปรัชญา สารคดี นิตยสาร วารสาร โรมานซ์ทุกค่าย พ็อคเก็ตบุ๊คทุกเล่ม (หมดยังเนี่ย)

จริงๆ เชียงใหม่ร้านเช่าหนังสือเยอะมากๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด หนังสือมีหลายประเภทไม่ใช่มีแค่การ์ตูน แถมค่าเช่าก็ถูกถู๊กถูก

อย่างร้านดาวนี่ เช่านิยายเล่มละประมาณ 5 บาท(เมื่อก่อนเล่มละ 3-5) การ์ตูนเล่มละ 3 บาท หนังสืออื่นๆ 4-5 บาท หนามากๆ แบบฮิลลารี่ก็ราคา 7-10 บาท ต่อวัน ถ้าเช่าครบทุกๆ 10 บาท(รวมค่าปรับก็ได้) จะได้คูปองส่วนลดอีก 2 บาท

เท่ากับว่าเช่า 10 บาท จ่ายแค่ 8 บาทเท่านั้นเอง สะสมคูปองให้ได้เยอะๆ แล้วเอามาจ่ายแทนค่าเช่าทั้งหมดก็ได้ ไม่มีชักสีหน้าหรือทำหน้าไม่พอใจค่ะ ใช้แทนเงินสดได้เป็นปกติเลย

เช่าร้านนี้มาก็นานมาก จนถึงขนาดว่าไม่ย้ายที่อยู่ไกลกว่าร้านนี้เลยทีเดียว ปัจจุบันจขบ.ซื้อหนังสือน้อยมาก เพราะไม่มีที่เก็บ เลยอาศัยเช่าเอา เสียค่าเช่าเดือนละประมาณสองสามร้อยบาทได้อ่านหนังสือเยอะดี

ดังนั้นถ้าหายหน้าไปอย่าแปลกใจค่ะ หายไปอ่านหนังสือนั่นเอง ไม่ก็ดูหนัง เมื่อวานนี้ร้านเช่าวีซีดีเพิ่งขึ้นราคาจาก 10 บาทเป็น 15 บาท ชิๆๆ แอบเคือง ล่าสุดดู

ฮันนะซังสวยสั่งได้ - พระเอกหล่อจังเลย อ๊างงง~ สุดยอดมาก ทั้งตลกทั้งซึ้ง นางเอกน่ารักดี ตอนจบเรียกน้ำตาได้ไหลพรากๆ

It's boy girl thing (หนุ่มห้าวสลับสาวจุ้น) - พระเอกหล่อน่ากินอีกแล้ว แอบประทับใจตอนนอนไม่ใส่อะไรเลย ฮ่า เป็นเรื่องรักใสๆ สองหนุ่มสาวไฮสคูลสลับร่างกันค่ะ สนุกดี

ประเดี๋ยวจะหาว่าจขบ.หื่นไปเอง มีภาพปลากรอบ ดูเอาเถิดว่าน่ากินจริงรึเปล่ากับพ่อหนุ่มคนนี้ (อนึ่งสาวโสดและสาวคานควรพิจารณาให้ชัดๆ)



Kevin Zegers


ไดฮาร์ด 4 (ปลุกอึดตายยาก) - ตายยากจริงๆ ด้วย นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงตายไปแล้วร้อยศพ ชอบหนุ่มแฮกเกอร์กับลูกสาวเฮียจัง

Fly daddy, fly (พ่อครับ อัดให้ยับเลยพ่อ) - นำแสดงโดย ลี จุนกิ อันนี้ก็กรี๊ดจุนกิอีกตามเคย เรื่องนี้หล่อมากๆ ค่า เท่เยือกเย็นเหมือนพวกตัวเอกในการ์ตูนผู้หญิง ที่ชอบนิ่งๆ อ่านหนังสือ แล้วก็ใช้สมอง แต่เวลาให้ลงมือก็รวดเร็วฉมัง กำราบคู่ต่อสู้ได้ในพริบตา อ่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ชายวัยกลางคนที่ต้องการลุกขึ้นมาต่อสู้กับนักมวยม.ปลาย ที่ไปอัดลูกสาวเขาเข้าร.พ.จนเป็นโรคหวาดกลัว

คนพ่อก็เลยต้องไปฝึกการต่อสู้กับจุนกิ เพื่อที่จะได้มาล้างแค้นให้ลูกแล้วก็สร้างความมั่นใจให้เธอเชื่อว่าพ่อคุ้มครองได้ ไม่ต้องกลัวการกลับมายืนโลกภายนอกอีก เป็นหนังที่ซาบซึ้งให้แง่คิดอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ชอบตอนที่วิ่งแข่งรถเมล์ หุหุหุ ลุ้นมากๆ แถมสุดท้ายยังฮาซะ

แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ภาคล่าสุด - คิดว่าหลายคนคงดูแล้ว ชอบลูน่าเลิฟกู๊ดเป็นพิเศษละ

สไปเดอร์แมน 3 - สไปดี้งี่เง่าจังภาคนี้ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า นักเขียนก็เหมือนๆ แบบนี้แหละ แม้คนที่มองเราอยู่ไกลๆ จะคิดว่ายอดจังเลยนะ แต่ท้ายที่สุดตัวจริงของพวกเขาก็อาจเป็นแค่คนไม่ได้เรื่องคนหนึ่งเท่านั้นเอง




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 23 กันยายน 2552 3:29:56 น. 5 comments
Counter : 1315 Pageviews.

 
ซื้อมาแล้วทั้งสองเรื่อง แต่ยังไม่มีโอกาสแกะเปิดดูเลยค่ะ เห็นรูปจากคุณแล้ว มันน่าหม่ำ เอ้ยย น่าดูจริงๆด้วย แหะๆ

ยินดีที่รู้จักค่ะ


โดย: เจ้าฮาจิ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:40:59 น.  

 
เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่มีเวลาให้กับหนังสือ ซื้อมากองไว้ตั้งหลายเล่ม ถ้าหนังสือพูดได้มันคงบอกน้อยใจ ซื้อฉันมาแล้วใยเธอไม่ใยดี

น่าแปลกที่เรามีเวลาให้คนอื่น แต่บางทีไม่ค่อยมีเวลาให้ตัวเอง พอมีเวลาให้ตัวเองเมื่อไหร่ จะรู้สึกว่า เราได้ใช้เวลาว่างได้คุ้มค่าและมีความสุขกับมัน

สงสัยจังว่า ทำไมร้านสวนหนังสือมีทุกจังหวัดเลยรึเปล่า ใครๆก็ชอบตั้งชื่อนี้ ที่ยะลาก็มี คิดว่าคงเป็นชื่อที่ติดปาก เรียกง่าย ความหมายดี

แวะมาทักทายยามสายครับ



โดย: รีฟ (ผู้ชายขี้อายในสายลม ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:22:02 น.  

 



ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ



โดย: โสดในซอย วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:36:31 น.  

 
เคยได้ยินคนพูดถึงฮันนะซังเหมือนกัน ทำให้อยากดูซะแล้ว
(ปกติไม่ค่อยดูหนังเกาหลี ญี่ปุ่น เท่าไหร่น่ะค่ะ)


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:47:03 น.  

 
เจ้าฮาจิ - ช่วงนี้ต้องการแรงบันดาลใจอย่างแรงค่ะ เลือกดูที่พระเอกพาไปที่อื่นนอกจากวัดวาได้ 555

รีฟ - น่าจะเป็นชื่อยอดฮิต หรือไม่ก็เป็นสาขานะคะ เพราะที่เชียงใหม่เห็นอยู่สองร้านค่ะ

โสดในซอย - ขอบคุณค่า

ศรีสุรางค์ - ฮันนะซังหนังดีค่ะ ไม่ได้เน้นที่ความรักอย่างเดียว ชอบที่นางเอกเป็นคนรักพ่อด้วยค่ะ ซึ้งมากๆ เลย


โดย: นราเกตต์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:18:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นราเกตต์
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]




ดาวน์โหลด E-book

กระต่ายในเงาจันทร์

Friends' blogs
[Add นราเกตต์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.