space
space
space
 
พฤศจิกายน 2562
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
space
space
26 พฤศจิกายน 2562
space
space
space

การทำ intermittent fasting อดอาหารเพื่อความผอม ไม่ยากอย่างที่คิด!

การทำ intermittent fasting อดอาหารเพื่อความผอม ไม่ยากอย่างที่คิด!

intermittent fasting ก็คือการอดอาหารเพื่อความผอม

ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่ามันเหมือนกับการอดอาหารแบบทั่วไปหรือเปล่า และสามารถช่วยลดน้ำหนักให้หุ่นผอมเพรียวได้จริงหรือ

นอกจากนี้ยังขัดกับหลายๆ แหล่งข้อมูลที่บอกว่าการอดอาหารจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วย

ดังนั้นเราจะมาพูดถึงการทำ intermittent fasting ว่าเป็นการอดอาหารอย่างไร ทำแล้วผอมจริงไหมและมีสูตรวิธีการทำอย่างไรบ้าง รวมถึงข้อควรรู้ต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นนั่นเอง

การทำ intermittent fasting คืออะไร?

intermittent fasting เป็นรูปแบบหนึ่งในการกินอาหารที่ใช้หลักการยิ่งอดยิ่งผอม โดยจะเน้นการกินสลับระหว่างช่วงเวลาที่กินและช่วงเวลาที่ไม่กิน

ซึ่งเมื่อทำไปได้ระยะหนึ่งร่างกายจะเกิดการปรับสมดุลทำให้สามารถดำรงอยู่ได้เองโดยไม่ต้องกินอาหารครบ 3 มื้อและช่วยลดความอยากของหวานหรือขนมจุกจิกระหว่างวันได้ดีอีกด้วย

โดยสำหรับสูตรการอดแบบ intermittent fasting ก็มีหลายสูตรด้วยกัน ซึ่งจะเลือกสูตรไหนดีนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของตัวเราเองว่าพร้อมสำหรับการทำ fasting ด้วยสูตรไหน

กล่าวคือ วิธีที่เลือกจะต้องไม่หักโหมเกินไปจนเกิดผลเสียนั่นเอง

สูตรการทำ intermittent fasting

สำหรับสูตรที่ถูกนำมาใช้ในการอดอาหารแบบเป็นช่วงๆ ก็มีหลายสูตรด้วยกัน แต่เราจะขอแนะนำเฉพาะสูตรหลักๆ ที่ถูกนำมาใช้และพูดถึงมากที่สุด โดยแต่ละสูตรก็มีหลักการดังนี้

1.สูตร IF 16/8

มาเริ่มกันที่สูตรนี้กันก่อนเลย ซึ่งเป็นสูตรที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมทำกันมากที่สุด เพราะไม่หักโหมหรือเป็นการทรมานตัวเองจนเกินไป โดยรูปแบบการอดอาหารด้วยสูตรนี้ก็คือ กิน 8 ชั่วโมงและอด 16 ชั่วโมงนั่นเอง

สำหรับช่วงเวลาในการอดและการกินก็สามารถเลือกได้ตามความสะดวก และขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนด้วย ยกตัวอย่างเช่น

คนที่ต้องไปทำงานแต่เช้า : คนกลุ่มนี้ควรได้รับอาหารเช้าเป็นประจำ เพื่อเป็นการเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกายและกระตุ้นสมองให้พร้อมสำหรับการทำงานในระหว่างวัน

ดังนั้นจึงควรแบ่งเป็น เริ่มกินตั้งแต่ 06:00 น. – 14.00 น. และเริ่มอดตั้งแต่ 14.00 น. – 06.00 น. นั่นเอง คนที่มักจะไม่ค่อยได้ทานอาหารเช้าอยู่แล้ว : เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ชีวิตของตัวเอง

คนกลุ่มนี้อาจเริ่มกินตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 20.00 น. และเริ่มอดเวลา 20.00 น. – 12.00 น. (ของอีกวัน) เป็นต้น

อย่างไรก็ตามช่วงระหว่างการอด ก็สามารถทานเครื่องดื่มหรืออาหารที่ไม่มีแคลอรีได้ เช่น น้ำเปล่า นมจืดไร้ไขมันและน้ำตาล เป็นต้น

2.สูตร IF 12/12

สูตรนี้จะให้ผลลัพธ์ที่ช้ากว่าสูตรแรกเล็กน้อย แต่ก็เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มอดเป็นครั้งแรกหรือไม่เคยชินกับการอดอาหารมาก่อน เพราะหากเริ่มอดในทันทีก็จะเป็นผลเสียได้เหมือนกัน

นอกจากนี้จะต้องใช้การออกกำลังกายเข้ามาช่วยด้วย โดยรูปแบบการอดอาหารด้วยสูตรนี้ก็คือ

กิน 12 ชั่วโมงและอด 12 ชั่วโมงนั่นเอง สำหรับช่วงเวลาที่จะใช้ในการอดและกินก็สามารถกำหนดได้ตามสะดวกเช่นเดียวกับสูตรแรก ตัวอย่างเช่น

คนที่ทำงานเข้ากะตอนเช้า : อาจเริ่มกินตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น. และอดตั้งแต่เวลา 19.00 น. – 07.00 น. (ของวันต่อไป)

คนที่ทำงานเข้ากะตอนกลางคืน : อาจเริ่มกินตั้งแต่เวลา 18.00 น. 06.00 น. (ของวันต่อไป) และเริ่มอดตั้งแต่เวลา 06.00 น. -18.00 น.

ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อนหลังกลับจากทำงานและตื่นมาเตรียมพร้อมไปทำงานพอดี

ซึ่งสูตรนี้ในกรณีที่ไม่ได้ไปทำงาน หรือยังคงอยู่ในวัยเรียน แนะนำให้เริ่มกินตอนเช้า 07.00 น. – 19.00 น. และอดเวลา 19.00 – 07.00 น. จะดีที่สุด

ไม่ควรให้ช่วงเวลากินเกินไปจาก 21.00 น. เพราะร่างกายมีการเผาผลาญน้อยว่าคนทำงาน การกินอาหารดึกๆ จึงอาจทำให้น้ำหนักขึ้นมากกว่าลดนั่นเอง

3.สูตร IF 19/5

สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรที่เร่งรัดและหักโหมพอสมควร เพราะมีเวลาที่สามารถกินได้แค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วน 19 ชั่วโมงที่เหลือจะต้องอด ห้ามกินอาหารอย่างเด็ดขาด

นอกจากน้ำหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรีหรือแคลอรีต่ำมาก ซึ่งสูตรนี้ก็เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายที่สุด และช่วงเวลาที่เหมาะกับการอดอาหารด้วยสูตร IF 19/5 ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น

คนที่ทำงานเช้าหรือต้องไปเรียนแต่เช้า : เพื่อให้เกิดความสมดุลที่สุด อาจเริ่มกินเวลา 12.00 น. -17.00 น. และอดตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 12.00 น. (ของอีกวัน)

ซึ่งจะทำให้ไม่รู้สึกหิวจนเกินไป ต่างจากการเริ่มกิน 5 ชั่วโมงตอนเช้าและอดตั้งแต่เที่ยงไปถึงเช้าอีกวัน เพราะนั่นอาจทำให้ช่วงบ่ายเกิดอาการหิวจัด จนควบคุมตัวเองไม่ไหว แถมร่างกายก็ปรับสมดุลได้ยากอีกด้วย อย่างไรก็ตามการจะเริ่มกินและอดในเวลาใดก็อยู่ที่ความเหมาะสมต่อร่างกายของคุณเอง

4.สูตร IF 24/24

เป็นวิธีการอดที่ยากที่สุด โดยอาจกล่าวว่าเป็นการอดในรูปแบบวันเว้นวันนั่นเอง โดยลักษณะของการอดแบบนี้ก็คือ สามารถกินอาหารได้อย่างเต็มที่ภายใน 1 วัน (24 ชั่วโมง) และวันต่อไปก็ให้อดตลอดทั้งวันจนได้ 24 ชั่วโมงเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสูตรนี้เป็นสูตรเร่งรัดที่ส่งผลต่อการปรับสมดุลในร่างกายของคนเรามากที่สุด จึงไม่ควรทำเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทำแค่สัปดาห์ละครั้ง คือ 2 วัน และเปลี่ยนไปทำสูตรอื่นๆ ในวันอื่นนั่นเอง

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อทำ intermittent fasting

แม้ว่าการทำ intermittent fasting หรือการอดอาหารเป็นช่วงๆ จะสามารถลดน้ำหนักได้ดีและให้ผลลัพธ์ดีจริง แต่ก็ยังมีสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามที่จะเป็นปัจจัยหลักให้การลดน้ำหนักด้วยวิธี intermittent fasting ประสบความสำเร็จง่ายขึ้นเช่นกัน นั่นคือ

1. ควบคุมปริมาณอาหาร เพราะถึงแม้ว่าจะกำหนดช่วงเวลากินและช่วงเวลาอดอย่างชัดเจน แต่ปริมาณอาหารที่กินเข้าไปหากมากเกินไปก็อาจทำให้วิธีนี้ไม่ได้ผลเช่นกัน

ดังนั้นจึงควรควบคุมปริมาณอาหาร โดยเฉพาะพลังงานและแคลอรีที่ได้รับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แล้วการทำ Fasting จะสำเร็จได้ไม่ยากแน่นอน

2. ต้องมีสารอาหารครบถ้วน สำหรับสารอาหารที่ได้รับก็ควรครบถ้วนทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน เกลือแร่ วิตามินและไขมันเช่นกัน เนื่องจากร่างกายของคนเรานั้นมีความต้องสารอาหารอย่างเพียงพอเพื่อนำไปพัฒนาการเติบโตของเซลล์ต่างๆ และซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ

ดังนั้นในช่วงกิน จึงควรจัดอาหารให้มีทั้งเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ และเมนูอื่นๆ ที่จะเป็น เพียงแค่เลี่ยงเมนูทอดและเมนูที่มีน้ำตาลเยอะเท่านั้น

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการอดอาหารด้วยวิธี IF อาจทำให้หลายคนอ่อนเพลียในช่วงแรกๆ ที่ร่างกายยังไม่ปรับสมดุล ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้การนอนหลับก็ยังช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิมอีกด้วย

4. ออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอการออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากกับการลดน้ำหนักด้วยสูตร intermittent fasting ซึ่งจะช่วยให้ลดไขมันได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงอีกด้วย โดยออกกำลังกายนอกจากต้องออกอย่างถูกวิธีแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายห้ได้เป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีอีกด้วย

อาหารอะไรบ้างที่สามารถกินได้เมื่ออยู่ในช่วงอด

สำหรับอาหารที่กินได้ในช่วงที่กำลังอด ก็คืออาหารที่มีแคลอรีต่ำมากหรือไม่มีเลยนั่นเอง เพราะถึงแม้จะเป็นช่วงอด ร่างกายของเราก็ยังคงต้องการอาหารอยู่เสมอ

การจะไม่กินอะไรเข้าไปเลยก็อาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นสูตร intermittent fasting จึงได้กำหนดอาหารที่สามารถกินได้มา 4 อย่างดังนี้

น้ำเปล่า เป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายของคนเราที่จะขาดไม่ได้ ดังนั้นจึงสามารถดื่มน้ำเปล่าได้ตลอดเวลาที่ต้องการ แต่แนะนำให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิปกติมากกว่าน้ำเย็น

น้ำผลไม้ จะเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้ แต่ต้องมีแคลอรีต่ำมาก และห้ามใส่น้ำตาลลงไปเป็นส่วนผสมเด็ดขาด น้ำสมุนไพร เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับการกินในช่วงอดอย่างมาก แต่ควรเลี่ยงเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม

ผลไม้ไขมันต่ำ อย่างเช่น แตงโม สับปะรด จะช่วยคลายหิวในช่วงอดได้ดี อย่างไรก็ตาม วิธีการกินอาหารในช่วงอดนั้น ควรเลือกกินอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

เช่น หากเลือกกินน้ำเปล่าในช่วงอด ก็ให้กินไปตลอดโดยห้ามกินอย่างอื่น หรือหากเลือกกินแตงโมในช่วงอด ก็ให้กินไปตลอดโดยห้ามกินอย่างอื่นเช่นกัน วิธีนี้จะได้ผลมากกว่าการกินทั้ง 4 อย่างปนกันไป

ประโยชน์ของการทำ intermittent fasting

ส่วนประโยชน์ของการทำ intermittent fasting ก็มีมากมายอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว แต่จะให้ผลลัพธ์ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและอาหารที่เลือกกินในช่วงกินของแต่ละคนด้วย โดยประโยชน์ของการทำ intermittent fasting ที่เด่นชัดมากที่สุด ได้แก่

1.น้ำหนักลด หุ่นเพรียวขึ้น

การทำ IF จะช่วยให้น้ำหนักลดและหุ่นดูเพรียวสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังช่วยให้ร่างกายมีความกระชับมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งเมื่อทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำก็จะให้ผลลัพธ์อย่างทันใจมากทีเดียว นอกจากนี้ก็เป็นการลดน้ำหนักที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งยาลดน้ำหนักอีกด้วย

2.สุขภาพหัวใจแข็งแรง

การทำIF จะช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงมากขึ้น เพราะวิธีนี้จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ รวมถึงระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลงเป็นอย่างมาก จึงลดปัญหาต่างๆ ที่มักจะเกิดกับหัวใจได้ดี ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือการมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงนั่นเอง

3.Detox ของเสีย

อยากจะดีท็อกร่างกายไม่ต้องหาสูตรลับที่ไหน เพราะแค่ทำ intermittent fasting ก็จะช่วย Detox ของเสียออกจากร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถฟื้นฟูสุขภาพร่างกายจากความอ่อนล้าหรืออาการป่วยได้ดีอีกด้วย

4.ต้านการเกิดมะเร็ง

สำหรับโรคมะเร็งร้ายก็ป้องกันได้ไม่ยาก เพราะการทำ IF จะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้เป็นอย่างดี ดังนั้นผู้ที่ทำ IF เป็นประจำจึงมักจะไม่ป่วยด้วยโรคมะเร็งนั่นเอง เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากมะเร็ง ก็ลองมาอดอาหารด้วยวิธี intermittent fasting กันดูสิ

5.บำรุงสมอง ต้านความจำเสื่อม

เพราะการทำ intermittent fasting จะทำให้ระดับ BDNF ในสมองเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นให้สมองมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ชะลอการเสื่อมของเซลล์และลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้นได้ดี แถมยังทำให้ความจำดีและสมองมีการคิดวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

6.อายุยืนยาว

จากการวิจัยพบว่าผู้ที่ทำ IF จะมีอายุขัยที่ยืนยาวมากกว่าผู้ที่ไม่เคยทำ intermittent fasting เลย เพราะวิธีนี้จะทำให้ร่างกายมีการปรับสมดุลให้สามารถอยู่ได้เองโดยไม่ต้องกินอาหารมากนักและช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรงห่างไกลจากโรคต่างๆ มากขึ้น จึงเป็นผลให้อายุยืนยาวด้วยนั่นเอง

7.ประหยัดเงินได้ดี

เพราะการทำ IF จะทำให้เรากินอาหารน้อยลง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการกินลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การทำ intermittent fasting ก็เป็นวิธีที่สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากที่สุด จึงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม เหมือนกับการกินยาลดความอ้วนหรือการใช้อุปกรณ์ช่วยออกกำลังกาย ซึ่งนั่นล้วนต้องจ่ายในราคาสูงทั้งสิ้น ดังนั้นการทำ IF จึงเป็นวิธีที่ประหยัดเงินสุดๆ เลยทีเดียว

โทษของการทำ intermittent fasting

ได้รู้ถึงประโยชน์ของการทำ intermittent fasting แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิธีนี้จะไม่มีข้อเสีย โดยข้อเสียของการทำ IF คือ

กลิ่นตัวแรงกว่าปกติ นั่นก็เพราะการทำ IF จะทำให้ร่างกายมีการขับเอาสารพิษออกมาทางผิวหนังและปากหรือที่เรียกว่า Detox นั่นเอง ดังนั้นจึงทำให้เรามีกลิ่นตัวและกลิ่นปากที่แรงกว่าปกติได้  เพราะฉะนั้นในขณะที่กำลังอดอาหารด้วยสูตรนี้ หากต้องเข้าสังคมหรือไปในที่ที่มีคนเยอะๆ ก็ต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นตัวกันหน่อย

ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ เพราะในขณะตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีความต้องการสารอาหารมากกว่าปกติ เพื่อนำไปพัฒนาการการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และบำรุงร่างกายให้ทารกมีความสมบูรณ์แข็งแรงที่สุด ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์จึงไม่ควรอดอาหารด้วยวิธี IF หรือวิธีไหนทั้งสิ้น

รู้สึกหิวอย่างรุนแรง ในระยะแรกของการทำ IF หลายคนอาจรู้สึกหิวอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างกะทันหัน ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน แต่หากมีความอดทนและสามารถทำได้ไปในระยะเวลาหนึ่งแล้ว ร่างกายก็จะปรับสมดุลให้สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอาหารตลอดเวลา ซึ่งก็จะไม่หิวรุนแรงอีกต่อไป

สูตร 24/24 ไม่ควรทำติดต่อกันเกิน 3 วันสำหรับใครที่เลือกสูตรนี้ แนะนำว่าไม่ควรทำติดต่อกันเกิน 3 วัน เพราะเป็นการทำร้ายร่างกายจนเกินไปและอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารและพลังงานไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้ เพราะฉะนั้นอาจสลับทำกับสูตรอื่นๆ โดยทำสูตร 24/24 แค่อาทิตย์ละครั้งก็พอ

ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคบางชนิด การทำ IF จะไม่เหมาะกับคนที่มีโรคบางชนิด อย่างเช่น โรคกระเพาะอาหาร เพราะร่างกายมีความต้องการอาหารตรงตามเวลาและเพียงพอ การอดจึงอาจจะทำให้อาการแย่ลงได้

ควรทำ intermittent fasting อย่างต่อเนื่องหรือไม่

อย่างไรก็ตามการทำ intermittent fasting ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักหรือต้องการมีสุขภาพดี จึงควรทำตามความเหมาะสมเท่านั้น

เช่นทำแค่สัปดาห์ละ 2-3 วัน แล้วสลับกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการจะทำ IF อย่างต่อเนื่องดีไหมก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย

แต่ถ้าให้ดีควรทำสลับกับวิธีอื่นๆ จะดีกว่า จะเห็นได้ว่าการทำ intermittent fasting ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด และยังมีหลายสูตรให้เลือกทำกันอีกด้วย เพราะฉะนั้นมาทำ IF เพื่อการมีหุ่นสวยและสุขภาพดีกันดีกว่า

ที่มา: https://www.organicbook.com/diet/อดอาหารเพื่อความผอมintermittent-fasting/
 

กินน้ำพริกหนังไก่กรอบได้ไม่ต้องกลัวไม่ดีต่อสุขภาพ น้ำพริกหนังไก่กรอบถุงละ 40 บาทเท่านั้น

สนใจสั่งซื้อได้ที่ https://namprikaroijung.wixsite.com/namprikaroijung




Create Date : 26 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2562 15:34:19 น. 0 comments
Counter : 124 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 5590997
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 5590997's blog to your web]
space
space
space
space
space