How to Teach Your Baby to Read ลูกไม้อ่านหนังสือได้เมื่อตอนอายุ 11เดือน(ตอนที่ 5..ตอนสุดท้ายค่ะ)
How to Teach Your Baby to Read..ลูกไม้อ่านหนังสือได้เมื่อตอนอายุ 11 เดือน (ตอนที่ 5..ตอนสุดท้าย ค่ะ)
ใครที่ยังไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน คงต้องย้อนกลับไปอ่านที่ตอนที่ 1 ก่อน นะคะ
ตอนที่แล้วจบลงตรงที่ ฉันกับพ่อน้อย ช่วยกันทำหนังสือขึ้นมา 1 เล่ม โดยใช้ศัพท์ที่ลูกไม้รู้แล้วทั้งหมด 250 คำนั้น เสร็จเรียบร้อยเป็นหนังสือพร้อมภาพประกอบร้อยแก้ว ภาษาง่าย ๆ หนึ่งเล่ม ตัวหนังสือขนาด 2 ซม . มีทั้งรูปวาดประกอบ และรูปถ่ายประกอบ เป็นหนังสือเล่มใหญ่ ขนาด กว้าง 45 ซม. ยาว 50 ซม.มีทั้งหมด 6 แผ่น 12 หน้าพร้อมปก ทำเสร็จเรียบร้อย ตอนที่ลูกไม้อายุครบ 11 เดือนพอดี
11 เดือนของลูกไม้ มีพัฒนาการที่ดีมากค่ะ เดินได้เตาะแตะด้วยปลายเท้าเขย่ง หยิบจับบัตรคำจากที่หนึ่งไปวางเรียงอีกที่หนึ่งได้ มีความสนใจคำเป็นกลุ่ม ๆ มากขึ้น และที่สำคัญจนทำให้ฉันและพ่อน้อยคิดว่าลูกน่าจะอ่านหนังสือได้แล้วก็คือ ลูกไม้สามารถพูดเลียนเสียงได้ถูกต้องมากกว่า 80 % และแอบคิดไปเองว่าลูกน่าจะเข้าใจความหมายของสิ่งที่เขาพูดถึงนั้น
เราทดสอบกันในเช้าวันหนึ่ง ลูกไม้กำลังอารมณ์ดีหลังอาหาร ฉัน พ่อน้อย และลูก นั่งเล่นสบาย ๆ อยู่กับพื้นที่บ้านในคอกที่คุ้นเคย หนังสือเล่มใหญ่เล่มที่เพิ่งทำเสร็จวางอยู่ข้างหน้า ลูกไม้ยังไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เราชี้ชวนให้เขาเล่นบัตรคำเก่า ๆ ก่อน เกือบ 10 คำ แน่นอนว่าชั่วโมงนั้น เราไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เพียงแค่ยกบัตรคำชูขึ้น ลูกไม้ก็จะอ่านออกเสียงออกมาเลยถึงแม้จะไม่ชัดเจน แต่ก็สามารถรู้ได้ว่าเขาหมายถึงคำ ๆ นั้น และถูกต้อง เพราะถ้าคำ ๆ นั้นสามารถชี้ได้ว่าคือสิ่งไหน ที่เห็นอยู่เขาก็จะชี้ไปทางสิ่งนั้นพร้อมกับอ่านบัตรคำ เป็นที่น่าสังเกตแต่ไม่กล้ายืนยันค่ะ สิ่งหนึ่งที่ฉันค้นพบเมื่อสอนลูกอ่านหนังสือก็คือ ลูกไม้พูดได้คล่อง ชัดเจน เร็วกว่าเด็ก ๆ วัยเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะว่าทุกคำที่ เราสอนเขาอ่านจากบัตรคำ เขาจะรับด้วยประสาททั้งหมด ตาเขามองปากเรา หูได้ยินชัดเจน และปากเขาก็เลียนเสียงทันที ไม่เหมือนกับเด็กที่พูดเป็นเพราะ รับมาอย่าง เผิน ๆ จึงพูดผิดมั่งถูกมั่ง
แล้วบททดสอบก็ผ่านไปอย่างง่ายดาย ทันทีที่เปิดหนังสือ ฉันชวนให้เขาดูรูปก่อนทั้งรูปวาดและรูปถ่าย แล้ว ชี้ให้ลูกอ่านเป็นคำ คำ ไป ลูกอ่านได้จริง ๆ ค่ะ( ฉันพยายามหาหนังสือเล่มแรกของลูกเพื่อจะนำมาโชว์ ไว้ที่นี่ แต่เนื่องจากการเข้าเล่มไม่ค่อยจะแข็งแรงนักและเป็นเล่มโปรดของลูกไม้ จึงทำให้ถูกลากถูไปถูมาจนฉีกขาด ถึงแม้จะมีการปะครั้งแล้วครั้งเล่า จนท้ายที่สุดแทบจะมองไม่ออกว่าเป็นหนังสือค่ะ) แต่ ถึงแม้จะสูญหายไปจนไม่เหลือซาก แต่ฉันยังจำประโยคในนั้นได้ ประมาณนี้ค่ะ 1.คุณพ่อ รัก คุณแม่ ลูกไม้ รัก คุณแม่ ลูกไม้ รัก คุณพ่อ เรา คือ ครอบครัว
2. ลูกไม้ นั่ง เก้าอี้ ลูกไม้ ยืน บนโต๊ะ ลูกไม้ เดิน ลูกไม้ นอนหลับ 3. ลูกไม้ รัก ลูกหมี ลูกไม้ รัก หงอคง ลูกไม้ รัก พี่เต่า นี่ คือ ตุ๊กตา
4. คุณพ่อ ปลูก ต้นไม้ คุณแม่ ซักผ้า คุณพ่อ ล้างรถ คุณแม่ ทาสี เล็บ 5. ลูกไม้ มี ตา ลูกไม้ มี จมูก ลูกไม้ มี ปาก นี่ คือ หน้าตา 6. ลูกไม้ มี แขน ลูกไม้ มี ขา ลูกไม้ มี พุง นี่ คือ ร่างกาย นี่คือตัวอย่างค่ะ มันคือคำที่อยู่ในบัตรคำทั้งหมด เพียงแต่ นำมาผูกเป็นเรื่องอย่างง่าย ๆ และสามารถเข้าใจได้ มีรูปถ่ายและรูปวาดประกอบ เป็นรูปถ่ายของเขา คุณพ่อ คุณแม่ ของเขา และตัวหนังสือที่เขาคุ้นเคย เป็นหนังสือของเขาอย่างแท้จริงค่ะ เราพยายามผูกประโยค วาด และถ่ายรูปประกอบ โดยใช้คำทั้งหมด ที่ลูกรู้จัก ทำเป็นหนังสือเล่มที่ 2 ,3,4 ให้เขา นับว่าประสบความสำเร็จค่ะ ที่ลูกไม้รักและสนใจหนังสือของเขามาก
มันเป็นการเริ่มต้น ปูรากฐานที่ดีให้กับลูกค่ะ ฉันกับพ่อน้อยส่งลูกไม้ไปโรงเรียนเมื่ออายุ 2 ขวบเป็นสถานที่เตรียมความพร้อม ไม่ได้เป็นเชิงวิชาการค่ะ และคุณครูที่นั่นทึ่งกับลูกไม้จนแอบมากระซิบถามว่า สอนลูกยังไง ที่เห็นหนังสือไม่ได้เป็นต้องวิ่งเข้าหา ทั้ง ๆ ที่มีของเล่นอยู่เต็มไปหมด ลูกไม้ก็จะเลือกหนังสือ จับขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เปิดอ่านทีละแผ่นอย่างสนอกสนใจ และลูกไม้ก็ยังเป็นเช่นนี้ตราบจนทุกวันนี้ค่ะ วัย 7 ขวบของเขา อ่าน แฮร์รี่ พอร์ตเตอร์ จบไปแล้ว ทั้ง 7 เล่ม แล้วยังมี นิทานอีสบ นิทานตอลสตอย นิทานนานาชาติและนิทานพื้นบ้าน อีกหลายเล่มค่ะ
ฉันคิดว่าเวลาที่ทุ่มเทสุด ๆ และเอาจริงเอาจัง ที่จริงแล้วมีเพียงช่วงเดียว คือตอนที่เขาอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ แต่มันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิตค่ะ ไม่ยากเลยจริง ๆ ค่ะที่จะทำให้ลูกรักการอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จากบทความ(เรื่องเล่า)ที่ ฉันเล่ามาทั้ง 5 ตอน จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจ ไม่มาก ก็น้อยนะคะ.
จบค่ะ
Create Date : 10 เมษายน 2551 |
|
18 comments |
Last Update : 10 เมษายน 2551 16:41:42 น. |
Counter : 2206 Pageviews. |
|
|
|
ตอนที่ขวัญกลับไปเมืองไทยก็นั่งทำบัตรคำให้
น้องข้าวสวยเหมือนกันค่ะ แต่ดันลืมเอากลับมาที่ออสเตรเลียน่ะค่ะ
ก็คงต้องนั่งทำใหม่ทั้งหมด
ไว้จะเข้ามาขอกำลังใจจากบล็อกนี้นะคะ