ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
2 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 27


Mibu Sa’KYO talk……



******************************



“แกกับฉันมาแข่งกันไอ้พู่”

มะเหมี่ยวหันมามองต้นเสียง ในมือของเขาถือโทรศัพท์มือถือค้างอยู่ เข้าเลิกคิ้วเป็นคำถาม และมองสบตาอีกฝ่ายด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่ได้สนใจอะไร

“แกกับฉันต้องแข่งกัน”

อัพพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เขาไม่ชอบที่คนตรงหน้าของเขาทำเป็นไม่สนใจเขา ความรู้สึกไม่ชอบใจมะเหมี่ยวของอัพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่ามะเหมี่ยวจะทำอะไรก็ตาม ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องไหนที่อัพพอใจ

“การแข่งบาส ฯ พรุ่งนี้กับสีเขียวใครทำแต้มได้มากกว่ากันคนนั้นชนะ”

“ทำไมฉันต้องแข่งกับคนที่ต้องคอยรับลูกที่ฉันส่งให้ด้วยละ”

คำพูดเรียบ ๆ ของมะเหมี่ยวทำให้อัพหน้าชา มันจริงอย่างที่เขาพูด มะเหมี่ยวคือ PG ที่ต้องคอยแจกจ่ายลูกให้กับตัวทำแต้มอย่างเขาและคนอื่น ๆ ในทีม เขาก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องรับลูกที่มะเหมี่ยวส่งให้

“ถึงยังไงก็แล้วแต่ แกต้องแข่งกับฉัน คนที่ชนะ....ได้.....จอย คงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่มั้ยว่าคนที่แพ้ต้องทำยังไง”

พูดจบอัพก็เดินหันหลังจากไปทันที มะเหมี่ยวเลิกคิ้ว ก่อนจะยักไหล่เขาเคยไม่สนใจอัพอย่างไร วินาทีนี้เขาก็ยังคงไม่สนใจ มะเหมี่ยวหันไปสนทนากับปลายสายที่รอเขาอยู่

“ได้ยินแล้วใช่ไหม?”

(แจ่มเลยละ......แข่งบาสกับแกเนี่ยนะ........หมอนั่นโง่เป็นบ้า)

“ฉันว่ามันไม่ได้โง่นะพริก ท้าฉันแข่งตอนแข่งขันจริง ๆ หมอนั่นเป็นตัวทำแต้ม ส่วนฉันเป็น PG แกลองเอาสมองน้อย ๆที่แสนฉลาดของแกคิดหน่อยสิวะ ว่าฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปทำแต้ม เมื่อทันทีที่ฉันจับลูก เวลา 24 วินาที มีอีก 4 ชีวิตที่รอรับลูกจากฉันไปทำแต้ม และอีก 5 ชีวิตที่คอยจะมาแย่งลูก เทียบเป็นสมการฉันมีกี่เปอร์เซ็นต์ที่จะทำแต้มวะ”
(แกมีโอกาสทำแต้ม 100% ......)

มะเหมี่ยวเลิกคิ้วขึ้นเมื่อพริกตอบกลับมาแทบจะทันที่เขาพูดจบประโยค และคำพูดต่อมาของพริกทำให้เขายิ้มออกมา

(ถ้าแกคิดจะทำ แล้วก็ไม่ต้องมาพูดสำบัดสำนวนเพื่อประชดฉันเลยนะ ถ้าว่างนักก็ไปสั่งสอนเจ้าคนที่มันไม่รู้จักเจียมตัวโน้น”

“ฉันทำแน่ แกไม่ต้องห่วง หมอนั่นจะไม่มีวันรู้จักคำว่าชนะ ถ้ามาแข่งกับฉัน”

(งั้นแกช่วยพูดให้ฉันซึ้งใจหน่อย ว่าเพราะอะไรหมอนั่นต้องแพ้”

“พริก ฉันไม่ใช่คนดีอะไรนักหรอกนะ แต่ที่หมอนั่นต้องแพ้ก็เพราะ มันต้องลิ้มรสของการสูญเสียคนที่มันรัก ที่มันบังอาจเอามาทำเป็นเดิมพัน........จอย ไม่ใช่สิ่งของ และยัยนั่นเป็นผู้หญิงของฉัน มันไม่มีสิทธ์แตะต้อง......แต่ตอนนี้ฉันมีปัญหา”

“ปัญหา?? ปัญหาอะไรวะ”

“ไม่รู้จะชนะยังไง......เจ้าคนพรรนั้นไม่อย่างเปลืองตังเกลือกกลั้ววะ”

“เอาเถอะเดี๋ยวแกก็คิดออก ไม่ได้โง่นี่แกนะ”

“ฉันนะ ทั้งฉลาด และแสนดีวะ”

พริกยิ้มให้กับตัวองก่อนจะพูดคุยกับมะเหมี่ยวอีกไม่กี่คำและวางโทรศัพท์ในเวลาต่อมา

“สำหรับฉัน ถึงแกจะเลว แต่แกก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด และฉันก็รักแกมากวะเหมี่ยว”

พริกยังคงยิ้มอยู่ เมื่อชมพู่ก้าวเข้ามาในห้องจึงอดไม่ได้ที่จะกระเซ้าเย้าแหย่คนรัก

(ทำการบ้านจะเพี้ยนไปแล้วเหรอคะพริก นั่งยิ้มคนเดียว”

พริกหันมามองชมพู่ที่มายืนอยู่ข้าง ๆ กับเบาะรองนั่งที่เขานั่งอยู่ พริกเอื้อมมือไปรั้งให้ชมพู่นั่งลง

“ไม่ใช่!! มานั่งตรงนี้”

พริกดึงชมพู่ให้มานั่งบนตักของเขา และหอมแก้มของเธอทันทีที่มีโอกาส

“ทำอะไรอยู่คะ ถึงได้นั่งยิ้มคนเดียว”

“คิดถึงพู่อยู่ไงคะ” พริกพูดพร้อมกับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของชมพู่ จนเธอต้องหลบสายตาของเขา

“โม้”

“ไม่ได้โม้ คิดถึงจริง ๆ นะ”

“ก็อยู่ด้วยกันทั้งวันนี่คะ”

“ห่างกันแค่วินาทีเดียวก็ใจจะขาดแล้ว” ชมพูเขินหนักมากขึ้นเมื่อเจอทั้งคำพูดหวานหูและสายตาอ่อนหวานของพริก

“ปากหวาน”

“ลองชิมดูสิคะ แล้วจะรู้ว่าหวานกว่าที่คิดไว้ซะอีก”

“ไม่เอาแล้ว พริกสอนชมพู่คำนวณยกโค้งดีกว่า” ชมพู่หันหน้าหนีพริกไปสนใจกับหนังสือที่วางอยู่ที่โต๊ะ เขาทำให้เธอมือไม้สั่นได้ตลอดเวลาเสียจริง ๆ

“ได้ค่ะ คำนวณส่วนโค้งส่วนเว้าของคนรักนะคะ เดี๋ยวสอนปฏิบัติด้วย รับรองค่ะ วิชานี้ได้ A”

“อ๋ายยยย!! ไม่เอานะพริก ทะลึ่ง!! นี่ ๆ ๆ” ชมพู่ฟาดฝ่ามือลงที่มือที่กำลังจะกลายเป็นหนวดปลาหมึกของพริกหลาย ๆ ทีติด ๆ กัน

“ตีทำไมคะ เจ็บนะคะ”

“ดี!!! สม!!”

“Okey! สอนคำนวณยกโค้งค่ะ” พริกยกมือทำท่ายอมแพ้เมื่อเห็นว่าคนรักตั้งท่าจะฟ้อนเล็บใส่เขาอีก

“ว่าแต่ไม่ให้สอนคำนวณส่วนโค้งส่วนเว้าของคนรักด้วยแน่เหรอคะ”

“พริก....” - -+

“คร้าบบบบบบบบ”



**********************************************************************************



เสียงเฮดังกระหึ่มก้องไปทั้งโรงยิม เมื่อเหล่าบรรดานักบาสวิ่งแย่งลูกบาสเก็ตบอลกันให้วุ่น และตบท้ายด้วยการทำคะแนนของฝ่ายทีมสีม่วง

ปรี๊ดดดดดดดด

“เอ๊า !! เข้ามาล้อมเข้ามาใกล้ ๆ นั่นแหละ ๆ”

เสียงตะโกนของอาจารย์ปริญญาที่แข่งกับเสียงเชียร์ของบรรดานักเรียนที่คอยตะโกนเรียกชื่อนักกีฬาที่ตัวเองชื่นชม

“เอาละ ทำได้ดีมาก เหลืออีก 10 นาที อย่าให้ฝ่ายโน้นไล่ทัน ทำแต้มได้ดีมากอัพ” อัพยิ้มรับคำชมของอาจารย์ปริญญา พร้อมกับไปมองมะเหมี่ยวอย่างเหนือกว่า แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือ สายตาที่ไร้ความรู้สึกของมะเหมี่ยว ไม่มีอะไรนอกจากนั้นเลย ราวกับว่าไม่มีเขาอยู่ตรงนั้น

“ชมพู่ วันนี้เธอเล่นได้ดีมาก จ่ายลูกได้เยี่ยม” อาจารย์ปริญญาหันมาชมมะเหมี่ยว และต่อจากเธอก็เป็นจี

“ใช่ ๆ เจ๋ง ๆ ทุกลูกเลย”

“ฉันก็เล่นได้เยี่ยมทุกครั้งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

มะเหมี่ยวตอบกลับเรียบ ๆ แต่สายตาของเขาจ้องมองที่อัพ แววตาเย้ยหยันมองเขาอย่างเปิดเผย อัพทำได้แค่กำมือจนแน่น

“แต่วันนี้นายเล่นได้เจ๋งสุด ๆ เลยพู่” บลูเอ่ยชมอีกคน ซึ่งนั้นทำให้อัพยิ่งไม่พอใจมากยิ่งขึ้น

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด

เสียงนกหวีดเรียกนักกีฬาทุกคนกลับเข้าไปที่สนามอีกครั้ง อาจารย์ปริญญาเรียกนักเรียนทุกคนเข้ามาและเฮเรียกกำลังใจก่อนเดินกลับลงไปที่สนาม


“นายไม่มีทางทำแต้มนำฉันไปได้หรอกนะพู่ แค่ 10 นาทีแกไม่มีทางทำแต้มชนะฉันหรอก”

มะเหมี่ยวไม่ได้ตอบอะไร เขาทำราวกับคำพูดของอัพเป็นสายลมที่อ่อนแรงไม่มีทางทำให้ภูเขาอย่างเขาสั่นสะเทือนได้หรอก

“นายต่างหากที่ไม่มีทางชนะฉัน”

อัพไม่ได้ยินเสียงแผ่วเบาของมะเหมี่ยวที่พูดออกมา อัพวิ่งไปยืนประจำตำแหน่ง ส่วนมะเหมี่ยวเองก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยมกว่าการแข่งทุกครั้ง

ทุกลูกที่มาอยู่ในมือของเขา ไม่มีครั้งไหนที่เขาส่งพลาด และแทบทุกครั้งก็เป็นแต้มเสมอ แม้เขาจะไม่ได้เป็นทำแต้มเองก็ตาม แต่เพราะการส่งลูกที่รวดเร็ว และแสนชาญฉลาดของเขา ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนที่ได้ลูกจากเขาไป ทำแต้มได้อย่างสะดวกสบาย

ทุกคนที่ชำนาญเรื่องบาสเก็ตบอลดูออกว่าที่ทีมสีม่วงทำแต้มได้มาก และมีโอกาสมากในการทำแต้มเป็นเพราะการเปิดบอลของมะเหมี่ยว เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี แต่อัพจะรู้หรือเปล่า????

“วิ่งขึ้นไป!!! บลูจับเบอร์ 5 ไว้”

“อย่าให้เบอร์4 ส่งลูก!!!” สิ้นเสียงของอีกฝ่าย นักกีฬาสีเขียวก็วิ่งเข้ามาประกบมะเหมี่ยวที่ถือบอลอยู่

“ช้าไปแล้วต๋อย”

เป็นอย่างที่มะเหมี่ยวว่าจริง ๆ ทีมสีเขียวเข้ามาช้าเกินไป มะเหมี่ยวส่งลูกออกไปอย่างรวดเร็ว และตอนนี้มันก็ลงห่วงไปเรียบร้อยด้วยฝีมือของอัพ มันง่ายกว่าที่ใครหลาย ๆ คนคิด ลูกนั้นส่งไปราวกับใส่พานให้อัพทำแต้ม อัพแทบจะไม่ต้องได้หลบหลีกอะไรเลย ทุกอย่าง ราวกับเปิดเป็นทางให้เขาทำคะแนนได้อย่างไม่ติดขัด

“ไม่ต้องสนใจใคร!! กันไม่ให้เบอร์ 4 ส่งลูกให้ได้ก็พอแล้ว!!!”

เสียงตะโกนของผู้แข่งขันอีกคนดังขึ้น การส่งลูกเข้าเล่นเริ่มอีกครั้ง มะเหมี่ยวเข้าไปประกบคนที่ถือลูกอยู่ทันที เขายิ้มให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น

“อย่าถือบอลไว้นานสิ มันไม่ปลอดภัยนะ” มะเหมี่ยวพูดกับอีกฝ่ายอย่างสบายอารมณ์ ซึ่งเขารู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายไม่สามารถส่งลูกไปที่ไหนได้ เมื่อเขาเข้ามาประกบแบบกดดันเช่นนี้ และก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ อีกฝ่ายเกร็งจนมทองหาทางส่งลูกไม่ได้ และชั่ววินาทีนั้นเอง

“บอกแล้วว่าอย่าถือบอลนาน ๆ ขอละนะ”

มะเหมี่ยวตวัดมือแย่งเอาลูกบาสมา และเลี้ยงผ่านอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดาย สายตาของเขากวาดมองไปทั่วสนาม และไม่กี่วินาทีต่อมาเขาส่งลูกไปยังแป้นบาส อัพอยู่ที่นั่น เขาวิ่งพร้อมกับกระโดดขึ้นรับลูกและยัดลงห่วงไปทันที และนี่คืออีกครั้งที่อัพทำแต้มได้

“16 ลูก ทำต่อไปนะ” มะเหมี่ยวพึมพำเบาๆ ก่อนจะยิ้มมุมปากกับตัวเองราวกับผู้ชนะ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำแม้แต่แต้มเดียว

จนกระทั้ง......................................


ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

นกหวีดเป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาดังขึ้น นักกีฬาทุกคนหยุดกหารแข่งขัน กองเชียร์สีม่วงเฮกันดังสั่น เมื่อทีมของตนเองชนะอย่างขาดรอย

ทุกคนกรูกันเข้ามาแสดงความยินดีกับนักกีฬา ทั้งอัพและมะเหมี่ยวต่างถูกรุมล้อม

“เก่งมากอัพ แกทำได้ตั้ง 20 ลูก”

“ใช่ ๆ อัพเล่นเก่งมากเลย”

เสียงชื่นชมอัพที่ทำแต้มได้มากที่สุดในการแข่งขันนี้ดังขึ้นไม่ขาดปาก เขายิ้มอย่างชื่นมื่น แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาสะใจมากกว่าที่ชนะมะเหมี่ยวได้

“ดีใจด้วยนะคะ” จอยเอ่ยพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ให้กับอัพ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นคือสิ่งเดิมพันของอัพ และอีกอย่างหนึ่งที่อยู่ภายในจิตใจของเธอคือ เธออยากไปแสดงความยินดีกับอีกคนหนึ่งที่กำลังถูกรุมล้อมด้วยเช่นกัน

“ครับ.....คราวนี้ก็ไม่มีใครมาวุ่นวายกับจอยอีกแล้วนะครับเพราะตัวมารมันทำไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว”

สิ้นเสียงของอัพจอยก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่ใช่แค่เธอ หลาย ๆ คนที่ได้ยินก็เช่นกัน และต่างพากันเงียบเสียงลง

อัพจ้องหน้าอย่างผู้ชนะ แต่ก็ทำได้แค่นั้นเพราะเขาคงไม่รู้สึกอะไรไปได้มากกว่านี้แล้ว เพราะสิ่งที่เขาคาดว่าจะได้เห็นจากใบหน้าของมะเหมี่ยวนั้นมันไม่ได้ปรากฏให้เขาได้เห็น สีหน้าอย่างคนที่พ่ายแพ้ไม่มีให้เขาได้เห็นเลย

แต่สิ่งที่อัพรู้สึกเมื่อได้สบตากับมะเหมี่ยวนั้นกลับทำให้เขารู้สึกกลับกัน ราวกับว่าเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สายตาเยือกเย็น เย้ยหยัน เหนือกว่า เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายใช้สายตาเช่นนั้น

“ไง เล่นได้เจ๋งนี่” มะเหมี่ยวหันไปหาต้นเสียงที่เขาคุ้นเคย

“ไอ้พริก”

พริกยิ้มรับมะเหมี่ยวเมื่อเห็นเพื่อนรักของเขาทำหน้าราวกับโดนผีหลอก และยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นสายตาพิฆาตจากเพื่อนรัก เล่นเอาสาว ๆ แถวนั้นมองกันตาค้างกับรอยยิ้มสุดเท่ห์

...... ยิ้มไว้เถิดแม้จะตายในเพลาต่อไป.......(อนิจจาพริกของ................???ของใคร???)

มะเหมี่ยวเดินมายื่นประจันหน้ากับพริก มองเขาด้วยสายตาคาดคั้น พริกเองก็ยิ้มระรื่นทำเป็นไม่รับรู้ความเครียดขึงของมะเหมี่ยว

“แกมาเสนอหน้าอะไรแถวนี้”

“มาดูแกแข่งบาสไง”

“แกคงไม่ได้มานั่งซักผ้าแถวนี้หรอก....บอกมามีอะไร” - -+++

“ก็บอกแล้วว่ามาดูแกแข่งบาส” ^ ^’’ (ยิ้มแบบไม่สำนึกขอรับพี่น้อง)

“พริก.......” -*-

“ฉันมาเป็นกรรมการไง” ^ ^

“ไอ้พริก”

“เอาน่า ค่อยว่ากันทีหลัง มาว่าเรื่องของแกก่อน คู่กรณีแกคนไหน” พริกบอกปัดมะเหมี่ยวก่อนที่สอดส่องสายตามองกาคู่กรณีของมะเหมี่ยว

“หมอนั้นเหรอที่ท้าแกแข่ง...” พริกชี้นิ้วไปที่อัพที่ยืนทำหน้างงไม่ต่างจากหลาย ๆ คนที่ยืนมุงอยู่กับการมาของพริก


“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะพู่???” เสียงของขิงเอ่ยถามขึ้น เมื่อเธอเดินมาหยุดที่มะเหมี่ยว ก่อนจะตามมาด้วยประโยคคำถามของน้อยหน่าอีกคน

“นั่นสิเกิดอะไรขึ้นเหรอ แล้วคนนี้....ไม่ใช่นักเรียนที่.....นี่.....” น้อยหน่าเงียบเสียงลงทันทีเมื่อเห็นสายตาของพริกที่หันมาแทบจะเรียกว่าจิกมองเธอเลยก็ว่าได้

......ผมยาวตาเศร้า คนนี้ขิงแน่ ๆ อีกคนคงน้อยหน่า ส วนสาวสวยหน้าหวานซึ้งนั่น คงจอย....... พริกกวาดตามองทั้งขิงและน้อยหน่า ก่อนจะไปหยุดที่จอยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อัพ

“คนนั้นจอยใช่ปะหน้าสวย ๆ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หมอนั่น” พริกกระซิบถามเบา ๆ มะเหมี่ยวพยักหน้าช้า ๆ มือทั้งสองข้างของเขาเท้าสะเอวก้มหน้ามองพื้น เขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

พริกมาทำไม ?? มาเพื่ออะไร ?? พริกไม่ชอบยุ่งเรื่องของใคร แต่ถ้ายุ่ง ต้องมีเหตุผลมากพอ พริกไม่ใช่คนไร้เหตุผล

“บอกฉันพริก แกมาทำไม??” มะเหมี่ยวพูดด้วยเสียงที่เริ่มเครียด เขายอมรับ การมาของเพื่อนของเขา ไม่ธรรมดาแน่ ๆ

“คนที่ผมยาว ๆ ตาเศร้า ๆ นั่นนะ ขิงผู้หญิงของแก??”

“ใช่” มะเหมี่ยวตอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพริกอย่างคาดคั้น

“บอกฉันเดี๋ยวนี้ ว่าแกมาทำไม”

“ทำให้เธอเป็นอดีตซะ” คำพูดชัดถ้อยชัดคำของพริกทำให้มะเหมี่ยวถอนหายใจออกมาเพื่อนระบายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจ แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย

“ไม่ใช่เรื่องของแกพริก”

“มันเลี่ยงไม่ได้แล้ว วันจันทร์ ยัยนั่นต้องกลับมาที่นี่ แล้วแกต้องกลับไปเป็นคนเดิมแล้ว ฉันไม่ต้องการให้อะไรมันคาราคาซัง ยัยนั้นเคลียร์อะไรแทนนายไม่ได้หรอกนะ และที่สำคัญแกกำลังซื้อเวลาเจ็บของคนอีกหลายๆ คนนะ”

มะเหมี่ยวกัดริมฝีปากแน่น ทุกคนเริ่มรู้สึกอึดอัดกับการมาของพริก จอยเองก็ไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่เธอไม่เคยเห็นคนที่ตัวเองรักดูเครียดขนาดนี้

“ฉันรู้ ฉันรู้ดี แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะพริก”

“แล้วมันยากตรงไหนวะ กะอีแค่เลิกกับคนที่ไม่ได้รักแล้วไปรักกับคนที่รักจริง ๆ”

คำพูดของพริกทำให้หลาย ๆ คนที่ได้ยินอึ้ง โดยเฉพาะขิงและจอย เพราะเธอทั้งสองรู้ดี ว่าคำพูดเหล่านั้นหมายถึงเธอทั้งสองคน

น้อยหน่าเองก็ไม่ได้โง่ที่จะไม่เข้าใจสิ่งที่พริกพูด เธอกัดริมฝีปากแน่ การมาของพริกทำให้แผนการที่เธอวางไว้ต่อจากนี้ล้มเหลว

“เลิกพูดกันได้แล้ว!!! ฉันไม่สนใจว่าว่าสองคนจะคุยอะไรกันหรอกนะ ไอ้พู่ แกแพ้ฉันแล้วเลิกยุ่งกับจอยซะ”

อัพตะโกนขึ้นทุกคนเงียบหันไปมองที่เขาเป็นจุดเดียว จอยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ งงสุดขีด

“หุบปากเน่า ๆ ของแกไปซะไอ้เห่ย ก่อนที่ตัวแกมันจะเน่าไปตามปาก”

พริกหันไปตอกกลับอัพด้วยเสียงที่ดังกว่า ความตึงเครียดเกิดขึ้นทันทีเพราะดูแล้วพริกพร้อมที่จะระเบิดทันทีหากอัพพูดอะไรออกมาอีกสักคำ

“อ่อ...แล้วฉันจะบอกให้คนที่แพ้นะแก ไม่ใช่ไอ้เหมี่ยว”

“ไอ้พริก!!”

“เฮ้ย!! ไม่ใช่ ไอ้พู่ต่างหากที่ชนะ” พริกรีบแก้สรรพนามเรียกมะเหมี่ยวทันทีเมื่อได้ยินเสียงปรามของมะเหมี่ยว ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาเซ็ง ๆ

“แกหวังดี ฉันรู้ แต่ฉันจัดการเองได้”

“อีกกี่ชาติละ” พริกสวนกลับคำพูดของมะเหมี่ยวทันที ก่อนจะทำหน้าเซ็งสุดขีดเมื่อเจอสายตาบังคับของมะเหมี่ยว

“เอ่อ ๆ ฉันมันแส่เอง แต่เรื่องหนึ่งที่ฉันทนไม่แส่ไม่ได้”

พริกหยุดพูดก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“เรื่องที่ไอ้บ้านี่คิดว่าชนะแกเนี่ยถ้าฉันไม่แส่คงได้ดิ้นตายกันตอนนี้ละ” พริกพูดพร้อมกับล้วงเอามือถือของเขาออกมา ก่อนที่ไฟล์เสียงที่เขาบันทึกไว้จะดังขึ้นเพราะฝีมือของเขาเอง


…….“แกกับฉันต้องแข่งกัน”


……. “การแข่งบาส ฯ พรุ่งนี้กับสีเขียวใครทำแต้มได้มากกว่ากันคนนั้นชนะ”

……. “ทำไมฉันต้องแข่งกับคนที่ต้องคอยรับลูกที่ฉันส่งให้ด้วยละ”


……. “ถึงยังไงก็แล้วแต่ แกต้องแข่งกับฉัน คนที่ชนะ....ได้.....จอย คงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่มั้ยว่าคนที่แพ้ต้องทำยังไง”

……. “ได้ยินแล้วใช่ไหม?”


ปิ๊บ!!

“นี่คือเหตุผลที่ฉันมา ได้ยินกันแล้วใช่มั้ย มันดูเหมือนมีน้ำใจนักกีฬานะที่ท้ากันแข่งอย่างนี้ แต่ให้ตายเถอะ ใคร ๆ ก็รู้ หมายังรู้เลย คนหนึ่งเป็นตัวทำแต้ม อีกคนเป็น PG. เปอร์เซ็นต์ที่ใครจะชนะ ไอ้เหมี่ยว...ฮึ้ย!! ไอ้พู่จะเอาเวลาที่ไหนไปทำแต้ม ในเมื่อในเกมส์มันต้องคอยแย่ง คอยกัน คอยส่ง ให้คุณ ๆ ทั้งหลายทำแต้มกันกระจายขนาดนั้น”

ทุกคนที่ได้ยินไฟล์เสียงรับฟังพริกอย่างงง ๆ ก่อนที่จีจะเอ่ยขึ้น และมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์กันขึ้น

“เสียงนายจริง ๆ อัพ แบบนี้ไม่ยุติธรรมกับพู่เลยนะ”

“ใช่!! แต่ความจริงนายอาจจะไม่ได้ตั้งใจจะโกงก็ได้ นายแค่อยากตัดสินกับหมอนี่ แต่ก็น่าจะเลือกเวลาแข่งที่ดีกว่านื้”

อัพกัดฟันแน่น ก่อนที่จะโต้แย้งออกไปด้วยคำพูดที่ไม่ค่อยฉลาดเลย

“แต่...ในการแข่งไอ้พู่ก็มีโอกาสที่จะทำแต้มตั้งหลายครั้ง หรือว่ากลัว”

“ฉัน ไม่ ได้ กลัว” มะเหมี่ยวที่นิ่งฟังเรื่องของตัวเองอยู่นานพูดเน้นคำขึ้น ทำเอาอัพถึงกับตัวเย็นไปทั้งตัว เพราะอยู่ ๆ เขาก็รู้สึกกลัวส่ายตาเย็นชาของมะเหมี่ยวที่จ้องมาที่ตัวเองอย่างหาสาเหตุไม่เจอ

“ใช่!! เขามีโอกาสทำแต้มบ่อยมาก บ่อยกว่าทุกคนด้วย แต่ที่ไม่ทำไม่ใช่เพราะกลัว 40 นาทีเต็ม ๆ ที่ไอ้พู่เล่น มีโอกาสทำแต้ม 35 ครั้ง ที่ชัวร์ ๆ ว่าได้แต้ม แต่ 5 ครั้ง เขาก็ส่งให้ เบอร์ 8 ทำ 7 ครั้ง เบอร์14 อีก 3 ครั้ง เบอร์ 9 และ 20 ครั้ง แกเป็นคนได้ไป...”

เสียงฮือดังขึ้น มะเหมี่ยวถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งจัดก่อนจะเมินหน้าไปสบสายตากับจอย เขามองตอบจอยที่มองเขาอยู่ก่อน และไม่นานจอยก็ต้องเป็นฝ่ายที่ต้องเบนสายตาหนี ส่วนขิงสายตาเธอจับจ้องอยู่ที่มะเหมี่ยวตั่งแต่ที่ได้ยินไฟล์เสียงนั่นแล้ว

“นี่ฉันไ ม่ได้นับลูกฟลุ๊ค ๆ อีกหลายลูกที่คาดว่าจะได้แต้มนะ แกน่าจะพึงสังวรไว้นะ ถ้าไม่โง่พอ ก็คงจะรู้ว่า ไอ้แต้มที่แกทำได้ทั้งหมดนะเป็นลูกที่เขาใส่พานถวายให้แกทั้งนั้น ถ้าสงสัยกันก็นี่....”

ของบางอย่างที่ไม่มีใครสังเกต ว่าพริกถืออยู่ถูกโยนไปทางอัพ แต่คนที่รับคือพีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา เธอกดเปิดดูไฟล์วิดีโอที่ถูกบันทึกทันที

อัพได้แต่เจ็บใจที่มีคนรู้ทันเขา เขารู้ว่าเขาไม่บริสุทธิ์ใจที่จะแข่งกับมะเหมี่ยวในเกมส์นี้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะหากแข่งกันแบบแฟร์ ๆ เขาไม่มีทางชนะอีกฝ่ายได้

“แต่มันช่วยไม่ได้ มันไม่ทำแต้มเอง ยังไงมันก็แพ้!!! คนที่ชนะคือฉัน คนที่ได้จอยคือฉัน”

อัพตะโกนสุดเสียง ทุกคนมองที่เขา

“เอาละ ๆ ครูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ แต่ตอนนี้พวกเธอทุกคนต้องออกไปจากโรงยิมก่อน เพราะเดียวเราจะปิดโรงยิม ซ่อมไฟ” เสียงเด็ดขาดของอาจารย์ปริญญาเอ่ยขัดขึ้นมา นักเรียนหลายคนที่มุงดูเหตุการณ์นี้อยู่ต่างบ่นกันอุบอิบก่อนที่จะแยกย้ายกันออกไปหลังจากที่พยายามต่อรองกับอาจารย์แล้วแต่ไม่เป็นผล

“แบบนี้คงคุยกันสะดวกมากกว่านะ”

อาจารย์ปริญญาเอ่ยขึ้น และสุดท้ายทุกคนก็ทยอยออกไปจากยิมร่วมทั้งตัวเธอด้วยจะเหลือก็เพียง มะเหมี่ยว จอย ขิง อัพ น้อยหน่า พริก (ตัวป่วนที่ดันโผล่มา) พีที่ยืนดูวิดีโอ และเธอก็เป็นคนที่เอ่ยขึ้นมาคนแรก

“แต่ไม่ว่ายังไงคนที่แพ้ ฉันก็ว่า น่าจะเป็นนายนะ” พีที่สายตายังจ้องมองที่วิดีโออยู่เอ่ยออกมาขัดกับเสียงของอัพ

“หุบปากไปเลย เธอไม่เกี่ยว แกก็ไม่เกี่ยวด้วย ” อัพโวยวาย และชี้มาที่พริก พริกส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะยักไหล่กวน ๆ ทำเป็นไม่สนใจอัพ

“ทำมาเป็นพูดโน้นพูดนี่ คนนั้นแพ้ คนนี้ชนะ แล้วทำไม่ตอนแข่งไม่ทำแต้มวะ”

“เพราะฉันไม่ได้รับปากนี่ ว่าจะแข่งกับแก” เสียงเรียบ ๆ ของมะเหมี่ยวพูดตอบอัพไปในทันทีทันใด เขาตวัดสายตาไปมองสบตากับอัพ ก่อนที่จะวกกลับมามองจอยอีกครั้ง

“ถูกต้องที่สุด ต้องให้ฉันเปิดไฟล์เสียงยืนยันอีกทีมั้ย” พริกเสริม

“แกไม่มีค่าพอที่ฉันต้องลดตัวไปเกลือกกลั้วด้วยหรอกนะ และที่สำคัญ แกมาโวย ๆ อยู่อย่างนี้ แกทำโน้นทำนี่ เคยมองมั้ย เคยสนใจมั้ยว่าคนที่แกบอกว่ารัก เขารู้สึกยังไง ในหัวสมองฟอสซิลโง่ ๆ ของแกนะ มันคงไม่รู้สินะ ว่าผู้หญิงคนหนึ่งเขาจะรู้สึกยังไงที่ถูกมองว่าตัวเขาเองเป็นสิ่งของเอามาเดิมพัน”

มะเหมี่ยวพูดด้วยเสียงเย็น ๆ พร้อม ๆ กับเดินเข้าไปหาอัพช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่ยากจะเดาว่าเขารู้สึกยังไง แต่เขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อร่างของเขาถูกรั้งด้วยอ้อมกอดของใครบางคน คนที่เขาไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร

“อย่านะพู่ อย่าไป อย่าจากขิงไปนะ” ขิงพูดด้วยเสียงอู้อี้ ใบหน้าที่ซบอยู่ที่แผ่นหลังของมะเหมี่ยวทำให้เขารู้ว่าเธอคนนี้กำลังร้องไห้ เพราะความชื้นที่ค่อย ๆ ซึมผ่านเสื้อของเขาทำให้เขารู้ มันไม่ใช่เหงื่อที่เกิดจากการแข่งขัน แต่เกิดจาก..............น้ำตา

…………ฉันขอโทษนะขิง.............



“แก ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี แฟนแกก็มี คนเขารักกันดี ๆ”

“คนรักกันงั้นเหรอ??? แกเคยถามหรือเปล่าละ ว่าจอยรักใคร”

เขามองจ้องลึกไปในดวงตาของจอย ทั้งที่ปากถามอัพ อัพถึงกับอึ้ง ส่วนขิงได้แต่สะอื้นอยู่กับแผ่นหลังของมะเหมี่ยว อ้อมกอดของเธอรัดร่างของมะเหมี่ยวแน่นขึ้น แต่ร่างกายของเขากลับไม่มีปฏิกิริยา

อัพเห็นดังนั้นก็หันไปมองที่จอย ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าจอย คนที่เขารัก กำลังร้องไห้อยู่เงียบ ๆ

“ไม่ได้นะ!! เธอจะทิ้งขิงไม่ได้นะพู่”

“เพราะถ้าพู่หันไปคบกับจอย มันจะเป็นเรื่องลำบากที่เธอจะแยกเขาทั้งสองคนออกจากกัน และเธอจะไม่มีโอกาสเข้ามาแทรกระหว่างคนทั้งสอง ซึ่งเรื่องพวกนี้มันจะทำได้ง่าย ถ้าพู่คบกับขิง..........ใช่มั้ยแม่งูพิษจอมวางแผน”

พริกพูดขัดน้อยหน่าขึ้น เล่นเอาเธอถึงกับหน้าซีด เธอนิ่งอึ้งก่อนที่จะหันซ้ายขวาเลิ่กลักไปหมด

“มะ ....มะ...ไม่ใช่!!! แกใส่ร้ายฉัน”

“อ้อเหรอ....งั้นสงสัยต้องพึ่งหลักฐานอีกแล้วสินะ คลิปภาพแล้วก็เสียงตอนที่เธอคุยกับหมอนั้นเรื่องแผนการที่จะแยกพู่กับจอย และเธอจะแทรกเข้ามาตอนที่เขาอยู่กับขิง สนใจมั้ย”

“กะ ......แก โกหก”

“เหรอ.......งั้นแสดงว่าเธอเชื่อว่าเธอบริสุทธิ์ ดีนะที่ตอนแรกฉันหาโรงยิมไม่เจอเลยไปเจอเรื่องเด็ด ๆ ของเธอ เพื่อน ๆ เธอคงอยากรู้นะ ว่าเธอพูดยังไงบ้าง”

ก็เปิดคลิปจากมือถือที่เขาถ่ายไว้ และส่งให้พี ที่ยืนอึ้ง ๆ อยู่


“ไปท้าแข่งบาสกับชมพู่แล้วใช่มั้ย?”

“ใช่!! แต่ไม่แน่ใจว่าจะชนะหรือเปล่า”

“พูดโง่ ๆ น่าอัพ เธอก็รู้ว่าพู่เล่นตำแหน่งอะไร ไม่อย่างนั้นฉันไม่แนะนำวิธีนี้หรอก”

“ทำไมเธอต้องมาช่วยฉันด้วยน้อยหน่า พวกเขาเป็นเพื่อนเธอนะ”

“ฉากบังหน้านะใช่ แต่ข้างใน พวกนั้นก็แค่เครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นขิงหรือ ใคร”

“เธอทำอย่างนี้เพื่ออะไร”

“เพื่อไม่ให้พู่คบกับจอยไงละ”

“ช่วยฉัน?”

“เปล่า!! ฉันช่วยตัวเองต่างหาก พู่นะชอบจอย ถ้าคบกันคงยากถ้าจะแยกออกจากกัน ไม่เหมือนขิง ยัยนั่นรักพู่ข้างเดียว แถมยังโง่อีกต่างหาก เป่าหูสักหน่อยเดี๋ยวก็มีปัญหากัน สุดท้ายก็เลิกกันอยู่ดี และฉันนี่แหละที่จะเข้าไปแทรก...”

“เธอชอบไอ้พู่”

“................” ไม่มีคำตอบจากเสียงของขิง แต่พี ที่ดูคลิปนั่นได้เห็นรอยยิ้มเลือดเย็นและความน่ารังเกียจของน้อยหน่าเต็มตา เธอมองน้อยหน่าอย่างจงเกลียดจงชัง..........

“เธอมันเลว” คำด่าหยาบคายหลุดออกมาจากปากของพี น้อยหน่าถึงกับกรี๊ดออกมา แต่ไม่มีใครสนใจเธอ น้อยหน่าตรงเข้ามาหาพริกทำท่าจะทำร้ายเขา แต่พริกชี้หน้าเธอทันที สายตาของพริกหยุดน้อยหน่าไว้เพียงแค่นั้น เธอกลัวสายตานั้นของพริก

“ออกไปจากที่นี่ซะ”

น้อยหน้ามองพริกอย่างเจ็บแค้น ก่อนที่จะหันไปหาขิงที่ยังคงยืนกอดมะเหมี่ยวอยู่ ขิงแข็งทื่อไปราวกับไม่มีชีวิต ไร้เสียงสะอื้นใด ๆ

.........เธอกำลังจะสูญเสียคนรัก และเธอก็ได้รับรู้ว่า เพื่อนรักของเธอหักหลังเธอ....เธอช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้น…..

“ขิง มันไม่ใช่เรื่องจริงนะ มันโกหก มันใส่ร้ายฉัน”

“ออกไปซะ”

พีที่ทนไม่ไหวกับการกระทำของน้อยหน่าเดินเข้ามากระชากตัวของน้อยหน่าออกไปนอกโรงยิม และพริกก็ค่อย ๆ ถอยห่างจากบุคคลทั้งสี่ที่ยื่นนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เขายืนมองเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ





“...เธอรักฉันใช่มั้ยจอย?”

อัพเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาขึ้นมาก่อนด้วยความอึดอัดใจ เขาพอจะรู้ความในใจของจอย แต่เขาพยายามจะหลอกตัวเองมาเสมอ ว่าถ้าเธออยู่กับเขา สักวันเธอต้องรักเขาบ้าง และจะลืมมะเหมี่ยวไปได้เอง......

“พู่...............”

เสียงแผ่วเบาที่ปวดร้าวของขิงทำให้ทุกคนที่ได้ยินรู้ว่าเธอกำลังร้าวรานขนาดไหน จอยน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

“พูดออกมาสิจอย.....ว่าเธอรักใคร ฉันหรือมัน”

อัพพูดออกมาด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เขามองใบหน้าของจอย ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา........

....ดูเธอสิจอย ขนาดเธอเสียใจ เธอร้องไห้ ไม่ว่าตอนไหน ในสายตาเธอก็มีแต่เขา....ฉันไม่เคยอยู่ในความรู้สึกของเธอเลยใช่มั้ย

อัพละสายตาจากใบหน้านั้นเขาก้มหน้านิ่งก่อนที่จะกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตาที่ไหลออกมา แต่มันไม่สำเร็จ ไม่ค่อย ๆ ไหลออกมา มากขึ้น มากขึ้น............

.........เธอรักเขา........เธอรู้ตัวมั้ย...ว่า...เธอรักเขามากแค่ไหน........เธอรักเขา....


..................................................................................................................


ฉันรักเขา......รักคนตรงหน้านี้เหลือเกิน รักเขามากมายจนฉันไม่รู้ว่าจะเอาหัวใจของฉันไปรักใครได้อีกแล้ว

แม้ฉันจะรู้ว่าเขาก็มีใจ และรักฉันไปไม่น้อยกว่าที่ฉันรักเขา แต่เขามีอ้อมกอดที่รั้งไม่ให้มาหาฉันได้ ฉันรักเขาไม่ได้ ผู้หญิงอีกคนที่ไม่มีความผิดอะไรเลย กำลังจะสูญเสีย ถ้าฉันเอาเขามา ผู้หญิงอีกคนที่แสนดีก็คงไม่เหลือใคร

“จอย..........” เสียงมะเหมี่ยวเอ่ยชื่อของเธออย่างแผ่วเบา

“อย่านะพู่........ได้โปรด..........ฮือออ” เสียงสั่นสะท้านของขิงเอ่อยออกมาอย่างยากที่จะกักเก็บความเสียใจเอาไว้ได้......เธอกำลังจะไม่เหลือใคร......

“อย่าไปจากขิง ข้อร้อง.....พู่ ขิงไม่เหลือใครแล้ว....”

เสียงที่ขาดกระท่อนกระแท่นของขิงกรีดแทงเข้าไปในจิตใจของจอย..........เธอรักคนตรงหน้าไม่ได้ เธอรักเขาไม่ได้

.......ได้โปรด....บอกว่าเธอรักฉันจอย.........บอกว่าเธอรักฉัน.............

แววตาสั่นระริกของมะเหมี่ยวมองนิ่งเข้าไปในดวงตาของจอย จิตใจของเขาแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไรแล้ว

.....เขากลัว.....

...กลัวว่าเธอตรงหน้าจะพูดในสิ่งที่เขาไม่อยากฟัง......


...................ได้โปรด.........บอกว่าเธอรักฉัน......


...........อย่าไปนะ......ขอร้อง......อย่าไปจากขิงนะพู่.......

………….

………………

…………………..

……………………

...........พู่.................ฉัน............ขอโทษ.................

………….

………………

…………………..

……………………

“จอย....รัก....อัพ”




*******************จบตอน*******************



ข้าน้อยว่าข้าน้อยชิ่งก่อนดีกว่า.............ก่อนที่จะถูกฆ่าตาย......


ลองทายตอนจบมาสิ ว่าเรื่องนี้จะจบยังไงนะขอรับ


...........ก่อนจะเดา นี่คือทริกการเดาง่าย ๆ

....ดูเนื้อหาทั้งหมด

....ดูความน่าจะเป็น


....และดู......(นิสัย) .......คนเขียน


เดาไม่ยาก หากท่านดูทริกข้อสุดท้าย............



...........ไปดีก่า............








< ตอนที่ 26ตอนที่ 28 >






Create Date : 02 กันยายน 2550
Last Update : 9 กันยายน 2550 0:57:31 น. 0 comments
Counter : 930 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.