ลูกไม้อ่านหนังสือได้ตอน 11 เดือน HOW TO teach your baby to read(ตอนที่ 1 ค่ะ)
How to Teach Your Baby to Read. ลูกไม้อ่านหนังสือเป็นตอนอายุ 11 เดือน ...เป็นที่ขึ้นชื่อกันว่า สังคมไทยไม่ใช่สังคมนักอ่าน สังคมนักเขียน คนไทยไม่รักการอ่าน และการเขียน ซึ่งเป็นกันทั่วตลอด จนกระทั่งแม้อาจารย์มหาวิทยาลัย ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสติปัญญา และการงานเป็นอย่างยิ่ง กุญแจสำคัญของการศึกษาอยู่ที่การแสวงหาให้พบ ซึ่งวิธีที่จะทำให้ผู้เรียนมีฉันทะในการเรียนรู้ และรักการอ่านหนังสือได้นั้น หนังสือเล่มนี้เป็นกุญแจที่จะไขไปสู่ความสำเร็จดังกล่าว..
นี่คือข้อความตอนหนึ่งของ หมอประเวศ วะสี ที่เขียนคำนำให้กับหนังสือเล่มนี้ How to Teach Your Baby to Read โดย Glenn Doman ซึ่งแปลและเรียบเรียงโดย นายแพทย์สันต์ สิงห์ภักดี
ฉันได้รับหนังสือเกี่ยวกับการดูแลเด็ก สำหรับคุณแม่มือใหม่จำนวนหนึ่ง เป็นของขวัญในวันคลอดลูกไม้ ลูกชายคนแรก จากพี่สาวที่น่ารักคนหนึ่งขออนุญาต เอ่ยนามว่า เธอคือ พี่ยาย แพร จารุ ซึ่งในเวลาต่อมา หนึ่งในหนังสือหลายเล่มนั้น ได้กลายมาเป็นเล่ม ที่มีคุณค่าต่อฉันมาก และนี่คือหนังสือที่ฉันกำลังกล่าวถึงในเวลานี้
หนังสือเล่มนี้ใช้ชื่อภาษาไทยว่า ให้ลูกน้อยเป็นอัจฉริยะด้วยการอ่าน เล่มที่ได้มา เป็นเล่มที่พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2530 นอกจากคำนำน่าสนใจจากหมอประเวศ วะสี แล้ว ยังมี บันทึกถึงคุณแม่ว่าไว้ได้น่าสนใจมากไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันว่า..
การอ่านหนังสือเป็นหน้าที่สำคัญของสมอง และชีวิตมนุษย์ เพราะการเรียนรู้วิชาการต่าง ๆ นั้นต้องสามารถอ่านหนังสือออกจึงจะเรียนได้ คิดดูก็เป็นเรื่องน่าแปลก ที่เวลาล่วงเลยมานาน กว่าที่เราจะรู้ความจริงที่ว่า การให้เด็กหัดอ่านหนังสือนั้น ยิ่งถ้าเด็กอายุยังน้อย ก็จะยิ่งเรียนได้ง่ายและสามารถอ่านหนังสือได้ดี.. หนังสือที่พี่ยาย เอามาให้ในวันนั้นล้วนแต่เป็นหนังสือที่น่าสนใจทั้งนั้น มีอยู่ 8 เล่ม ฉันค่อย ๆ อ่านอย่างเจียดเวลา ก็คิดดูว่าการมีลูกเล็กลูกน้อยน่ะ เวลาทั้งหมดหมดไปกับลูก เดี๋ยวก็ร้อง เดี๋ยวก็จะกินนม เดี๋ยวก็จะหลับ แล้วหลับแต่ละครั้งของลูกไม้น่ะ..ทีละ ครึ่งชั่วโมงค่ะ .. เวลายิ่งไม่ค่อยจะมี แต่ก็ยังอยากรู้อยากอ่านหนังสือเหล่านี้อีก ตอนแรกที่อ่านชื่อหนังสือจากหน้าปกก็นึกว่าเป็นหนังสือประเภท How to...ทั่วๆ ไป ฉันจึงหยิบมาอ่านทีละเล่ม ทีละเล่ม แต่ละเล่มใช้เวลาเป็นเดือนก็เพราะว่าหาเวลาอ่านไม่ค่อยมีค่ะ และเล่มนี้คือเล่มสุดท้ายที่หยิบขึ้นมาอ่าน แค่อ่านคำนำและประวัติของผู้เขียนก็ทึ่งค่ะ ดิฉันอ่านจบไปหนึ่งรอบ และอ่านรอบที่สองพร้อมการจด lecture ไปด้วย และคุยให้พ่อน้อยฟัง( พ่อน้อย คือสามีค่ะ ก็คือพ่อของลูก ซึ่งต่อไปนี้จะมีการกล่าวถึงบ่อยมาก) ฉันอธิบายให้เขาฟังถึงความจำเป็นที่จะให้ลูกรักการอ่านให้ได้ ฉันและพ่อน้อยเป็นคนชอบอ่านหนังสือค่ะ เรียกได้ว่าเป็นหนอนหนังสือตัวยงเลยทีเดียว เราจึงมีเรื่องคุยกัน ถกกันมากมาย จากหนังสือเล่มที่แต่ละคนไปพบเจอมา และเรามีความคิดตรงกันว่า หากเราสละเวลา ปฏิบัติและสอนลูกตามที่หนังสือเล่มนี้แนะนำ เราต้องทุ่มเทเวลาจริงๆ เพียงแค่ไม่กี่เดือนในการประคบประหงมเมล็ดพันธุ์แห่งการรักการอ่าน และอีกเพียงไม่กี่ปีที่ต้องคอยเติมปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน เพื่อที่จะปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้กับลูก และมันจะอยู่ในตัวลูก เป็นสิ่งดีๆ ที่มีค่ามากกว่ามรดกใด ที่เรามอบให้กับเขา
พ่อน้อยดูมั่นใจในสิ่งที่หนังสือเล่มนี้บอก ยิ่งกว่าฉันเสียอีก เขาทุ่มเท ทำตามทุกขั้นตอน และมีวินัยในการสอน ทั้งหน้าตา ความกระตือรือร้น ทุกขั้นตอนไม่มีผิดเพี้ยน ฉันเองยังคิดว่านี่คือการทดลอง ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าสำเร็จล่ะก็ ฉันตั้งใจที่จะบอกต่อค่ะ อาจดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่มากนะคะ ถ้าเด็กทุกคนรักการอ่าน ประเทศเราจะมีผู้ใหญ่ในอนาคตที่มีคุณภาพค่ะ เพราะหนังสือมีเรื่องราวน่ารู้มากมาย ฉันเชื่อว่าคนที่ไม่อ่านหนังสือหรืออ่านน้อยมาก หรืออ่านแต่หนังสือที่ไร้สาระ ก็จะพูดแต่เรื่องที่มีสาระน้อย เนื่องจากขัดสนถ้อยคำที่จะถ่ายทอดความนึกคิด ทั้งที่ไม่เพียงแต่ปรากฏในด้านถ้อยคำเท่านั้น แต่ยังปรากฏในด้านสติปัญญา เป็นความขัดสน ทั้งในด้านความรู้และความคิดค่ะ
พ่อน้อยจริงจังมากค่ะ เริ่มสอนลูกไม้ให้อ่านหนังสือ เมื่อตอนลูกไม้อายุได้เพียง 10 เดือน เหลือเชื่อค่ะ วิธีการในหนังสือเล่มนี้ใช้ได้จริง ๆ ลูกไม้สนใจที่จะเรียนรู้ เดือนแรกผ่านไป ลูกไม้อ่านหนังสือได้ 20 คำ เดือนที่ 2 อ่านได้เพิ่มอีก 30 คำ รวมเป็น 50 คำ เราทำการจดบันทึกทุกระยะค่ะ จนลูกไม้อายุ 18 เดือน เขาสามารถอ่านหนังสือได้ทั้งหมด เกือบ 200 คำค่ะ ฉันตื่นเต้นและเรียกเพื่อน ๆ ญาติ ๆ มาดูการแสดงของลูกไม้ เราเรียงคำศัพท์ไว้ที่พื้น แล้วพูดคำศัพท์ที่เขาเคยเรียนรู้ขึ้นมา 1 คำ ลูกไม้ยังเดินไม่ได้ แต่เขาคลานไปนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่คำๆ นั้น ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอัจฉริยะมาเกืดหรือเปล่า ฉันถึงได้อธิบายความจริงให้พวกเขาฟัง ตอนนี้ลูกไม้อายุ 7 ขวบแล้วค่ะ และเขารักการอ่านหนังสือมาก ฉลาด ช่างคิด ช่างพูด ความจำดี แต่ก็ซนเป็นลิงเหมือนเด็ก ๆ ทั่วไป ขอขวัญที่เขาโปรดปรานที่สุดคือหนังสือ หากเขาพบหนังสือเล่มที่สนใจ เขาจะหาเวลาให้กับมันจนได้ ลูกไม้อ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ จบไปสองเล่มแล้วค่ะ อยากรู้วิธีการไหมคะ ดิฉันอยากถ่ายทอดค่ะ หรือถ้าใครมีเวลา ฉันขอแนะนำให้ไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้ มาอ่านเลยค่ะ หรือถ้าใครอยู่ต่างประเทศ อาจจะหาซื้อได้ง่ายกว่าเพราะเป็นต้นฉบับ อาจได้ข้อมูลที่ไม่ต้องแปล อาจจะชัดเจนกว่า ส่วนเล่มที่ฉันมี มันมีอายุ 20 ปีพอดี เพราะเป็นการตีพิมพ์ครั้งแรกไม่รู้ว่าเขามีการพิมพ์ครั้งต่อมาหรือเปล่า ฉันคิดว่ามันจะเป็นการปลูกฝังสิ่งที่ดีให้กับเขาไปตลอดชีวิต ฉันจะค่อย ๆ บอกเล่าวิธีการในตอนต่อ ๆ ไปนะคะ ถ้าหากใครสนใจ หรือมีประสบการณ์ในการสอนให้ลูกอ่านหนังสือ หรือเคยอ่านหนังสือเล่มที่ฉันกล่าวถึงนี้ ก็ช่วยฝาก comment ไว้ด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ.
Create Date : 21 ตุลาคม 2550 |
|
14 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 11:10:02 น. |
Counter : 916 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: โจรใจทราม IP: 203.144.187.18 21 ตุลาคม 2550 11:43:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูป่าน 21 ตุลาคม 2550 11:44:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: สแกวัลย์ 22 ตุลาคม 2550 12:42:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพรจารุ 22 ตุลาคม 2550 14:48:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: โจรใจทราม IP: 203.144.187.18 22 ตุลาคม 2550 14:51:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้ำเพชร IP: 58.64.94.218 28 ธันวาคม 2550 23:32:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปิวค่ะ IP: 117.121.208.2 29 ตุลาคม 2551 16:28:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องบุ๋น IP: 58.9.55.241 16 มีนาคม 2552 13:49:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เราเองสอนตามที่เรารู้ ตอนนร้ลูกเราสามขวบกว่า อ่านได้แค่เอถึงแซด อ่านเลข สี และรูปทรงได้แค่นั้นเอง อยากเข้าใจวิธีการสอนมากกว่านี้ค่ะ และขอขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ