ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 

~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 23


Mibu Sa’Kyo talk……....

“แกจะกลับแล้วเหรอ?”

“จะให้ฉันอยู่เป็นเสี้ยนตำตาแกก็ไม่ขัดนะ สามารถอยู่แล้วฉันนะ.....จะเอางั้นมั้ยละ”

“ไสหัวไปให้พ้นสายตาฉันเลยไอ้เพื่อนเวร”

“ฉันหน้าตาดีกว่าแกอะดิ ถึงรับไม่ได้ อยากให้ไปไกล ๆ”

“แกนี่มัน..........................”


สุ่มเสียงถกเถียงกันด้วยถ้อยคำกวนประสาทของคนสองคน ดังแทรกเข้ามาในประสาทการรับฟังของชมพู่ที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงนุ่ม จากนั้นไม่นานเธอรู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่หน้าผากของตนเอง


สัมผัสที่คุ้นเคย ทุกครั้งที่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แค่สัมผัสนี้เพียงแผ่วเบาก็พัดปลิวความรู้สึกไม่ดีทั้งหลายออกไปหมดสิ้น.......................และสัมผัสนี้ก็ทำให้เธอผล่อยหลับไปอีก หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ขึ้น

.........หลับไปนานเท่าไหร่แล้วนะ........

ชมพู่พยายามลืมตาขึ้น มองไปทั่วห้อง สิ่งที่เธอได้เห็นก็คือ สภาพห้องที่เรียบร้อยกว่าตอนที่เธอถูกลากออกจากห้องไป ทุกอย่างกลับมาอยู่ในสภาพเดิมทุกอย่าง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะรอดมาได้

ชมพู่ผวาลุกขึ้น ร่างกายของเธอประท้วงการกระทำนั้นทันที แทบทุกส่วนของร่างกายของเธอ ปวดร้าวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เธอนึกย้อนภาพเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ๆ พร้อม ๆ กับที่ใช้มือทั้งสองลูบไปตามเนื้อตัว

..........เสื้อผ้าเปลี่ยนไปแล้ว ถูกทำแผลแล้ว ใครทำ?? พริกไปไหน? และเหมี่ยวละ เมื่อคืนเหมี่ยวมานี่น่า?...........


“เหมี่ยว.........พริก”

ขมพู่เรียกชื่อพี่ฝาแฝดของตัวเองและชื่อของพริกเบา ๆ เธอแทบไม่มีแรงเรียกใครให้ดังมากกว่านี้แล้ว เธอเหนื่อย ปวดไปทั้งตัว แล้วก็หิวด้วย

ชมพู่พยายามลุกขึ้นจากเตียง อย่างน้อย ๆ ในตู้เย็นก็น่าจะมีอะไรให้เธอประทังชีวิตไปได้บ้าง

“ไปไหนกันหมดนะ?”

ชมพู่บ่นเบา ๆ พร้อม ๆ กับยันกายขึ้น.......แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ทำอะไร พริกที่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนมาก็โผล่เข้ามาในห้อง

“อะไรนะ!!!~ จะทำอะไร?? นอนลงเลยนะ จะเอาอะไรก็เรียกสิ”


พริกส่งเสียงปรามชมพู่ที่พยายามลุกขึ้น พร้อม ๆ กับที่ตัวเขาเอง พุ่งเข้ามาพยุงร่างของเธอให้กลับไปอยู่บนเตียงเหมือนเดิม

“ก็ไม่เห็นมีใครอยู่นี่นา......”

“ฉันอยู่ที่ระเบียงนะ จะเอาอะไรรึเปล่า??”

“หิว!!!!”


ชมพู่ตอบทันที เมื่อตัวเองนั่งอยู่ในท่าที่สบายแล้ว.....พริกเดินไปเปิดตู้เย็น ก่อนที่เขาจะยืนมองอยู่นิ่ง ๆ และหันกลับมาหาเธอ

“มีแต่น้ำกับเบียร์” (เบียร์..................มันเป็นของที่เหมาะจะอยู่ในห้องของนักเรียนเรอะ)

-*-

“รอเดี๋ยวได้มั้ย? จะสั่งข้าวขึ้นมาให้.....”

ว่าแล้วพริกก็คว้ามือถือ และสั่งข้าว แน่นอน คนที่เขาบอกให้เอาข้าวมาส่งก็คือ..........

“ไอย์ แกอยู่ไหนวะ?? ร้านเกมส์??? ออกมาเดี๋ยวนี้เลย..........ซื้อข้าวมาให้หน่อย ฉันลืมซื้อของมาตุนไว้ ชมพู่เพิ่งฟื้น..............อืม........ของฉันไม่ต้องวะ ไม่นึกอยาก.....เร็ว ๆ หน่อยละกัน ขอบใจมาก......”

พริกกดวางโทรศัพท์แล้วเดินมานั่งที่เตียงข้าง ๆ ชมพู่ เขาไม่ได้สบตาชมพู่ ได้แต่นั่งก้มหน้ามองมือถือ.......ชมพู่เองก็ไม่กล้าสบตาพริกเหมือนกัน เธอได้ยินสรรพนามที่พริกเรียกเธอแล้ว เมื่อสักครู่

พริกรู้แล้วเรื่องของเธอ...........ชื่อนี้ที่เธออยากให้เขาเรียกมาตลอด แต่พอมาถึงตอนนี้เธอชักหวั่น ๆ

........พริกรู้เรื่องแล้ว เขาจะโกรธฉันมั้ย?........

ชมพู่หลุบตามองปลายนิ้วของตัวเองที่เอามาพันกัน จนแทบจะผูกกันได้ ส่วนพริกก็ได้แต่ลูบปุ่มกดโทรศัพท์ของตัวเอง ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นมา ความเงียบที่เข้ามาปกคลุมภายในห้องเริ่มทำให้ทั้งสองคนอึดอัด.......

“เอ่อ / คือ......”

เมื่อคิดได้ว่าจะพูด ทั้งสองก็พูดขึ้นมาพร้อมกันอีก...... เมื่อสบตากันเท่านั้นละ ก็ต้องรีบหลบตากันอีกครั้ง..............


.......ว๋ายยยยย ทำไงดี พริกจะว่าอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย............


.......แม่เจ้า!!! จะพูดอะไรดีวะเนี่ย ทำเขาไว้ซะเยอะ.........

พริกเอามือลูบหน้าตัวเอง ชมพู่ก็บีบมือตัวเองจนแน่น เอาละทีนี้ ใครจะเริ่มพูดก่อนดี

“คือ...ว่า / เอ่อ”

เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองนึกพูดขึ้นมาพร้อมกันอีก......และคนอารมณ์ร้อนอย่างพริกก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เขายกมือขึ้นเป็นเชิงบอกให้ชมพู่หยุดพูด พริกจ้องมองเข้ามาในดวงตาของชมพู่จนเธอต้องเบนสายตาไปทางอื่น

“เอ่อ...............เป็นไงบ้าง? เจ็บตรงไหนมั้ย?”

พริกถามออกมาหลังจากที่เงียบไปสักครู่ ชมพู่แค่ส่ายหน้า แต่เธอก็ไม่ได้หันมาสบตาเขา

“แล้ว.........เมื่อคืน ไม่เป็นไรนะ”

ชมพู่ยังคงส่ายหน้าเหมือนเดิม ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากปากเธอเช่นเดิม

“ขอโทษนะ................เพราะฉัน เธอถึงเจอเรื่องแบบนั้น ขอโทษ”

คราวนี้ชมพู่ ส่ายหน้า พร้อม ๆ กับหันมาสบตากับเขา

“ไม่ใช่ความผิดของพริกนะ........เรื่องเมื่อคืนไม่มีใครผิดทั้งนั้นแหละ”

ชมพู่สบตากับพริกด้วยสายตาจริงจัง

“ฉันเชื่อนะ ว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องความผิดพลาดที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น พริกก็คงไม่คิดว่าแนนจะทำแบบนั้นหรอก พู่เองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แนนทำอะไรแบบนั้น ส่วนแนนก็คงไม่คิดว่าตัวเองจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นได้แน่ ๆ พู่เชื่อนะ ว่าแนนจะสำนึกผิดที่ทำอะไรแบบนั้นไป”

สายตามุ่งมั่นของชมพู่ทำให้พริกยิ้ม เขาทึ่งนิด ๆ กับการมองโลกของชมพู่ เธอไม่โกรธหรือไง? ที่แนนทำแบบนั้นกับเธอ นี่ถ้าเมื่อคืนเขาตามไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น?? ถ้ามะเหมี่ยวพาเพื่อนมาสมทบไม่ทันละจะเกิดอะไรขึ้น........... ผู้หญิงคนนี้ยังไม่รู้สึกว่าแนนทำเรื่องไม่ดีกับตัวเองเลยหรือไง???

“ฉันละเชื่อความคิดของเธอเลยจริง ๆ”

“ทำไมเหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอก.....ตกลงไม่เจ็บตรงไหนนะ"

“อืม..............แล้วเหมี่ยวละ”

“ออกไปได้สักพักแล้ว บอกว่าจะไปสอบแทนเธอก่อน แล้วก็ไปเลย มันฝากบอกด้วยว่า วัยหยุดจะมาหานะ”

“อืม”

ชมพู่ตอบพริก และฉับพลันเธอก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงจนต้องรีบสายตาที่แสดงความรู้สึกข้างในจิตใจของเขา

.........มองอย่างนี้ฉันใจเต้นนะตาบ้า.....

“พริก................”

“หืม?.........”

พริกขานรับ โดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานของชมพู่ ซึ่งแทนที่เธอจะได้กล่าวอะไรต่อ ก็เป็นอันต้องนั่งก้มหน้ามองนิ้วมือตัวเองที่เกี่ยวพันกันอยู่

“เดี๋ยวมันก็ผูกเป็นโบว์หรอก.....นิ้วนะ”

ชมพู่เงยหน้าทันทีเมื่อได้ยินพริกแซวเข้าให้ เธอฝาดฝ่ามือลงที่แขนของพริก แต่พริกก็จับไว้ได้ และไม่ยอมปล่อยซะด้วย

“ปล่อยนะ.....”

แม้จะเป็นคำที่ใช้สำหรับสั่ง แต่ตอนนี้พริกกลับไม่รู้สึกถึงอารมณ์ของคำพูดนั้น ที่เขารู้สึกกลับมีเพียงความรู้สึกเขินอายของร่างตรงหน้า

“ไม่.....”

“อุตส่าห์จะขอโทษอยู่นะ.....พูดแบบนี้ไม่พูดแล้ว”

“ถ้าเรื่องที่เปลี่ยนตัวมาละก็ไม่ต้องแล้ว ฉันคุยกับเหมี่ยวไปแล้ว เธอไม่ต้องขอโทษอะไรแล้ว”

ชมพู่มองหน้าพริกแบบตื่น ๆ นิด ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอคิดว่าเขาจะโกรธเธอเรื่องนี้เสียอีก.....

“ไม่โกรธเหรอ?” พริกส่ายหน้า

“แน่นะ...” พริกพยักหน้า

“จริง ๆ นะ” พยักหน้าอีก

“ไม่โกหกนะ” พริกยิ้ม และพยักหน้า

“ไม่...........” ชมพู่พูดค้างไว้แค่นั้น ตอนนี้เธอคงไม่สามารถเปล่งคำพูดอะไรออกมาได้อีก....เมื่อริมฝีปากของเธอถูกปิดด้วยปากของพริก และเรียวปากนั้นกำลังขยับช้า ๆ เนิบนาบหยอกเย้าเธออยู่

ชมพู่ค่อย ๆ เผยอปากรับจุมพิตอ่อนหวานที่พริกมอบให้ ไม่มีอะไรไปมากกว่าริมฝีปากแตะริมฝีปากเบา ๆ แต่นั่นก็แสดงได้ถึงความรู้สึกของคนทั้งสองคน ไม่ต้องสัมผัสกันให้ลึกซึ้ง แต่ก็รับรู้ได้ด้วยหัวใจของคนทั้งคู่

พริกขยับไปจูบที่มุมปากของเธอเบา ๆ

“..............รักนะ...........คนดี”

ชมพู่พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะมองสบตากับพริกในระยะที่ใกล้ชิดกัน พริกยิ้ม เพราะรัก ถึงไม่โกรธ.........นี่คือคำตอบที่พริกมีให้กับความสงสัยในใจของชมพู่

“ขอบคุณนะ...........ขอบคุณ”

พริกไม่ตอบอะไร เขาจูบเบา ๆ ที่มุมปากของชมพู่ที่มีรอยช้ำอยู่ ก่อนจะเลื่อนมาประกบจูบชมพู่ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

“ข้าวได้แล้ว!!!..................เฮ้ย!!!!!!! โทษที!!!”

ไอย์ยืนอึ้งอยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นว่าตนเข้ามาผิดจังหวะ แต่ไม่ได้ขยับตัวไปไหน ชมพู่ก้มหน้างุด ๆ มองแต่มือของตัวเอง ส่วนพริก ล้มตัวเอาหน้าซุกหมอนด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็ก ๆ และเขาเองก็รู้จักนิสัยเพื่อนของเขาดี ไม่มีทางที่ไอย์จะยอมออกจากห้องนี้ง่าย ๆ แน่

“ไหน ๆ ฉันก็เข้ามาขัดจังหวะแล้วนะ.....กินข้าวละกัน....” ไอย์พูดขำ ๆ น้ำเสียงของเขามีหรือพริกจะไม่รู้ว่ามันแฝงไปด้วยอารมณ์สะใจขนาดไหน

“ขอบใจ......แกรีบกลับไปเล่นเกมส์เลยไป”

“ตอนแรกฉันก็ว่าจะรีบกลับไปเล่นอยู่หรอกวะ แต่ตอนนี้ชักอยากอยู่ช่วยแกดูแลอาการของน้องสาวเพื่อนสนิทด้วยอีกคน คงไม่ว่านะ.........”

“ว่า.....ไม่ต้องมาหน้าด้านอยู่เลย”

“แต่ฉันจะด้านอยู่ มีอะไรมั้ยวะ”

สงครามคำพูดเล็ก ๆ ระหว่างไอย์กับพริกเริ่มขึ้น พร้อม ๆ กับเสียงหัวเราะ และเสียงห้ามปรามของชมพู่


...................นี่แหละหนา............เกิดมาคู่กะชมพู่ก็ได้แค่นี้แหละว้าพริก....แค่จูบก็พอแล้วแกนะ... วุ ฮ่า ฮ่า.........









จอยถึงกับสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์มือถือของตัวเองสั่นแรง ๆ ภายในกระเป๋ากระโปรง เธอรีบล้วงออกมา

“คนบ้า”

จอยต่อว่าใส่โทรศัพท์เบา ๆ เมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา

(เธอรับช้า)

เสียงจากปลายสายเหมือนจะต่อว่าเธอ แต่จอยกลับรู้สึกว่าเขาแค่แหย่เล่น

“มีอะไรยะ” เธอตอบไป

(อยู่ที่ไหน?)

“โรงอาหาร กำลังกินข้าวอยู่ มีอะไร?”

จอยพูดเสียงเบาลงมากกว่าเดิม เมื่อเห็นว่า น้อยหน่าและขิงหันมาสบตา เธอยิ้มให้ทั้งคู่เล็กน้อย

(พวกขิงอยู่ด้วยใช่มั้ย?)

“อืม”

เธอตอบเพียงสั้น ๆ เธอไม่ต้องการให้ขิงรู้ว่าเธอคุยกับใคร เธอไม่อยากให้เพื่อนของตนเองต้องกังวลใจ เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับชมพู่เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะมีใครรู้ และยิ่งตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกว่า เธอต้องระวังตัวให้มาก เพราะดูเหมือนว่า น้อยหน่าจะสังเกตเธออยู่บ่อยครั้ง หรือเธอแค่รู้สึกไปเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่.....

(เธอเดินออกมาห่าง ๆ ฉันไม่อยากให้ขิงรู้)

“รู้น่า........เดี๋ยวจอยมานะ”

เมื่อกรอกเสียงใส่โทรศัพท์แล้ว จอยก็หันมาบอกกับเพื่อนและลุกเดินออกไปพอสมควร

“มีอะไร? แล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่เข้าเรียน? แล้วออกไปข้างนอกทำไม?”

จอยรั้วคำถามใส่คนที่เธอคิดว่าเป็นชมพู่อย่างร้อนรน อีกฝ่ายจะรู้ไหมว่าเธอเป็นห่วงเขาขนาดไหน ตอนเช้า ตื่นมาน้อยหน่ามาเคาะห้อง ถามหาเขา เธอใจหายวาบ กลัวว่าน้อยหน่าจะรู้ว่าเธอกับเขา มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ถ้าน้อยหน่ารู้ ขิงต้องรู้เป็นแน่

(ไว้ค่อยตอบทีหลัง ตอนนี้เธอมาที่หลังหอนอนหน่อยสิ ตรงบันไดหนีไฟนั่นแหละ มารอฉันตรงนั้น เอาชุดนักเรียนของฉันมาด้วย)

“ฉันจะไปเอาชุดนักเรียนของนายได้ยังไง ฉันไม่มีกุญแจห้องนาย” จอยบอกถึงปัญหา

(เออ.....ใช่ งั้นเธอมารอฉันที่ใต้ต้นไม้ละกัน เธอเห็นใช่มั้ยเดี๋ยวเอากุญแจที่ฉัน)

“ได้ ตอนนี้เลยใช่มั้ย?”

(อืม เออ...ยัยเบ๊)

“อะไร”

(ฉันคิดถึงเธอนะ)

เสียงนุ่ม ๆ ที่จอยได้ยินทำให้เธอรู้สึกเต้นแรงมากกว่าปรกติ เธอรู้ดีว่าคนที่เธอมีใจให้นั้น เป็นคนปากหวาน โดยเฉพาะกับสาว ๆ เธอจึงพยายามไม่สนใจคำพูดของเขา แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเขาเอ่ยแบบนี้กับเธอทีไรเธอก็ใจเต้นได้ทุกครั้ง

“อืม ขอบใจ”

(ยัยบ้า ฉันอำเล่น คิดลึกอะดิ แบร่ ๆ แค่นี้แหละ)

แล้วสัญญาณก็ตัดไปเพราะอีกฝ่ายกดวางซะก่อน

“ตาบ้า”

จอยได้แต่พึมพำว่ามะเหมี่ยวเบา ๆ แล้วเธอก็เดินกลับมาที่โต๊ะอาหารที่มีขิงและน้อยหน่านั่งรออยู่

“น้อยหน่า ขิง เดี๋ยวจอยไปห้องกิจกรรมก่อนนะ ต้องไปซ้อมนิดหน่อย”

ทั้งขิงและน้อยหน่าพยักหน้ากับคำโกหกคำโตขอจอยที่คิดขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ

“อย่าหักโหมมากนะจอย เดี๋ยวจะไม่สบาย”

น้ำเสียงอบอุ่นของขิง ทำให้จอยรู้สึกแย่

-นี่ฉันทำอะไรกับเธอนะขิง ฉันขอโทษ-

จอยได้แต่คิดในใจเพราะภายนอกเธอทำได้เพียงแต่ยิ้ม และพยักหน้า แล้วเธอก็เดินออกไป

“ขอโทษนะขิง แต่ฉันห้ามใจตัวเองไม่ได้จริง ๆ”

จอยรีบเดินไปยังหลังหอนอนเพื่อไปรอพบคนที่เธออยากอยู่ในอ้อมแขนของเขานักหนา









มะเหมี่ยวนั่งรอขิงอยู่บนต้นไม้ เขายังไม่กระโดดลงมา เพราะเมื่อสักครู่มีอาจารย์เดินมาทางที่เขาอยู่ เขาน่าจะผ่านกำแพงได้ง่าย ๆ แต่เพราะการต่อสู้เมื่อคืนทำเขาแทบไม่มีเรี่ยวแรง บนหน้าของเขามีรอยแดง สองสามที่ แต่ที่หนักก็คือตามตัว เพราะเขาถูกไม้ฟาดโดนไปหลายทีตอนที่สู้กับนัฐ แถมยังไม่ได้นอน และช่วงเช้าเขามีอาการปวดท้องเพิ่มอีกหนึ่งอาการ

“ถ้ายัยเบ๊เห็นฉันตอนนี้จะเป็นลมมั้ยวะเนี๊ยะ”

เขาก้มดูเสื้อสีขาว และกางเกงยีนส์สีซี๊ด ๆ ที่ตอนนี้มันมีคราบเลือดติดเกรอะกรังไปหมด เสื้อสีขาวแทบจะกลายเป็นสีแดงไปแล้ว

เขาก้มลงมองตามทางเดิน เห็นจอยเดินมาแล้ว จอยมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเดินมาที่ต้นไม้ เมื่อเขาเห็นว่าจอยมายืนอยู่ตรงที่เขานั่งพอดีก็ปล่อยกุญแจห้องให้มันหล่นใส่หัวจอย

“โอ้ย!!!!....ตาบ้า”

เสียงจอยตวาดและเงยหน้าขึ้นมามองบนต้นไม้ เธอพยายามมองมะเหมี่ยว แต่เธอไม่เห็นหน้าเขา เห็นเพียงแต่ว่าเขานั่งอยู่ มือข้างหนึ่งเกาะกิ่งไม้ไว้ อีกข้างเอาวางไว้บนเข่าที่ชันขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เขายิ้มใส่เธออยู่

“ยัยเซ่อ รีบไปเอาชุดมา เดี๋ยวฉันรอที่บันไดหนีไฟ เร็วๆ นะ อยากกอดเธอจะแย่แล้ว”

ว่าแล้วมะเหมี่ยวก็ยิ้ม จอยหน้าแดงรีบเดินขึ้นหอนอนไป มะเหมี่ยวดูลาดเลาอีกทีแล้วกระโดดลงมา ทันทีที่ร่างของเขาสัมผัสกับพื้นดิน เขาก็ล้มลงอย่างไม่เป็นท่า อาการของเขาค่อนข้างหนักทีเดียว เขารู้สึกปวดตามตัวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะท้อง จนเขาต้องเอามือกุมท้อง

“ทำไมปวดท้องอย่างนี้วะ”

มะเหมี่ยวสบถเบา ๆ ก่อนจะพยายามลุกขึ้น ความผิดปรกติภายในร่างกายบางอย่างทำให้เขาก้มดูที่ขา

“ให้ตาย............. มาเป็นอะไรตอนนี้วะ บ้าฉิบ!!!”

มะเหมี่ยวพยายามพยุงตัวขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วก็ลากสังขารตรงไปที่บันไดหนีไฟที่ปิดห้ามใช้ของหอนอน ทันทีที่มาถึง เขาทรุดลงนั่งกับพื้น มือข้างหนึ่งกุมท้องที่เริ่มปวดขึ้นมาอีก อีกข้างหนึ่งก็ควานหามือถือ

“ยัยเบ๊......ถึงหรือยัง?” เขากรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันทีที่จอยกดรับ

(เพิ่งเข้ามาในห้อง กำลังเอาออกจากตู้ มีอะไรเหรอ?”

“คิดถึงน่ะ”

(เอาจริง ๆ สิตาบ้า) จอยเริ่มประสาทเสียเพราะความกวนประสาทของเขา

“เธอหยิบ เออ......ชั้นในกับผ้าอนามัยมาด้วย”

จบเสียงที่ออกจะดูขัดเขินของมะเหมี่ยวแล้ว จอยก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

(ได้เดี๋ยวฉันเอาลงไปให้)

“ขอบใจ”

แล้วเขาก็กดวาง อาการปวดท้องเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เขางอตัวเพราะความปวด

“ให้ตายเหอะ เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะ? ที่ตอนไม่มีเรื่องก็ไม่เป็นจะกี่เดือน ๆ ก็ไม่เป็น พอฉันเจ็บตัวเป็นเลยนะแก”

มะเหมี่ยวสบถอย่างหงุดหงิด ร่างกายที่ถูกทำร้ายมาก็ทำให้เขาแทบหมดแรงแล้ว แล้วนี้ต้องมาเป็นประจำเดือนอีก มะเหมี่ยวเซ็งสุดขีดกับความซวยของตัวเอง









“ชมพู่ทำไมนายมีสภาพอย่างนี้ละ? เลือดที่เสื้อนี่มันอะไรกัน?!!! นายเป็นโดนอะไรมา!!?? แล้วปวดท้องเมนด้วยใช่มั้ย??? หน้าซีดมากเลย”

จอยรัวคำถามใส่ มะเหมี่ยวเพียงแค่กระตุกยิ้ม ก่อนจะดึงจอยเข้ามาจูบเบาที่มุมปาก

“ตาบ้า!!!....จะตายอยู่แล้วยังจะมาทะลึ่งอีก” จอยค้อนใส่มะเหมี่ยว

“พาไปห้องน้ำหน่อย”

เสียงของมะเหมี่ยวเบาหวิว จอยพยักหน้า ก่อนจะเดินออกไปดูต้นทาง แล้วเดินเข้ามาพยุงมะเหมี่ยวขึ้น ค่อย ๆ พาเดินเลาะตึกเรียนไปโรงอาบน้ำ ที่อยู่ตึกติดกัน









“ขิง ทำไมพู่ยังไม่มาอีกละ ใกล้จะเริ่มเรียนแล้วนะ”

เสียงน้อยหน่าถามขิงอย่างกังวล ขิงได้แต่ส่ายหน้า

“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ ๆ ก็หายไปอย่างนี้” เสียงขิงบอกน้อยหน่าเบา ๆ

“จอยก็หายไปเลยนะ หรือว่า..............สองคนนี้..... อะ.....มาแล้ว พู่ก็มาด้วย ว้าย.....”

น้อยหน่าอุทานเบา ๆ เมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนตัวเอง ส่วนขิงได้แต่ตะลึง ใบหน้าที่เคยสวยหวาน บัดนี้มีพลาสเตอร์ยาติดเต็มไปหมด แถมสีหน้ามะเหมี่ยวก็ซีดมาก

“ไปทำอะไรมานะพู่ เกิดอะไรขึ้น!!??” ขิงถามอย่างร้อนใจ

“ตกบันไดนะ ไม่เป็นไร” เขาตอบเบา ๆ

“ทำไมมันดูแย่ขนาดนี้นะ” ขิงยังถามต่ออีก

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็หาย อาจารย์มาแล้ว”

มะเหมี่ยวตอบเสียงนุ่ม มือที่ยกไปลูบแก้มขิงลดระดับลงเมื่อเห็นว่าอาจารย์เดินเข้ามา

“วันนี้มีเทสต์นะ ใครทำเสร็จก็ออกไปก่อนได้เลย ตั้งใจทำละ เดี๋ยวจะไม่มีคะแนนเก็บ”

เสียงอาจารย์ประจำวิชาเอ่ยบอกน้ำเสียงที่เข้มงวดเหลือเกิน พวกขิงนั่งนิ่ง รอจนหัวโต๊ะส่งกระดาษข้อสอบส่งมา

-จะไหวมั้ยวะเนี๊ยะ ปวดท้องจนแทบไม่มีสมาธิจะสอบอยู่แล้ว-

มะเหมี่ยวรู้สึกแย่สุด ๆ กระดาษคำตอบถูกส่งมาตรงหน้าเขา

มะเหมี่ยวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความกังวลหายไปทันทีเมื่อเห็นข้อสอบ

-ค่อยยังชั่วหน่อย ข้อสอบพอไปวัดไปวาได้ ไม่งั้นคะแนนชมพู่เสียหายป่นปี้แน่-


เขาก้มหน้าก้มตาเขียนคำตอบทันที ใช้เวลาไม่นานเท่านั้นเขาก็ทำข้อสอบเกือบจะเสร็จแล้ว แต่ความจริงมันควรจะเสร็จนานแล้ว หากไม่มีอาการปวดท้องมารบกวน

-ปวดอะไรนักหนาวะ-

มะเหมี่ยวกัดฟันบ่นเบา ๆ และแล้วเขาก็ทำข้อสอบเสร็จ เขามองนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ผนังห้อง 30 นาทีที่ทำข้อสอบ แต่เป็น 30 นาทีที่เขาทรมานสุด ๆ

“ทำได้มั้ยขิง??”

เขาถามขิงด้วยเสียงกระซิบ ขิงหันมาพยักหน้า เขายิ้ม เขาเหลือบไปมองจอยที่นั่งถัดไปจากขิง รายนั้นคงไม่มีปัญหา จอยเป็นเด็กเรียนดีของสายอยู่แล้ว ข้อสอบง่ายขนาดนี้ทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าไง ส่วนน้อยหน่า ก็คงผ่านไปได้เหมือนกัน เพราะดูจะลื่นไหลดี

“งั้นไปก่อนนะ”

มะเหมี่ยวกระซิบบอกขิงอีก ขิงพยักหน้า เขาจึงลุกเอากระดาษคำตอบไปให้อาจารย์

“ครูว่าเธอไปห้องพยายาบาลดีมั้ย รัตนาภรณ์ ดูเธอแย่มากเลยนะ”

เสียงของอาจารย์ประจำวิชาเอ่ยบอก

“ค่ะ”

ไม่บอกก็ไปอยู่แล้ว เขาเดินกลับมาเอากระเป๋าที่โต๊ะ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว และในเวลาต่อมามือถือของจอยก็สั่นเล็กน้อย

-ใครส่งข้อความมานะ- จอยเอามือถือมาเปิดอ่านข้อความ

-รอที่ห้องพยาบาล รีบทำแล้วมาหาด้วย ฉันอยากกอดเธอ-

จอยรีบเก็บมือถือ ข้อความแบบนี้ไม่มีใครส่งให้เธอหรอก นอกจาก เจ้านายจอมมารของเธอเอง เธอเหลือแค่ตรวจทานเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะตรวจแล้ว เธอเหลือบมองขิง

-ขิงยังเหลืออีกหลายข้อ น้อยหน่าก็คงอีกนาน คงใช้เวลาทั้งชั่วโมงเลย-

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็ลุกเอากระดาษคำตอบไปส่งอาจารย์ แล้วกลับมาเอากระเป๋าที่โต๊ะ

“จอย....ไปดูพู่ให้ขิงหน่อยนะ ขิงคงอีกสักพักละกว่าจะเสร็จ”

ขิงบอกจอยเบา ๆ เธอเพียงแค่พยักหน้า แล้วจอยก็เดินออกไปจากห้อง พอพ้นรัศมีห้องเท่านั้น จอยก็วิ่งตรงไปที่ห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว









จอยยืนอยู่ที่หน้าห้องพยาบาล เธอใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงที่นี่ เธออยากอยู่กับเขาให้นาน ๆ ตั้งแต่กลับจากบ้านของเขา ก็ไม่มีโอกาสอยู่ด้วยกันเลย ตอนนี้เขาดังมากใครก็ชอบทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ต่างก็รุมล้อม ขิงก็ตามเฝ้าเขาแจ ที่คอของขิงมีสร้อยที่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดมันยิ่งตอกย้ำว่า จอยกับเขาอยู่ในฐานะอะไร

จอยเปิดประตูเข้ามาในห้องช้า ๆ

-นอนเตียงไหนละเนี๊ยะ- จอยคิดและเดินไปเปิดม่านที่กั้นเตียงไว้

-ไม่มี นี่ก็ไม่มี อยู่เตียงไหนนะ -

จอยเปิดม่านจนมาถึงเตียงสุดท้าย คงจะไม่ต้องหาแล้วละ เพราะคาดว่าร่างที่เธอตามหาอยู่คงอยู่ที่เตียงนี้เป็นแน่............

จอยเปิดม่านช้า ๆ นั่นไง!!! ร่างที่เธอตามหาอยู่

มะเหมี่ยวที่เข้ามาถึงห้องพยาบาลก็หยิบยาแก้ปวดท้องมากิน แล้วก็หลับไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่ไม่แข็งแรง และยังพักผ่อนไม่พอ ทำให้เขาอ่อนล้า จึงหลับไปอย่างง่าย ๆ

จอยยิ้มบาง ๆ กับร่างที่หลับพริ้มอยู่นั้น เธอเดินไปหยุดนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง มือเรียวบางของเธอเอื้อมไปกุมมือของเขาไว้.................

มะเหมี่ยวขยับตัวเล้กน้อยเพื่อที่จะให้ตัวเองนอนสบายขึ้น ความรู้สึกบางอย่างทำให้เขารู้ว่ามีคนมาอยู่ข้าง ๆ แต่ความอ่อนล้าทำให้เขาไม่สามารถจะลืมตาตื่นขึ้นมาได้

แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ สัมผัสที่อ่อนหวานนี้เขาคุ้นเคยกับมันดี

“คิดถึงนะ ไม่ได้กอดตั้งหลายวัน คิดถึงมาก ๆ”

เสียงอ่อนหวานของมะเหมี่ยวเปล่งออกมาทั้งที่ไม่ได้ลืมตา จอยยิ้ม

“คิดถึงใคร รู้ตัวมั้ยที่พูดนะ แล้วรู้มั้ยว่าฉันคือใคร ใช่คนที่นายคิดถึงหรือเปล่า”

จอยแกล้งถามคนตรงหน้า.............และสิ่งที่เธอได้รับก็คือ คำตอบที่ทำให้เธอใจเต้นแรง

“ไม่ต้องมาต่อล้อต่อเถียงเลย ยัยเบ๊...........ขอกอดหน่อยสิคะ”

..........นายรู้เหรอว่าเป็นฉัน...............

จอยรู้สึกถึงแรงดึงเบา ๆ จากร่างของมะเหมี่ยว เธอจึงย้ายจากเก้าอี้ข้างเตียงมานั่งบนเตียงแทน และล้มตัวลงนอนเคียงข้างกับเขา มะเหมี่ยวสอดแขนให้จอยหนุมแขนของเขา และแขนอีกข้างก็ตวัดโอบร่างบางของเธอเข้ามาในอ้อมกอด

“คิดถึงนะคะคนดี”

-ฉันก็คิดถึงนายนะ แต่ทำยังไงได้ นายมีขิงอยู่ข้างตัวตลอด-

จอยหลับตาลง คิดว่านี่คงเป็นช่วงเวลาที่สงบที่สุดของเธอแล้ว การที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างนี้ มันทำให้เธอไร้กังวลและรู้สึกปลอดภัยเป็นที่สุด









Joy talk………

ฉันค่อย ๆ ลุกออกจากอ้อมกอดของชมพู่ แม้ฉันจะไม่อยากจะผละออกจากเขาก็เถอะ ชมพู่หลับไปแล้ว อะไรกันแป๊บเดียวเองนะตาบ้า ไปทำอะไรมานะถึงได้มีสภาพแบบนี้ แล้วดูสิมีแต่แผลเต็มไปหมด แถมยังมาปวดท้องประจำเดือนอีกนะ นายนี่ซวยจริง ๆ โทรศัพท์มือถือของฉันสั่น ฉันรีบเอาออกมาดู ขิงโทรมา

“ฮัลโหล”

(จอย....ตอนนี้พู่เป็นไงบ้าง?)

“หลับอยู่จ๊ะ ขิงอยู่ไหนเหรอ?”

(กำลังจะไปหาแหละ อะ...เมื่อกี้อาจารย์สุนันท์ตามหาเธออยู่ บอกว่าให้หาที่ห้องคณิตศาสตร์ด้วยนะ)

“ได้จ๊ะ งั้นขิงรีบมาเปลี่ยนนะจ๊ะ”

(จ๊ะ)

แล้วฉันก็วางสาย ฉันหันไปมองชมพู่ที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่

“ตัวแทนอย่างฉันต้องไปแล้วนะ เดี๋ยวตัวจริงเขาก็จะมาแล้ว ฝันดีนะ”

ฉันก้มลงจูบหน้าฝากชมพู่เบา ๆ แล้วค่อย ๆแกะมือของเขาที่กุมไว้ออก

ไม่นานขิงเปิดประตูห้องพยาบาลเข้ามา เธอตรงยังเตียงที่ชมพู่นอนอยู่ ได้เวลาที่ฉันต้องไปแล้วสิ ข้าง ๆ ของเธอไม่ใช่ที่ของฉันแต่เป็นของขิงต่างหาก

“ขิงจอยไปก่อนนะ”

ขิงพยักหน้า เธอนั่งจับมือชมพู่ไว้


~ขิง......ฉันอิจฉาเธอจัง ฉันอยากอยู่ในฐานะที่เธอกำลังเป็นอยู่ ฉันผิดมากหรือเปล่าที่คิดแบบนี้ ฉันอยากแทรกระหว่างเธอกับเขา ฉันขอโทษ แต่ฉันคงไม่ทำอย่างนั้น..............~



ฉันเดินออกจากห้องพยาบาล เดินไปยังตึกเรียน เพื่อไปพบอาจารย์สุนันท์ด้วยสภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยวเต็มที ทำไมนะ......................ทำไมต้องชอบคนที่มีเจ้าของด้วยนะเรา

“ขอโทษค่ะ.....” ฉันเดินเข้ามาในห้องพักครูสอนคณิตศาสตร์

“เข้ามาสิ”

“มีอะไรเหรอค่ะ” ฉันถามอาจารย์สุนันท์ออกไป

“ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก พอดีจะให้เธอเอาตารางซ้อมวอลเลย์บอลช่วงวันหยุดไปแจกพวกนักกีฬานะ”

ฉันรับแผ่นงานจากอาจารย์มา

“มีอะไรอีกมั้ยคะ?” ฉันถามย้ำอาจารย์สุนันท์อีกที

“ไม่มีแล้วละ ว่าแต่วันหยุดไปเที่ยวกับแฟนสนุกมั้ยละ?”

^______^ อาจารย์สุนันท์ถามยิ้ม ๆ ฉันเจ็บแปลบมาที่หัวใจ

~แฟนงั้นเหรอค่ะ ก็คงใช่ แต่เป็นแฟนของคนอื่นค่ะ~

“เขาไม่ใช่แฟนหนูค่ะ” - - a ???? อาจารย์สุนันท์ทำหน้างงกับคำตอบของฉัน

“แต่เขาบอก....” ฉันส่ายหน้า

“ไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวก่อนนะคะ” ว่าแล้วฉันก็เดินออกมาจากห้องคณิตฯ

แฟนงั้นเหรอคะ อย่างฉันไม่เรียกว่าแฟนหรอกค่ะ ฉันก็แค่ตัวคั่นเวลา เวลาที่เขาไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ เขาก็จะคิดถึงฉัน เวลาที่เขาต้องการใครสักคนแก้เหงา เขาก็จะมาหาฉัน ฉันมันก็มีค่าแค่นี้เท่านั้นแหละค่ะ









ฉันเปลี่ยนชุดสำหรับไปซ้อมวอลเล่ย์บอลที่โรงยิม พวกนักบาส ฯ ห้องคิงก็มาซ้อมนี่น่า แต่ไม่มีชมพู่ จะมีได้ไงก็ตานั่นนอนซมอยู่นี่

“เอ่อ....จอย ๆ”

ฉันหันไปทางต้นเสียง อับโชคนี่เอง ว้าย.............นี่ฉันเผลอไปเรียกเขาตามเจ้าบ้านั่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี๊ยะ ขอโทษนะ อัพสุดหล่อ

“มีอะไรเหรอ??” ฉันถามอัพ

“วันนี้ชมพู่ไม่มาซ้อมบาสเหรอ มันเงียบไปเลยอ่ะ”

“คงไม่หรอก เขาปวดท้องผู้หญิงอย่างแรงเลยนะ แบบว่าไม่ไหวแน่” ฉันตอบอัพไป ดูอัพขำ ๆ

“เออ....แล้วมันไปฟัดกับหมาที่ไหนมาละ หน้าถึงเยิ่นขนาดนั้น ตอนมันเข้ามาสอบอัพตกใจมากเลยอะ”

ฉันก็อยากรู้เหมือนกันอัพ แต่คนอย่างตานั่นมีหรือจะบอก ฉันได้แต่ส่ายหน้าช้า ๆ

“เหรอ อัพเห็นจอยกับเจ้านั่นสนิทกันเลยถาม เมื่อวันเสาร์ก็เห็นจอยไปเดินเที่ยวห้างกับมันอะ ตอนแรกจำไม่ได้ว่าเป็นไอ้พู่ มันดันตัดผมซะขนาดนั้นอะเน๊อะ”

>O< กรี๊ด อัพเห็นฉันกะตานั้นเดินด้วยกัน ม่ายยยย นายกำลังจะกลายเป็นตัวอับโชคจริง ๆ

“ อ๋อ คือวันนั้นแค่บังเอิญเจอกันนะ ไม่มีอะไร” ตาอัพพยักหน้าช้า ๆ ( - - )( _ _ )( - - )

“แต่วันอาทิตย์ก็มาที่โรงเรียนพร้อมกันนี่ รถไอ้พู่เหรอสวยมากเลยนะ”

^_______^ รอยยิ้มแสนซื่อของตาอับโชค

“ก็บังเอิญเจอกันกลางทางเหมือนเดิมแหละจ๊ะ”

-_____-:::: ฉันเริ่มเหงื่อตก ตาอัพพยักหน้า ก่อนจะฉีกยิ้มเกลื่อนบนหน้า เขาขยับเข้ามาใกล้ฉัน

“แล้วมันบังเอิญอีกหรือเปล่าที่จอยกับไอ้พู่ไปเที่ยวกันในผับ Sae แถวสีลมนะ พอดีวันนั้นอัพไปกับพี่”

เสียงกระซิบเย็น ๆ ของตาอับโชคนี่ทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตขาดสีสันทันที พระเจ้า!!!! อับโชคเห็นฉันกับชมพู่ที่ผับ

“จะเป็นไปได้ไง ร้านนั้นห้ามคนต่ำกว่า 20 เข้า จอยจะไปได้ไง แล้วอัพก็ไม่น่าจะเข้าได้ด้วย”

เสียงของฉันสั่น ๆ แต่ตาอับโชคยิ้ม ^_________^ แต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์มากมายแล้วนะตอนนี้

“พี่ของอัพเป็นช่างทำผมของเจ้าของผับนะ อัพเลยใช้เส้นนิดหน่อย ส่วนจอยยิ่งเข้าง่าย เพราะเดินเข้ากับหลานเจ้าของร้านเลยนี่ อัพเห็นตอนพวกพี่เค้าแปลงร่างให้จอยด้วยนะ”

ตาอับโชคยิ้ม แต่ทำไม่ฉันไม่รู้สึกอยากยิ้มด้วยเลยละ ฉันรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอของฉันจนพูดอะไรไม่ออก เหงื่อเริ่มซึมออกมาทั้ง ๆ ที่ฉันยังไม่ได้วอร์มร่างหายเลย ตายแน่ ๆ

“โต๊ะที่อัพนั่งก็ไม่ไกลจากโต๊ะจอยหรอก ดูดูดดื่มจังนะคืนนั้นนะ ถ้าแฟนไอ้พู่รู้มันคงเสียใจแย่เน๊อะ คนหนึ่งก็แฟน อีกคนก็เพื่อน”

ฉันรู้แล้วว่าทำไมตานั้นถึงเรียกนายว่าอับโชค นายมันตัวอับโชคจริง ๆ

“อัพต้องการอะไร?”

ฉันรู้สึกว่าอัพต้องการอะไรสักอย่างจากฉันแน่ ๆ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะ สายตาเจ้าเล่ห์อย่างนี้ มันเหมือนกับสายตาเวลาที่ชมพู่มองฉัน แต่ฉันกลับรู้สึกว่า สายตาของชมพู่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่อัพกำลังมองฉัน......ตาอับโชคยังคงยิ้มอยู่ จนเขาเอ่อยคำพูดที่ทำให้ฉันอึ้ง

“เป็นแฟนกับอัพนะ เค้าชอบจอยมาตั้งนานแล้ว”

^________^ หน้าตาอับโชค

>O
“หรือจอยอยากให้ขิงรู้เรื่องนี้ละ”

ตาอับโชคยิ้มอีกแล้ว ฉันต้องทำยังไงดี ถ้าไม่ยอมก็จะบอกขิง เรื่องนี้ยอมไม่ได้ ขิงจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้ แต่ถ้ายอมฉันก็ต้องถูกตาจอมมารนั่นฆ่าตายแน่ ๆ ทำยังไงดี

“ว่าไง จอย คบไม่คบ”

ตาอับโชครอคำตอบ ฉันต้องตอบสินะ แล้วจะเอายังไงดีละเนี่ย โอ้ย!!!!

“ได้!!! ฉันจะคบกับนาย แต่นายต้องไม่บอกเรื่องนี้กับใครนะ” ตาอัพยิ้มหน้าบาน

“ได้อัพจะไม่บอกใคร ตกลงเราเป็นแฟนกันนะ”

ฉันพยักหน้าช้า ๆ เป็นอันตกลง ......ฉันกับอัพเป็นแฟนกัน............. ฉันกำลังจะบ้าตาย นี่มันเรื่องอะไรของมันนี่ พระเจ้าช่วยลูกด้วย ลูกกำลังจะบ้า!!!!

ชมพู่!!! นายอย่าโกรธฉันนะ!!!




>>>>>>>>>>>>>>>>จบตอนขอรับ<<<<<<<<<<<<<<<




แง่ม ๆ

คำผิดบานเบอะขอรับท่าน ไม่ได้ตรวจทาน ปั่นสด ๆ ร้อน ๆ

แง่ม ๆ เป็นไงขอรับ ถามหา มะเหมี่ยว มะเหมี่ยวก็มา ถามหาจอย จอยก็มา แถมด้วยตัวประกอบ (หรือเปล่า) อีก 1 อิอิ

ชอบก็เม้นต์กันเยอะ ๆ นะ คนเขียนบ้าอ่านเม้นต์ (แต่ไม่บ้าตอบเม้นต์)ขอรับ

ถาม :...............อยากให้มะเหมี่ยวคู่กับใคร ??? เพราะอะไรถึงอยากให้คน ๆ นี้คู่กับมะเหมี่ยว ??

ข้าน้อยก็ถามไปงั้นแหละ แค่อยากรู้ว่า แต่ละท่านคิดว่า ใครจะคู่กับมะเหมี่ยว

ข้าน้อยนะมีตอนจบขอมะเหมี่ยวหวานที่รักยิ่งอยู่บนเขียงอยู่แล้ว............หึหึ

ถูกใจข้าน้อยเป็นยิ่งนักแหละขอรับ


วันนี้แค่นี้ก่อนละขอรับ................ขอให้มีความสุขในการอ่านขอรับ.........


ปล. ห้ามทักเรื่องคำผิดนะ ไม่งั้นงอนไม่ลงเรื่องจริง ๆ ด้วย.............แง่ม ๆ ไม่มีเวลาตรวจขอรับ.....



"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 22ตอนที่ 24 >




 

Create Date : 21 มีนาคม 2550
0 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2550 19:06:49 น.
Counter : 912 Pageviews.


samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.