มีนาคม 2557

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
15
16
17
18
20
21
22
24
26
28
29
30
 
 
All Blog
มนตราซาตาน... บทที่ 22
๒๒

ภาพลวงตา


หญิงสาวผิวพรรณกระจ่างนวลนั่งอยู่ตรงเบาะหลังด้านคนขับภายในรถยนต์ซึ่งคุณย่าจัดเตรียมพลขับไว้ให้หลานสาวก่อนท่านจะเข้านอนระหว่างออกเดินทางศศิชายังนึกแปลกใจเหตุใดทุกคนในครอบครัวจึงติดธุระด่วนและเข้านอนอย่างรวดเร็วจนผิดปกติทว่าเวลากระชั้นชิดจึงไม่อาจอยู่ซักถามแม่บ้านคนสนิทเกี่ยวกับเหตุบังเอิญซึ่งคล้ายจงใจกันล่วงหน้าอย่างนี้

ศศิชามองเหม่อออกนอกกระจกหน้าต่างรถขณะยกมือสัมผัสสร้อยคอหินถักรูปผีเสื้อซึ่งสวมใส่อยู่บนคองามระหงมันอาจดูโล่งจนเกินไปหากไม่มีเครื่องประดับติดลำคอแม้ช่วงเวลาหนึ่งเคยนึกอยากเหวี่ยงของสำคัญชิ้นนี้ให้พ้นจากสายตา ทว่ากลับทำไม่ลงเมื่อนึกถึงชายหนุ่มที่มอบสร้อยเส้นนี้กับเธอ


บุรุษด้านข้างลอบมองหญิงสาวซึ่งนั่งรถมาด้วยกันเป็นระยะโดยไม่มีการพูดจาใดๆ เกรงคนขับรถจะตกใจเสียขวัญ หากเห็นคุณหนูของเขาพูดคุยคนเดียวซันเซ็ทจึงได้แต่นั่งนิ่งอย่างนั้น รอเวลาได้ยืดแข้งยืดขาเมื่อถึงปลายทาง


การจราจรช่วงค่ำมืดในวันพิเศษ‘วาเลนไทน์’ แออัดไปด้วยรถรามากมาย ทำให้ถนนทั้งสายเต็มไปด้วยยวดยานพาหนะจอดยาวเป็นขบวนรถไฟผู้คนพลุกพล่านริมถนนยืนเบียดเสียดรอรถประจำทาง ดึงสายตาให้ศศิชาหันมองคู่รักหลายคู่ที่ยืนกระหนุงกระหนิงอย่างนึกอิจฉาปลายหางตาสังเกตเห็นป้ายโปสเตอร์ของสินค้าแบรนด์ดังที่มีฟาโรเป็นพรีเซนเตอร์ให้ แสงไฟนีออนสว่างไสวบริเวณนั้นทำให้เห็นรูปของเขาชัดเจน


ศศิชาจ้องมองรูปของดาราหนุ่มจนไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าไรเสียงเตือนเบาๆ จากเครื่องมือสื่อสารฉุดความสนใจให้เธอละสายตาจากโปสเตอร์ริมทางกดดูโทรศัพท์เครื่องกะทัดรัดข้อความภาพถูกโพสลงในโซเซียลเน็ตเวิร์คทำให้หญิงสาวรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นดูใกล้ตา


ทว่าความผิดปกติทำให้เธอหันมองซันเซ็ทอย่างประหลาดใจเมื่อสายตาที่ปราศจากแว่นควรจะพร่ามัวและทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน แต่เวลานี้สายตาของเธอกลับแจ่มชัดโดยไม่ต้องง้อแว่นตาแต่อย่างใดเกิดเป็นคำถามในใจจนอยากคลายความกระจ่าง ทว่าภาพในโทรศัพท์มือถือกลับเรียกร้องความสนใจมากกว่าจึงหยุดความอยากรู้เกี่ยวกับสิ่งอัศจรรย์ไว้ชั่วคราว เพื่อรอเวลาถามไถ่บุรุษด้านข้างอีกครั้ง


‘ใคร?คือสาวปริศนาที่ฟาโรเตรียมมอบดอกไม้แห่งรัก’ ข้อความประกอบภาพซึ่งวรดาจงใจส่งหาเธอเพียงหัวข้อข่าวก็สร้างความสนใจไม่น้อยเมื่อมันเกี่ยวกับดาราชื่อดัง ศศิชาไม่รีรอ กดอ่านข้อความต่ออย่างกระตือรือร้นเนื้อหาของเรื่องราวที่จับใจความแบบคร่าวๆ กล่าวไว้ ในช่วงเช้าของวันแห่งความรัก ตากล้องมือดีแอบเก็บภาพของฟาโรซึ่งผ่านไปเจอเข้าโดยบังเอิญดาราหนุ่มเดินหายเข้าไปในร้านดอกไม้ครู่ใหญ่ ก่อนกลับออกมาพร้อมหอบดอกไม้ช่อโตขึ้นรถหรูเพื่อนำดอกไม้ช่อนั้นส่งให้กับสาวปริศนา


หัวใจกระตุกวูบจนสั่นไหวเมื่อภาพดอกไม้นั้นตรงกับช่อที่เขานำมายัดเยียดให้เธอเมื่อเช้านี้ ศศิชานึกทวนคำพูดของฟาโรอย่างไตร่ตรอง‘ฝากเก็บไว้ที แฟนคลับให้มา ไม่รู้จะเอามันโยนไว้ไหน’นั้นคือสิ่งที่ได้รับรู้จากเขา แล้วข่าวนี้พร้อมหลักฐานภาพถ่ายมันคืออะไร หญิงสาวสับสนต่อเรื่องราวที่ได้รับรู้เป็นอย่างมากเมื่อเกิดเหตุสองทาง และไม่ทราบข้อเท็จจริง


“จงเชื่อหัวใจตนเอง”เสียงละมุนผ่านโสตประสาททำให้ศศิชาหันขวับไปด้านข้างพร้อมเลิกคิ้วมองบุรุษที่ระบายยิ้มให้กับเธอไม่มีการพูดจาตอบกลับจากหญิงสาว นอกจากสายตาแปลกใจปนสงสัยต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น


ศศิชานั่งพิจารณาภาพช่อดอกไม้บนโทรศัพท์มือถืออยู่นาน จนไม่ทราบว่าการเดินทางได้สิ้นสุดยังหน้าโรงแรมชื่อดังใจกลางเมือง


“คุณหนูครับ”เสียงเรียกจากพลขับไม่ได้สะเทือนยังโสตประสาทของหญิงสาวที่ตกอยู่ในอาการครุ่นคิดอย่างหนักช่อดอกลิลลี่สีขาวแซมด้วยกุหลาบแดงยังวนเวียนซ้ำๆ อย่างนั้น “คุณหนูครับ!”เสียงเรียกดังขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง ทำให้เจ้าตัวหลุดจากภวังค์ความคิดในทันที


“คะ?ลุงผันเรียกดี้หรือเปล่า” หญิงสาวในชุดราตรีขาวหันซ้ายแลขวามองรอบกายอย่างเหรอหรา


“ถึงแล้วครับต้องให้ผมลงไปส่งไหมครับ”


“เอ่อ...”ศศิชาหันมองบุรุษด้านข้าง เมื่อเวลานี้เขาเปลี่ยนสถานะลงไปยืนยิ้มให้เธออยู่นอกรถเสียแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ ดี้เข้าไปเอง เดี๋ยวถึงเวลากลับ ดี้จะโทรหานะคะ”


“ครับผม”


สิ้นเสียงพลขับศศิชาก็ขึงตาใส่บุรุษด้านนอกรถผ่านกระจกใส ก่อนเปิดประตูก้าวลงไปยืนอยู่ข้างๆ เขาโดยซันเซ็ทยังคงยิ้มทะเล้นอยู่อย่างนั้น ทำให้หญิงสาวนึกคาดโทษไว้ศศิชาหันมองรถยนต์ประจำคฤหาสน์ขับเคลื่อนออกห่าง ก่อนจะหันส่งค้อนให้เจ้าชายรัตติกาลของเธอ


“นึกอยากหายตัวก็หายแบบนี้ฉันทำตัวไม่ถูกรู้หรือเปล่า”


“เพราะอึดอัด...เมื่อต้องนั่งอยู่ในนั้นโดยไม่สื่อสารกับเธอ”หญิงสาวที่เคยค่อนขอด ผ่อนโทษให้เขาลงกว่าครึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดจริงจังและออกจากใจอย่างที่สัมผัสได้ศศิชาหลุดขำพลางย่างก้าวไปตามทางเดิน และหยุดยืนตรงประตูทางเข้าของโรงแรมหรูหรา


หญิงสาวในชุดราตรีสั้นชำเลืองมองบริกรที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้าเขาก้มศีรษะเล็กน้อยให้เธอพร้อมส่งยิ้มทักทาย ถัดมาไม่ถึงนาทีบริกรคนเดิมก็ก้มศีรษะอีกครั้งให้กับบุรุษซึ่งเดินตามเธอมาติดๆศศิชาเหลียวมองด้านหลังพร้อมอวดยิ้มให้ผู้คุ้มครองของเธอ เพียงเขายอมปรากฏกายให้กับบริกรผู้นี้เห็นตัวตน


ประตูกระจกเลื่อนเปิดเมื่อบุรุษและสตรีก้าวเดินเข้าภายในโรงแรมอย่างพร้อมเพรียงซันเซ็ทหยุดฝีเท้ากับที่และยกแขนงอข้อศอก พร้อมให้หญิงสาวด้านข้างเดินควงเขาเข้าภายในงานเลี้ยงรื่นเริง


“โลกของนายมีงานเลี้ยงแบบนี้ด้วยหรือไงถึงรู้หน้าที่อย่างนี้”


“ฉันจำมาจากทีวีในห้องของเธอ”เป็นอีกครั้งที่ศศิชาขบขันจนต้องยกมือปิดปาก เพื่อความสุภาพและให้เกียรติต่อสถานที่ซึ่งมีแขกเหรื่อเข้าใช้บริการยังโรงแรมแห่งนี้ไม่น้อยเธอจำไม่ได้ว่าเคยเปิดโทรทัศน์เกี่ยวกับงานเลี้ยงสังสรรค์เมื่อใด หากคิดตามคำพูดของซันเซ็ททำให้จับประเด็นได้ว่าโลกของซาตานก็มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์เช่นกัน


ศศิชาหายใจเข้าลึกๆลดอาการตื่นเต้น พร้อมหยุดหัวเราะ เธอนำมือคล้องไปยังแขนของบุรุษที่กำลังใช้สมาธิจำแลงกายเป็นใครสักคนเพื่อให้ผู้มาร่วมงานภายในค่ำคืนนี้ได้เห็นว่าเขามีตัวตนอยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวผู้ซึ่งงดงามราวกับนางฟ้ามาเยือน


เสียงเพลงภายในห้องจัดเลี้ยงดังคลอด้วยจังหวะคึกคักแขกเหรื่อที่มาร่วมงานสังสรรค์หนาตาจนหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้างานรู้สึกประหม่ากับสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมายังเธอเสียงซุบซิบดังฮือพร้อมแสงแฟลชจากกล้องสว่างวิบวับเป็นระยะราวกับเธอคือนางแบบระดับโลกเดินอยู่บนแคทวอล์กอย่างนั้น


ศศิชาชำเลืองมองไปรอบงานเพื่อดูสถานการณ์และหาจุดยืนให้ตัวเองเมื่อต้องการอยู่ยังตำแหน่งใดสักจุดในงานนี้ ยิ่งลับหูลับตาผู้คนได้มากเท่าไรยิ่งดี


“นี่ซันเซ็ท...ฉันรู้สึกว่าเราจะดึงดูดสายตาคนอื่นมากไปแล้วนะ”


“ก็ไม่เป็นแปลกในเมื่อฉันกำลังสวมบทซุปเปอร์สตาร์”


“อย่าบอกนะว่านายแปลงร่างเป็นไอรอนแมนหรือดาราฮอลลีวูดชื่อดัง”เสียงหวานกระซิบถามโดยซันเซ็ทไม่ได้โต้ตอบสิ่งใด เขาเพียงส่งยิ้มให้และนำพาเธอเดินต่อไปเรื่อยๆ


ศศิชากวาดสายตามองไปรอบงานรื่นเริงอีกครั้งหวังเจอใครสักคนที่อาจรู้จักมักคุ้นกันบ้าง แต่เพราะไม่เคยได้ออกงานสังคมอย่างนี้บ่อยนักเธอจึงรู้สึกกดดันเสียมากกว่าคล้ายตนเองเป็นตัวประหลาดสำหรับงานค่ำคืนนี้ ทว่าทุกสายตาที่มองมากลับสร้างความผิดปกติเป็นอย่างมากเมื่อแต่ละคนยังจดจ้องทางเธอและซันเซ็ทไม่คลาดสายตา


ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ในระยะห่างระดับหนึ่งลักษณะคล้ายลุกลี้ลุกลนกับอะไรบางอย่าง หากคาดการณ์ไม่ผิดชายผู้นั้นอาจลังเลที่จะเดินหาเธอศศิชาจ้องมองชายแปลกหน้าอยู่ชั่วครู่ก่อนเสียงหวีดจากไมโครโฟนจะดึงความสนใจให้เธอละสายตาหันมองยังต้นทางเสียง


แม้เสียงเพลงคลอในงานจะถูกปิดให้เงียบสนิททว่าเสียงตึกตักจากหัวใจกลับเต้นรุนแรงจนแทบทะลุออกนอกอก “สวัสดีแขกทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้”น้ำเสียงเย็นซึ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดีทำให้ศศิชายืนตะลึง เมื่อบุคคลที่กล่าวเปิดงานคือคุณยายของเธอโดยมีวรดายืนเยื้องอยู่ด้านหลังของท่านพร้อมแย้มยิ้มโบกไม้โบกมือให้เธอ


“ดิฉันรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ท่านทั้งหลายสละเวลาเพื่อมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง วันคล้ายวันเกิดของหลานสาวดิฉัน”ศศิชาดึงมือออกจากการควงแขนบุรุษด้านข้าง เปลี่ยนเป็นยกปิดปากตัวเองอย่างประหลาดใจสีหน้าระอุอุ่นตามการสูบฉีดของเลือดฝาดบนพวงแก้มไม่นึกฝันว่าคุณยายจะแอบเซอร์ไพรส์กันอย่างนี้


ในวันครบรอบวันเกิดของทุกปีมีเพียงคุณศจีกับวศินที่จดจำวันสำคัญของเธอได้ บางปีจะมีจัดเลี้ยงฉลองเล็กๆภายในบ้านเท่านั้น เนื่องจากศศิชาไม่ยินดีกับความเอิกเกริกหรือจัดงานใหญ่โตให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุเธอจึงไม่คิดหนักหากคนในครอบครัวจะลืมวันสำคัญของเธอไปบ้างก็ตาม ทว่าค่ำคืนนี้กลับเป็นการฉลองครบรอบวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา


เมื่อคุณศจีกล่าวเปิดงานเสร็จสิ้นท่านจึงส่งเสียงเรียกชื่อหลานสาวให้ขึ้นบนเวที เพื่อเผยโฉมหน้าทายาทเศรษฐีร้อยล้านศศิชาหันมองผู้คุ้มครองของเธอด้วยน้ำตาเอ่อรื้นตรงขอบตาอย่างตื้นตัน ก่อนจะก้าวเดินขึ้นเวทีตามคำเชื้อเชิญแต่แล้วต้องตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มที่ย่างกรายเข้ามารับเป็นพี่ชายซึ่งเคยบอกว่าติดธุระจนไม่สามารถมางานเลี้ยงกับเธอได้ในวันนี้


ศศิชาจ้องมองพี่ชายต่างสายเลือดด้วยอาการหน้างอรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นตัวตลกที่สุดของงานคืนนี้ วศินยกมือยีศีรษะของน้องสาวเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะคว้าข้อมือบอบบางมากุมไว้ เพื่อนำพาเธอขึ้นยังเวทีพร้อมแนะนำตัวแก่แขกเหรื่อในงาน


หมอทินกฤตและคุณทิพปภานั่งอยู่ตรงโต๊ะหน้าสุดใกล้เวทีโดยคุณศจีออกคำสั่งให้มาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง แม้ทิพปภาเองจะไม่เต็มใจมาร่วมงานคืนนี้แต่ด้วยมารยาททางสังคมกอปรกับคำสั่งที่ไม่อาจฝืนขัดได้ จึงต้องแสร้งฉีกยิ้มเมื่อนั่งอยู่ในงานอย่างจำใจ


ระหว่างศศิชาเดินเข้าหาคุณยายของเธอวรดาก็ขยับเข้ามากระซิบข้างหู “พาคนดังมางานนี้ด้วยเหรอ” รอยยิ้มหวานของญาติสาวกับประโยคฉุกคิดทำให้ศศิชาชะงักฝีเท้าชั่วครู่ก่อนจะปล่อยให้ความคลางแคลงใจเลยผ่านไปหลังเสร็จสิ้นพิธีการเมื่อไร คงได้ถามไถ่กันให้รู้เรื่องเกี่ยวกับ ‘คนดัง’ที่วรดาหมายถึง...คือใคร


ช่างภาพและนักข่าวบางส่วนเดินตามมายังหน้าเวทีระหว่างคุณศจีกล่าวแนะนำหลานสาวอย่างเป็นทางการสายตาพร่ามัวหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อต้องเพ่งสู้กับแสงสปอร์ตไลท์ที่สาดกระทบดวงตาคู่สวยศศิชากล่าวทักทายและขอบคุณแขกเหรื่อทั้งหลายพอเป็นพิธีอย่างกลั้นใจ เมื่อการออกงานสังคมเป็นสิ่งซึ่งฝืนใจที่สุด


เมื่อหมดเวลาของพิธีการทุกคนบนเวทีต่างทยอยลงมาร่วมงานฉลองด้านล่าง โดยวศินพยุงคุณย่าของเขาเดินนำน้องสาวทั้งสองส่วนวรดาได้จังหวะคว้าแขนของญาติอีกคนเอาไว้ก่อนจะได้ก้าวเดินไปไหน หล่อนเอียงกระซิบข้างหูพร้อมเอ่ยพูดจา


“วีไม่รู้ว่าเธอจะชวนเขามาในงานนี้ด้วยไม่งั้นวีคงรั้งเขาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า ตอนที่เขาเอาดอกไม้มาให้วี” วรดาเน้นหนักอย่างชัดถ้อยชัดคำแม้จะเป็นเพียงการกระซิบแต่ก็ทำให้ศศิชาได้ยินทั้งประโยคชัดเจน และทุกอย่างยังคงเป็นปริศนาสำหรับเธอ


“วีพูดเรื่องอะไรดี้ไม่เข้าใจดี้ชวนใครมา แล้ววีจะรั้งใครไว้งั้นเหรอ” ศศิชาถามอย่างคนซื่อเนื่องจากเธอไม่เคยรับรู้ในสิ่งซึ่งซาตานจงใจจำแลงกายทำให้แขกเหรื่อในงานเลี้ยงเห็นซันเซ็ทเป็น...ฟาโร


“ยังจะทำเป็นใสซื่ออีกหรือไงก็เธอเดินเข้างานมาพร้อมกับฟาโร ดาราดังที่เธอหลงปลื้มนักหนาไม่ใช่เหรอ” คำพูดของวรดาทำให้ศศิชานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะหันมองทางซันเซ็ทซึ่งยืนอยู่ในระยะห่างไกลมันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอยังเห็นซันเซ็ทอยู่ข้างกายตลอดเวลาไม่ใช่ฟาโรอย่างที่ญาติสนิทบอกกล่าว


“บ้าเหรอวีดี้มากับเพื่อน ไม่ใช่ฟาโรซะหน่อย ดี้ไม่บังอาจให้ดาราดังอย่างเขามาเดินอยู่ในงานแบบนี้หรอกนะ”


“เธอนั่นล่ะเพิ่งหลุดจากหลังคาแดงมาหรือไงถึงปล่อยมุขตลกหน้าตายอย่างนี้กับวี”วรดายกยิ้มมุมปากก่อนเดินลงจากเวที ปล่อยให้ศศิชายืนงงอยู่อย่างนั้นสักครู่จนหันไปปะทะกับวศินที่จ้องมองอย่างใคร่รู้ส่อแววถามไถ่เหตุใดน้องสาวของเขาจึงไม่ย่างกรายลงจากเวทีเสียที


คิ้วเรียวขมวดจนแทบจะชนกันครุ่นคิดถึงสิ่งที่วรดาบอกกล่าวเมื่อครู่นี้ และตัวแปรสำคัญของเรื่องทั้งหมดคงเป็นอื่นไม่ได้นอกจากซันเซ็ทศศิชากวาดตามองไปรอบงานเลี้ยงอีกครั้ง ทว่ากลับไม่เจอเขายืนอยู่ที่เดิมแต่ในเมื่อการมองเห็นของเธอยังคงชัดเจนอย่างนี้ นั้นหมายความว่าผู้คุ้มครองเธอก็ต้องวนเวียนอยู่แถวนี้เช่นกัน


ศศิชาเดินเข้าไปคุยกับคุณยายของเธอเมื่อถูกเรียกพบอย่างกะทันหันวงสังคมผู้มากวัยแย้มยิ้มทักทายหลานสาวของเพื่อนอย่างเป็นกันเองระหว่างที่ญาติผู้ใหญ่สนทนา ศศิชายังพยายามมองหาบุคคลที่อยากพบเจออยู่ตลอดเวลา และเมื่อท่าทางร้อนรนของหลานสาวทำให้คนมองเห็นนึกกังวลขึ้นมา


“มีอะไรอย่างนั้นรึเลดี้เห็นมองหาใครอยู่นานสองนาน”


“อ๋อ...เปล่าค่ะดี้แค่สำรวจรอบงานเองค่ะ”


“ยังจะปฏิเสธก็ยายเห็นอยู่ว่าหลานกำลังมองหาใคร” คุณศจีส่งสายตาคาดคั้นเค้นความจริงกับหลานสาว“หรือมองหาพ่อหนุ่มที่มาด้วยกัน” ศศิชาทำหน้าเจื่อนพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย“ถ้าอย่างนั้นก็ไปสิ เดี๋ยวยายคุยธุระกับเพื่อนอีกสักหน่อยแล้วจะให้ใครไปตามหลังจบงานเลี้ยง"


“ขอบคุณนะคะคุณยาย”หลานสาวขยับเข้าโอบกอดญาติผู้ใหญ่ก่อนผละจากเพื่อตามหาใครบางคนที่ทำให้เธอร้อนรนจนไม่เป็นสุขเช่นนี้


ศศิชาเดินจนทั่วบริเวณแต่กลับไม่เห็นซันเซ็ทแม้แต่เงา ‘หายไปไหนของเขานะ’ เธอถามตนเองในใจระหว่างสอดส่ายดวงตาคมหวานไปรอบงานเลี้ยง โดยมีสายตาบางคู่ลอบมองเธอตลอดเวลาอย่างไม่คลาดสายตาสักนาทีวศินรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมากเมื่อมารดาของตนคะยั้นคะยอให้มาพร้อมกัน หลังจากที่ตกลงกับคุณศจีไว้ว่าเขาจะมาพร้อมกับศศิชาในค่ำคืนนี้แต่กลับผิดแผนจากที่ตั้งใจ


“ยัยวีเลดี้พาผู้ชายที่ไหนมา หน้าตาคุ้นๆ” เมื่อความอยากรู้เล่นงานจนอดทนต่อไม่ไหววศินจึงเดินหาน้องสาวในไส้และขอเวลาส่วนตัวกับแขกอื่นที่กำลังทักทายปราศรัยเพื่อไม่ให้ดูน่าเกียจจนเกินไป


“อะไรกันพี่วินไม่รู้จักซุปเปอร์สตาร์หรือไง”


“ใคร?”จะให้รู้จักได้อย่างไร ในเมื่อชีวิตประจำวันมีแต่หน้าที่ความรับผิดชอบทั้งการงานและครอบครัว หนุ่มโสดอย่างวศินจึงไม่เคยติดตามแวดวงบันเทิงสักเท่าไร แค่ให้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองหรือสังคมธุรกิจก็ยังไม่ครบถ้วนทุกเรื่องราว


“ฟาโรไงเขาดังจะตายไป พี่วินจำไม่ได้เหรอ นายรังสิมันตุ์เพื่อนวีสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน”


“นายขี้เก๊ก...ที่ถูกพ่อแม่ทิ้งคนนั้นน่ะเหรอ”


“ถึงเขาไม่มีพ่อแม่แต่เขาก็มีคุณลุงเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีนะ ไม่งั้นคงไม่มีฟาโรทุกวันนี้”


“แล้วทำไมเลดี้ถึงไปรู้จักเจ้านั้นได้ล่ะ”วศินเจาะจงเข้าประเด็นในสิ่งที่อยากรู้ใจแทบขาด แต่ต้องคอยเก็บอาการให้มิดชิดจากสายตาเจ้าเล่ห์คล้ายมองอย่างจับพิรุธทุกนาทีในเมื่อน้องสาวตัวดีเริ่มระแคะระคายต่อความรู้สึกของเขาที่มีให้ศศิชา


“เลดี้ทำงานเป็นผู้จัดการของฟาโร”ทุกเรื่องราวถูกคลี่คลายจนแจ่มแจ้ง เมื่อนึกขึ้นได้วศินจึงชำเลืองมองนาฬิกาข้อมือพร้อมหันไปรอบงานอีกครั้งเมื่อช่วงเย็นเขาได้ติดต่อกับนลัทเกี่ยวกับงานเลี้ยงฉลองวันเกิด โดยนลัทบอกกล่าวหากเสร็จสิ้นจากงานแล้วจะรีบตามมาทันทีทว่ายังไม่มีวี่แววของเธอ และเสียงของวรดาก็ดึงความสนใจอีกครั้ง


“วีอยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง”วรดามองตามจุดสนใจเดียวกันกับพี่ชายโดยไม่อธิบายสิ่งใดต่อ ปล่อยให้เป็นความลับอย่างนั้นส่วนวศินเองก็ไม่เซ้าซี้ถาม เมื่อความรู้สึกขัดเคืองก่อเกิดในใจ เขาเองยังไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใดระหว่างหึงหวงหรือหวาดระแวงกันแน่

===


ศศิชาชะเง้อหาผู้คุ้มครองของเธอจนเหน็ดเหนื่อยสองขาเรียวค่อยๆ หมดความกระตือรือร้นจะก้าวเดินต่อทว่าเสียงโหวกเหวกกลับดึงให้เธอเหลียวหลัง และบุรุษที่ต้องการพบเจอก็ปรากฏอยู่ในสายตา


“นายไปไหนมาปล่อยให้ฉันตามหาซะทั่วงานนึกว่าหายตัวผ่านมิติไปแล้วซะอีก”


“ฉันหลบมนุษย์พวกนี้”ซันเซ็ทใช้สายตาชวนให้หญิงสาวมองตาม เมื่อเบื้องหลังของเขามีช่างภาพมืออาชีพและนักข่าวบางสำนักกำลังติดตามอย่างเซ้าซี้เพื่อสอบถามเรื่องราวบางอย่างโดยไม่มีใครรับรู้ถึงข้อเท็จจริงว่าการปรากฏตัวของดาราชื่อดังเป็นเพียงมนตราซึ่งซันเซ็ทเสกร่ายเพื่อสร้างภาพตบตามนุษย์โลกเท่านั้น


ศศิชายืนอ้ำอึ้งเมื่อมีนักข่าวคนหนึ่งโพล่งถามขึ้นมา“สาวปริศนาที่คุณฟาโรหอบดอกไม้ไปให้ใช่ทายาทเศรษฐีเจ้าของงานวันเกิดหรือเปล่าครับ”หญิงสาวเลิกคิ้วเรียวสูงมองซันเซ็ทที่ปรับสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาสีสนิมจ้องเธอราวกับต้องการบอกความจริง


เพียงชั่วพริบตาภาพของฟาโรก็ทับซ้อนอยู่บนใบหน้าคมคายคล้ายกับมีสองคนในร่างเดียวศศิชาผงะกายถอยหลัง พยายามประคองตนเองไม่ให้เรียวแรงที่ขาเหือดหายจนเกือบล้มทั้งยืน


เรื่องราวทั้งหลายทั้งมวลถูกปะติดปะต่อตั้งแต่วรดาทักทายในสิ่งที่เธอสงสัยและเวลานี้ก็เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี ความปั่นป่วนกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อซาตานนึกพิเรนกลั่นแกล้งเธออย่างนี้แม้ตัวตนของเขาคือซันเซ็ท ทว่าภาพมายาที่ใครต่อใครได้เห็นกลับกลายเป็นฟาโร


“คุณกำลังคบหากับทายาทเศรษฐีหรือคะ”ความใคร่รู้จากบุคคลที่ต้องการข่าวเริ่มปฏิบัติการถามไถ่ ระหว่างชายหญิงทั้งสองยืนเผชิญหน้ากัน“เธอคือสาวปริศนาที่คุณนำดอกไม้มอบให้หรือเปล่าครับ”คำถามมากมายพร้อมกับแสงวิบวับจากแฟลชกล้องถ่ายรูปยังคงจับภาพไม่หยุดหย่อนสักนาที“คุณฟาโรรู้สึกอย่างไรกับเธอบ้างคะ คิดจะคบกันจริงจัง หรือแค่สร้างกระแสเหมือนกับนางแบบคนอื่น”


“ผม...ชอบเธอ”น้ำเสียงละมุนกระชากความรู้สึกของหญิงสาวให้ตกอยู่ในห้วงภวังค์ จิตใจหวิวไหวสั่นสะเทือนแม้รู้ดีว่าซันเซ็ทต้องการแสดงบทบาทให้สมจริงราวกับเขาเป็นดาราชื่อดัง แต่ถึงอย่างไรเขายังเป็นผู้พิทักษ์ไม่ใช่ฟาโรตัวจริง


ศศิชากะพริบเปลือกตาถี่ไล่อาการตกตะลึงและพยายามดึงสติของตนกลับมาสายตาคมเข้มของบุรุษหนุ่มยังคงจดจ้องเธอนิ่งๆ ราวกับบริเวณนั้นไม่มีใครอื่นนอกจากเขาและเธอสองคนเท่านั้นแต่แล้วเสียงฮือเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อช่างภาพและนักข่าวเปลี่ยนทิศทางหันหาความสนใจใหม่


หญิงสาวหุ่นเพรียวในชุดกระโปรงผ้าไหมสายเดี่ยวสีโอรสเดินฝ่ากลุ่มแขกเหรื่อพร้อมช่อดอกลิลลี่แซมกุหลาบแดงเฉกเช่นกับที่ตกอยู่ในภาพข่าววรดาแย้มยิ้มอวดริมฝีปากแดงระเรื่อเย้ายวนสายตาช่างภาพและนักข่าวที่มุ่งความสนใจไปยังหล่อน


‘นี่คือช่อดอกไม้ที่ฟาโรมอบให้สาวปริศนา...ไม่ใช่เหรอ’ เสียงแว่วจากผู้คนบริเวณนั้นดึงความสนใจของคนส่วนใหญ่รวมถึงศศิชาที่ยืนนิ่งด้วยความรู้สึกหวิวโหวงในใจ เมื่อช่อดอกไม้ช่างละม้ายคล้ายกับช่อที่เธอได้รับแบบยัดเยียดจากฟาโร


วรดาก้าวเดินมายืนข้างบุรุษหนุ่มซึ่งมีฟาโรเป็นภาพลวงตาที่เสกร่ายขึ้นมาให้เข้าใจอย่างนั้นหล่อนคล้องแขนควงบุรุษผู้นั้น จงใจแสดงความสนิทสนมให้ใครหลายคนได้รับรู้ถึงมิตรภาพระหว่างกันและที่สำคัญอยากทดสอบความรู้สึกของญาติสนิทจะแสดงอาการอย่างไร


ศศิชารู้สึกเสียการทรงตัวเมื่อไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่อดอกไม้ในอ้อมแขนของวรดาคงเป็นช่อเดียวกันกับที่ฟาโรตั้งใจมอบให้ส่วนดอกไม้ที่เธอได้รับเป็นเพียงของแฟนคลับตามที่เขาบอกกล่าวซึ่งฟาโรไม่ได้ต้องการเก็บมันไว้หนำซ้ำยังต้องคิดหนักถึงการกระทำของซันเซ็ท เหตุใดจึงแปลงกายเป็นฟาโรอย่างนี้


ความสับสนรุมเร้าจนไม่อาจฝืนยืนอยู่ตรงนั้นได้อีกต่อไปศศิชาเดินหลบผู้คนภายในงานที่ยังให้ความสนใจกับดาราชื่อดังและญาติสาวคนสนิทออกจากห้องจัดเลี้ยงโดยปล่อยให้บุรุษต่างโลกแก้ไขสถานการณ์ในสิ่งที่ก่อไว้เอง


ซันเซ็ทมองตามหลังร่างบอบบางจนเธอผ่านพ้นประตูงานเลี้ยงเขาจึงหันมองหญิงสาวด้านข้างที่ส่งยิ้มหวานให้กับกล้องเพื่อเก็บภาพถ่ายบุรุษหนุ่มชักแขนออกจากการคล้องควงและเหล่มองหล่อนพร้อมแสยะยิ้มเยือกเย็นให้ไม่ว่าวรดาพยายามทำสิ่งใดเขารู้อยู่เต็มใจว่าหล่อนกำลังทำร้ายจิตใจของศศิชาให้เจ็บช้ำและเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์ทั้งหมดและช่อดอกไม้นั้นเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง


“ขอให้เธอสนุกกับภาพมายา”ซันเซ็ทเหยียดยิ้มก่อนจะก้าวเดินฝ่าวงล้อมของช่างภาพและนักข่าวปล่อยให้วรดายืนอึกอักแปลกใจต่อท่าทีไม่เป็นมิตรจากเขาในเมื่อฟาโรคือเพื่อนซึ่งห่วงใยหล่อนที่หนึ่ง เวลานี้กลับไม่แยแสแววตาที่มองมามีแต่ความดุดันราวกับคนละคน ไม่ใช่ฟาโรที่เคยรู้จักมาก่อน


และเมื่อสายตาคมเฉี่ยวเหลือบมองช่อดอกไม้ในอ้อมแขนกลับทำให้ช็อคสุดขีดเลือดในร่างกายแทบแข็งตัว เมื่อดอกไม้สวยงามมีหนอนสีเขียวลำตัวขนาดเท่านิ้วก้อยเกาะอยู่มากมายบนกลีบและใบทำให้วรดารีบปล่อยช่อดอกไม้ทิ้งในทันทีพร้อมกรีดร้องลั่นห้องจัดเลี้ยงจนผู้คนแตกตื่นทำให้หลายคนบริเวณนั้นหันมองอย่างให้ความสนใจ รวมถึงวศินก็รีบรุดเข้าหาน้องสาวในทันที

===


ศศิชาก้าวเดินไปตามพื้นปูพรมสีเลือดหมูเธอใช้ความคิดทบทวนต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ภายในหัวใจยังเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะอยู่อย่างนั้น‘ผม...ชอบเธอ’ คำพูดของซาตานยังคงกังวานอยู่ในความรู้สึกแม้มันเป็นเพียงการเล่นละครตบตา แต่กลับทำให้หวั่นไหวอย่างประหลาด


“เจ้าจะเดินหนีข้าไปไหน”กระแสอำมหิตแฝงมากับน้ำเสียงเย็นเยียบซึ่งใช้สรรพนามตามบ้านเกิดเมืองนอนของเขาทำให้หญิงสาวหยุดฝีเท้ากับที่ก่อนจะหันเผชิญหน้ากับผู้คุ้มครองของเธอ


“นายเล่นตลกอะไรซันเซ็ททำไมต้องสร้างภาพเป็นฟาโรด้วย ทั้งที่ซุปเปอร์สตาร์ก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องเจาะจงเขาแบบนี้โลกมนุษย์มันไม่ได้สนุกอย่างที่นายหวังหรอกนะ”


“เธอต้องการได้ชายผู้นั้นมาครอบครองมิใช่หรือ”


“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่นายสวมบทบาทเป็นเขา”


“หากไม่มีประกายร้อนหรือควันอุ่นไฟคงไม่ลุกโชน” แม้เหตุผลหรือความจงใจของซันเซ็ทจะเป็นอย่างไรทว่าศศิชายังคงไม่เข้าใจอยู่ดีการตกเป็นเป้าสายตาของข่าวดังไม่ได้มีผลดีกับเธอหรือฟาโรที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวใดแม้เธออยากให้ดาราหนุ่มใส่ใจและมองเห็นเธอมีตัวตนในสายตา แต่ต้องไม่ใช่ภาพลวงตาอย่างนี้


ศศิชาไม่ฟังสิ่งใดต่อเธอหันหลังและสาวเท้าเดินอย่างรวดเร็วออกจากโรงแรมหรูหราปล่อยให้ซันเซ็ทยืนนิ่งเฉย เขาร่ายเวทย์กลับกลายเป็นบุรุษชุดดำก่อนจะตามหญิงสาวออกไป

===


ภายในงานเลี้ยงยังคงความวุ่นวายเมื่อนักข่าวและช่างภาพบางส่วนออกติดตามฟาโรกับทายาทเศรษฐีส่วนแขกเหรื่อที่พอรู้จักกับวรดาต่างมาถามไถ่เกี่ยวกับอาการหวาดระแวงของหล่อนหมอทินกฤตและทิพปภาเดินมาดูบุตรสาว รวมถึงคุณศจีด้วยอีกคน


“มีอะไรกันตาวิน”ทิพปภาถามหาเหตุผลที่ทำให้งานเลี้ยงเกิดความวุ่นวายโดยวศินอธิบายเพียงน้องสาวของตนหน้ามืดเป็นลมเท่านั้นเนื่องจากเขาเองยังไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน เมื่อทุกอย่างเริ่มสงบลงงานเลี้ยงสังสรรค์ก็กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง


“พี่วินเจ้าของงานวันเกิดไปไหนซะล่ะ” นลัทเดินหาเจ้าภาพทันทีเมื่อเข้ามาถึงงานเลี้ยงฉลองของเพื่อนสาวโดยแปลกใจต่อเสียงซุบซิบและความชุลมุนเล็กน้อยระหว่างทางเข้าภายในงาน


“พี่ก็ตามหาอยู่เหมือนกันเมื่อกี้เกิดเรื่อง เลดี้เดินออกจากงานได้สักพัก”วศินกล่าวพร้อมกดโทรศัพท์มือถือต่อสายอย่างร้อนใจทว่าสัญญาณที่ได้รับกลับเป็นเสียงเพลงรอสายเท่านั้น ส่วนนลัทเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่มดูกังวลผิดปกติสาวมาดเท่จึงถามไถ่เรื่องราวเพื่อคลายความกระจ่าง โดยโทษตนเองซ้ำๆหากไม่ห่วงแต่งานจนเกินไปคงมาทันเหตุการณ์วุ่นวายก่อนหน้านี้


=== 


ทางเดินริมฟุตปาธมีหญิงสาวก้าวเดินเพียงลำพังสายตาเริ่มพร่ามัวลงทุกที แสงสว่างจากไฟหน้ารถสาดส่องเป็นระยะพร้อมสายลมกระทบร่างกายจนเสื้อผ้าพลิ้วไหวไปตามแรงลมพัดผ่านศศิชาหยุดยืนเป็นพักๆ เพื่อมองหารถโดยสาร หากมีแท็กซี่ผ่านมาสักคันคงดีและเมื่อนึกถึงพลขับที่เคยนำเธอมาส่งยังงานเลี้ยงเมื่อช่วงหัวค่ำเธอจึงล้วงมือลงกระเป๋าสะพายคว้าโทรศัพท์มือถือออกมา


ยังไม่ทันได้เงยหน้ามองสิ่งใดเสียงแตรรถก็ดังลั่นถนนพร้อมแสงสว่างกะพริบสูงใส่เธอ ศศิชาหันตามแสงและเสียงนั้นทว่าทุกอย่างหยุดชะงักจนต้องยืนตาค้าง เมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งกำลังพุ่งมาหาเธออย่างรวดเร็วจะหลบไปทางใดคงไม่ทันเสียแล้ว เมื่อสองขาแข็งทื่อจนก้าวไม่ออก


ศศิชายกมือขึ้นปกป้องตนเองไม่อยากรับรู้ถึงเหตุการณ์ต่อไปเสียงเบรกรถดัง ‘เอี๊ยดดด’ ลากยาวมาแต่ไกลและตามมาด้วยเสียงโครมหนักทำให้หญิงสาวที่หลับตาสนิทค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองทุกสิ่งรอบกาย


รถกระบะคันใหญ่หักเหเปลี่ยนทิศทางชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางจนกระโปรงหน้ารถยับเยินควันสีขาวพวยพุ่งราวกับเครื่องยนต์ของรถคันนั้นไม่เหลือชิ้นดีคนขับรถคันดังกล่าวค่อยๆผลักประตูเปิดออกอย่างทุลักทุเลเมื่อต้องจัดการกับถุงลมนิรภัยที่กระแทกใส่จนอยู่ในอาการงุนงง


“นอร่า!”ศศิชาจ้องมองสตรีแปลกหน้าที่ยืนหอบเหนื่อยและหันมองเธอด้วยหางตาเช่นกันทว่าเสียงเครื่องยนต์คำรามอีกครั้งพร้อมแสงไฟสาดกระทบร่างหญิงสาวทั้งสองที่ยืนห่างกันในระดับหนึ่งนอร่าตวัดสายตามองยังรถยนต์อีกคันที่กำลังพุ่งตรงหาเธอ


“ระวัง!”ศศิชาตะโกนเสียงหลงเมื่ออุบัติเหตุกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง นอร่ายื่นแขนเหยียดยาวราวกับกำลังห้ามไม่ให้รถพุ่งตรงมาทางมนุษย์โลกสาวที่เธอกำลังปกป้องแทนเจ้านาย


และเป็นไปตามคาดเมื่อแรงมหาศาลคล้ายคลื่นพลังวาดผลักรถยนต์ให้เปลี่ยนทิศทางไปยังเกาะกลางถนนและปีนขึ้นฟุตปาธหยุดการเคลื่อนไหวนอร่าหันมองด้านหลังเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มลอยอยู่กลางอาการพร้อมเปลวไฟลุกโชนรอบฝ่ามือของเขาดึงให้ศศิชาหันมองตามจุดสนใจเดียวกัน


“เจ้าจงพานางหลบไปจากตรงนี้!”เมื่อได้รับคำสั่งนอร่ารีบรุดเข้ากระชากแขนของศศิชาให้หลบออกจากบริเวณถนนบรรยากาศรอบกายเริ่มมืดมัวจนมองไม่เห็นสิ่งใด ความร้อนระอุกรีดผ่านผิวกายจนทรมานระหว่างศศิชาหันหาซันเซ็ท เธอก็เห็นบุรุษอีกคนปรากฏกายพร้อมกับเสียงกึกก้องในโสตประสาท


‘วิญญาณและดวงใจของนางต้องเป็นของข้าเจ้าไม่มีทางขัดขวางข้าได้’ บุรุษแปลกหน้าดวงตาดุดันส่อแววอำมหิตกล่าว


‘นางไม่มีวันเป็นของเจ้า...เอียน’ เพียงสิ้นเสียงของซันเซ็ทเท่านั้นสติของศศิชาก็ดับวูบและไม่รับรู้สิ่งใดอีกแม้แต่นอร่าที่พาหลบหนีตามหน้าที่ ยังไม่อาจถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่



To be continued...




Create Date : 31 มีนาคม 2557
Last Update : 31 มีนาคม 2557 10:58:17 น.
Counter : 655 Pageviews.

4 comments
  
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ลึกลับมาก ยังเดาว่าจะเกิดไรต่อไปไม่ออกเลย5555555
พระเอกจะเป็นคัยยยย แต่สัมผัสว่าเดี๋ยวนางเอกจเนื้อหอมแหง55555
ไม่ชอบวีเลย ซันเซทจัดการได้ดีมาก555555
เป็นกำลังใจให้ รอตอนต่อไปค่าาา
โดย: นู๋บิว IP: 124.121.167.220 วันที่: 31 มีนาคม 2557 เวลา:12:31:01 น.
  
ขอบคุณนะคะที่ติดตามมม

รอลุ้นกันต่อนะคะ
โดย: มาโซคิส IP: 111.84.67.45 วันที่: 31 มีนาคม 2557 เวลา:20:26:12 น.
  
เดาไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นไงต่อ เลดี้สู้ๆ
โดย: mooda IP: 223.207.204.74 วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:7:38:12 น.
  
รอติดตามกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาทักท่ายกันนนน กำลังใจล้นหลามมมมมม ค่ะ อิอิ
โดย: มาโซคิส IP: 203.130.145.99 วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:12:38:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments