วันนี้ฝนหนัก







วันนี้ฝนหนัก

13 กันยายน 2555






เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาแดดสว่างจ้าฟ้าใสเหลือเกิน แต่พอออกมานอกบ้าน เกือบจะออกไปทำงานไม่ได้เลย เพราะน้ำท่วมซอยบ้านผมเกือบเข่าเลยทีเดียว สรุปว่าฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมื่อคืนที่ผ่านมา ฝนพันปีแบบนี้หล่ะครับที่ทำเอากรุงปักกิ่งจนน้ำสูงเป็นเมตรในช่วงข้ามคืน

ช่วงนี้ฝนตกแปลกๆ ฝนตกทั้งที่แดดเปรี้ยงๆ ร้อนๆฝนๆอยู่นั่นเอง อากาศเดาไม่ถูกเลย แดดจ้าๆขับรถออกจากบ้านฝนเกิดตกซะงั้น เห้อ...

ต้นฝนปีนี้น้ำน้อยมาก ขณะที่รัฐบาลพร่องน้ำออกจากเขื่อนเสียเกือบหมดเพื่อรองรับน้ำหากน้ำมากเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งหากว่าน้ำไม่มาปีนี้เราคงไม่มีน้ำใช้กันแน่ๆ แต่ฝนก็ตกลงมาจนได้เมื่อปลายฤดู ก็หวังว่ามันจะไม่มากเกินจนท่วม หรือน้อยเกินจนไม่มีน้ำใช้กันนะครับ เรื่องแบบนี้ต้องแสดงความเห็นใจกับคนรับผิดชอบจริงๆ เพราะยังไงเสียก็คงโดนด่าทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่ดี

ส่วนน้ำจากแม่น้ำยมที่ทะลักพังพนังกั้นน้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัย ก็คงเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ว่า การสร้างเขื่อนนั้นสามารถช่วยเรื่องอุทกภัยได้เป็นอย่างดี เพราะจนวันนี้แล้ว สายน้ำทางภาคเหนือก็คงเหลือแม่น้ำยมเพียงเท่านั้นที่น้ำล้นทะลักแทบทุกปี และบังเอิญจริงๆที่เป็นแม่น้ำใหญ่เพียงสายเดียวของภาคเหนือที่ยังไม่มีเขื่อน เรื่องนี้คงค้านกับพวกต่อต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นได้เป็นอย่างดี ที่เขาเหล่านั้นอ้างว่าเขื่อนจะไม่ช่วยอะไรเรื่องน้ำท่วม และเพียงประเด็นเดียวที่ไม่เป็นความจริง ประเด็นอื่นๆที่เอามาค้านมันก็ดูจะอ่อนลงไปมาก และที่สำคัญคนเหล่านั้นที่มาค้านเรื่องเขื่อนนี้เสมอมาจนเขื่อนสร้างไม่ได้ ก็ไม่เคยลงมาแช่น้ำอยู่เป็นเดือนๆเหมือนชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำยม และผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากให้สร้างเขื่อนนี้เสียที ส่วนป่าสักผืนสุดท้ายนั้น ผมไม่เห็นค่าอะไรเท่าไร เพราะว่าถึงวันนี้ที่ไม้สักราคาแพงสุดๆนั้น เขาปลูกป่าสักเป็นการค้ากันทั่วบ้านทั่วเมือง วลีป่าสักผืนสุดท้ายนั้น จึงไม่ใช่ของสูงค่าและสำคัญเกินกว่าชีวิตและความเดือดร้อนของประชาชนนับแสนนับล้านที่อาศัยอยู่ตลอดลุ่มน้ำยม

พอผมว่าป่าสักผืนสุดท้ายนั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับชีวิตและความเดือดร้อนของคนแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก ที่จมน้ำแม่ยมในทุกๆปี พวกรักชาติขึ้นสมองคงด่าผมเป็นชุดแน่ๆ แต่ก่อนจะด่า หรือแสดงความรักชาติตามแบบฉบับที่ใครมาสะกิดไม่ได้ว่าทำแบบนั้นแบบนี้แล้วเป็นการทุรยศต่อแผ่นดิน หรือขายชาติขายบ้านขายเมืองนั้น โปรดใตร่ตรองด้วยสมองดูก่อนะครับ ไม่งั้นเราจะกลายเป็นควายให้เขาเอาเชือกมาสนตะพายลากไปทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ป่าสักต้นลำน้ำยมนั้นหาใช่ป่าสักผืนสุดท้ายไม่ ป่าสักที่อุดมและต้นใหญ่ๆยังมีอีกหลายแห่งครับ อย่างป่าสักที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่กำลังเป็นข่าวตอนนี้ ก็สวยงามมากมาย ต้นสักนั้นอย่างที่บอกว่าไม่สูญพันธุ์แน่ๆเพราะปลูกกันทั่วบ้านทั่วเมือง หรือรัฐบาลจะปลูกใหม่ในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมก็สามารถทำได้ และที่สำคัญ ป่าสักเป็นป่าแล้งที่ไม่ได้อุดมสมบูรณ์อะไร ความหลากหลายทางชีวภาพก็ต่ำ ต้นสักก็ไม่ใช่อาหารสัตว์อะไรเลย สัตว์ป่าก็เลยไม่ค่อยจะมี

ป่าถ้ามองในมุมของการช่วยลดภาวะโลกร้อนนั้น ปัจจุบันก็เป็นที่ยืนยันแล้วว่า ระบบป่าที่สามารถลดโลกร้อนได้ดีที่สุดนั้น คือระบบป่าเศรษฐกิจที่กำลังทำกันอยู่ในประเทศแถบอเมริกากับยุโรป ต้นไม้นั้นจะช่วยดูดซับคาบอนไดออกไซจากบรรยากาศได้ คาบอนไดออกไซนั้นจะถูกนำมาตรึงไว้ในเนื้อไม้ และจะอยู่อย่างนั้นจนกว่าต้นไม้จะตาย แต่เมื่อต้นไม้ตายลงไป เนื้อไม่ผุพังลงคาบอนไดออกไซในไม้ก็จะถูกปล่อยสู่บรรยากาศอีกครั้งหนึ่ง หนทางที่เราจะตรึงคาบอนไดออกไซไว้ในไม้ให้ได้นานที่สุด ก็คือการตัดต้นไม้เอาไม้ไปใช้ทำบ้านทำเครื่องเรือนเสีย อีกทั้งต้นไม้นั้นจะมีอัตราการดูดซับคาบอนไดออกไซสูงในช่วยวัยหนุ่มสาว เมื่อต้นไม้อายุมากๆอัตราการดูดซับก็จะลดลง ฉะนั้นต้นไม้ควรถูกตัดเสียก่อนที่จะแก่ และปลูกใหม่ทดแทน ระบบเช่นนี้เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน แต่ถ้าใครเอามาเสนอในบ้านเรา รับรองได้ว่ามันจะไปกระตุ้มต่อมรักชาติด้วยหัวใจของคนไทยบางกลุ่มให้ออกมาต่อต้าน ชูป้ายด่าทอขายชาติๆๆๆกันอยู่นั่นเอง เหมือนตอนที่มีการเสนอระบบสัมปทานอุทยานแห่งชาติเหมือนที่ในมาเลเซียหรือประเทศแถบแอฟริกาที่ทำแล้วได้ผลดีให้นำมาใช้ในเมืองไทย ตอนนั้นก็โดนต่อต้านด้วยระบบคนรักชาติด้วยหัวใจเช่นกัน

ผมมองว่ากลุ่มที่สนับสนุนกลุ่มคัดค้านการสร้างเขื่อนนั้น อาจมีอะไรไม่ชอบมาพากล เพราะแทบทุกเขื่อนในประเทศไทย พอจะสร้างก็มีการค้านทั้งนั้น แต่ทำไมกลุ่มต้านแก่งเสือเต้นถึงทรงพลังนักหนา พลังนั้นอยู่ที่ไม้สักมูลค่ามหาศาลใช่หรือไม่ หรืออยู่ที่ความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่เป็นความจริงเท่าใดนัก ลางว่ายื้อกันไปกันมาเหมือนการสร้างสนามบินหนองหูเห่าหรือไม่

บ่นอะไรมามากมาย ผมเพียงอยากให้เราท่านลองตรองดูอะไรมากมายที่ผิดปกติในบ้านเมืองของเรานะครับ อย่างตอนที่เราปิดป่าจากระบบการทำสัมปทาน ทำไมตัวเลขพื้นที่ป่าหลังจากนั้นถึงลดลงฮวบฮาบกว่าตอนที่เปิดทำสัมปทานป่าแบบต้องปลูกทดแทน เขาปิดป่าเพื่ออะไรกันแน่ อะไรกันคือปัญหาจริงๆของประเทศไทย เราถูกสอนให้รักชาติด้วยหัวใจมาตลอด เพราะ "ใจ" นั้นคือ "สัญชาตญาณ" คือวิธีคิดแบบสัตว์ชั้นต่ำ แล้วสุดท้ายกลายเป็นสัตว์ให้เขาสนตะพายหรือไม่ มันถึงเวลาหรือยังครับที่เราจะเปลี่ยนมารักชาติด้วยสมองโตๆของมนุษย์กันเสียที แล้วช่วยกันนำพาชาติบ้านเมืองของเราทุกคนให้เจริญและยั่งยืนมากกว่าที่เป็นอยู่ หัวใจของประเทศไทยไม่ใช่ผืนแผ่นดินขวานทองนะครับ แต่คือพวกเราคนไทยทุกๆคน รักชาติรักผืนแผ่นดินนั้นก็เหมาะสมถ้ามีสติ แต่รักอย่างไรก็ไม่ควรเกินกว่ารักในเพื่อนพ้องคนไทยนะครับ








 

Create Date : 14 กันยายน 2555
1 comments
Last Update : 19 กันยายน 2555 21:45:03 น.
Counter : 814 Pageviews.

 

บ้านเราตอนนี้มันอยู่ในภาวะเมาหมัด....ผิดถูกไม่รู้มีแรงก็ชกมันออกไป ลมๆแล้งๆ ....ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่ามั่วมากไปหน่อย

 

โดย: wildbirds 14 กันยายน 2555 19:33:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nainokkamin
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




free counters
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nainokkamin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.