แม่ที่ลูกลืม
เรื่องมีอยู่ว่า..มีผู้หญิงคนหนึ่ง..อายุประมาณ..58 ปี

เธอมีอาชีพ..ขี่รถพ่วงรับจ้างรับส่งเด้กไปโรงเรียน..

สามีตาย..และลุกก้อโตๆแล้วก้อออกไปมีครอบครัวหมดแระ

ก้อนานจะมาหาสักครั้ง...เธอเลี้ยงชีพด้วยตนเอง..

เวลาว่างจากการส่งเด้กเรียบร้อยแล้ว..จะไปกวาดลานวัด..

ทำความสะอาดวัดที่อยู้ใกล้บ้าน...เราเรียกเธอว่า..ป้าตุ๋ย

ขณะที่ป้าตุ๋ย..ทำความสะอาดลานวัดนั้น

ก้อพบมีหญิงอีกคนหนึ่ง..อายุ.ประมาณ70กว่า..

ก้อมาช่วยทำความสะอาดวัดด้วย..

ป้าตุ๋ยก้อเข้าไปทำความรู้จัก..ผู้หญิงคนนนั้นชื่อ.ยายบุญหลง

ยายบุญหลงบอกว่าบ้านอยู่สารภี..อยู่คนเดียว..ลูกก้อออกไปมีครอบ

ครัวหมดสามีก้อตายไปแล้ว...ได้รับเงินเดือนจากลูกสาวคนที่สอง

เดือน..500 บาทในการดำรงชีวิต..วันนี้โชคดีที่มาเจอป้าตุ๋ยเพราะ

ยายบุญหลงจะมาที่วัดนี้เสมอ..บางวันไม่มีตังกลับบ้านก้อนอนที่ศาลา

วัดและพระจะเอาอาหารให้ทานเสมอ...และวันนี้ก้อไม่ได้กลับบ้านไม่มี

ตังคงนอนที่ศาลาวัดนี้แระ...ป้าตุ๋ยได้ฟังก้อรู้สึกสงสาร..เพราะตนเอง

ก้อเหงาและตกอยุ่ในสภาพเดียวกัน...จึงชวนยายบุญหลงไปนอนที่บ้าน

และอาศัยอยู่ด้วยกันช่วยกันมาทำงานวัดขอข้าวจากพระกินเพื่อยังชีพ
.....อยู่กันมาได้...2..ปี..

โดยที่..ป้าตุ๋ยจะไปส่งยายบุญหลง...ไปรับเงินเดือน.

จากลูกสาว..คนกลางเดือนละ...500บาท

ทุกครั้งที่ไปบ้านลุกสาว...ยายบุญหลงได้แค่เกาะรั้วบ้าน..เพราะลูกสาว

จะไม่ยอมให้ยายบุญหลงเข้าบ้าน...ถ้าประตูบ้านกำลังเปิดอยู่และ

ยายบุญหลงไปถึงพอดี..และหลานชายยายบุญหลงจะไปเรียกแม่ว่า

ยายมาลูก

สาวยายบุญหลงจะสั่งให้ลุกชายไล่ยายบุญหลงออกบ้านให้ไปรอที่

ประตูรั้วหน้าบ้านแล้วบอกว่าห้ามไม่ให้เข้ามาในบ้านเด้ดขาด

วันหนึ่งยายบุญหลงป่วยหนักนอนที่บ้านป้าตุ๋ย

ป้าตุ๋ยรีบไปบอกลูกสาวยายบุญหลงว่าแม่ป่วยหนัก

ขอให้รีบพาไปโรงพยาบาล...

ลูกสาวยายบุญหลงกลับบอกว่า..ให้พากันไปเอง

และถ้ามีอะไรมากกว่านี้ค่อยมาบอก..จะไปจัดการเอง..

ป้าตุ๋ยไม่รู้จะทำอย่างไร..ตนเองก้อไม่มีเงินมากมาย

ไม่รู้จะพายายบุญหลงไปโรงบาลไหนได้...

จึงโทรศัพท์..ไปในรายการร่วมด้วยช่วยกัน..

ขอให้เขาเอารถมารับยายบุญหลงไปโรงพยาบาล...

และขอให้ติดต่อสถานสงเคราะห์คนชรารับยายบุญหลงเอาไป

เลี้ยงด้วย..เจ้าหน้าที่ก้อมารับไปและติดต่อสถานสงเคราะห์คนชราให้

ยายบุญหลงได้พักพิง.
เจ้าหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกัน..ก้อเอา

ป้าตุ๋ยกับยายบุญหลงมาซักถามในรายการร่วมด้วยช่วยกัน

ทางเคเบิ้ลทีวี

ออกอากาศไปทั่วประเทศ

ป้าตุ๋ยเป็นคนเล่าให้ฟังตามคำบอกของยายบุญหลง

ยายบุญหลงยังป่วยอยู่...พูดมากไม่ได้

ยายบุญหลงมีลูก3คน..

คนโตได้สามีอยู่ยีปุ่น..หายเงียบไป

คนกลางแต่งงานสามีทำงานบริษัท...ตนเองทำงานบริษัทเหมือนกัน

คนเล้กเป้นภรรยาของคนในเครื่องแบบอยู่ทางภาคใต้

มีบ้านที่สารภี..แต่งลุกสาวทำเป็นบ้านเช่า..เก็บเงินมาให้แม่

เดือน..500..บาท...

ป้าตุ๋ยก้อเล่าว่า..หลังจากยายบุญหลงหายป่วยและไปพักบ้าน

สถานสงเคราะห์คนชรา..ก้อนำข่าวไปบอกลุกสาวคนกลาง

เขาก้อบอกว่าดีแล้ว..ต่อไปก้อไม่ต้องมาบอกอะไรอีก

นอกจากมีถ้ามีการเสียไป..ค่อยมาบอก...

ป้าตุ๋ย..ยังบอกว่าตอนนี้ก้อไปเยี่ยมยายบุญหลงที่สถานสงเคราะห์

คนชราอย่างสม่ำเสมอ..ดดยป้าตุ๋ยบอกว่าป้ายังดีที่ยังทำงานเลี้ยงตน

เองได้แต่อนาคตไม่แน่..อาจจะได้ไปอยู่ที่เดียวกับยายบุญหลง



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2550 13:27:19 น.
Counter : 444 Pageviews.

4 comments
  
อ่านแล้วรู้สึกยังไงคิดว่า เรา ๆ ที่ได้อ่านคงรู้สึกเหมือน ๆ กัน

เลยมีคำถามว่า "แล้วเราได้ทำอะไรให้แม่บ้างหรือยัง"

ฉันเองเป็นลูกคนเดียว เรียนจบก็ได้งานที่ต่างจังหวัด ต้องออกมาทำงานคนเดียว ส่งเงินให้แม่ทุกเดือน กลับบ้านได้ช่วงหยุดเทศกาล แต่ฉันกับแม่จะคุยกันทุกวัน ผ่านทางโทรศัพท์

ความจริงฉันเองมีความฝันที่อยากจะไปอยู่ต่างประเทศนะ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะทำได้รึป่าว และถ้าถึงเวลานั้นฉันทำได้ แล้วฉันจะไปอยู่ได้มั้ย เพราะฉันมีแม่อยู่ที่นี่

ลูกคนเดียวลำบากเหมือนกันนะ เพราะบางทีอะไรที่ฉันอยากทำฉันจะทำไม่ได้ เพราะฉันคิดถึงแม่ก่อนตัวฉันเองเสมอ บางทีก็ต้องปล่อยให้ความฝันของฉันเองผ่านไป เพราะฉันเลือกแม่คนเดียวของฉันมากกว่าใคร ๆ
โดย: ปุย (MooPui ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:52:36 น.
  
อ่านแล้วรู้สึกถึงคำนี้ค่ะ ลูกสิบคนแม่เลี้ยงได้
แต่แม่คนเดียวลูกสิบคนเลี้ยงไม่ได้
ใจคนเรามันทำด้วยอะไรหนอ อยากรู้จริงๆ
โดย: บัวริมบึง วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:54:37 น.
  
หวัดดีค่ะ เราเองมีความรู้สึกคล้ายๆ เจ้าของบล๊อคนะ ต่างตรงที่แม่มีลูกหลายคน แต่เราเป็นลูกคนเล็ก ธรรมชาติของลูกคนเล็กคือจะถูกแม่เลี้ยงแบบติดตัวมากๆ เราเองจะคิดทำอะไรที่ไกลๆ ออกไป เช่นย้ายไปอยู่คนเดียว ก็ต้องคิดถึงแม่ก่อน เพราะรู้ว่าแม่คงเป็นห่วงและกังวลมากๆ ทุกวันนี้ฉันอาจถูกญาติบางคนมองว่าทำงานก็ดีทำไมยังไม่คิดจะย้ายไปไหน ฉันได้แต่ยิ้มๆ ไปเพราะเหตุผลในใจฉันคือ ไม่ได้ห่วงแม่เท่ากับที่ห่วงว่าแม่นั่นแหละจะเป็นห่วงเรา ...
โดย: เสี่ยวลี่ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:27:33 น.
  
ที่ทำให้แม่ ที่อยู่กับแม่

ได้ความสุขมากมาย

หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
โดย: กายแก้ว วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:24:23 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

gripenator
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




: Users Online

hawaiihawaii
ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน ต้อนรับพ้องเพื่อน ทั่วทุกๆคน
hawaiihawaii
กุมภาพันธ์ 2550

 
 
 
 
2
3
5
6
7
9
10
11
13
14
15
16
17
19
20
21
23
24
25
26
27
28
 
 
8 กุมภาพันธ์ 2550
All Blog
Friends Blog
[Add gripenator's blog to your weblog]