|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เริ่มชีวิตใส้แห้ง
ฟังวิทยุออนไลน์ ที่ izeemusic
หลังจากที่ผมสอบบอร์ดผ่านมาได้อย่างทุลักทุเล ผมก็ได้มาเริ่มงานที่พิษณุโลก ที่บอกว่าทุลักทุเลก็เพราะว่าปีนี้สอบบอร์ดมันโหดจริงๆ สอบ 18 คน ผ่านรอบแรก 5 คน ได้สอบซ่อมอีก 5 คน 8 คน ตกไปเลย สอบใหม่ปีหน้า สุดยอดแล้วครับ ผมเองก็แทบตาย(ตายจริงๆ) ไม่รู้ว่ารอดมาได้ยังไง อาการทุกอย่างมันเข้ามารุม กำเริบก็อีตอนสอบนี้ล่ะ กลืนไม่ลง พูดไม่ชัด เห็นภาพซ้อน 3 วันที่ไปสอบนี้น้ำและอาหารตกถึงท้องน้อยมากๆ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมคิดว่ากูรอดมาได้ยังไงว่ะ สอบอ่านslide ก็ใช้ตาข้างเดียวอ่าน ไม่มั่นใจซักcase แต่ก็ผ่านราวปราฎิหารย์ นี่ก็คือหนึ่งเหตุผลว่ากูรอดมาได้ยังไงว่ะ สอบปากเปล่า (oral) ก็พูดไม่ชัด กลัวเค้าจะไล่ออกจากห้องสอบอีก แต่ก็ผ่าน นี่ก็คือหนึ่งเหตุผลว่ากูรอดมาได้ยังไงว่ะ เอาเป็นว่าสอบผ่านแล้ว มาพูดถึงเรื่องที่ทำงานล่ะกัน ผมมาทำงานที่โรงพยาบาลศูนย์ที่พิษณุโลก(พูดแค่นี้คงรู้ว่าที่ไหน) ที่นั่นมีหมอpatho อยู่2คน มีผมมาอีก1 เป็น3คน จะมีหมอpatho จากมหาวิทยาลัยนเรศวรมาช่วยตัดเนื้อประมาณสัปดาห์ล่ะ1-2วัน ผมจะได้มาเริ่มชีวิตการเป็นหมอเฉพาะทางที่นี้ แต่ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่าความเจ็บป่วยมันมากจนไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นเรื่องงานเลย ด้วยอาการเจ็บป่วยของผม ทำให้ผมได้ตัดเนื้อสัปดาห์ล่ะครั้ง โดยยึดทุกวันศุกร์ ทั้งๆที่จริงแล้วหัวหน้าจะให้ผมทำ1-2 วันต่อสัปดาห์ แต่ก็พอมาป่วยก็เลยทำแค่1วันต่อสัปดาห์ ตอนนั้น ได้ไปดูห้องตัดเนื้อแล้วท้อใจ เพราะมันเป็นห้องที่ร้อนที่สุดในแผนกเลยก็ว่าได้ ตอนนั้นผมยังมีอาการเหนื่อยง่ายอยู่มากๆ เจอร้อนนิดหน่อยก็ไม่ได้แล้ว เลยรู้สึกท้อมากๆ แค่คิดว่าต้องไปนั่งตัดเนื้อในห้องร้อนๆมีพัดลมเป่า กลัวมันจะเหนื่อย อีกอย่างที่ห้องตัดเนื้อก็ไม่มีอุปกรณ์ที่ป้องกันเลย เป็นเขียงวางแล้วก็ตัดเหมือนทำกับข้าว ผมกินยากดภูมิคุ้มกันอยู่กลัวสุดๆ วัณโรค เชื้อรา ถ้ามันมีในชิ้นเนื้อแล้วฟุ้งกระจายแล้วผมจะทำยังไง กลัวต้องไปกินยารักษาTB อีก หลังจากนั่งเล่นว่างงานประมาณ3-4วัน ก็เป็นวันที่ผมจะได้ตัดเนื้อโดยได้ชื่อว่าเป็นการทำงานครั้งแรกในนามของpathologist ไม่ตื่นเต้นเลย ถ้าเทียบกับคนไข้ที่ผมตรวจคนแรกหลังจบแพทย์ รู้สึกเฉยๆยังไงก็ไม่รู้ กับรู้สึกกลัวว่าจะเหนื่อยตอนตัดเนื้อแล้วจะทำงานต่อไม่ได้เป็นภาระคนอื่นอีก เวรแต่เวรแรกเนื้อไม่เยอะอย่างที่คิด ไม่ค่อยมีเนื้อใหญ่มามาก (หมายถึงเนื้อที่ตัดมาทั้งอวัยวะ เช่น มดลูก หรือว่าลำไส้) เลยใช้เวลาไม่นาน และก็ไม่เหนื่อยอย่างที่คิดแฮะ ก็ดี เอาเป็นว่ารออ่านslideแรกในชีวิตของการเป็นหมอpathoใส้แห้งพรุ่งนี้ล่ะกาน................
Create Date : 19 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2552 21:54:32 น. |
|
3 comments
|
Counter : 636 Pageviews. |
|
|
|
โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:19:49:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้าใส้แห้งเมื่อไหร่
พร้อมส่งน้ำใจไปรดพรม
ใส้จะได้ชุ่มชื้นขึ้นนะคะ