|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
LFC the fourth legend (first master of LFC)
วันที่ 1 เดือนธันวาคม 1959 กลายมาเป็นวันที่ต้องถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของถิ่นแอนฟิลด์ไปตลอดกาล เมื่อ มันเป็นวันที่สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลได้ประกาศว่า อดีตเจ้านายของทีม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ บิลล์ แชงคลี่ย์ ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ต่อจากผจก.คนเดิม คือ ฟิล เทเลอร์
จากการที่ต้องถูกลดชั้นในปี 1954 ทีมหงส์แดงก็ประสบกับความล้มเหลวเรื่อยมาในความพยายามอย่างยิ่งที่จะกลับมาสู่ระดับลีกสูงสุดอีกครั้ง และ การพลาดที่จะทำได้สำเร็จครั้งหลังสุดก็ทำให้พวกเค้าต้องพบกับการสูญเสียเมื่อ เทเลอร์ได้ลาออกจากการเป็นผจก.ในวันที่ 17 พฤศจิกายน
ไม่มีใครที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันเวลานั้น แต่เหล่าเดอะเร้ดส์ ต่างก็ก้าวเข้าสู่ยุคที่พวกเค้าจะต้องเจอกับความรู้สึกที่ตื่นเต้นที่สุด การเล่นดิวิชันสอง เป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรน่าจดจำอีกต่อไปและก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการวางรากฐานเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของสโมสร และเป็นการทำให้ลิเวอร์พูลไม่กลับมาเป็นสโมสรที่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป
บิลล์ แชงคลี่ย์ ( ผจก.ทีมลิเวอร์พูล 1959-74): ในปี 1951 ลิเวอร์พูลได้ส่งข้อเสนอทาบทามสำหรับตำแหน่งผจก.มาที่ผม แต่ว่าปัญหาอย่างเดียวที่มีก็คือ ผู้จัดการทีมไม่ได้เป็นคนที่จะเลือกผู้เล่นในการลงเล่น ดังนั้นนผมจึงกลับออกมาเพื่อขึ้นรถไปที่ สถานีเอ็กซ์เชนจ์ และกลับบ้าน เก้าปีให้หลังพวกเค้าก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข้อเสนอให้ผมในสิ่งที่ผมต้องการ ผมเป็นผจก.คนแรกที่ได้เลือกผู้เล่นด้วยตัวเองที่ลิเวอร์พูล
รอนนี่ มอร์แรน( ผู้เล่น 1952-69): เค้าก้าวเข้ามาในเดือน ธันวาคม 1959 และผมก็ได้อยู่ในทีมหลังจากนั้น พวกเราได้มีผู้จัดการทีมที่ดีเยี่ยม นับจากบิลล์เป็นต้นมา แต่ว่าเค้าเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้สโมสรกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
จอห์น คี๊ธ ( นักเขียน): เค้าไม่เคยจัดการกับสโมสรใหญ่ๆมาก่อนเลย เท่าที่ผมจำได้สโมสรใหญ่ที่สุดที่เค้าเคยคุมทีมมาก็คือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่เป็นสโมสรที่เค้าจากมาเพื่อคุมลิเวอร์พูล ผมไม่คิดว่าจะมีคนที่คิดว่าบิลล์เป็นคนที่ใช่ และผมคิดว่าแฟนๆก็คงจะสงสัยกันอยู่แน่ๆ นี่พวกเราได้อะไรมา ใครกันที่พวกเราได้เซ็นสัญญาจ้างมา แต่มันเป็นที่แน่นอนที่เค้าแสดงให้เห็นในเวลาไม่นานเลยว่า นี่แหละเหมือนกับพระเจ้า เป็นชายผู้ซึ่งสโมสรลิเวอร์พูลต้องการ พวกเค้าเกิดมาเพื่อกันและกัน
บิลล์ แชงคลี่ย์ (ในการให้สัมภาษณ์ในวันที่ได้รับการจ้าง):ผมยินดีอย่างมากและภาคภูมิใจที่ได้รับการเลือกให้เป็น ผจก.ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล สโมสรที่มีศักยภาพมากมายและการเข้ามารับผิดชอบตรงนี้ก็เป็นความท้าทายสำหรับผม ในความคิดของผมลิเวอร์พูลมีผู้ติดตามอย่างมากมาย ที่จะคอยทำให้เกมเป็นไปอย่างมีระดับที่ยอดเยี่ยม พวกเค้าสมควรที่จะพบกับความสำเร็จ และผมหวังว่าในวิถีทางเล็กๆของผม ที่ผมสามารถจะอะไรก็ได้ จะนำสิ่งที่พวกเค้าต้องการมาให้พวกเค้าได้ เมื่อความท้าทายถูกสร้างขึ้นเพื่อผม ผมก็จะทำแค่เพียงพุ่งเข้าชนมันตรงๆเพื่อที่จะเล่นกับมันให้ได้
โรเจอร์ ฮันท์(ผู้เล่น 1959-69): เมื่อบิลล์ แชงคลี่ย์ ได้ก้าวเข้ามาเค้าได้เปลี่ยนวิธีการฝึกไปอย่างมากมายจากที่พวกเราเคยทำ และนำมาซึ่งแนวความคิดใหม่ๆมาสู่สโมสร แน่นอนว่าเค้ายังทำให้สโมสรยอมจ่ายเงินสำหรับการซื้อตัวนักเตะได้ แม้ว่าพวกเค้าดูจะไม่เต็มใจบ้างเล็กน้อยก่อนหน้านี้ พวกเรามีอุปกรณ์ฝึกซ้อมใหม่ๆ และพร้อมๆกันเค้าก็นำมาซึ่งวิธีการคิดแบบใหม่ๆมาสู่สโมสรด้วย เค้าเป็นเหมือนสายลมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่สดชื่น
รอนนี่ มอร์แรน : เค้ารักการสนับสนุนที่ได้รับ เค้าเคยได้รับมันมาก่อนเหมือนกันในสโมสรระดับดิวิชั่นต่ำกว่า แต่สำหรับที่นี่ พวกเรามีคนดูคนเชียร์เฉลี่ยแล้วตก 45,000 คน ในดิวิชั่นสอง และเค้าก็รู้สึกมีความสุขกับมัน เค้ารู้ว่าสิ่งที่แฟนๆมีอยู่ก็คือ การรอคอยวันที่หงส์สีแดงจะโบยบินสู่ท้องฟ้า ทุกอย่างที่เค้าอยากจะให้กับแฟนๆและเค้าจะต้องทำเพื่อแฟนๆก็คือ การมอบทีมแห่งชัยชนะให้กับพวกเค้าเพื่อที่จะเชียร์กันต่อไป
จอห์น คี๊ธ: เค้าเคยเล่นที่แอนฟิลด์มาก่อน และรู้ดีว่าอะไรที่แฟนๆชอบ เค้าเปรียบเทียบแฟนของเรากับแฟนบอลในกลาสโกว์ ที่เค้าชอบมากๆ พวกเค้าได้มอบเพนนีสุดท้ายแก่พวกคุณ นั่นคือสิ่งที่เค้ามักจะพูด ดังนั้นเค้าจึงถือว่าเค้าเป็นครอบครัวเดียวกับแฟนๆเสมอมา และด้วยความคิดที่ถูกต้องที่ผ่านมาในชีวิตของเค้าก็ทำให้คนต่างประทับใจผู้คน และผู้คนต่างก็รัก บิลล์ แชงคลี่ย์ เหมือนๆกับที่อนุสาวรีย์ของเค้าที่บอกว่า เค้าทำให้ผู้คนเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
การก้าวผ่านประตูเข้ามาสู่สโมสรที่ดูจะเสื่อมโทรมลงไปของแชงคลี่ย์ ก็เหมือนกับสายลมที่นำเอาอากาศบริสุทธิ์สดชื่นมา และมันก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิธีการฝึกซ้อมใหม่ๆ การปรับปรุงตารางฝึกซ้อมให้ดีและมีประสิทธิภาพขึ้น การจัดการหาอุปกรณ์ฝึกซ้อมใหม่ๆ และแม้แต่การกระตุ้นอย่างขนานใหญ๋ให้บรรดาสต๊าฟทั้งหลายตื่นตัวอย่างทันทีทันใด
สตีเฟน ดัน( หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์) : ในขณะที่เค้ามองเห็นว่ามันมีศักยภาพในตัวสโมสร แต่สิ่งที่เรามักจะจำกันได้ ก็คือเมื่อลองมองย้อนไปยังไป 1959 สโมสรนี้อยู่ในสถานะที่เลวร้ายก็ว่าได้ บางที อาจจะไม่ได้ย่ำแย่กว่าสโมสรระดับ ดิวิชั่นหนึ่งนวันนี้ ว่าถ้าหากเปรียบเทียบกับสโมสร อย่างอาเซนอล เชลซี และเอฟเวอร์ตันในวันนั้นละก็ จะเห็นข้อแตกต่างค่อนข้างชัด เมื่อสโมสรเหล่านี้ดูดี มีความมั่งคั่ง ในขณะที่ลิเวอร์พูลดูสกปรกรกรุงรัง และเหมือนกับว่าการเดินทางไปในสโมสร ดูจะไม่ค่อยสะดวกเลย แม้ว่าจะมีเงินอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นเลย
บิลล์ แชงคลี่ย์ : ผมไม่รู้ว่าถ้าหากคุณเคยเห็นแอนฟิลด์ ในครั้งแรกที่ผมมาหรือไม่ แต่ว่ามันเป็นสถานที่ๆมีห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลิเวอร์พูล ในขณะที่พวกเราต้องนำน้ำมาจาก ถนน โอ๊คฟิลด์ เป็นมูลค่าถึงสามพันปอนด์ เรากลับไม่มีน้ำที่จะทำความสะอาดห้องน้ำ
สตีเฟน ดัน : เมลวู๊ด ในทุกๆความทรงจำจะเป็นโทนสีไม้เก่าๆ และหญ้าก็ดูย่ำแย่กว่าสนามที่ใช้แข่งวันอาทิตย์ด้วยซ้ำ มันดูยุ่งเหยิงเอามากๆ ที่แน่ๆ พวกเค้าแทบจะไม่ได้ใช้สถานที่นั้นในการฝึกซ้อมเลย แต่ทำการซ้อมด้วยการวิ่งบนถนน รึไม่ก็ซ้อมบนพื้นยางมะตอย แน่นอนว่า มันไม่มีอะไรที่ดูเหมือนกับว่าคุณจะได้เล่นเกมจริงๆบนพื้นหญ้าเลย และการฝึกซ้อมแบบนั้นมันจะส่งผลดีหรือไม่ ไม่มีใครรู้แน่ๆ พวกเค้าทำได้แค่ว่าวิ่งไปมา ขึ้นๆลงๆบนเนินทราย และบนสิ่งของอุปกรณ์แบบนั้นแหละ โดยพื้นฐานแล้วสนาม พื้นที่ใช้ซ้อมก็สุดจะโกโรโกโส และก็เป็นผู้บริหาร ที่เลือกทีมที่จะเล่นและมันก็เป็นวิธีที่ใช้เวลานั้น แต่ว่าแชงคลี่ย์ ไม่ได้ใช้วิธีใหนที่เหมือนกับที่ว่ามาเลย
รอนนี่ มอแรน : เค้าได้ปล่อยผู้เล่นมากมายออกไป และก็นำผู้เล่นหลายรายเข้ามา โดยจะเป็นผู้เล่นที่มีแนวความคิดที่ดี ต่อเกม หากว่าเค้าไม่รู้สึกว่าเค้าได้สิ่งที่ต้องการจากนักเตะคนใหน พวกเค้าก็จะต้องจากไป เค้าอาจจะปล่อยนักเตะนั้นๆไว้โดยไม่เลือกเข้าทีม หรือไม่ก็ ปล่อยไปอยู่กับสโมสรอื่น
เดฟ ฮิ๊กสัน( ผู้เล่น 1959-61) : บิลล์ มีวิถีทางของเขาเอง ที่จะทำสิ่งต่างๆ เค้ามีความรักที่สูงส่งกับเกม และก็ไม่มีใครที่จะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อเขา ทุกๆคนเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขามาก่อน ว่าเค้าปฎิบัติกับนักเตะอย่าง บ๊อบบี้ ชาลตัน และ บิลลี่ ไรท์ เหมือนกับนักเตะที่ไม่มีค่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมได้อย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้ยิน เกี่ยวกับการใช้จิตวิทยาของบิล แชงคลี่ย์ มันเป็นเรื่องจริง และก็เป็นสิ่งที่สุดแสนจะน่าอัศจรรย์ใจ
รอนนี่ มอแรน : เค้าได้นำการเล่นแบบ แบ่งข้างเล่นด้วยทีมเล็กๆ เข้ามาในการฝึกซ้อมของพวกเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเพราะว่าก่อนหน้านั้นสิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำก็คือ การวิ่งๆ แล้วก็วิ่ง และเค้าก็ได้ติดตามดูนักเตะอย่างใกล้ชิด เพราะว่าแนวคิดในการฝึกซ้อมของเค้าก็คือ ใครที่ไม่พยายามให้หนักในการซ้อม ก็จะไม่ยอมทำงานให้ดีในการแข่ง แม้ว่าเราจะไม่ได้เอาชนะได้ทุกครั้งในช่วงต้นๆ แต่เราก็ไม่ได้พ่ายแพ้มากอย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว
สตีเฟน ดัน : อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่เค้าไม่เคยที่จะเปลี่ยนแปลงเลย ก็คือ แบ็ครูมสต๊าฟ เค้ารู้สึกอยู่แล้วว่านั่นเป็นกลุ่มของทีมงาน และสต๊าฟโค๊ชที่ทำหน้าที่บันทึกสิ่งต่างๆได้อย่างดี และแน่นอนว่า บู๊ธรูม ก็มีกำเนิดมาจากการที่ยังคงเก็บกลุ่มสต๊าฟนี้เอาไว้
รอนนี่ มอแรน : บิลล์ บุคคลในแบบที่น่ายกย่อง และเป็นไปได้ที่ว่าเค้าพึ่งจะได้รู้จักกับ บ๊อบ โจ และ รูเบน ไม่กี่วันก่อนเกม เค้ารู้จักว่าคุณสมบัติส่วนตัวของพวกเค้าที่เป็น และดึงออกมาทำให้พวกเค้าประสบความสำเร็จด้วยกัน
อย่างเป็นทางการ แชงคลี่ย์ ได้คุมทีมลิเวอร์พูลเล่นครั้งแรก วันที่ 19 ธันวาคม แต่โชคร้ายที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ เมื่อเคาทำได้เพียงนั่งดูทีมของเค้า พ่ายแพ้คาบ้าน ไป 4-0 ต่อคาร์ดิฟ ซิตี้ การพ่ายแพ้ที่ตามมาในสัปดาห์ให้หลังต่อ ชาลตันด้วยเช่นกัน แต่ว่าในวันที่ 28 ธันวาคม ก็เป็นวันที่บันทึกชัยชนะนัดแรกของเค้า 2-0 ในแอนฟิลด์ ในการเจอกับ ดิ แอดดิกซ์ และยุคสมัยใหม่ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นและดำเนินต่อมา
ปีเตอร์ ฮูตัน (แฟนบอลและ นักร้องนำ) : ถ้าหากว่าเรามีผจก. ที่มีบารมีน้อยกว่านี้ บางทีบางสิ่งบางอย่างก็อาจจะไม่พัฒนาได้อย่างที่เค้าทำให้กับสโมสร แชงคลี่ย์ ได้กล่าวคำที่เป็นที่จดจำไว้ว่า เค้าต้องการสร้างให้สโมสรแห่งนี้กลายเป็นสถาบัน เป็นเหมือนป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่ซึ่งเมื่อทีมคู่แข่งได้แข่งด้วย พวกเค้าจะต้องครางหรืออุทานออกมาว่า โอ้ว ไม่นะ พวกเรากำลังจะต้องเล่นกับลิเวอร์พูล
บิลล์ แชงคลี่ย์ : ความคิดของผมก็คือ การสร้างให้ลิเวอร์พูล กลายมาเป็นป้อมปราการ เป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่ง นโปเลียน มีความคิดแบบนั้น และสุดท้ายเค้าก็ได้ครองโลก และนั่นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการ สำหรับการที่จะทำให้ใครๆก็ตามลิเวอร์พูลไม่ได้แตะต้องไม่ถึง สิ่งที่ผมจะทำได้ก็คือ สร้างให้มากขึ้น มากขึ้น จนกระทั่งทุกผู้คน จะต้องยอมรับมันแต่โดยดี
สตีเฟน ดัน: ไม่มีใครที่จะลืมได้ว่าเค้าได้ปฎิวัติลิเวอร์พูลไปอย่างสมบูรณ์แบบ และเค้าก็ได้สร้างระบบที่เข้มแข็งและดีเยี่ยมแม้จะผ่านช่วงเวลาของ บ๊อบ เพลสลี่ย์, โจ เฟแกน , และจนกระทั่งเป็นเคนนี่ ดัลกลิชที่เข้ามาคุมทีม พวกเค้าต่างก็ใช้สิ่งที่แชงคลี่ย์ได้สร้างเอาไว้ต่อๆมาจนถึงช่วงต้นของยุคปี 90
ปีเตอร์ ฮูตัน: นับจากยุค 60, สถิติของลิเวอร์พูลเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน แม้ในยุโรปก็เป็นแบบเดียวกัน และสิ่งที่รู้สึกถึงมันได้จริงๆก็คือ ที่นี่ที่แห่งนี้คือสถาบันแห่งหนึ่งจริงๆ และแม้ว่าพวกเราจะได้พบกับโศกนาฎกรรม ที่ซึ่งพวกเราทุกคนต้องเสียใจ เสียน้ำตาไปกับมัน แต่พวกเราก็ยังคงรู้สึกอยู่เสมอว่าสโมสรแห่งนี้เป็นสโมสรที่พิเศษ มีไม่กี่สโมสรหรอกที่มีสร้างความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างชัดเจน พวกเราต้องขอบคุณ บิล แชงคลี่ย์เป็นอย่างมากสำหรับสิ่งที่เค้าได้สร้างขึ้นทุกอย่าง นับตั้งแต่วันเวลาที่เขาได้ก้าวเข้ามาสู่แอนฟิลด์ ในเดือน ธันวาคม 1959
The first hero had come, but from his era he would give us the other legends
..
นายตั้ม ( //www.thekop.in.th) ที่มา บิลล์ แชงคลีย์ ปรมาจารย์ แห่งแอนฟิลด์ : //www.liverpoolfc.tv
The first legend Club was formed The second legend First time champion The third legend First time in Wembly
//www.thekop.in.th/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=24810#472502
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2550 11:38:22 น. |
Counter : 661 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|