Liverpool สโมสรเดียวในดวงใจ My Dog สุนัขอันเป็นที่รักเเละเพื่อนที่แสนดี Web Counter
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Bill Shankly เอฟเอคัพ 1965

1965 FA CUP FINAL - LEEDS v LIVERPOOL





ตอน: เอฟเอคัพ 1965

หลังจากผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโดยจะพบกับลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันหนึ่งได้มีโทรศัพท์มายังแชงคลี่ย์

“คุณแชงคลี่ย์ คุณได้รับจดหมายจากผมหรือเปล่าครับ?”

“จดหมายอะไรครับ ใช่จดหมายขอตั๋วฟรีรอบชิงหรือเปล่า?”

“ใช่ครับ จดหมายจากเบอร์มิงแฮมนะครับ”

“เบอร์มิงแฮม??!!…เบอร์มิงแฮม??!!…ผมไม่มีทางให้ตั๋วฟรีที่ผมมีอยู่หลุดไปอยู่ในเมืองเบอร์มิงแฮมได้หรอก คุณรู้อะไรไหม ตั๋วพวกนั้นจะต้องไปอยู่ในมือผู้คนบนเดอะค็อปเท่านั้น…พระเจ้า…เบอร์มิงแฮม??!!…เบอร์มิงแฮม??!!”

“แต่ผมเองก็เกิดที่เมืองลิเวอร์พูลนะครับ”

“พระเจ้า! จริงรึ! แต่คุณคงไปจากเมืองนี้เป็นเวลานานทีเดียวเลยละ สำเนียงของคุณมันเบอร์มิงแฮมชัดๆ เสียใจนะครับ คุณจะไม่มีวันได้ตั๋วฟรีที่นี่!”

การสนทนาจบลงแค่นั้น แชงคลีย์ต้องการให้ตั๋วฟรีที่เขามีอยู่แก่แฟนๆที่แท้จริงของสโมสรเท่านั้น แชงค์รักเดอะค็อป พวกเขาคือทั้งจิตและวิญญาณของสโมสร และแชงคลี่ย์ก็รู้ดีในข้อนั้น เขาเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า “เสียงเชียร์จากเดอะค็อปสามารถอัดลูกหนังเข้าสู่ก้นตาข่ายได้” แชงคลี่ย์ไม่ได้รักแฟนๆเฉพาะในช่วงคัพ ไฟนั่ลเท่านั้น เจมส์ โลแกน เคยรายงานไปยังนิตยสาร The Kop ว่า “เพื่อนของผมคนหนึ่งได้ไปแอนฟิลด์เพื่อซื้อตั๋วนัด วอลซอลล์ กับลิเวอร์พูล แต่เขาเป็นลมเสียก่อนระหว่างยืนรอซื้อตั๋ว หลังจากเขามีสติแล้วก็ถูกนำไปยังห้องทำงานของแชงคลี่ย์ ตอนนั้น เงิน 2 ปอนด์ได้หายไปจากกระเป๋าของเพื่อนผม ดังนั้น แชงค์จึงส่งคนออกไปเดินหาเงินหากมันตกอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่มีใครพบเลย เมื่อรู้ดังนั้น แชงคลี่ย์ไม่ลังเลเลยที่จะควักเงินส่วนตัวของเขา 2 ปอนด์ให้เพื่อนของผม อีกทั้งยังให้ตั๋วนัด วอลซอลล์ กับลิเวอร์พูล และขับรถไปส่งเพื่อนผมที่บ้านด้วย”

จดหมายนับร้อยได้หลั่งไหลมายังประตูบ้านของแชงคลี่ย์ก่อนคัพ ไฟนั่ลหลายสัปดาห์ บิลและภรรยาของเขาพยายามช่วยกันตอบจดหมายเหล่านั้นทุกฉบับ ต่อมาจำนวนของเสียงโทรศัพท์ได้เข้ามาแทนที่รวมไปถึงเสียงเคาะประตูบ้าน แฟนๆต้องการให้กำลังใจเขาในการนำถ้วยเอฟเอคัพมาสู่สโมสรให้ได้เป็นครั้งแรก เนสซี่ ภรรยาของเขากล่าวว่า “บิลรู้สึกหงุดหงิดมากกับธุรกิจซื้อขายตั๋ว ถ้าเขามีอำนาจ รับรองว่าทุกคนบนเดอะค็อปจะได้ตั๋วฟรีสำหรับรอบชิงชนะเลิศ”

ในที่สุด วันชิงชนะเลิศก็มาถึง

ลีดส์เพิ่งเสียแชมป์ลีกแก่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยผลต่างประตูได้เสีย แต่ทว่ายังคงเป็นทีมที่น่ากลัวเพราะประกอบด้วยนักเตะอย่าง บิลลี่ เบรมเนอร์, นอร์แมน ฮันเตอร์, แกรี่ สปาร์ค, และ แจ็คกี้ ชาร์ลตัน ลีดส์ทีมนี้ถูกสร้างโดยผู้จัดการทีม ดอน เรวี่ย์ ซึ่งนำทีมขึ้นมาจากดิวิชั่น 2 เช่นเดียวกับที่แชงคลี่ย์ทำได้

เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม1965 ซึ่งเป็นวันชิงชนะเลิศ บิล แชงคลี่ย์ได้ถูกแนะนำให้รู้จักกับ ซอตติ ผู้จัดการทั่วไปของอินเตอร์ มิลาน คู่แข่งของลิเวอร์พูลในรอบรองชนะเลิศยูโรเปี้ยนคัพในไม่กี่วันให้หลัง ซอตติเดินทางมาจากมิลานโดยตรงเพื่อดูฟอร์มของลิเวอร์พูล และแชงค์ไม่พลาดที่จะพูดคุยกับเขาเล็กน้อย

“คุณซอตติ ทีมของคุณคุ้นเคยกับการเล่นท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังลั่นหรือเปล่า?”

“ครับ เรามีเสียงเชียร์ที่ดังมากที่มิลาน”

“แต่นั่นยังไม่ดังเท่าเสียงเชียร์ที่แอนฟิลด์หรอก”

“ใช่ เราเคยไปเตะที่กูดิสัน ปาร์คเมื่อปีที่แล้ว ซี่งทำให้เราพอนึกภาพออกว่าเสียงที่แอนฟิลด์จะเป็นอย่างไร”

“เสียงที่กูดิสัน ปาร์คมันช่างเงียบเหลือเกิน! คุณไม่มีวันจะเรียกเสียงต่างๆว่า “ดังลั่น” ได้ จนกว่าคุณได้ยินเสียงจากกองเชียร์ของเรา” แชงค์พูดอย่างแฝงความนัย

พื้นสนามในวันนั้นเปียกชื้นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาในตอนเช้า และพื้นสนามที่ลื่นได้นำมาสู่การบาดเจ็บที่ไหล่ของเจอร์รี่ ไบลด์ ฟูลแบ็คตัวสำคัญ หลังจากเทรนเนอร์ บ็อบ เพสลี่ย์ กลับออกมาหลังจากดูอาการของไบลด์แล้ว เขากระซิบบอกแชงคลี่ย์ว่า กระดูกไหปลาร้าของไบลด์หัก แชงค์นิ่งเงียบไม่พูดอะไรและไม่แสดงอาการตื่นเต้นตกใจใดๆทั้งสิ้น เขาพร้อมจะนำไบลด์ออกจากการแข่งขันเพื่อความปลอดภัย แต่มันหมายความว่าหงส์แดงจะต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตลอดเกมคัพ ไฟนั่ล เนื่องจากกฏการเปลี่ยนตัวยังไม่ถูกนำมาใช้ในสมัยนั้น

เจอร์รี่ ไบลด์สมควรได้รับเครดิตทั้งหมดในวันนั้นไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร เขาเล่นได้ดีเหมือนเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร และเป็นเขานี่เองที่ผ่านลูกให้ “เซอร์โรเจอร์” โรเจอร์ ฮันท์โหม่งทำประตูแรกให้หงส์แดงนำไปก่อนในนาทีที่สาม ของการต่อเวลา ลีดส์ ยูไนเต็ดตอบโต้อย่างหนักหน่วง และสามารถยิงตีเสมอได้จากบิลลี่ เบรมเนอร์ ใน 8 นาทีต่อมา หลังจากนั้นนัดรีเพลย์ควรจะมีขึ้น หากในสนามไม่มีนักเตะที่ชื่อ เอียน เซนต์จอห์น

9 นาทีก่อนหมดเวลา ลิเวอร์พูลบุกขึ้นมาทางกราบขวาโดย เอียน คัลลาแฮน เขาโยนให้เซนต์จอห์นโหนตัวโหม่งลูกเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างสวยงาม ทั้งสนามเวมบลีย์ระเบิดด้วยเสียงโห่ร้องของฝูงชนสีแดงที่บ้าคลั่ง….ในที่สุด ถ้วยเอฟเอคัพก็ได้มาสู่แอนฟิลด์เป็นครั้งแรก

ทันทีที่รอน ยีตส์ชูถ้วยเอฟเอคัพขึ้นเหนือศรีษะเสียงเพลง “Ee-Aye-Addio, we’ve won the Cup” ก็ดังขึ้นพร้อมกันรอบสนามเวมบลีย์ เหมือนเป็นการประกาศว่า ลิเวอร์พูลจะครองอังกฤษในไม่ช้า ได้มีเสียงร่ำลือมานานแล้วเกี่ยวกับการเชียร์ของเดอะค็อป และวันนั้นเองการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ได้ทำให้แฟนบอลทั่วอังกฤษรู้ว่า เสียงเพลงแบบเดอะค็อปเป็นเช่นไร หลังจากนำถ้วยเอฟเอคัพมาสู่แอนฟิลด์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บิล แชงคลี่ย์ได้กล่าวในภายหลังว่า “นี่คือหนึ่งในวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม”

คืนนั้นในลอนดอน เดอะค็อปได้ฉาบมหานครด้วยสีแดง มีการเทสีลงไปในน้ำพุย่านจัตุรัสทราฟัลการ์ เพื่อให้น้ำในน้ำพุเป็นสีแดง เดอะค็อปบางคนปีนขึ้นไปผูกผ้าพันคอให้กับรูปปั้นของ Eros ใน Piccadilly Circus ก่อนที่จะบุกยึดย่านโซโหเป็นที่ถัดไป

ทีมหงส์แดงเดินทางกลับลิเวอร์พูลโดยรถไฟและขึ้นรถโค้ชไปยัง City Center ชาวลิเวอร์พูลอย่างน้อย 50,000 คนได้มารอรับนักเตะที่สถานี และจำนวนผู้คนได้เพิ่มเป็น 250,000 คนเรียงรายตามทางไป City Center ในเวลาต่อมา เมื่อรถโค้ชได้เคลื่อนออกจากสถานีรถไป การเฉลิมฉลองได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เสียงตะโกน “ลิ-เวอร์-พูล!!….ลิ-เวอร์-พูล!!…ลิ-เวอร์-พูล!!…” ดังกระหึ่มไปทั้งเมืองซึ่งทำให้แชงคลี่ย์ถึงกับน้ำตาคลอ เขานึกไปถึงวันที่เขาชนะในคัพ ไฟนั่ลกับเปรสตัน นอร์ทเอนด์เมื่อเป็นนักเตะ แต่ประสบการณ์และความตื่นเต้นในครั้งนั้นไม่อาจเทียบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้เลย เขาบรรยายเหตุการณ์นี้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาว่า “มันเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเราออกจากสถานีรถไฟ เราไม่อาจเป็นสิ่งอื่นใดเลยนอกจากผู้คน พวกเขาปีนขึ้นไปบนกำแพงของร้านค้าต่างๆและทุกที่ที่พวกเขาจะปีนและยืนบนนั้นได้ บางที่ที่พวกเขายืนนั้นเสี่ยงต่ออันตรายอย่างยิ่ง แต่พวกเขาก็ไม่กลัว พวกเขาเพียงต้องการเห็นด้วยตาว่าถ้วยเอฟเอคัพได้มาสู่เมืองลิเวอร์พูล โดยนักเตะของเมืองลิเวอร์พูล”

ในที่สุด รถโค้ชได้แล่นไปสิ้นสุดที่ศาลาว่าการของเมืองสำหรับพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ เมื่อแชงคลี่ย์และลูกทีมของเขายืนบนระเบียงของศาลาว่าการและมองลงมา สิ่งที่พวกเขาเห็นคือคลื่นมนุษย์จำนวนมหึมา หนังสือพิมพ์ Liverpool Daily Post ได้รายงานในวันรุ่งขึ้นว่า “ผู้คน 500,000 คนได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ซึ่งทำให้การต้อนรับ The Beatles เมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นของธรรมดาและไม่มีใครพูดถึงไปเลย”

อย่างไรก็ตาม ในอีก 2-3 วันต่อมา แอนฟิลด์จะได้มีโอกาสต้อนรับอินเตอร์ มิลานในศึกยูโรเปี้ยนคัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อทีมที่ขวัญและกำลังใจเต็มเปี่ยมจากการชนะเลิศฟุตบอลถ้วยที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก มาพบกับทีมที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่เป็นทางการ มันทำให้เกิดคืนที่น่าจดจำที่สุดคืนหนึ่งในยุโรปสำหรับลิเวอร์พูล


Liverpool - Leeds United (1.5.1965)






Create Date : 08 ตุลาคม 2550
Last Update : 30 มกราคม 2551 18:09:58 น. 0 comments
Counter : 459 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชายกลางเก่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ส่งข้อความถึงชายกลางเก่า




<< มกราคม 2553 >>
พฤ
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
Friends' blogs
[Add ชายกลางเก่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.