ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 22

Over 1500 % (หรืออาจมากกว่านั้น) Ha Ha Ha



Mibu sa’KYO talk…….......(เพื่อง่ายต่อการทำระยำตำบอนตัวละคร ซาจังมาเสนอหน้าดีกว่า อิอิ)

“ไอ้นัฐ!!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้วโว้ย!!!”

หนุ่มร่างใหญ่หันมาทางต้นเสียงที่เรียกชื่อเขา เพื่อนชื่อพงษ์ วิ่งหน้าตื่นมาหาเขาในห้อง ใบหน้าของพงษ์ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงคำว่า เรื่องดี ๆ เลย คงมีเรื่องกันมาอีกแน่ ๆ

“มีอะไรพงษ์”

“แกยังจะมายืนใจเย็นอะไรตรงนี้วะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“เรื่องอะไรของแกวะพงษ์?” นัฐขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ยัยแนนนะสิ”

“น้องฉันทำไม?”

พงษ์หอบหายใจถี่รัวเพราะเขาวิ่งจากชั้นหนึ่งของหอพักมาชั้นสี่ เสียงของเขาเลยเต็มไปด้วยความเหนื่อยหอบ

“ยัยแนน...............พาพวกไอ้ยุทธไปฉุดไอ้เหมี่ยวนะสิ.....ตอนนี้อยู่ที่โกดังร่างของแกนะแหละ”

นัฐถึงกับค้างนิ่ง เขารู้ว่าน้องสาวของเขาเกลียดมะเหมี่ยวเข้าไส้ แต่ไม่คิดว่าจะแนนจะกล้าทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้ แนนรู้จักมะเหมี่ยวน้อยไป

“แล้วที่สำคัญนะตอนนี้ พวกไอ้พริกไหวตัวแล้วนะ มันดิ่งไปที่โกดัง เด็กเทคนิคเป็นฝูงเลยนะโว้ย!!!”

“บัดซบ!!!” นัฐสบถออกมา แนนกำลังทำให้ตัวเองเดือดร้อนซะแล้ว........

“ไปโกดังร้างกับฉันไอ้พงษ์”

นัฐวิ่งออกจากห้อง เขาล้วงมือถือออกมากดหาน้องสาวของตนเอง แต่ไม่มีใครรับสาย นัฐอยากเอามือถือปาทิ้งนัก

นัฐเปิดประตูรถ และเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ มีพงษ์กับเพื่อนอีกคนตามเข้ามา

ขอให้ทันทีเถอะ...................

นัฐออกรถด้วยความเร็วสูง พุ่งทะยานออกจากถนนใหญ่ เขารู้ดีว่าแนนต้องการให้มะเหมี่ยวหายไปจากโลกนี้ เขาเองก็เช่นกัน แต่ไม่ใช่วิธีอย่างที่แนนกำลังทำ......

เขาเคยมีเรื่องกับมะเหมี่ยว เคยชกต่อยกัน ผลที่ออกมาคือเขาแพ้.................ใช่ เขาแพ้

ผู้ชายอย่างเขาแพ้ผู้หญิง

มะเหมี่ยว เป็นคนที่เขาไม่ชอบหน้าตั้งแต่ไหนแต่ไร ครั้งแรกที่เจอก็คิดว่าน่ารักดี แต่ความกวนประสาทของมะเหมี่ยวทำให้เขาไม่ค่อยชอบใจ ลุกลามไปถึงขั้นเกลียดขี้หน้า เมื่อมะเหมี่ยวปฏิเสธไม่ใยดีสานสัมพันธ์กับน้องสาวของเขา ตอนนั้นเขม่นกันจนได้เรื่อง

คนที่ไม่เคยแพ้ใครอย่างเขา คนที่เคยหยิ่งทะนง แพ้ยับเยิน เมื่อต้องต่อสู้กับผู้หญิงคนหนึ่ง

มะเหมี่ยวไม่ได้แค่ฉลาด มะเหมี่ยวมีความเจ้าเล่ห์ ฝีมือการต่อสู้ ที่ดูแล้วไม่ใช่แค่ฝีมือพวกมวยวัด แต่เป็นคนที่เคยฝึกการต่อสู้มาอย่างดี......เมื่อรวมกันแล้ว ไม่ใช่คนที่จะล้มลงได้ง่าย ๆ นัฐรู้ดี เพราะเขาเคยเจอมากับตัว

แต่เป็นไปได้ยังไง ??? แนนใช้วิธีไหนถึงได้ฉุดมะเหมี่ยวมาได้ แต่ตอนนี้วิธีที่แนนใช้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ปัญหาสำคัญคือ.............แนนกำลังทำให้ตัวเองเป็นเป้านิ่ง









“แกรู้เหรอพริกว่าพวกไอ้นัฐพาชมพู่ไปที่ไหน???”

พัฒเอ่ยถามพริกในขณะที่มือไล่กดเบอร์หาเพื่อน ๆ ให้มาสมทบกัน ใจหนึ่งก็แอบกลัวกับความเร็วที่พริกใช้อยู่ตอนนี้ แต่กลัวไปก็เท่านั้นตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำยังไงก็ได้ ให้หาชมพู่ให้เจอโดยเร็ว

“ก็พอรู้ ที่สุมหัวของไอ้บ้านั่นมีไม่กี่ที่หรอก”

“อืม..................เฮ้ย!!!! ตอนนี้พวกแกอยู่ที่ไหนกันแล้ววะไอย์ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว......เออ....ยิ่งกว่าตีกันซะอีก เจอกันที่............ที่ไหนวะพริก....”

พัฒหันมาถามพริกเมื่อเขาไม่รู้ว่าจะบอกเพื่อน ๆ ว่าเจอกันที่ไหน.....

“โกดังเก็บของที่...........................” พริกบอกสถานที่ไป พัฒไม่รอช้ารีบบอกกับเพื่อนไปเช่นกัน พร้อม ๆ กับที่บอกเหตุผลของการรวมตัวครั้งนี้คร่าว ๆ

“พวกไอ้ไอย์น่าจะอยู่ใกล้ที่นั่นมากกว่าเรา อีก 10 นาที คงถึง.......อีกนานมั้ยกว่าจะถึง?”

“คงถึงพร้อม ๆ กัน........”

พริกตอบแล้วก็เงียบ พัฒไม่พูดอะไรต่ออีกเพราะรู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็เท่านั้น พริกคงไม่มีแก่ใจจะรับรู้อะไร........

“พวกแกรู้เรื่องเปลี่ยนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่??”

พัฒเงียบไปสักครู่ เมื่อได้ยินคำถามของพริก ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมา และตอบคำถามของพริก

“ไม่นานหลังจากที่เห็นว่าไอ้เหมี่ยว ....เอ่อ....ไปช่วยจากยัยเจ๊โหดน่ะ”

“..........................”

“ไอ้เหมี่ยวเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้นะ แกก็เห็น....ชมพู่นะหัวอ่อน มีเหรอจะขัดไอ้เหมี่ยวได้ รายนี้ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย...........”

“...................”

พริกยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม จนพัฒเริ่มอึดอัด.................เขาขยับร่างไปมา พริกเงียบเกินไปจนเขาเดาความคิดไม่ออก

“แกโกรธ????”

“แล้วแกคิดว่าฉันควรจะโกรธมั้ยละ?”

น้ำเสียงราบเรียบของพริกทำให้พัฒเดาความรู้สึกของเขาไม่ได้ พริกกำลังคิดอะไรอยู่.........จะมีใครรู้นอกจากตัวของพริกเอง

“แอบรักทอมด้วยกัน แถมทอมคนนั้นยังเป็นเพื่อนรักตัวเองอีก.......แกคิดว่าความรู้สึกแบบนี้มันทำใจยอมรับได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ....ฉันต้องทนคิดว่าตัวเองบ้าอยู่นานขนาดไหนรู้มั้ย ?? ตอนที่รู้ตัวว่าหลงรักไอ้เหมี่ยว.......”

พริกหยุดพูดกะทันหัน น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความไม่พอใจดังออกมาจนพัฒรู้สึกได้.........เป็นใคร ๆ ก็โกรธ

“แล้วมาตอนนี้มาบอกว่า คนที่ฉันแอบรัก แอบมีใจนะ ไม่ใช่เพื่อนรักของตัวเอง แต่เป็นน้องสาวฝาแฝดของเพื่อนอีกที เห๊อะ!!!!~ เจริญดีแท้ ฉันเกือบจะสติเสียรู้มั้ย? กับไอ้ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นเนี่ย???”

“.................................”

พัฒกลายเป็นฝ่ายเงียบขึ้นมา สภาพของพริกก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เห็นอยู่ เป็นใคร ใครก็เครียด แอบรักเพื่อนตัวเอง แถมเพื่อนยังเป็นทอมเหมือนกัน................แล้วมารู้ความจริงทีหลัง แบบนี้ยิ่งแล้ว......แถมมาเกิดเรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้อีก

“แต่แกต้องเข้าใจชมพู่นะพริก....ชมพู่ไม่ได้................”

พริกถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใบหน้าที่เครียดขึงของเขาทำให้พัฒกลืนคำพูดที่ตั้งใจจะพูดออกมา

“แต่ที่มากกว่าความรู้สึกโมโหตอนนี้ คือ...............ฉันเป็นห่วงยัยนั่น................ฉันจะโกรธตัวเองมากกว่า............ถ้ายัยนั่นเป็นอะไรไป................”

พัฒถอนหายใจอย่างโล่งออก เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเพื่อนรัก อย่างน้อย เขาก็รู้ละว่าพริกใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

“พัฒ................”

“อะไร.................”

“ฉันรักยัยนั่นมากเกินกว่าจะโกรธยัยนั่นเพราะเรื่องพรรณนี้ว่ะ”

“เก็บคำพูดนี้ไปพูดกับชมพู่ดีกว่าว่ะ...............”

“อืม................แต่ตอนนี้ ถ้ายัยนั่นเป็นอะไรไป..........ใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง ..........ฉันจะทำให้มันทรมานจนตายเลยล่ะ”

พัฒรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัวเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนรักของตนพูด เขารู้ดีว่าพริกเป็นคนโมโหร้าย แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกว่าพริกน่ากลัวมากเท่าวันนี้.............ปีศาจตื่นขึ้นมาแล้วสินะ

และยังมีอีกคนหนึ่งที่พัฒจะได้เห็นความโกรธเกรียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คนที่สามารถทำทุกอย่างได้โดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด ขอแค่คนที่เป็นศัตรูของเขาทรมานจนเป็นที่พอใจก็พอ...............ปีศาจอีกตนหนึ่งกำลังจะตื่นขึ้นมาแล้ว..................









“ม่ายยยยยยยยยยยยยย!!!! ปล่อยช้านนนนนนน!!!!”

ชมพู่ที่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่กรีดร้องออกมา เธอหวาดกลัวจนถึงขีดสุด น้ำตาของเธอไหลออกมานองหน้า เธอบิดร่างหนีใบหน้าหยาบกร้านของผู้ชายที่กำลังก้มลงมาซุกไซร้ร่างกายของเธอ........

ชมพู่พยายามดิ้นร้นอย่างสุดความสามารถ ภายในใจภาวนาให้ใครก็ได้สักคนมาช่วยเธอ ภาพของพริกลอยมาให้เธอได้เห็น ตอนนี้พริกอยู่ที่ไหน??? มะเหมี่ยวพี่ฝาแฝดของเธออีกคน ตอนนี้อยู่ที่ไหน?? ทุกครั้งที่มีปัญหาคนทั้งสองไม่เคยที่จะอยู่ห่างเธอ .................

ใบหน้าของผู้ชายที่น่าขยะแขยงซุกไซร้ซอกคอของเธอ ฝ่ามือหยาบกร้านของมันตะปบบีบอกสวยของเธออย่างไม่ปรานีปราศรัย และพยายามกระชากชั้นในตัวน้อยของเธอออก ชมพู่หลับตาเม้มปากสนิท ก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย.....................

เมือเธอต้องอยู่คนเดียว เมื่อเธอต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้เพียงลำพัง เธอต้องสู้ อย่างน้อย ๆ เธอก็มั่นใจว่า ทั้งพี่และคนที่เธอรักต้องมาช่วยเธอ...................เธอไม่ยอมอยู่เฉย ๆ ให้ใครรังแกอีกแล้ว..............

ชมพู่หันหน้าเข้าหาใบหน้าที่ซุกอยู่ที่ซอกคอของเธอ ก่อนที่จะอ้าปากและงับเต็มแรงที่ใบหูของมัน เธอใส่แรงทั้งหมดที่มีอยู่ลงไปกับการฝังเขี้ยวลงที่ใบหูนั้น เธอไม่สนใจว่ามันจะร้องด้วยความเจ็บปวดแค่ไหน เธอต้องทำทุกอย่างให้มันออกห่างจากร่างกายของเธอ

การกระทำของชมพู่ ทำให้ร่างที่อยู่ด้านบนของเธอ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แต่นั้นไม่ได้ทำให้เธอลดแรงที่กัดลง กลับเพิ่มมันขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างที่คร่อมเธออยู่นั่นกระโจนถ่อยไปด้านหลัง นั่นทำให้ร่างของมันไปชนกับเพื่อนที่จับขาชมพู่อยู่อีกสองคนเสียหลักล้มหงายหลังไปด้วยกัน

เมื่อขาของเธอเป็นอิสระ เธอจึงพยายามยันกายขึ้น แต่ทำไม่ได้ง่าย ๆ เมื่อแขนทั้งสองข้างของเธอยังคงถูกพันธนาการด้วยฝ่ามือแข็งแกร่งของชายอีกคนหนึ่ง แต่เธอไม่สนใจ เพราะตอนนี้ หนึ่งในสามที่ล้มลงไปกระโจนเข้ามาหาเธออีก แต่ชมพู่ก็ไม่รอช้า................

แม้เธอจะไม่ได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มาอย่างมะเหมี่ยว แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะถีบคนไม่เป็น ดังนั้นเมื่อผู้ชายคนนั้นกระโจนเข้ามา สิ่งที่ต้อนรับมันก็คือฝ่าเท้าของชมพู่ที่ส่งไปยังหน้าของมันเต็มแรง ส่งผลให้มันล้มกลิ้งไปกุมใบหน้าของมัน พร้อมกับเสียงโอดโอยไม่ต่างจากเจ้าคนที่ถูกกัดใบหู

“นังนี่ !!!”

เสียงจากชายอีกคนดังก้องขึ้น มันลุกขึ้นเมื่อสามารถผลักร่างของเพื่อนที่บาดเจ็บที่ใบหูออกไปได้ และเดินย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ

ชมพู่รู้สึกว่าตัวเองขยับร่างได้ลำบากมากยิ่งขึ้น เมื่อสองแขนถูกกดด้วยแรงมหาศาล เธอจึงได้แต่ดิ้นรอจังหวะ

......ใกล้อีกหน่อย ใกล้อีก..............



.........พู่คะ จำไว้นะคะ ถ้าเข้าตาจนจริง ๆ ผู้ชายต่อให้แข็งแกร่งขนาดไหนมันก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน ถ้าสู้ไม่ได้ รอจังหวะค่ะ ทีเดียว ซัดให้เต็ม ๆ เลย ผ่าหมากที่เจ้าโลกมันเลยค่ะ หน้าไม่เหมือนพ่อ สอยให้ล่วงค่ะ.............

คำพูดของมะเหมี่ยวดังก้องอยู่ในหัวของเธอ...... ครั้งหนึ่งที่เธอเคยคิดว่าเธอจะเอาวิธีนี้มาใช้ประโยชน์อะไรได้ ตอนนี้มันมีประโยชน์กับเธอแล้ว

และมันก็เป็นประโยชน์กับเธอจริง ๆ เมื่อชายที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งนักหนาทรุดฮวบลงกับพื้นโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องแทบจะทันทีที่เธอกระแทกเท้าเข้ากับจุดอ่อนของผู้ชาย...............



“ไอ้พวกบ้า!!!! มัวแต่ทำอะไรกัน จัดการมันเซ่ แค่ผู้หญิงคนเดียว”

แนนตะโกนสั่งเสียงดัง แต่กว่าที่เธอจะตั้งสติได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร

“โธ่โว้ย!!! ฤทธิ์มากนักนะ....”

ด้วยความโกรธ เจ้าของเสียงจึงเผลอปล่อยมือจากการพันธนาการแขนของชมพู่ เพียงเพื่อจะใช้กำลังที่เหนือกว่าจัดการกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างชมพู่


........พู่คะ ตาของคนก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนอีกอย่างหนึ่ง ถ้าเมื่อไหร่ที่เราอยู่ในระยะที่ใกล้พอ และศัตรูไม่ทันตั้งตัว แค่สองนิ้วเองค่ะ.....ไม่ต้องสนใจว่าตามันจะบอดมั้ย ทิ่มเข้าไปเลย...............

และนี่ก็เป็นอีกคำแนะนำของมะเหมี่ยวที่ทำให้ชมพู่สามารถล้มผู้ชายลงได้อีกคน เสียงร้องด้วยความเจ็บของมันดังลั่น พร้อม ๆ กับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บใจของแนน ชมพู่พยุงร่างลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอต้องหนี...........แต่จะหนีไปที่ไหนละ ในเมื่อตอนนี้ ผู้ชายอีกหลายคนที่อยู่ด้านนอกวิ่งกรูเข้ามาในห้องที่เธออยู่


ชมพู่ทำได้เพียงถอยหนีไปจนชิดผนัง ตอนนี้เธอรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว.....เธอจะทำยังไงต่อไป ผู้ชายสี่คนที่นอนอยู่กับพื้นเพราะฝีมือของเธอดูยังไงมันก็ลำบากน้อยกว่าผู้ชายอีกเกือบสิบที่รุมล้อมเข้ามาตอนนี้

“จับนังนั่นไว้ แล้วพวกแกอยากทำอะไรกับมันก็ทำ”

เสียงของแนนสั่งการ ชมพู่ตื่นตัวทันที เธอถอยหนีอีก หางตาเห็นท่อนไม้วางอยู่ไม่ไกล สมองสั่งการทันที เธอพุ่งไปหยิบมันขึ้นมา และไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เธอก็ได้ฟาดมันเข้าจัง ๆ กับชายคนหนึ่งที่พุ่งเข้ามาหาเธอ ผลที่ออกมา มันลงไปกองกับพื้น นอนแน่นิ่ง ไม่ขยับเขยื่อน

ชมพู่ชี้ไม้ไปด้านหน้า มือของเธอสั่น ตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยแม้แต่จะทำร้ายใคร อย่าว่าแต่คนเลย สัตว์เธอยังไม่เคย ไม่แปลกถ้าเธอจะรู้สึกกลัวกับการกระทำของตัวเอง...... เธอหอบหายใจถี่ มองไปข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ เธอไม่เคยมีเรื่อง เธอไม่รู้ว่าต้องเข้าหายังไง ตอนนี้สิ่งที่เธอรู้ก็คือ.........ใครที่เข้ามา เธอก็ฟาดด้วยไม้ให้มันล้มลงไปเท่านั้น



“ฮัลโหล!!! มีอะไรพี่นัฐ................” แนนรับโทรศัพท์อย่างหัวเสีย เมื่อเห็นว่าพี่ชายของตนโทรมา

(แกทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างไหม? ยัยแนน!!!)

“ทำอะไร??? แนนรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร??? “

(เลิกทำบ้า ๆ ซะแนน เรื่องของแก พี่จะจัดการเอง ตอนนี้พวกไอ้พริกกำลังดิ่งไปหาแกอยู่นะ ออกมาซะ ปล่อยไอ้เหมี่ยวไป ที่เหลือพี่จะจัดการเอง)

นัฐเกลี่ยกล่อมน้องสาวของตนเอง เรื่องนี้ไม่จบแบบสวยงามแน่ ๆ ถ้าคนที่แนนจับตัวไปเป็นอะไร เขารู้ดีว่าผลจะเป็นยังไง ? เขาไม่คิดว่าแนนจะทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างนี้ ตอนแรกเขาคิดเพียงแค่ แนนคงอยากให้เขาสั่งสอนพวกพริกให้ แต่ดูเขาจะมองน้องสาวของตัวเองผิดไป

“ไม่มีทาง!!! แนนไม่มีวันปล่อยให้คนที่แย่งทุกอย่างจากแนนไปลอยนวลมีความสุขหรอกนะ พี่รู้มั้ยตอนนี้มันมีสภาพยังไง อีกนิดเดียวมันจะทรมานเจียนตายเลยละ.........”

แนนพูดด้วยน้ำเสียงสาแก่ใจ แต่แล้วอยู่ ๆ มือถือในมือของเธอก็หลุดลอยออกจากมือของเธอ พร้อม ๆ กับสัญญาณที่ถูกตัดหายไป

“แต่...ฉันคิดว่า คนที่จะต้องทรมานนะ น่าจะเป็นเธอนะ................แนน”

น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วดูยังไงก็ไม่เป็นมิตรต่อตัวเองทำให้แนนถึงกับหันไปมองอย่างรวดเร็ว บุคคลที่พูดกับเธอทำให้เธอถึงกับหน้าซีด

“พะ.......พริก”



ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากพริกทั้งนั้น มีเพียงความเงียบ และเสียงการต่อสู้ด้านนอกทำให้แนนรู้ถึงสภาพของตัวเองดีขึ้น เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง

ทั่วทั้งห้อง ไม่ได้มีเพียงคนของเธอเสียแล้ว จะพูดให้ถูก คนของเธอถูกล้อมไปด้วยกลุ่มชายที่สวมชุดเทคนิค และในมือของทุกคน มีท่อนเหล็กเป็นอาวุธ ต่างจากคนของเธอโดยสิ้นเชิงที่มีเพียงมือเปล่า

เกิดความเงียบชั่วขณะภายในห้องแคบ ๆ นั้น เงียบจนเธอสามารถได้ยินเสียงที่อยู่ด้านนอก


“เฮ้ย!!! พริก.........ข้างในโอเคมั้ย? ข้างนอกพวกฉันจัดการเรียบแล้วนะโว้ย!!!”


เสียงของไอย์นั่นเอง เขาตะโกนรายงานผล นั่นยิ่งตอกย้ำให้แนนรู้ว่าเธอเสียเปรียบแค่ไหน


“ทุกอย่างโอเค!!! ถ้าไม่มีใครขยับนะ”


ไม่ใช่เสียงพริกที่ตอบ แต่เป็นเสียงของพัฒ พริกเพียงแต่ยืนมองแนนนิ่ง ๆ แววตาของพริกเย็นชาจนแนนเจ็บแปล้บในใจ แต่มากกว่าความรู้สึกเจ็บที่ใจ ความรู้สึกหวาดกลัวมีมากกว่า................

พริกเมินสายตาจากแนน สายตาของเขามองฝ่ากลุ่มคนที่ยืนอยู่กลางห้อง และแน่นอน สิ่งที่เขาเห็นมันทำให้เขาโกรธจนอยากจะบีบคอแนนให้ตายคามือ

ร่างของชมพู่ ยืนสั่นเทา เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ตามเนื้อตัวมีแต่รอยแดง รอยถลอก ไม่ต้องให้ใครมาอธิบาย เพียงแค่ได้เห็นเท่านี้ พริกก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น..............

“.................”

พริกเดินฝ่ากลุ่มคนไปหาชมพู่ โดยที่ไม่มีใครกล้าขว้างเขา มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วที่จะไม่มีใครกล้าหือเมื่อตัวเองตกอยู่ในสถานภาพเป็นรองแบบนี้

“ไปยืนรวมกันทั้งโน้น...........”

พัฒตะโกนพร้อมกับชี้ท่อนเหล็กไปทางประตู และนั่นก็มากพอที่จะบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่า ถ้าไม่อยากจะมีแผลอยู่บนตัวก็จงเดินออกไปอย่างสงบเสงี่ยม

พริกไม่ได้สนใจผู้คนที่เดินผ่านเขาไป เขาสนแต่ภาพของผู้หญิงตรงหน้า ใบหน้าที่มีแต่รอยแดง ฟกช้ำ พริกเม้นปากสนิท

“มานี่สิ..............”

ชมพู่ที่ยืนสะอื้นปล่อยไม้ในมือให้มันหล่นลงพื้นพร้อม ๆ กับปล่อยโฮออกมา เธอโผเข้าหาอ้อมกอดของพริก ความรู้สึกโล่งอก ปลอดภัยกลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเขา........

พริกโอบกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาอยู่กับเธอตรงนี้ เขาอยู่ปกป้องเธอตรงนี้

“พริก.........ฮือออออ.....ฉันกลัว......”

พริกได้แต่พยักหน้าและจูบปลอบใจที่ศีรษะของชมพู่ เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเธอ

“ไม่เป็นไรแล้ว......ปลอดภัยแล้วนะคะคนดี ไม่มีใครทำอะไรชมพู่แล้ว......”

ชมพู่ตกใจกับสรรพนามที่พริกใช้เรียกชื่อของเธอ แต่ในสถานการณ์แบบนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าพริกจะเรียกเธอว่าอะไรเธอก็ไม่สน ที่เธอสนใจก็คือ ตอนนี้เธอได้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอรักแล้ว........









“โธ่โว้ย!!! ทำไมไม่รับสายวะ”

นัฐที่นั่งกดโทรศัพท์หาแนนภายในรถ หงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เขาเปลี่ยนให้พงษ์มาเป็นคนขับ เพื่อที่เขาจะได้โทรคุยกับน้องสาวของตัวเองได้สะดวก และโทรเรียกเพื่อนฝูงมาสมทบ.........

นั่งโมโหอยู่ดี ๆ นัฐก็มีอันต้องขมำไปข้างหน้า เพราะอยู่ ๆ พงษ์ก็เหยียบเบรคเต็มแรง

“ไอ้พงษ์!!! ขับรถภาษาอะไรวะ เบรคมาได้ แล้วแกหยุดทำไม”

นัฐหันมาโวยวายกับเพื่อน มือข้างหนึ่งกุมศีรษะเอาไว้ ดีว่าคาดเข็มขัดนิรภัยไม่อย่างนี้มีหวังหัวแตกกันพอดี

นัฐไม่คำตอบจากพงษ์ แต่สิ่งที่เขาได้เห็นจากใบหน้าของพงษ์ก็คือ อาการหน้าซีด ปากสั่น ตาค้าง ราวกับเห็นกองทัพปีศาจเช่นนั้นเอง นัฐหันขวับไปมองตามสายตาของพงษ์ทันที

สิ่งที่นัฐได้เห็นมันทำให้เขาตาค้างได้ไม่ยาก ไม่ต่างจากอาการของพงษ์ตอนนี้เลย จำนวนคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่จำนวนที่เขาจะผ่านไปได้ง่าย ๆ

แต่หนึ่งในกลุ่มคนนั้นที่ทำให้นัฐรู้สึกชาวาบไปทั้งร่าง ริมฝีปากของเขาขยับช้า ๆ เป็นชื่อของคน ๆ หนึ่ง ที่เขาคิดว่า ในเวลาแบบนี้ ไม่น่าจะมาอยู่ที่ตรงนี้ แต่คน ๆ นี้ก็มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว และไม่ได้แค่มายืนชมวิวเล่นเป็นแน่

“ไอ้........เหมี่ยว”









“พวกแกคิดว่าทำกับฉันอย่างนี้แล้วเรื่องมันจะจบง่าย ๆ งั้นเหรอ”

แนนเปร่งเสียงโวยวาย เมื่อถูกพัฒผลักล้มไปกับพื้น เขาไม่ใช่คนที่จะทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่สภาพของชมพู่ทำให้เขาอยากจะฆ่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ให้ตายไปเลยทีเดียว

“แล้วเธอคิดว่าทำอย่างนี้กับชมพู่แล้วเรื่องมันจะจบลงง่าย ๆ งั้นเหรอ??”

แนนขมวดคิ้วกับสรรพนามแทนตัวใครบางคนที่พัฒเอ่ยขึ้นมา แต่นั้นไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เธอไม่สนใจ ตอนนี้เธอก็ทำได้แค่ใจดีสู้เสือเท่านั้น แม้ภายในใจจะสั่นระริกด้วยความกลัว

“ฮึ........พวกแกก็เก่งกันได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวคอยดูนะถ้าพี่นัฐมาพวกแกก็ถูกพี่ฉันจัดการจนหมอบนั่นแหละ”

แนนพูดพร้อม ๆ กับเชิดหน้าขึ้น พัฒรู้สึกเกลียดผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เขาอยากจะจับแนนกดน้ำให้ขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตาของเขาเลย

“ฮัลโหล..........ว่าไงละ!!!!!!’’

ไอย์กรอกเสียงใส่เครื่องสื่อสารที่ส่งเสียงระรัวอยู่ คำพูดไม่กี่คำของคู่สนทนาทำให้เขายิ้มออกมาอย่างสะใจ ไอย์หันไปพยักหน้าให้กับพัฒ และเขาก็กดวางโทรศัพท์ หลังจากที่รู้ว่า คู่สนทนาของเขากำลังจะมาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“ใครวะ.....โทรมาตอนนี้”

“มันจะใครละ......ถ้าไม่ใช่..............” ไอย์ไม่ตอบว่าใคร เขาละไว้ให้พัฒเดาเล่น และก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยกับการเดาครั้งนี้ พัฒอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ

“เมื่อกี้เธอว่าไงนะแนน.....เธอบอกว่า เดี๋ยวพี่ของเธอก็มาแล้วใช่มั้ย? อืม................คงเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะแหละ เดี๋ยวพี่ของเธอก็มาแล้ว”

พูดจบพัฒก็หัวเราะออกมาราวกับมันเป็นเรื่องน่าขบขันมากมายเหลือเกิน ไอย์เพียงแค่หัวเราะในลำคอเบา ๆ เท่านั้น แนนเม้มปาก เธอรู้สึกขัดใจกับท่าทางของคนทั้งคู่นักหนา

“เดี๋ยวแกจะขำกันไม่ออก”

แนนพูดออกมาอย่างเหลือทน พัฒเพียงแค่เลิกคิ้วอย่างยียวน ส่วนไอย์หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างสบายใจ พรางกวาดสายตามองกลุ่มผู้ชายที่นั่งรวมกันเป็นกลุ่มอยู่ โดยมีพวกของเขายืนคุมเชิงกันอยู่

พริกก้าวออกมาจากอีกห้อง ในอ้อมกอดของเขามีร่างของชมพู่อยู่ เสื้อช็อปของเขาถูกจัดการให้มาอยู่บนร่างของชมพู่แทนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของเธอ

“พู่เป็นไงบ้างวะพริก?”

พัฒเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นพริก

“ปลอดภัยดี ฉันไปที่รถก่อนนะ”

“อืม.....เดี๋ยวทางนี้พวกฉันจัดการเอง.......” พริกพยักหน้าตอบรับพัฒ แล้วก็พยุงร่างของชมพู่ไปที่รถ

“พริก!!!”เสียงเรียกของแนนทำให้สองเท้าของพริกหยุดชะงัก เขาหันไปมองแนนด้วยสายตาที่น่าขนลุก แนนเองไม่อยากจะเชื่อว่าพริกจะมองเธอด้วยสายตาแบบนี้

“พริก......พริกจะให้ไอ้บ้าพวกนี้ทำอะไรแนนคะ แนนอยากคุยกับพริกนะคะ”

แนนใช้ไม้อ่อนเข้าหาพริก เธอคิดว่า ถึงพริกจะโกรธแค่ไหน แต่พริกคงจะไม่ทำอะไรผู้หญิงเป็นแน่ เพราะที่ผ่านมาพริกให้เกียรติผู้หญิงเสมอ

“คุยกับฉัน???? เรื่องอะไร??”

ไม่ใช่แค่สายตาที่เย็นชาเท่านั้น แต่ที่แนนได้รับตอนนี้คือน้ำเสียงที่เยือกเย็น ไร้ความรู้สึกของพริก......

“เรื่องของเราไงคะ”

“ระหว่างเธอกับฉัน........มีคำว่าเราด้วยเหรอ งี่เง่าน่า”

แนนถึงกับอึ้งกับคำพูดของพริก เธอกำมือจนเจ็บ ปากคอสั่นระริกด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดเลยว่าพริกจะใช้คำพูดนี้กับเธอ แนนคงลืมไปแล้วจริง ๆ ว่าระหว่างตนกับพริกได้จบไปแล้ว

“พริกจะทำแบบนี้กับแนนไม่ได้นะ.....”

“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเธอไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาของฉันอยู่แล้ว.........ใครอยากทำอะไรกับยัยนี่ก็เชิญ”

พูดจบพริกก็ดินพยุงร่างของชมพู่เดินจากไป เขาไม่สนใจเสียงกรี๊ดที่ดังตามมาพร้อมกับคำด่าหยาบคายของแนน

“คอยดูนะ ฉันจะให้พี่นัฐจัดการพวกแกให้หมดทุกคนเลย พวกแกต้องมากราบตี_นขอขมาฉัน คอยดู”

“พี่นัฐที่เธอพูดถึงเนี่ย ใช่คนนี้หรือเปล่าคะคนสวย.........”

แนนหันหลังขวับไปยังต้นเสียงทันที ซึ่งนั่นก็เหมือนกับปฏิกิริยาของเกือบทุกคนในที่นั้น แนนแข็งทื่อเป็นหินเมื่อเห็นชัด ๆ ว่าคนที่พูดประโยคเมื่อกี้คือใคร

“มะเหมี่ยว......”

จบคำพูดที่แสนจะแผ่วเบาของแนน ร่างไร้เรี่ยวแรงร่างหนึ่งก็ถูกโยนลงไปกองที่พื้นไม่ห่างจากจุดที่เธอยืนอยู่เท่าไหร่นัก และอีกไม่กี่นาทีต่อมาก็มีร่างอีกร่างหนึ่ง ถูกโยนมาสบทบ ไม่ใช่ร่างของใครที่ไหน นัฐ กับพงษ์นั่นเอง

“พะ.....พะ....พี่...นัฐ”

“โอ๊ะโอ.......ใช่จริง ๆ เหรอเนี่ย พี่ชายสุดที่รักของเธอเองหรอกเหรอ ฉันไม่ยักจะรู้นะ ยินดีด้วยละกันในวันที่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ยินดี ๆ ”

แนนยังคงยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น เธอเข้าใจประโยคประชดประชันของพัฒเมื่อสักครู่แล้ว อย่างนี้นี่เอง แต่ที่เธอยังคงสงสัย และมึนงงอยู่ ทำไมมีมะเหมี่ยวสองคน

แนนมองสลับไปสลับมาระหว่างมะเหมี่ยวและชมพู่ที่มีพริกคอยดูแลอยู่ที่รถ

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมมีมะเหมี่ยวสองคน???? แล้วนี้ แกทำอะไรพี่ชายฉัน”

“คำตอบแรกสำหรับคำถาม นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?? นั่นสิ เหมี่ยวก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นโจ๊กอะไรตอนดึก ๆ อย่างนี้ คำตอบที่สอง ทำไมมะเหมี่ยวถึงมีสองคน??? เรื่องนี้ถ้าไม่โง่จนเกินไปก็คงรู้ว่านี่คือ ฝาแฝด คำตอบที่สาม แล้วนี้แกทำอะไรพี่ชายฉัน??? ดูยังไงมันก็เป็นแค่การทักทายตามประสาเพื่อนเก่ากันเท่านั้นเอง อย่าซีเรียจนะคะ คนสวย”

มะเหมี่ยวตัวจริง เสียงจริง ตอบคำถามของแนนอย่างกวนประสาท เขาย่างก้าวมาข้างหน้าช้า ๆ แต่ทุก ๆ ก้าวของเขากลับทำให้ทุกคนในที่นั้นรู้สึกหวั่นเกรงและหวาดผวา โดยเฉพาะ แนน

มะเหมี่ยวโปรยยิ้มหวาน และนี่ก็เป็นอีกอย่างที่ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าคือรอยยิ้มตอนที่เขาโกรธ แม้พวกพัฒ และไอย์จะอยู่กับมะเหมี่ยวมานาน แต่ก็มีไม่กี่ครั้งที่จะเห็นมะเหมี่ยวโกรธ และทุก ๆ ครั้งพวกเขาก็อดรู้สึกกลัวไม่ได้

“สบายดีนะคะแนน??? เท่าที่ดูก็ค่อนข้างโอเคนี่น่า สบายสุด ๆ เลยสินะคะ?”

คำถามยียวนของมะเหมี่ยวทำให้แนนรู้สึกฉุนเฉียว แม้ตอนนี้เธอจะรู้สึกกลัวกับคนที่ก้าวเข้ามาแต่เธอก็ยังทำใจกล้าเผชิญหน้ากับเขาอยู่

“ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับแก..............”

“แต่บังเอิญว่า วินาทีต่อไปนี้ ชีวิตแนนกลายเป็นของเล่นของมะเหมี่ยวหวานคนนี้แล้วละแนน”

แนนถอยหลังกรูเลยทีเดียวเมื่อมะเหมี่ยวพูดจบประโยค อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้นเธอก็จะชิดกับผนัง มะเหมี่ยวจะทำอะไรเธอ ความกลัวเข้ามาเกาะกินจิตใจของแนน มะเหมี่ยวกำลังทำให้เธอประสาทเสียกับท่าทางของเขา

มะเหมี่ยวยิ้ม แต่สายตาของเขาไม่ได้ยิ้มด้วย สายตาของมะเหมี่ยว เหมือนมีดคมกริบที่คอยเชือดเฉือนสรรพสิ่งที่อยู่รอบข้าง ความกดดันที่มีมากมาย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ต้องทำอะไรมากมายเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น

“แกจะทำอะไรฉัน??”

มะเหมี่ยวไม่ตอบ เขาล้วงเอาบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบราวกับไม่มีเหตุการณ์ตึงเครียดอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น พ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างสบายอารมณ์ แต่แนน เธอกำลังจะประสาทเสียกับการกระทำของมะเหมี่ยว เธอหวาดกลัวกับท่าทางของเขา

และเธอยิ่งหวาดผวามากยิ่งขึ้น เมื่อไอย์ โยนอะไรบางอย่างมาให้มะเหมี่ยว แนนเบิกตาโพล่งเมื่อเห็นว่ามันคืออะไร..........กล้องวิดีโอที่เธอใช้ถ่ายภาพของฝาแฝดอีกคนของมะเหมี่ยว

“อืม..............ไฮเทคดีค่ะ กล้องรุ่นนี้ แพงนะคะเนี๊ยะ ดูสิคะ.....ภาพชั๊ดชัด”

มะเหมี่ยวพูดพร้อมกับทำท่าทางเหมือนจะให้แนนดูภาพที่อยู่ในกล้องวิดีโอ ภาพเหล่านั้นเธอรู้ดีว่ามันมีอะไรบ้าง ภาพการกระทำอันเลวร้ายที่เธอสั่งให้คนของเธอทำกับชมพู่

ไม่ใช่แค่แนนเท่านั้นที่รู้สึกถึงความเกรี้ยวกราดของมะเหมี่ยว ทุกคนในที่นั้นต่างสัมผัสได้ แม้มะเหมี่ยวจะยืนอยู่เฉย ๆ ก็เถอะ

“ใครที่อยู่ในกล้องนี้บ้างเนี่ย อืม.........ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิ ดูท่าทางหน้าตาดีกับทุกคนเลยนะคะ ฮายยยย.......มะเหมี่ยวอยากรู้จักจังเลย”

ไม่ต้องให้มะเหมี่ยวพูดอะไรอีก เพราะเพื่อนรักของเขาจัดแจงทุกอย่างไว้รอเรียบร้อยแล้ว เดนสังคมทั้งสี่คนแทบจะเรียกได้ว่าถูกถีบให้มากองอยู่ตรงหน้ามะเหมี่ยว

“อูยยย หน้าตาดีกันทุกคนเลยนะคะ....แต่ดูท่าจะเจอศึกหนักมานะคะ คนหนึ่งหูเลือดอาบ อีกคนก็ดั้งหัก โอ๊ะ!!!คนนี้ ลูกกะตาไปทำอะไรมากคะนั่น แดงเถือกเลย แหม.............แต่ดูคุณคนนี้แล้วเจ็บน้อยกว่าเพื่อนนะ ไม่เห็นมีแผลเลย มีแผลหน่อยนะ จะได้ไม่หน้าตาดีกว่าคนอื่นเค้า มันเอาเปรียบ”

พูดจบ สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือ ร่างของชายคนหนึ่ง ที่ลงไปนอนกับพื้นแน่นิ่ง เพราะถูกฝ่าเท้าของมะเหมี่ยวเสยไปเต็ม ๆ ที่ปลายคาง

“ตอบคำถามหน่อยสิ!!! หื่นมากเลยหรือไงคะ?? ถึงได้ทำกับน้องสาวสุดรักสุดหวงของเหมี่ยวอย่างนี้??? ว่าไงคะ”

“นะ.....นะ....แนนจ้างเรามา เราไม่รู้นะว่ามันเกี่ยวข้องกับนายไม่งั้นเราคงไม่.....”


ผลั๊ก!!!!


และนี่ก็เป็นอีกรายที่ลงไปนอนวัดพื้น มะเหมี่ยวยังคงรักษาสีหน้าไว้ได้อย่างดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายังคงระบายอยู่เป็นนิจ แต่ทั้งหมดกลับไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา

“แนนจ้างเขามาให้เป็นพระเอกคลิปวิดีโอ โดยแอบหลอกล่อน้องสาวของมะเหมี่ยวหวานคนนี้มา ความผิดนี้นะ โทษหนักนะคะ รู้มั้ย??”

มะเหมี่ยวหันมาสนใจกับแนนที่ยืนหน้าซีดอยู่

“เอาละเปลี่ยนบทหน่อยละกัน ฉันจ้างพวกแกทุกคนที่นั่งหมอบอยู่นั่นนะ มาแสดงเป็นพระเอกคลิป อะ!!! ไม่ดีกว่า.......เป็นนายแบบถ่ายรูปดีกว่า ค่าจ้างคุ้มนะ นั่นคือ การออกไปจากที่นี้อย่างปลอดภัย ครบ 32 ประการ โดยมี พวกฉันเป็นตากล้อง และเธอ..........คนสวยที่ชื่อ แนนคนนี้ เป็นนางแบบ.............ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด!!!!”

แนนถึงกับหน้าถอดสี เมื่อได้ยินสิ่งที่มะเหมี่ยวพูด สิ่งที่แล่นอยู่ในหัวเธอตอนนี้คือ “หนี” แนนกระโจนออกห่างจากมะเหมี่ยว แต่ดูจะช้าไป เมื่อมะเหมี่ยวคว้าตัวเธอได้ และเหวี่ยงร่างของเธอจนไปปะทะกับผนังเต็มแรง จนเธอจุกไปทั้งร่าง

มะเหมี่ยวเดินเข้าไปนั่งพิงผนังกับแนน ยกมือขึ้นโอบรอบตัวของแนนที่ตอนนี้อึ้ง จุกไปทั้งตัว มะเหมี่ยวกระชับอ้อมแขน จนร่างของแนนเบียดชิดกับร่างของเขา

“ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะแนน มะเหมี่ยวหวานคนนี้ อย่างที่รู้ ๆ กัน ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรหรอก โดยเฉพาะกับคนสวย ๆ อย่างแนน ยิ่งใจร้ายไม่ลง เหมี่ยวไม่ให้ผู้ชายพวกนั้นทำอะไรแนนหรอกค่ะ”

มะเหมี่ยวพูดเรียบ ๆ สายตาของเขามองบรรดากลุ่มผู้ชายที่ถูกเพื่อน ๆ ของเขาบังคับให้แก้ผ้า จนตอนนี้บางคน เหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย

“เฮ้อ!!!! ถ้าเป็นผู้หญิงคงหน้ามองกว่านี้นะคะ ว่าไหม?? เหมือนกับแนน ถ้าไม่มีเสื้อผ้าเลยคงน่ามอง”

มะเหมี่ยวไม่พูดเปล่า มือของเขาวางกล้องลง และเริ่มปลดเสื้อผ้าของแนนออกทีละชิ้น โดยที่แนนคอยขัดขืนด้วยแรงที่แทบจะไม่มีอยู่ตลอดเวลา แต่คนอย่างเขานะเหรอจะยอม

“รู้มั้ยคะ......สังคมไทยนะ เชื่อเรื่องไม่จริง มากกว่าเรื่องจริงซะอีก ........ถ้าเกิดไอ้พริกมาช่วยพู่ไม่ทัน ภาพในกล้องนั้นคงมีมากกว่านั้น และคนอีกหลายร้อยหลายพัน หรือมากกว่านั้นก็จะได้เห็น แน่นอนค่ะ ทุกคนนะเชื่อว่าพู่ถูกข่มขื่นจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเล่น................แต่ทุกคนจะสงสารชมพู่..............ผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ถูกไอ้หน้าตัวเมียทั้งหลายรุมโทรม น่าสงสารนะคะ ใคร ๆ ก็รุมสาปแช่งทั้งนั้นแหละค่ะ”

มะเหมี่ยวพูด มือยังคงดึงทึ้งเสื้อผ้าของแนนออกจากร่างกาย แนนดิ้นรน น้ำตาไหลพราก เธอเริ่มเข้าใจความรู้สึกของชมพู่แล้ว ว่าเป็นยังไง เธอกลัว แต่เพราะแรงกระแทก ทำให้เธอไม่สามารถที่จะขัดขืนได้อย่างใจนึก

“แต่....แนนคะ กับเรื่องบางเรื่องที่มันไม่จริง สังคมไทยกลับเชื่อมันมากมาย..........อย่างเช่น คนหน้าเหมือนดารามีคลิปฉาวหลุดมา ถึงแม้จะรู้นะว่าแค่หน้าคลาย แต่ก็เชื่อเป็นตุเป็นตะว่าต้องเป็นดาราคนนั้นแน่ ๆ ไม่ยุติธรรมเลยนะ ว่ามั้ย?”

มะเมี่ยวยังคงพูดกรอกหูแนนไปเรื่อย ๆ ไม่มีท่าทีตื่นเต้นรีบร้อนอะไร แต่แนนกำลังจะบ้าเพราะหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

“เช่นกัน แนนไม่ได้ถูกข่มขืนหรอกค่ะ และแนนก็ไม่ได้นอนกับไอ้พวกนั้น แนนแค่ถ่ายรูปเหมือนคนกำลังนอนด้วยกันเท่านั้น...............นี่คือสิ่งที่ต้องการค่ะ มะเหมี่ยวต้องการแค่นี้แหละ”

มะเหมี่ยวยิ้มหวาน ผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดออกากร่างกายของแนน

“สังคมไทยนะ เชื่อเรื่องโกหกค่ะ แนนไม่ได้นอนกับไอ้พวกนั้น ไม่มี Sex แต่ใคร ๆ ที่เห็นรูป ใครจะเชื่อ ว่าแนนไม่ได้มีอะไร ไม่ว่ายังไง แนนก็กลายเป็นผู้หญิงร่านอยู่ดี ถูกตีตราจากสังคม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้มีมลทิน ถูกป้ายสี ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ผิด แก้ต่างยังไงก็แก้ไม่ได้ ไม่มีหน้าไปพบใคร ไม่มีคำแก้ตัว..นี่คือสิ่งที่มะเหมี่ยวต้องการค่ะ”

“ไม่ !!! ไม่!!! ฉันไม่ทำ”

มะเหมี่ยวเลิกคิ้วขึ้น เขายิ้ม ไม่ได้รู้สึกสงสารแนนเลย ไม่มีสักนิดความรู้สึกนั้น เขาอยากเห็นแนนทรมาน อับอายอย่างนี้นี่แหละ

“มีช้อยล์ให้เลือกค่ะ 1. แค่ถ่ายรูปเฉย ๆ 2. โดนข่มขื่นจริง ๆ เชื่อได้เลยค่ะ ไอ้พวกนั้นนะ มันทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เพื่อให้รอด ไม่ว่าจะให้ถ่ายรูป หรือ อึ๊บจริง ๆ”

แนนแทบเสียสติเมื่อได้ยินข้อเสนอที่มะเหมี่ยวเลือกให้ ไม่อยากเลือกเลยสักข้อ มีแต่ผลเสียทั้งนั้น

“อย่าทำอะไรฉันเลยนะเหมี่ยว ฉันกลัวแล้ว”

“ฮึ.....พึ่งจะมาสำนึกเหรอคะ สายไปแล้วละค่ะ มะเหมี่ยวหวานคนนี้ไม่ใช่คนใจร้ายค่ะ แต่มะเหมี่ยวก็ไม่เคยบอกใครนะ ว่าเหมี่ยวคนนี้ใจดี โดยเฉพาะคนที่ยุ่งกับชมพู่ มันไม่เคยมีใครเสวยสุขทั้งชาติหรอก”

มะเหมี่ยวผละหนีออกจากร่างของแนน เขาพยักพเยิดกับเพื่อนของเขาที่เตรียมกล้องจากมือถือไว้แล้ว

“ถ่ายแล้ว ฟอร์เวิร์ดแจกให้ทั่ว มั้งเมลล์ ทั้งเวป เอาลงทุกที่นั่นแหละ ส่งไปที่บ้าน ที่โรงเรียนแจกจ่ายให้ทั่วเลย”

“บาปกรรมนะเนี่ยเหมี่ยว”

พัฒเอ่ยขึ้น แม้เขาจะสะใจที่ห็นแนนมีสภาพแบบนี้ แต่ก็อดสงสารไม่ได้.......

“โทษที ฉันคงตกภาษาไทยว่ะ ไอ้คำที่แกพูดมานะ ฉันสะกดไม่เป็น แล้วก็ไม่เข้าใจความหมายด้วย”

“หึ แกนี้มันเลวสุด ๆ จริง ๆ เลยว่ะเหมี่ยว”

“น้อมรับคำชมอย่างหน้าตาดีคร้าบบบบบคุณสภาพบุรุษไอย์”

มะเหมี่ยวทำท่าค้อมศีรษะให้ไอย์ ก่อนจะเดินผละไปหารถของพริก เพื่อดูอาการของชมพู่ ปล่อยให้พวกพัฒจัดการกับเรื่องต่อ

“เป็นไงบ้าง?”

มะเหมี่ยวถามพริกที่นั่งโอบกอดชมพู่อยู่ในรถ พริกสบตากับเพื่อนรัก ไม่ต้องมีคำพูดอะไรมากมายระหว่างเขากับมะเหมี่ยว

“ช็อคอยู่นะ เลยดูเบลอ ๆ ทางโน้นละ”

“เหลือเก็บรายละเอียดของงานอีกนิดหน่อย ..............ขอบใจ”

“มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำอยู่แล้วนี่”

ชมพู่ขยับตัวเล็กน้อย เมื่อเธอหันมาพบว่าคนที่นั่งคุยกับพริกคือใคร เธอก็ผวาเข้ากอดมะเหมี่ยวทันที

“ไม่เป็นไรแล้วค่ะพู่ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”

มะเหมี่ยวปลอบชมพู่ที่ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เขาลูบศีรษะชมพู่ช้า ๆ

“พู่.....พู่กลัว พู่ทั้งกัดทั้งถีบ พู่เอาไม้ฟาดพวกมันด้วย ฮืออออ..........มันน่ากลัว ฮืออออ”

“ค่ะ.......มันผ่านไปแล้วนะคะ.....ตอนนี้พู่อยู่กับเหมี่ยว อยู่กับพริก เห็นมั้ยคะ ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว......”

มะเหมี่ยวกรีดน้ำตาออกจากใบหน้าของชมพู่ เธอพยักหน้าช้า ๆ และซบลงกับอกของมะเหมี่ยวอีกครั้ง สำหรับเธอในอ้อมกอดของมะเหมี่ยวและพริก คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด

“พริกพาชมพู่ออกไปจากที่นี่ก่อนละกัน เดี๋ยวฉันจะจัดการอะไรต่ออีกสักพัก”

“อืม....ดูแลตัวเองด้วยละ”

“พู่คะ กลับกับพริกนะคะ แล้วเหมี่ยวจะตามไปทีหลังนะคะ”

ชมพู่พยักหน้า ก่อนจะหลับตาลง ให้มะเหมี่ยวจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก มะเหมี่ยวหันไปพยักหน้าให้กับพริก และออกจากรถเดินตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดการภารกิจอยู่

พริกพาชมพู่มานั่งที่เบาะนั่งข้างคนขับ จัดการปรับเอนเบาะให้นอนราบไป เขาอยากให้เธอได้พักหลังจากเกิดเรื่องบ้า ๆ นี้ จากนั้นพริกก็ไปประจำที่นั่งคนขับ และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

“ถึงไหนแล้ว”

“เกือบเรียบร้อยแล้วละ เอาไงต่อละ”

ไอย์ตอบมะเหมี่ยว ไอย์คิดอยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่ามะเหมี่ยวอีกคนดูเปลี่ยนไปมากจนไม่น่าเชื่อ แต่ก็คงไม่แปลกถ้าจะเป็นคนละคนกัน เขาน่าจะเอะใจสักนิด แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้ความจริงทุกอย่างมันก็เปิดเผยออกมาแล้ว มันก็แค่การเปลี่ยนตัวของฝาแฝดสองคนเท่านั้น และตอนนี้ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือ มะเหมี่ยวตัวจริงแล้ว

“เรียบร้อยเมื่อไหร่ก็สลายตัวได้เลย ปล่อยยัยนั่นไว้อย่างนั้นแหละ”

“เหมี่ยวแล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ละ ถ้าเกิดไอ้พวกนั้นเกิด...........” พัฒแย้งขึ้นมา

“ก็ช่างมันสิ เกี่ยวอะไรละ จบตรงนี้ก็แยกย้าย ไม่ต้องห่วงเรื่องตำรวจหรอกนะ ทางฉันให้เจ๊เจี๊ยบจัดการให้ได้.......ยัยนั่น สมควรได้รับสิ่งที่มันทำกับน้องของฉัน ดีเท่าไหร่ที่ฉันไม่ให้ไอ้เวรพวกนั้นเอามันจริง ๆ”

ไอย์และพัฒสบตากันนิ่ง นี่แหละคือผลของการที่ทำให้ปีศาจตนนี้ตื่นขึ้นมา แม้จะรู้สึกว่ามันแรงเกินไปสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ

ถ้าให้พวกเขาเลือกระหว่างเป็นศัตรูของมะเหมี่ยวกับเป็นศัตรูกับตำรวจ พวกเขาก็เลือกที่จะเป็นศัตรูกับตำรวจ เพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็รู้ว่า ต่อด้านตำรวจก็เจอคุกกับลูกปืน แต่ถ้าเป็นศัตรูกับมะเหมี่ยว พวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็ไม่รู้ ไม่มีใครกล้าเสี่ยง

“ว่าแต่แกรู้เรื่องนี้ได้ไงวะเหมี่ยว”

“ก็เพราะแกนั่นแหละไอ้พัฒ ดันโทรไปคุยเรื่องไอ้พริก ก็เป็นห่วงนิด ๆ เลยแอบหนีออกจากโรงเรียนมา ตอนออกมาเจอไอ้ต้นกลางทาง เลยรู้เรื่องนะ”

“แล้วแกรู้ได้ไงวะ ว่าพวกฉันมาที่นี่? แล้วไปเจอพวกไอ้นัฐได้ไง?”

“เมื่อคราวก่อนเคยมาลุยกับไอ้นัฐที่นี่นะ ทำเลกำลังดี เลยคิดว่าน่าจะใช่ แล้วมันก็บังเอิญอีกนั่นแหละที่เห็นไอ้นัฐมาทางนี้ด้วย เลยดักสอยมันกลางทางซะก่อน แล้วก็มาที่นี่นะแหละ”

มะเหมี่ยวตอบคำถามเพื่อนเรื่อย ๆ ราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาซะอย่างนั้น

“ก็ดีนะที่ไม่เจ็บอะไรมาก เล่นไอ้นัฐซะหมอบเลย”

“ดีพ่อแกดิ ไอ้เวรนั่นเอาไม้หวดโดนฉันไปตั้งหลายที ฉันเลยสมนาคุณมันจนหมอบกระแตอย่างนั้นไง ตอนแรก แค่กะเอาแค่ให้มันมึน ๆ ให้มาเห็นสภาพน้องมันก่อน สุดท้ายก็ไม่ไหวว่ะ รักมันเกิ๊นนนน เลยมีสภาพอย่างนั้นแหละ”

พวกไอย์อยากหัวเราะออกมาเหลือเกิน แต่ก็หัวเราะไม่ออก พอดีกับที่เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มมาบอกว่าเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ พวกมะเหมี่ยวจึงหยุดการสนทนา

“งั้นก็แยกย้ายกันไปได้แล้วละ ปล่อยยั้ยนั่นกับไอ้พวกนั้นไว้อย่างนี้แหละ”

มะเหมี่ยวพูด พร้อมกับเดินไปหยุดที่ตรงหน้าร่างของแนนที่นั่งกอดเสื้อผ้าของตัวเองร้องไห้อยู่ มะเหมี่ยวไม่มีท่าทีสงสารเธอกับสภาพที่เห็นเลย ไม่มีความรู้สึกได ๆ ทั้งนั้นกับผู้หญิงคนนี้

“โทษตัวเองนั่นแหละดีที่สุดนะแนน..........ถ้าเธอไม่มายุ่งกับน้องของฉัน เธอก็ไม่มีสภาพอย่างนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเธอ.......เธอทำลายตัวเธอเอง”

พูดจบมะเหมี่ยวก็หันหลังเดินห่างจากร่างของแนนที่นั่งปล่อยโฮออกมา

“เหมี่ยว......อย่าว่าฉันเสือกเลยนะ แต่ให้ฉันพายัยนั่นออกไปจากที่นี่ได้มั้ย? ถ้าปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้ ยัยนั่นอาจจะน่าสงสารมากกว่านี้ก็ได้”

พัฒเอ่ยขึ้นหลังจากตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่างแล้ว มะเหมี่ยวมองพัฒด้วยสายตาเฉยเมย เขายักไหล่

“แล้วแต่แกสิ ฉันไม่เกี่ยว”

“ขอบใจ”

ว่าแล้วพัฒก็เดินไปหาร่างของแนนที่นั่งร้องไห้อยู่ เขาต้องพาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากที่นี่ก่อนที่พวกมะเหมี่ยวจะออกไป อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็ยังมีพวกเพื่อน ๆ เขาอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นยังมีคนคอยช่วยเขาอยู่

“ไอย์ อยู่ดูที่นี่ก่อนนะ รอให้ไอ้พัฒออกไปก่อนแล้วค่อยออกไป”

ไอย์ยิ้มรับคำพูดของมะเหมี่ยว ถึงเพื่อนเขาจะทำอะไรเลว ๆ ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน แต่ก็ยังมีความเป็นคนมากพอที่จะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องอยู่กับผู้ชายอีกนับจำนวนไม่ถ้วนอย่างนี้หรอก

“รู้จักคำว่า คนดี ด้วยเหรอแกนะ”

“เห๊อะ......เพราะฉันมันหน้าตาดีหรอก” พูดจบมะเหมี่ยวก็เดินไปที่รถและขับออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

“ใส่เสื้อผ้าซะ ฉันจะพาเธออกไปจากที่นี่เอง”

พัฒเอ่ยขึ้น เขาถอดเสื้อช็อปของตัวเองออก เหลือแต่เสื้อยืด และส่งให้เธอ แนนเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตามองพัฒอย่างหวาดระแวง

“มีเวลาไม่มาก เร็วเข้า ถ้าไม่อยากถูกโทรมจริง ๆ ละก็รีบเลย เดี๋ยวนี้”

พัฒสำทับขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แนนมีปฏิกิริยาตอบโต้มากยิ้งขึ้น เมื่อเธอมองไปรอบ ๆ กาย ก็เห็นสายตาแปลกประหลาดจากกลุ่มชายที่เธอว่าจ้างจ้องมายังร่างของเธอ ไม่ต้องรอให้พัฒเอ่ยซ้ำอีก เธอรีบจัดแจงสวมเสื้อผ้า

ไม่ว่าเมื่อไหร่ คำว่าสันดานดิบของคนก็สามารถตื่นขึ้นมาได้เสมอ แม้แต่ช่วงอันตรายนี้ แนนสัมผัสได้ด้วยตัวเองจากสายตาหื่นกระหายที่รอคอยโอกาสขย้ำเธอ

บางคนตั้งท่าตะครุบร่างของเธอ แต่ติดที่ว่ามีพัฒอยู่ใกล้ ๆ และคนของเขาที่ยืนคุมเชิงด้วยท่อนเหล็กอยู่ แนนสวมเสื้อของพัฒแทนเสื้อของเธอที่ขาดรุ่งริ่งเพราะถูกมะเหมี่ยวดึงทึ้ง เธอลุกขึ้นยืนโดยมีพัฒจับท่อนแขนไว้ และเธอก็เดินตามแรงดึงของพัฒไป

เธอไม่รู้ว่าพัฒจะพาเธอไปไหน แต่มันก็คงจะดีกว่าที่ตรงนี้เป็นแน่ เธอจึงเลือกไม่ขัดขืนที่จะตามพัฒไป อย่างน้อย ๆ ในเวลาอย่างนี้เธอก็รู้สึกว่าปลอดภัยถ้าอยู่กับผู้ชายคนนี้.............

“เอาละ แยกย้ายกันไปได้แล้ว ส่วนไอ้คนที่เหลือนะ จะยังไงก็แล้วแต่พวกแก”

ไอย์ตะโกนขึ้น หลังจากที่พัฒขึ้นไปนั่งอยู่บนรถของเขาพร้อมกับแนน

“จะเอาไงต่อเนี่ย”

“เดี๋ยวฉันยืมรถแกไปส่งยัยนี่ก่อนได้มั้ย”

“ได้ เดี๋ยวฉันออกไปกับไอ้ยักษ์ไอ้โต้งเอง แล้วเจอกันที่หอ”

พัฒพยักหน้ารับกับประโยคของไอย์ และขับรถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ สาบานได้เลยว่า เขาจะไม่กลับมาที่นี่อีก..............ไม่ใช่แค่เขา แนนก็อีกคน เธอไม่มีทางกลับมาที่นี่อีก และไม่มีทางที่จะอยู่สู้หน้าใครได้อีกต่อไปแล้ว..................

พัฒได้แต่ถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากร่างของหญิงสาวข้าง ๆ กาย

เขาเกลียดที่ผู้หญิงคนนี้ทำกับชมพู่

แต่เขาก็อดสงสารเธอไม่ได้


...............มันเป็นโชคร้ายของเธอเอง ที่รู้จักคนที่ชื่อมะเหมี่ยว.................








คำเตือน..............เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจิตนาการ เนื้อหาบางส่วนค่อนข้างรุนแรง ไม่ควรเอาเป็นแบบอน่าง ผู้อ่านทุกท่านโปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน



ตอนที่เขียนตอนนี้ค่อนข้างเครืยดนะขอรับ......


เพราะเนื้อหาในตอนนี้ค่อนข้างแรง.....


แต่นี่ก็คือส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ อย่างที่บอกขอรับ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณ และเหตุผลในการอ่านนะขอรับ........


ขอให้มีความสุขในการอ่านขอรับ (ข้าน้อยอ่านตอนนี้ทีไร มีแต่เครียดกะเครียด)




"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 21ตอนที่ 23 >



Create Date : 14 มีนาคม 2550
Last Update : 21 มีนาคม 2550 2:15:00 น. 0 comments
Counter : 883 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.