Group Blog
All Blog
|
มนตราซาตาน บทส่งท้าย บทส่งท้าย
แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ถูกความมืดมิดกลืนกินจนแสงเหล่านั้นเลือนสลาย กลับกลายเป็นโลกแห่งรัตติกาลโลกซึ่งถูกปีศาจตามล่า โลกซึ่งไร้แสงสว่างราวกับถูกสาปตลอดกาล ท่านพี่...เจ้าต้องสละจากร่างนี้เพื่อหลบซ่อนดวงจิตและวิญญาณแห่งรัก ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น หากไม่มีซันเซ็ทไปกับข้า เซเลเน่...โปรดจงเชื่อใจข้าไม่ว่าเจ้าจะอยู่ยังที่แห่งใด ข้าจะตามหาเจ้าให้พบ ข้าไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด หากมีเจ้าอยู่เคียงข้างข้า ซันเซ็ท จำไว้...ข้าจะคอยมองดูเจ้าไม่ให้คลาดสายตา และข้าจะตามไปพบเจ้า ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ไม่นะ! เสียงกรีดร้องพร้อมดึงร่างบอบบางลุกขึ้นนั่งหญิงสาวหายใจแรงตามจังหวะการเต้นของหัวใจสั่นระรัว เมื่อสัมผัสกับความหวาดกลัวจากเหตุการณ์ที่ได้เห็นเมื่อครู่นี้ เป็นอะไรไปเลดี้!ฝันร้ายงั้นเหรอ ชายหนุ่มด้านข้างสะดุ้งตื่นพร้อมลุกขึ้นสำรวจภรรยาของเขาเพื่อปลอบประโลมให้ลดอาการขวัญผวา ดี้ฝันเห็นสวรรค์กำลังถูกความมืดมิดปกคลุมจนทั้งโลกกลายเป็นสีดำดวงไฟหลายลูกวิ่งเร็วคล้ายจรวดพุ่งทำลายทุกสิ่งจนเผาผลาญวอดวายดี้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังช่วยดี้หนีจากเปลวเพลิงพวกนั้น แต่...ศศิชาชำเลืองมองคนด้านข้างที่นำนิ้วมือปาดเช็ดเหงื่อซิบบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน แต่อะไรของเธอ แต่ซันเซ็ทปรากฏตัวมาช่วยดี้เขาดึงดวงวิญญาณของดี้ออกจากร่างกาย มันร้อนทรมานมากเหมือนตัวดี้กำลังถูกไฟเผาจนเกือบหลอมละลายมือที่จับกันไว้ก็หลุดออกจนดี้สะดุ้งตื่นมานี่ล่ะ ก็แค่ฝันร้ายอย่าคิดมากน่า ผู้เป็นสามียักไหล่พร้อมเลิกคิ้วสูง อยากให้เธอเชื่อในคำพูดของเขา ทุกสิ่งเป็นเพียงภาพฝันซึ่งไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้อีกแล้ว แต่ดี้กลัว...กลัวว่าสักวันเราต้องจากกันอีก จำไว้...ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาต่อให้เราต้องจากกันไกลแสนไกล ฉันจะตามหาเธอให้เจอ น้ำเสียงทุ้มกล่าวอย่างแผ่วเบาแต่แฝงไว้ซึ่งความหนักแน่นดึงสายตาไหวระริกที่มีแต่ความหวาดกลัวจ้องมองยังนัยต์ตาสีสนิมคู่นั้นจนความอุ่นละมุนวิ่งวนเวียนอยู่ในหัวใจสั่นไหวศศิชาผ่อนลมหายใจ สลัดความวิตกกังวลออกจากสมองในทันที ขอดี้กอดหน่อยได้ไหมดวงตากลมโตมองสามีอย่างออดอ้อน ฟาโรระบายยิ้มพร้อมกับอ้าแขนรับร่างบอบบางไว้ในอกอย่างเต็มใจ ผู้หญิงทั้งโลกต้องอิจฉาเธอแน่ๆที่มีสามีเป็นถึงดาราชื่อดัง ถึงฉันจะอำลาวงการไปแล้ว แต่ก็ยังมีชื่อเสียงขนาดนี้ทั้งสองพากันหัวเราะขบขันพร้อมกระชับอ้อมกอดจนแน่นกว่าเดิม หนึ่งเดือนแล้วที่ฟาโรกับศศิชาแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบประเพณีหลังจากฟาโรประกาศอำลาวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการเพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเอสพีโมเดลลิ่งจำกัดโดยมีปรเมษเป็นผู้บริหารและยังคงทุกฝ่ายให้รับผิดชอบหน้าที่ตามเดิมทุกประการ ศศิชาเงยหน้ามองฟาโรที่จดจ้องเธออยู่ก่อนแล้วแววตาคู่สวยเปล่งประกายความสุข ไม่อยากเชื่อว่าความฝันที่เคยแอบคิดอยากได้ฟาโรมาครอบครองจะกลายเป็นความจริงได้ใช้ชีวิตอยู่กับบุคคลอันเป็นที่รัก พร้อมคอยปกป้องดูแลซึ่งกันและกันอย่างนี้ ฟาโรค่อยๆโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาเข้าคลอเคลียริมฝีปากอบอุ่นลากสัมผัสไปตามพวงแก้มนวลเนียนก่อนมอบจุมพิตดูดดื่มแก่ภรรยาของตน พรุ่งนี้ต้องไปร่วมงานของวีกับไมเคิลนะศศิชาเบี่ยงใบหน้าหลบความอบอุ่นพร้อมซบซุกไปบนแผงอกกว้างและกระชับวงแขนกอดฟาโรไว้แนบแน่น โอเค...ก็ได้เห็นว่าต้องตื่นแต่เช้าหรอกนะ ถึงยอมปล่อยอย่างนี้ชายหนุ่มระบายลมหายใจพร้อมขยับร่างกายลงนอน โดยมีร่างบอบบางนอนทาบทับบนอกทั้งสองโอบกอดแนบแน่นและหลับไหลไปพร้อมกัน ===== บรรยากาศของงานแต่งที่จัดพิธีในโบสถ์เสร็จสิ้นหลังจากบ่าวสาวในชุดแต่งงานสีขาวก้าวเดินออกจากพรมสีแดงสดมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าโบสถ์พร้อมเด็กตัวน้อยจับชายกระโปรงชุดแต่งงานที่ยาวลากพื้นด้วยรอยยิ้มเบิกบาน พาคนมองเห็นยิ้มตามอย่างเอ็นดู งานแต่งงานจัดอย่างเรียบง่ายแม้ไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็รวมแขกเหรื่อกว่าร้อยคนในงานนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เกี่ยวข้องในแวดวงบันเทิงทีมข่าวและช่างภาพ เพื่อนฝูง รวมถึงครอบครัวและญาติสนิท ฟาโรถือช่อกุหลาบแดงแซมลิลลี่ขาวพร้อมควงศศิชาเดินเข้าหาคู่บ่าวสาวเพื่อมอบดอกไม้ช่อนี้แสดงความยินดีแก่วรดาเพื่อนสนิทกับไมเคิลเจ้าบ่าวของหล่อน วรดามองช่อดอกไม้พร้อมแย้มยิ้มก่อนจะรับไปถือไว้หล่อนคลายมือออกจากวงแขนของเจ้าบ่าวพร้อมโผเข้ากอดฟาโรที่จงใจกระซิบบางอย่างข้างหูรับรองว่าช่อดอกไม้นี้ไม่มีหนอนตัวใหญ่แน่นอน ดาราหนุ่มหลุดขำ แววตาเป็นประกายหยอกล้อ วรดานิ่งชะงักหน้าถอดสี เหลือบมองช่อดอกไม้นั้นให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอย่างที่ฟาโรว่าไว้จริงๆเจ้าสาวเหลือบมองฟาโรอย่างคาดโทษไว้ก่อน ในเมื่อคิดกลั่นแกล้งกันอย่างนี้ สักวันคงได้เอาคืนทำให้ศศิชาและไมเคิลหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นเพื่อนสนิทหยอกล้อกัน ถัดออกไปไม่ไกลวศินและนลัทยืนเคียงคู่มองทางบ่าวสาวด้วยความยินดีไม่ต่างกับคนอื่นในงานเลี้ยงที่หันมองตามจุดสนใจเดียวกันรอเพียงจังหวะได้เข้าไปร่วมแสดงความยินดีอีกครั้ง ไม่อยากแต่งงานกับเขาบ้างเหรอซีวศินเอ่ยถามเมื่อลอบมองแต่นลัทอยู่ตลอดเวลา โดยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้องสาวคนละสายเลือดที่เขาเคยมีใจให้คือคนเดียวกันกับที่ทำให้นลัทผิดหวังจนทุกวันนี้ แต่งอะไรซีไม่คิดจะแต่งงานหรอกชาตินี้ แน่ใจเหรอว่าไม่สนใจผู้ชายจริงๆ วศินพูดล้อเลียนพร้อมชำเลืองมองเธอยิ้มๆ ไม่รู้สิ...ยังไม่เจอคนถูกใจนลัทไม่ทันคิดว่าในคำถามเหล่านั้นของชายหนุ่มจะส่อประกายบางอย่างที่เธอไม่อาจนึกถึงนั่นคือแววตาของความห่วงใยที่พร้อมมอบให้ หากเธอต้องการในสักวัน สายตาของนลัทจดจ้องไปยังศศิชาทำให้วศินมองตาม ประจวบเหมาะกับบรรดาสื่อมวลชนเคลื่อนที่เข้าหาข่าวพอดิบพอดี เสียงจอแจดังเซ็งแซ่ล้อมรอบฟาโรและศศิชาเอาไว้ทั้งสองยืนเคียงข้างท่ามกลางแสงสว่างวิบวับจากแฟลชของกล้องที่กำลังเก็บภาพความประทับใจเพื่อเขียนประกอบกับข่าว ข่าวลือที่ว่าฟาโรจะกลับเข้าวงการบันเทิงอีกครั้งจริงหรือเปล่าคะ หลังจากแต่งงานคุณทั้งสองเก็บตัวเงียบเป็นเพราะเดินทางไปฮันนี่มูนกันหรือเปล่าครับ รู้สึกอย่างไรบ้างคะกับการที่แฟนคลับร้องขอให้ฟาโรกลับเข้าวงการอีกครั้ง หลากหลายคำถามถาโถมทำให้ฟาโรและศศิชาหันมองหน้ากันพร้อมส่งยิ้มโดยไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี จนกระทั่งฟาโรกระชับมือของภรรยาให้คล้องแขนเขาแน่นขึ้นพร้อมพูดจา เมื่อก่อนผมอาจจะเป็นภาพมายาสำหรับใครต่อใครแต่หลังจากนาทีนี้ผมจะมีตัวตนอยู่เคียงข้างเธอคนนี้คนเดียวและตลอดไป เสียงโห่ร้องส่งดังจนแขกเหรื่อในงานหันมาให้ความสนใจพร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นกว่าเดิมหลายเท่า ทุกคนในงานฉลองอิ่มเอมความสุขที่ตลบอบอวลจนแทบสำลักไม่ว่าจะเป็นคุณศจี ทิพปภาที่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ยืนมองภาพความสุขเหล่านั้น ดรุนัยวิ่งลงจากรถตู้เบียดเสียดผู้คนในงานแต่งจนชนกระแทกกับเหล่านางแบบที่ยืนอยู่ก่อนหน้านั้นอยากใกล้ชิดคู่บ่าวสาวเพื่อแสดงความยินดี โดยมีอาร์ตเดินตามหลังในระยะห่าง เขาจดจ้องไปยังคู่สามีภรรยาที่ยืนส่งยิ้มให้สัมภาษณ์กับนักข่าวดูทั้งคู่จะโดดเด่นและเป็นจุดสนใจมากกว่าคู่บ่าวสาวด้วยซ้ำ ความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้น แม้จะเริ่มต้นจากความฝันที่ไม่อาจเอื้อมถึงหากแต่โชคชะตากำหนดไว้ให้คู่กันแล้ว สองหัวใจแห่งรักคงไม่แยกห่างกันแม้จะไกลแค่ไหน ก็ยังตามหากันจนเจอ... =====
บทพิเศษ
กลิ่นหอมอ่อนๆของอาหารเมนูหนึ่งลอยแตะจมูกระหว่างฟาโรนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงโซฟาในโถงห้องรับแขกบ้านหลังเล็กที่สร้างไว้ในขอบเขตของคฤหาสน์ เพื่อครอบครัวใหญ่จะได้อาศัยอยู่ยังเขตเดียวกันไม่ต้องแยกย้ายจากไปอยู่ห่างไกล กับข้าวเสร็จแล้วเสียงหวานแว่วดังจากห้องครัวทำให้ชายหนุ่มละสายตาจากหนังสือพิมพ์และพับมันวางไว้บนโซฟาก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก้าวตามกลิ่นหอมของอาหารซึ่งไม่รู้ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร วันนี้ศศิชาหัดทำกับข้าวเองเป็นวันแรกตั้งแต่ได้แต่งงานกับฟาโร ทุกวันจะเป็นแม่บ้านประจำคฤหาสน์เสียมากกว่าที่ทำกับข้าวให้ทั้งครอบครัวได้รับประทานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ เธอทำอะไรให้ฉันกินฟาโรชี้ไปยังจานกระเบื้องที่มีอาหารหน้าตาเหมือนไข่เจียวสูตรใหม่วางอยู่ ไข่เจียวใส่โอริโอ้หรือไงถึงได้ดำเป็นหย่อมๆ อย่างงั้น ฟาโรกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นแววว่าอาหารมื้อนี้อาจจะต้องไปพึ่งฝีมือของแม่บ้านยังคฤหาสน์ใหญ่อีกสักวัน ไข่เจียวใส่โอริโอ้มีที่ไหนกัน ลองชิมซะก่อน ถึงหน้าตาไม่สวย แต่รสชาติต้องอร่อยจนติดใจแน่ๆศศิชากล่าวอย่างภาคภูมิใจในฝีมือทำกับข้าวของตน ไปหัดทำกับข้าวกับป้าอุ่นมาสองอาทิตย์ทำไมฉันถึงได้กินแต่ไข่ทอดล่ะ แล้วอย่างอื่นไม่มีหรือไง ฟาโรแกล้งกระเซ้าแหย่ ทำให้กินก็บุญแล้วนะยังจะบ่น เดี๋ยวก็เอาไปทิ้งซะเลย อย่านะ!ฟาโรปรามเมื่อเห็นภรรยาเตรียมยกจานไข่เจียวสูตรใหม่ไปทิ้งตามที่กล่าวไว้ ฉันล้อเล่นฝีมือเธอก็ต้องอร่อยอยู่แล้วล่ะ จริงไหม ฟาโรสาวเท้าเข้าหาภรรยาพร้อมโอบกอดรอบเอวบอบบางเอาไว้เขาหยิบส้อมในมือของเธอตัดไข่ในจานและตักใส่ปาก เป็นไงบ้าง?ศศิชามองสามีอย่างตื่นเต้น เมื่อเขายังคงนิ่งเฉยระหว่างเคี้ยวตุ้ย โดยไม่รู้ว่าอาการหน้าตายของเขารู้สึกอย่างไรกับรสชาติอาหารบ้าง ฟาโรได้แต่ฝืนกลืนไข่เจียวฝีมือภรรยาลงคอโดยไม่แสดงอาการใดๆแม้รสชาติของอาหารคำนั้นจะเค็มมากราวกับรถบรรทุกเกลือคว่ำก็ตาม ทำไมไม่ตอบอร่อยไหม ศศิชาถามย้ำอีกครั้ง อื้มใช้ได้ เดี๋ยววันนี้จะกินคนเดียวให้หมดแล้วพรุ่งนี้คิดเมนูไว้หรือยังว่าจะทำอะไรให้ฉันกิน ศศิชายิ้มแฉ่งเมื่อฟาโรเอ่ยชมฝีมือการทำอาหารของเธอทว่าเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าฝีมือของตัวเองจะเข้าขั้นสมกับที่สามีชื่นชมหรือไม่ เธอคว้าส้อมในมือของฟาโรตักไข่เข้าปากบ้างเพียงเนื้อไข่เจียวสัมผัสถูกลิ้นก็ทำให้เธอรีบคายทิ้งทันที พร้อมสะบัดสายตาเขียวปั้ดให้กับชายหนุ่มด้านข้างศศิชาทิ้งส้อมบนจานเพื่อจะยกมือทุบที่อกของฟาโรโทษฐานหลอกให้เธอดีใจเล่น แต่ข้อแขนกลับถือมือแข็งแรงคว้าไว้เสียก่อนพร้อมรวบมืออีกข้างที่กำลังจะยกทำร้ายเขาเช่นกัน ทำไมต้องโกหกกันด้วย!ฝีมือแบบนี้เขาเรียกว่าแย่มากๆ ไม่ใช่ใช้ได้ ศศิชากระฟัดกระเฟียตเป็นฝืนเป็นไฟ ฉันไม่ได้โกหกสำหรับฉันต่อให้รสชาติอาหารเป็นไง ฉันก็ไม่สน แค่รับรู้ถึงความรักและการใส่ใจในอาหารนั้นฉันว่ามันดีมากแล้ว คำพูดเพียงไม่กี่คำก็สามารถดับอารมณ์ร้อนที่เดือดระอุให้เย็นลง ถ้าฝีมือดี้ยังเป็นแบบนี้คงไม่ต้องหัดทำแล้วล่ะ ไปอาศัยป้าอุ่นกินก็แล้วกัน แม้อารมณ์เดือดดาลจะเย็นลงทว่ายังออกแง่งอนในที เธอรู้สึกโกรธเคืองตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้อย่างไร ศศิชาพยายามดึงมือออกจากการจับกุมแต่ฟาโรไม่ยอมปล่อย แถมยังโอบรอบเอวอ้อนแอ้นไว้แน่น ไม่ให้เธอได้เดินหนีไปไหน เธอต้องทำกับข้าวให้ฉันกินทุกวันแม้แต่ตอนเธอกำลังยุ่งกับการดีไซน์เสื้อผ้าใหม่ๆ เธอก็ต้องสละเวลามาทำกับข้าวให้ฉันกินอย่างนี้เข้าใจหรือเปล่า แน่ใจเหรอว่าจะกินไข่เจียวเค็มๆแบบนี้ได้ทุกวัน แน่ใจฉันจะกินอาหารทุกอย่างที่เป็นฝีมือของเธอ ไม่ว่ารสชาติมันจะแย่แค่ไหนฉันก็จะรอกินตลอดไป ทั้งสองสามีภรรยาแย้มยิ้มให้กันอย่างเติมเต็มความสุขไม่ว่านานแค่ไหน ความรัก ความอบอุ่น ความเอาใจใส่ จะยังคงอยู่คู่วิญญาณแห่งรักตราบนิจนิรันดร์
The end
นั่นสิ ไม่แน่ อาจจะมีนิยายเรื่องนี้ก็ได้
โดย: มาโซคิส IP: 124.121.19.43 วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:19:43:03 น.
โฉมใหม่ ไฉไลกว่ากว่า
^__^.... โดย: ^__^.. IP: 183.88.249.58 วันที่: 28 พฤษภาคม 2557 เวลา:19:49:26 น.
อิอิ ^---^ ขอบคุณนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณก้อนเงิน ขอบคุณที่แวะมาค่ะ โดย: มาโซคิส IP: 124.121.40.170 วันที่: 28 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:55:57 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |
เสน่หา .. มนตรา
อิอิ