กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
27 กุมภาพันธ์ 2551
 

มา‘รักษ์’ฟันกันเถอะ1



(ภาพจาก //www.blossomlove.com)

หมายเหตุ : ตอนแรกว่าจะตั้งชื่อตอนนี้ว่า "เปลือย-ฟัน 1" ... แต่ก็เกรงว่าจะติดเรทและห่างไกลจากเนื้อหาเกินกว่าเหตุ ก็เลยต้องมาใช้ชื่ออย่างที่เห็นอ่ะครับ

ผมมีความตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ (จะเห็นว่าได้ตั้งกรุ๊ปบล็อกนี่ไว้ ก่อนกรุ๊ปสุดท้ายจะเกิดซะอีก) ทั้งๆ ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพในแวดวงสาธารณสุขแต่ประการใด ... เนื่องด้วยผมก็จัดตัวเองว่าเริ่มเข้าข่าย ส.ว. บ้างแล้ว (ทั้งที่หัวใจยังเอ๊าะๆ อยู่ ) ดังนั้นจึงต้องหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างจริงจัง เพราะยามแก่ตัวลง ผมไม่อยากเจ็บออดๆ แอดๆ 3 วันดี 4 วันไข้ ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่ทุกบ่อย มันดูเป็นชีวิตที่น่ารำคาญตัวเองยังไงพิกลอ่ะครับ และในฐานะที่ ...
1. ผมมีพี่สาว (และล่าสุด รวมพี่เขยด้วย) เป็นทันตแพทย์
2. ผมรักการทานไอศกรีม, ขนมหวาน และลูกอม มาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นผมจึงมีปัญหากับสุขภาพฟันของตัวเองเป็นพิเศษ

ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็เป็นคู่แค้นกับหมอฟันมาตั้งแต่เด็กๆ เนื่องด้วย first impression สมัยนั้น มีหมอฟันท่านนึงเปิดคลินิกอยู่เยื้องๆ กับบ้านเก่าของผม (ซึ่งเป็นตึกแถวใจกลางเมือง) ที่ต่างจังหวัด ... วันดีคืนร้าย ผมเกิดอาการแมงกินฟันขนาดหนัก จนปวดทนไม่ไหว คุณแม่จึงพาไปยังแหล่งที่ใกล้ตัวที่สุด ก็คือร้านของคุณหมอท่านนี้เอง ซึ่งก็คงมือหนักอยู่พอสมควร เลยทำให้ผมฝังใจ จงเกลียดจงชังการต้องไปพบหมอฟันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา (ไม่นึกไม่ฝันว่าพอโตขึ้นมา พี่สาวตัวเองกลับกลายมาเป็นหมอฟัน แถมยังแต่งงานกับหมอฟันด้วยกันซะนี่ )

สำหรับหัวข้อเกี่ยวกับฟันๆ นี่ ผมกะว่าจะเขียนซักพักนึง เท่าที่ตัวผมเองพอจะมีความรู้อยู่บ้าง แต่ถ้าเกิดมีผู้อยู่ในวงการท่านใดผ่านมาอ่าน แล้วเห็นว่าข้อมูลของผมไม่ถูกต้อง รบกวนแก้ไขหรือเขียนแย้งได้เลยนะครับ เพราะผมก็ไม่ได้เขียนตามหลักวิชาการอะไร อาศัยแต่ประสบการณ์ที่ตัวผมเองเคยประสบมา กับข้อมูลเท่าที่ทราบมาจากพี่สาวเท่านั้นเอง และจะขอเปิดเนื้อหาด้วยคำถาม (หรืออาจจะเป็น ‘ความเชื่อ’) ที่มักมีผู้คนสงสัย (แต่ไม่ค่อยใส่ใจ) เรื่องเกี่ยวกับฟันๆ กันอยู่บ่อยๆ เท่าที่นึกออกดังนี้ ...


+ ดูแลฟัน? ตอนแก่ทันมั้ย?
* หลายๆ คนดูแลสุขภาพด้านอื่นของตัวเองเป็นอย่างดี แต่กลับละเลยการดูแลฟันอย่างน่าเสียดาย (เดาว่าคนส่วนนึงอาจมีอคติกับหมอฟันตอนเด็กๆ เหมือนอย่างผม หรือไม่ก็กลัวเลือด, กลัวเครื่องกรอฟัน ฯลฯ) ... ทั้งๆ ที่สุขภาพฟัน เป็นสิ่งที่คุณต้องดูแลให้ดีไม่ต่างจากอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายคุณเช่นกัน

+ “เราควรไปหาหมอฟันตอนปวดฟันเท่านั้น ถ้าไม่ปวด ก็ไม่จำเป็นต้องไปหา”
* ข้อนี้เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึก‘ปวด’ฟัน แสดงว่าความเสียหายได้กินลึกเข้าไปถึงเนื้อฟันและโพรงประสาทฟันเรียบร้อยแล้ว ... ถ้าเป็นฟันน้ำนม ก็คงต้องถอนทิ้ง แต่ถ้าเป็นฟันแท้ ในยุคนี้ มีวิธีจัดการความเสียหายที่ซับซ้อนกว่านั้น ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป

+ หลังจากรักษาฟันเสร็จ หมอฟันมักจะย้ำว่าให้หมั่นไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน มันจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ?
* ภายใน 6 เดือนนั้น เมื่อคุณไปพบทันตแพยทย์อีกครั้ง หลักๆ เลยก็คือ หมอฟันจะจับคุณตรวจความเสียหายทั้งหมดของฟันทุกซี่ ว่ามีฟันซี่ใดของคุณที่เริ่มบิ่น หรือโดนแมงกินจนต้องอุดแล้วหรือไม่ ... นอกจากนั้น ถ้าคุณเป็นพวกชอบกินหินกินทราย เอ๊ย มีสารก่อหินปูนในน้ำลายอยู่สูง คุณก็อาจต้องรับการขูดหินปูน หรือถึงขั้น ‘เกลารากฟัน’ เลยก็ได้ ... และถ้าคุณรู้สึกว่า 6 เดือนมันบ่อยเกินไป ก็เว้นระยะเป็นซัก 1 ปี ก็คงน่าจะยังพอโอเช (มันก็เหมือนตรวจเช็คสุขภาพประจำปีนั่นแหละ) แต่ถ้าทิ้งไว้นานกว่านั้นเท่าไหร่ โอกาสที่ 'แมง' จะกินฟันคุณโดยไม่รู้ตัว ก็คงมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน

+ เกลารากฟัน?!? มันเป็นยังไงเหรอ?
* การขูดหินปูน ถ้าขูดหยาบๆ ก็คือใช้เครื่องขูด แต่ถ้าขูดแบบละเอียด หมอฟันจะลงมือขูดเองด้วยมือตัวเอง ... และถ้าเป็นหมอฟันผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเหงือก เค้าอาจขูดละเอียดกว่านั้น ด้วยวิธีที่เรียกว่า ‘เกลารากฟัน’ ก็คือขูดลึกลงไปอีกกว่าปกติ จนถึงรากฟัน (ซึ่งติดอยู่กับเหงือก) ... และแน่นอน เลือดก็จะออกกลบปากเยอะขึ้นด้วยเช่นกัน ... และเมื่อขูดแบบนี้เสร็จ คุณจะรู้สึกโล่งฟันขึ้นมาเลยทีเดียว

+ โฆษณาบอกว่า “ยาสีฟันยี่ห้อนี้ มีสารช่วยรักษาฟันได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ”
* เท่าที่ผมรู้มา ยาสีฟันเป็นแค่ส่วนประกอบในการทำความสะอาดฟัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ (เคยลองแปรงฟัน โดยไม่ใช้ยาสีฟันดูมั้ยล่ะ? ทำได้จริงๆ นะ) ดังนั้น เกลือ, สมุนไพร หรือสารอื่นๆ ที่ใส่เข้ามา อาจมีส่วนช่วยได้บ้าง แต่ก็คงไม่มากมายอะไร พระเอกจริงๆ อยู่ที่แปรงสีฟัน และไหมขัดฟันต่างหาก

+ โฆษณาบอกว่า “แปรงสีฟันยี่ห้อนี้ ซอกซอนลงลึกถึงร่องเหงือก หรือมีทันตแพทย์นิยมใช้มากที่สุด”
* เท่าที่ผมรู้ (อีกนั่นแหละ) ... แปรงสีฟันยี่ห้อที่ทันตแพทย์นิยมใช้มากที่สุด คือยี่ห้อที่ขายถูกที่สุด (หรือแจกฟรี) ในงานประชุมวิชาการทันตกรรมทั้งหลาย (ผมยังได้จากพี่สาวเพียบเลย) ฮา! ... และไม่มีแปรงยี่ห้อไหน มีสรรพคุณขนาดนั้น นอกจากการใช้ไหมขัดฟันเท่านั้น

+ “แปรงฟันแล้ว อย่าลืมแปรงลิ้นด้วย!” ... มันเรื่องจริง หรือเรื่องตลกกันแน่?
* ตอนที่ผมได้ยินครั้งแรก (จากพี่สาว) รู้สึกตลกจริงๆ นะครับ ... แต่มันคือความจริง! เพราะขนาดฟันที่เป็นกระดูกแข็งๆ ยังมีเชื้อโรค และสารที่กัดกร่อนให้ฟันผุเกาะอยู่เต็มไปหมด แล้วลิ้นจะไม่มีได้ไง ตัวสกปรกเลยล่ะ ... วิธีการก็แค่ปัดเบาๆ 3-4 ที เหมือนปัดตัวฟัน เวลาแปรงฟันนั่นแหละครับ (แต่ตอนทำทีไร ผมก็ขย้อน แอวะ! ไปด้วยทุกทีเลยนะ)

+ หลังทานอาหาร แล้วรู้สึกว่ามีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟันเต็มไปหมด จนต้องใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยมันออกมา ... แสดงว่าสุขภาพฟันเริ่มย่ำแย่แล้ว?
* เป็นเรื่องจริงครับ ... เพราะคิดดูว่าถ้าเรา ‘รู้สึก’ ได้ถึงขนาดนั้น แสดงว่าความจริงมันยิ่งแย่กว่านั้นไปอีก ... ฟันที่เปอร์เฟ็คต์ คือฟัน(และเหงือก) ที่ถูกจัดการทำให้เรียบ ไม่มีรอยหรือรู จนแทบไม่มีเศษอาหารหรือสิ่งใดๆ ไปอุดติดอยู่ได้อีก

+ “ขัดฟัน” จำเป็นแค่ไหน?
* ขอยืนยันว่าจำเป็นมากๆ ครับ ... ทันตแพทย์ที่เคร่งๆ (อย่างพี่สาวผม) เค้าขัดฟันทุกครั้งหลังทานอะไรเข้าไป หรืออย่างน้อยหลังอาหาร 3 มื้อด้วยซ้ำ ... ส่วนตัวผมเอง รู้สึกว่าชีวิตยุ่งยากมากไปหน่อย ก็เลยขัดฟันวันละครั้ง ก่อนเข้านอน (ก็ไม่รู้ว่าจะเพียงพอหรือไม่นะเนี่ย)

+ ทำไมเวลาแปรงฟัน หรือขัดฟัน ถึงชอบมีเลือดออกมาเยอะแยะทุกที
* เป็นสัญญาณว่าเหงือกคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว (ยิ่งถ้าแค่แปรงฟันแล้วมีเลือดออกมาที่ตำแหน่งเดิมบ่อยๆ นะ) ... ถ้าคุณจัดการกับเหงือกและฟันในแต่ละจุดนั้นๆ ให้แข็งแรงแล้ว เลือดจะไม่ไหลออกมาง่ายๆ

+ โรคเหงือก เป็นอย่างไร?
* เมื่อคุณฟันผุ ทันตแพทย์จะทำการอุดฟันให้ด้วยวัสดุอุดฟัน เช่นอะมัลกัม ลงไปที่พื้นผิวของตัวฟัน ... แต่โรคเหงือก จะเกิดจากการที่เชื้อโรคทำให้เกิดปฏิกิริยาคล้ายๆ กับฟันผุ แต่ไปเกิดบนเหงือกแทน (ซึ่งเราไม่สามารถอุดเหงือกได้!) นานวันเข้า เหงือกร่องนั้นจะค่อยๆ ร่นลงและกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เริ่มรู้สึกปวด, เริ่มส่งกลิ่นเหม็น และทำให้ฟันซี่ที่คร่อมอยู่บนร่องเหงือกนั้นทั้ง 2 ซี่เริ่มคลอน, โยกและหลุดออกมาได้ ถ้าไม่เข้ารับการรักษาโรคเหงือก (ซึ่งผมก็เคยเป็นมาเรียบร้อยแล้ว)

+ ทำไมทันตแพทย์บางคน ชอบแนะนำให้ผ่าฟันคุด มันจำเป็นแค่ไหน?
* ฟันคุด คือฟันซี่สุดท้ายที่ไม่โผล่แทงเหงือกออกมา (ซี่ 8#1 – 8#4) เนื่องจากกรามของคนยุคใหม่เริ่มสั้นลง ซึ่งบางคนก็อาจไม่มีเลย หรือมีแค่บางซี่ หรือมีครบทุกซี่เลยก็ได้ ... ถ้ามันหลบอยู่ในเหงือกตามปกติก็ไม่มีอะไร แต่ถ้ามันวางตัวผิดปกติ (ซึ่งก็มักเป็นเช่นนั้น) เช่นเอียง 45 องศา หรือล้มลงในแนวนอน ก็อาจไปเบียดฟันซี่ก่อนหน้า (ที่เราเห็นเป็นฟันกราม) ใต้เหงือก และทำให้เราเกิดอาการปวดขึ้นมาได้ ดังนั้นถ้าอายุยังน้อย แล้วเอ็กซเรย์พบ ส่วนใหญ่ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ผ่าออกเลย (มันไม่จำเป็นต้องมี และอาจก่อผลเสียแก่เรา ก็เหมือนไส้ติ่งนั่นแหละ) ... เพราะเหงือกและร่างกายจะฟื้นตัวได้ง่ายกว่าตอนไปผ่าเมื่อมีอาการ ตอนมีอายุแล้ว (ทุกวันนี้ ผมผ่าไปแล้วข้างนึง (2 ซี่) และยังทำใจผ่าอีกข้างไม่ได้เลยอ่ะ)

+ ทำไมคนผ่าฟันคุดเสร็จ ถึงรู้สึกปวดและมีเลือดออกเยอะกว่าถอนฟันปกติ?
* การผ่าฟันคุด ส่วนใหญ่ต้องผ่าเปิดเหงือก และการดึงเอาฟันคุดออกมา ซึ่งก็คือการขุดกระดูกออกมาจากร่างกาย นั่นเอง ... ก็ย่อมรู้สึกปวดและมีเลือดออกเยอะอยู่เป็นธรรมดา

+ ทำไมบางคนผ่าฟันคุดเสร็จ แล้วเกิดอาการ “ปากชา”?
* ฟันคุด ส่วนใหญ่จะอยู่ลึก ใกล้กับเส้นประสาทบริเวณนั้นมากๆ (ซึ่งโยงไปยังเส้นประสาทที่ปากด้วย) และเวลาผ่า หลายครั้งก็ต้องตัดออกเป็นชิ้นๆ แล้วคีบออกมาทีละชิ้น ซึ่งอาจไปสะกิดโดนเส้นประสาทที่ว่าเข้า และทำให้เกิดอาการปากชา แบบชั่วคราวได้ (พี่ผมเคยขู่ว่า มีคนไข้คนนึงเคยเกิดอาการ ปากชาถาวรไปชั่วชีวิต! ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า หุๆ)

+ การแปรงฟันที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไร?
* แปรงให้ครบทุกตำแหน่งที่สัมผัสกับอาหาร ทั้งด้านนอก-ด้านใน-ด้านบน ของซี่ฟัน และต้อง “ปัดขึ้น-ปัดลง” (ไม่ใช่ “ชักเข้า-ชักออก” สำหรับด้านนอก-ในของตัวฟัน)

+ แล้วการขัดฟันล่ะ?
* อย่างนึงที่บางคนขัดฟันแล้วเลือดออกเยอะจนไม่อยากจะทำต่อ (นอกจากที่บอกว่าเหงือกอ่อนแอแล้ว) ก็คือ คุณขัดฟันด้วยการ “ผ่าเหงือก” คือเอาไหมขัดฟันยัดลงไปตรงๆ ในร่องแล้วถูไปมา ซึ่ง “ผิด”
... การขัดฟันที่ถูกวิธีคือ ทุกร่องฟัน คุณต้องปัดไหมเข้าไปใต้คอฟันด้านหน้าและด้านหลัง อย่างน้อยตำแหน่งละ 1 ครั้ง (คือร่องละอย่างน้อย 2 ครั้ง) และทำซ้ำในตำแหน่งเดิม เมื่อรู้สึกว่ายังมี “อะไร (เช่นเศษหมู, เศษผัก)” หลุดติดไหมขัดฟันออกมาอยู่อีก จนกว่าจะไม่มีนั่นแหละ จึงจะถือว่าร่องฟันนั้นสะอาดแล้ว ให้ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนครบทุกร่องฟัน
... เมื่อเริ่มทำใหม่ๆ อาจใช้เวลาเป็น 10 นาที แต่เมื่อคุณทำซ้ำๆ ทุกวันจนรู้จักทุกตำแหน่งร่องเหงือกภายในปากของคุณแล้ว มันก็จะง่ายและเร็วขึ้น (ทุกวันนี้ผมใช้เวลาขัดฟันทั้งปาก ไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ) โดยร่องที่มีปัญหา อาจต้องใช้เวลากับมันนานหน่อย


+ ว่ากันว่า การไม่ขัดฟัน อาจก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้?!?
* ฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ! (เคยอ่านเจอที่ไหนซักที่ จำแหล่งอ้างอิงไม่ได้แล้ว) ... เพราะเหงือกที่อ่อนแอ เชื้อโรคย่อมเข้าสู่ตำแหน่งนั้นได้ง่าย และเมื่อแทรกซึมเข้าไปได้ ก็ย่อมไหลเวียนไปสู่กระแสเลือดและไปยังหัวใจได้เช่นกัน

+ ทำไมบางคนปากเม๊น เหม็นจัง ยังกะมีหนูตายอยู่ในปากแน่ะ!!!
* ก็เค้าไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพฟันและเหงือกของตัวเองไงล่ะครับ ผมเคยมีเพื่อนคนนึง ปากเค้าเหม็นมั่กๆ เคยให้เค้าอ้าปากให้ดูแล้วไม่สงสัยเลย เพราะมีฟันบางซี่ แหว่งหายไปครึ่งซี่แล้ว! (อยู่มาได้ไงเนี่ย?) ... ถ้าแปรงฟัน และขัดฟันเป็นประจำ จนไม่มีฟันผุ ย่อมลดกลิ่นปากได้แน่นอน

+ น้ำยาบ้วนปาก จำเป็นแค่ไหนที่ต้องใช้?
* ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับ “ความมั่นใจ” มากกว่า เพราะยังไงๆ ถ้าเรายังกินข้าวอยู่ ในปากก็ย่อมมีเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเราทำความสะอาดฟันอย่างดี ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้มั้ง

+ บางคน (รวมทั้งผมด้วย) ชอบทานของหวานๆ อย่างไอศครีม, เค้ก, คุ้กกี้, ลูกอม จะทำไงดี?
* ถ้าชอบก็ช่วยไม่ได้ วิธีแก้ที่ดีที่สุด คือแปรงฟันทุกครั้งหลังจากทาน เพื่อไม่ให้เหลือน้ำตาลเป็นอาหารแก่แบคทีเรียในช่องปาก ...แต่บางขณะที่ไม่สะดวก(อย่างเช่น เดินห้างอยู่) ก็ใช้วิธีเอาน้ำในห้องน้ำ กลั้วล้างปากไปพลางๆ ก่อนก็ได้ครับ น่าจะช่วยได้ในระดับนึง

+ แล้วหมากฝรั่งล่ะ?
* แบบไม่มีน้ำตาล ก็น่าจะย่อมดีกว่า (และแพงกว่า) อยู่แล้ว ... แต่บทวิเคราะห์เมื่อเร็วๆ นี้ แจ้งว่า สารซอร์บิทอล (ที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล) ทานเยอะๆ จะเป็นยาถ่าย! ดังนั้น ก็อย่ากินหมากฝรั่งเหล่านี้เยอะเกินไป (และก็ยังมีบทวิเคราะห์อีกว่า การเคี้ยวหมากฝรั่ง ช่วยให้ฉลาดและมีความจำดีขึ้น ด้วยนะเออ – นัยว่าคงเป็นการบริหารช่วงกราม (ซึ่งอยู่ใกล้สมอง) ให้เกิดความเคลื่อนไหวล่ะมั้ง ผมจำเหตุผลไม่ได้แล้วอ่ะ)


... คงเขียนคร่าวๆ เท่านี้ก่อน และผมก็ได้แต่หวังว่า บทความนี้คงจะไม่หนักหัวจนทำให้ผู้อ่านเกิดอาการ ‘ขี้เกียจอ่าน’ และถ้ามันจะช่วยกระตุ้นให้ท่านผู้อ่าน ได้ตระหนักถึงการรักษาสุขภาพฟันของพวกท่านขึ้นมามากกว่าเดิมบ้าง ก็นับว่า 'สาร' ที่ผมต้องการส่ง บรรลุผลสำเร็จแล้ว

... สำหรับตอนหน้า อาจว่าลึกลงไปอีกนิด เช่นเรื่องเกี่ยวกับการรักษารากฟัน-ทำครอบฟัน-ฟันปลอม และเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ ส่วนใครจะถามอะไรเพิ่มเติมก็ทิ้งคำถามไว้ได้นะครับ ถ้าผมตอบไม่ได้ ผมจะไปถามพี่สาวผมมาตอบให้
... และขอ ‘ฟันดี’ จงอยู่คู่กับทุกท่านไปจนแก่เฒ่าครับผม


Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:23:34 น. 67 comments
Counter : 1031 Pageviews.  
 
 
 
 
ถ้า ฟันห่าง จำเป็นมั้ยที่จะต้องจัดฟัน
 
 

โดย: เล็ก IP: 118.173.64.249 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:39:50 น.  

 
 
 
...



ตอนเด็กๆผมเป็น "โรคจิต" อยู่พักนึงครับ
(ต้องใช้คำว่า โรคจิต เลย)

คือตอนจะเข้านอน
ชอบที่จะไปเปิดตู้เย็นหยิบ ชิ้นหมูทอด หรืออะไรที่แช่อยู่ในตู้เย็นมาอมไว้
แล้วขึ้นไปนอนห่มผ้าไป เคี้ยวไป
(ไม่รู้มันมึความสุขตรงไหน? )

แถมยังไม่ชอบแปรงฟันอีก
จะแกล้งบีบยาสีฟันลงพื้นหน่อยนึง
เอาเท้าเหยียบๆเอาน้ำราดตามให้มีฟอง
ใครเข้ามาตรวจจะได้คิดว่าแปรงแล้ว

สุขภาพฟันเลยแย่มากครับ



ต่อไปนี้จะใช้ทั้ง "ไหมขัดฟัน" และ "น้ำยาบ้วนปาก" เลยครับ
(ซึ่งมีอยู่แล้ว ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง)


ขอบคุณสำหรับความรู้ที่เป็นประโยชน์ครับพี่



ป.ล.เรื่องบอล ผมว่า อาร์เซนอล น่าจะหันมาเน้นบอลลีกนะ เพราะได้เปรียบอยู่
ขอแค่ไม่แพ้ แมนฯยูฯ ในนัดเจอกันก็พอ

ส่วน UCL เดี๋ยว หงส์แดง จัดการคว้ากลับอังกฤษให้แทนครับ




 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:40:39 น.  

 
 
 
ขอบคุณครับ
 
 

โดย: genova IP: 124.120.104.155 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:44:20 น.  

 
 
 
ก็อยากจะรักอยู่หรอกนะ...แต่มันผุจะหมดปากอยู่แล้ว...
ไม่รู้จะรักษายังไงแล้วอ่ะ...


แล้วที่สำคัญกลัวหมอฟันมาก..เพราะเคยไปถอนฟันหมอฉีดยาชา...แต่มันยังไม่ทันชาหมอก็ถอนซะแร้ว....
เจ็บอย่าบอกใคร....มันกลับมาชาตอนถึงบ้านแล้วโน่นแหนะ...


นี่ก็ตั้งท่าจะไปปฏิสังขรณ์หมดปากอยู่นี่...แต่ยังทำใจไม่ได้...มันเสียวววววววว
 
 

โดย: big-lor วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:52:29 น.  

 
 
 
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะ...
 
 

โดย: นางสาวหญิง IP: 61.91.167.10 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:19:54 น.  

 
 
 
ตอบ ... ตอบ #1
+ คุณเล็ก : ปกติการจัดฟัน ในความเข้าใจของผม จะเป็นงานในแง่ 'เสริมสวย' ให้เวลาเรายิ้มแล้วดูดีขึ้นนะครับ เพราะงั้นถ้าฟันไม่ห่างซะจนทำให้เกิดปัญหาในการบดเคี้ยว หรือผิดรูปจนมีเศษอาหารเข้าไปติดได้เยอะๆ ก็อาจไม่จำเป็น ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น่าจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์ (และควรใช้วิจารณญาณ ว่าเค้า 'เชียร์แขก' ให้จ่ายเงินค่าจัดฟันอยู่หรือไม่) เป็นหลักอ่ะครับผม

+ นัท-คุง : ใช้เถอะครับ เพราะตอนปวดฟันขึ้นมา มันอยากเอาหัวไปโหม่งกำแพงซะเหลือเกิน
... ขอให้ทั้งหงส์ และปืน เข้าสู่ UCL รอบต่อไปให้ได้ทั้ง 2 ทีมเลยนะคร้าบ สาตุ๊

+ คุณ genova : ไม่เป็นไรมิได้ครับ ... แค่รู้สึกว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับชุมชนชาวบล็อก ผมก็มีความสุขแล้วอ่ะครับ

+ พี่บิ๊ก-ชะ-หล่อ : เสียวมาก ตอนหมอฟันขอดูด ... เอ๊ย ดูปากใช่มั้ยล่ะคับ? กรั่กๆ
... รีบปฏิสังขรณ์ก็ดีนะคับ พี่บิ๊กก็ปูนนี้แล้ว มะงั้นเด๊วต้องใส่ฟันปลอมหมดปากเน้อ อิๆ

+ คุณนางสาวหญิง : แหะๆ ตอน 2 คงอีกพักใหญ่ๆ เลยอ่ะครับ ผมเป็นพวกชอบเขียนอะไรแล้วคาๆ ไว้ซะด้วยจิ ... ต้องรอจนกว่าจะมีแรงบันดาลใจใหม่อีกครั้งอ่า
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:36:42 น.  

 
 
 
ผมจัดฟันเสร็จมาประมาณ ปี สองปี ได้ละ

ตอนนี้ก็พยายามรักษาความสะอาดฟันมาตลอดนะคับ

(ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพียงพอรึเปล่า)

ตอนจัดฟันเค้าจะเอาสิ่งที่คล้ายๆวงแหวนเหล็กมาครอบฟันอ่ะ

พอจัดฟันเสร็จก็เอาออก ฟันกรามด้านในเลยเป็นร่องระหว่างฟันเลย

ชิ้นเนื้อ เศษผัก ก็เลยชอบไปติดอยู่เรื่อยๆเลย

เซ็งจังง่า
 
 

โดย: prezcot วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:48:45 น.  

 
 
 
แวะมาเติมความรู้เกี่ยวกับ "ฟัน" แบบทันด่วนค่ะ
แปงเริ่มเบื่อการเข้าคลินิกแล้วล่ะพี่วิน เพราะจัดฟันมา6ปี ยาวนานมาก กับหมอฟันคนที่จัดฟันด้วย เดี๋ยวนี้สนิทจนหมอชอบให้แปงแนะนำหนังสือน่าอ่านๆให้ฟัง ฮะฮะ

แปงคล้ายๆพี่วิน ชอบเค้ก คุกกี้ ลูกอม เหอ เหอ

คิดเล่นๆ นี่ถ้าไม่มีฟัน หรือ ฟันผุ หรือ...คนลำบาก
เคี้ยว+บด ก็ลำบากไปหมด แถมไม่สวยด้วยเวลายิ้ม ฮะฮะ

 
 

โดย: pangz วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:50:07 น.  

 
 
 
อ่านแล้วเซ้าเศร้า

เป็นคนมีปัญหาเรื่องฟันมากๆ

สะเทือนใจ

เง่อ

ถ้าย้อนเวลาได้ ก็อยากรักษาดูแลฟันให้ดีกว่านี้ง่ะ
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:02:16 น.  

 
 
 
เค้ามีเฟิร์สสสสอิมเพร็สสสชั่น กะหมอฟันดีมากๆเรยอาหยอด
แบบว่าพี่คณะทันตะเค้าอยากได้เคสสส แบบว่านะมาอ้อนให้ราวไปเป็นหนูทดลองน่านแหร่ะ
แต่ ง่ะ แต่...แม้ว่าคุณจะหล่อเยี่ยงไรก็ตาม อาม่าคนบ่งาม จ้างให้ก็บ่ไปอีกแบบว่า
มานช้าง่ะ เด็กน่อยทันตะ รักษายังไม่ทันใจม่าเรย ไม่ไปหาหมอฟันมาตั้งกะนั้นเรยเบื่อง่ะ
แต่ว่านะ หมอฟันมีแต่คนน่าฮักเนาะ โดยเฉพาะหมอพุ ญ กรี๊ดดดดดส์

เรื่องที่เค้าเคยทำครือผ่าฟันคุดง่ะ แบบว่าตอนแรกย่ากัวมากมีแต่คนขู่
ก็ท๊นนนทนไปจนหลายเพลา จนแก้มเบี้ยวค่อยตัดใจไปผ่าออก โว๊ววว
หมอฝีมือดีมาก จบมาจากมหาลัยเดียวกะเค้าด้วยพี่หมอเรย แถมอุดฟันให้ฟรี หนึ่งซี่อีกตั่งหาก

แต่ เรื่องไหมขัดฟันง่ะเค้าสงสัยอยุ่อย่างที่ว่ามีข่าวว่า
นักโทษแหกคุกด้วยการใช้ไหมขัดฟันหั่นลุกรงง่ะ มันเป้นจริงได้เหรอ ไม่อยากจะเชื่อ

ปล. ฝากถามพี่สาวหน่อยเด้ เค้ามีเขี้ยวง่ะ อยากจัดฟันตอนแก่ๆได้ปะ แบบว่าม่าอยากเลิกเป้นยักษ์
 
 

โดย: ซซ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:23:02 น.  

 
 
 
เลิมๆๆๆ

เลิมบอกว่าเค้าแอดตาเองในเน็ตเวิร์กๆแระเด้อ

 
 

โดย: ซซ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:29:55 น.  

 
 
 
ตอบ ... ตอบ #1.1
+ น้องหมอแม็กซ์ : มาเพิ่มเติมสิ่งที่พี่เขียนไว้ใน #1 เล็กน้อย
... จะบอกว่า สิ่งที่พี่ไม่เคยมีประสบการณ์ในวงจรเรื่องฟัน ก็คือการจัดฟันนี่แหละครับ ดังนั้นจึงอาจมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มากนัก
... และการจัดฟัน ในหลายๆ เคสก็อาจมีความจำเป็น กรณีการเรียงตัวของฟันแต่ละซี่ผิดรูป ไม่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเพียงพอ จนทำให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวลดลง
... สำหรับร่องฟันที่มีปัญหานั่น ก็คงต้องดูแลไปเรื่อยๆ เหมือนฟันซี่ที่พี่ทำครอบฟันไว้เหมือนกันอ่ะครับ

+ นู๋แปง : เดะรุ่นใหม่ จัดฟันกันเพียบเลยเนาะครับ

+ น้องหมีชุน : ยังไม่สายหรอกครับ ... จนกว่าฟันจะหลุดหมดจนต้องทำฟันปลอมโน่นแหละน่อ

+ ม่าซัมซุง : งั้นม่าก็เป็น 'อาม่าฟันงาม' ดิเนี่ย?
... ไหมขัดฟัน หั่นลูกกรง?!? ... kid ว่าไม่น่าเป็นไปได้เหมือนกันง่า
... ปูนเน้แว้ว ปล่อยทิ้งไว้ก็ได้มั้งม่า เขี้ยวซาเหน่ น่าฮักจะตาย (ถึงมีคนมาอยากกิ๊กม่าหลายคน เพราะเง้เน่เอง หุๆ)
... รับแอ๊ดให้แว้วจ้า
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:20:23 น.  

 
 
 
ตอนเด็กๆ แม่บอกให้แปรงฟันก่อนนอน แต่ไม่ค่อยชอบแปรงเลย พอโตขึ้นมา ก็มานั่งเสียใจ ถ้ารู้ว่าอย่างนี้ ก็แปรงตั้งแต่ตอนนั้นแล้วววว
 
 

โดย: butbbj วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:09:54 น.  

 
 
 
ผมจะโดนแม่เรียกไปจัดฟันอยู่เรื่อย
แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด

ทำใจรับสภาพตัวเองตอนมีเหล็กดัดไม่ได้น่ะ - -*
+ เพื่อนที่จัดก็มาขู่ว่าจัดแล้วช่วงแรกๆจะกินไม่ได้เลย
+ แปรงฟันก็ยากลำบากแสนเข็ญ (ปกติก็ไม่ได้แปรงสะอาดเท่าไหร่อยู่แล้วเนี่ยสิ - -*)
 
 

โดย: nanoguy IP: 125.24.87.79 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:42:14 น.  

 
 
 
...



แว่บงานเข้าไปเจอพี่ว่าถึงเรื่อง ไข่ พอดี

เลยขอก๊อปเนื้อหาที่เคยอัพไว้มาแปะให้พี่อ่าน

ไม่ยืนยันความถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ




"...ปริมาณคอเลสตอรอลในเลือดของเรานั้น เป็นผลมาจากอาหารที่เรารับประทานเพียงแค่ 10% เท่านั้น
อีก 90% ที่เหลือ "ตับ" ของเราเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

"โดยตับสร้างคอเลสตอรอลมาจาก "กรดไขมันอิ่มตัว"

"และกรดไขมันอิ่มตัวก็เข้าสู่ร่างกายผ่านสื่อกลางคืออาหารประเภท "นม", "เนย", "เนื้อสัตว์ติดมัน" และ "น้ำมันปาล์ม"

"เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้คอเลสตอรอลในร่างกายสูงเกินไป เราก็ควรงดเว้นการรับประทานอาหาร 3 - 4 ประเภทดังกล่าวข้างต้นเสีย

(ไข่ไก่ 1 ฟอง มีโปรตีน 8 กรัม = นม 1 แก้ว แต่มีสารเลซิทินซึ่งช่วยบำรุงสมองสูงกว่า)


นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 29 ธ.ค. 49 - 4 ม.ค. 50
คอลัมน์ธรรมชาติบำบัด โดยนายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล





แล้วไว้มาคุยกันต่อทั้งเรื่องนี้และเรื่องอื่นพี่ ไปล่ะ




 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:44:24 น.  

 
 
 
รู้สึกภูมิใจที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสุขภาพปากและฟันแบบนั้น
อิอิ

ก็เลยไม่เคยมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับหมอฟัน
แถมเวลาถ้าต้องไปหาหมอฟัน
ทุกคนก็จะปฏิบัติด้วยอย่างดี เพราะแม่ก็เป็นหมอฟัน


ไม่รู้จะพูดอะไรดี
หัวข้อเรื่องฟันเป็นอะไรที่ใหญ่โตสำหรับคนอื่น
แต่ต้นกลับไม่ค่อยนึกถึงเลย...ก็มันไม่มีปัญหาอะไรนี่
 
 

โดย: Unravel วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:01:20 น.  

 
 
 


รู้สึกคุ้นๆกะหมอฟันจนเกือบจะได้เป็นหุ้นส่วนชีวิตกันอยู่แล้ว ..

ลงลึกเลยนะวินเรื่อง "ฟัน" เนี่ยได้สาระเพียบเลย

ปล.อย่าไปสวัสดีใครๆอย่างท่าที่ "ฟูฟู" เค๊าทำล่ะ อายเค๊าตายเลย
 
 

โดย: ดาวทะเล วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:46:56 น.  

 
 
 
พี่วินพี่วินค่ะ
ทำไมต้องลงท้ายด้วย
t
ด้วยล่ะค่ะ
 
 

โดย: pangz IP: 118.173.127.169 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:53:30 น.  

 
 
 
ตอบ ... ตอบ #1.2
+ คุณ butbbj : อย่าเสียใจไปเลยครับ เด็กๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบคุณเกือบหมดแหละ แหะๆ

+ เจ้า(ที่)ตี้ : ถ้าให้พี่ไปจัดฟัน พี่ก็คงบายเหมือนกันครับ รู้สึกชีวิตที่มีโครงเหล็กอยู่ในปากหลายๆ ปี มันดูยุ่งยากพิกลอ่า

+ นัท-คุง : อาหาร 4 ประเภทที่ว่ามา พี่ก็ลด ละ เลิกอยู่นะครับ อย่างเวลาทานเนื้อ ก็จะต้องพยายามตัดส่วนติดมันทิ้งไปให้หมดก่อนอ่ะครับ

+ น้องต้น : โอย! ลูกชายทันตแพทย์นี่เอง ... พี่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนซะแล้วจิเนี่ย

+ พี่ปุ๊ก : อูววว ... พี่เคยมีอดูตกิ๊กเป็นหมอฟันด้วยเหรอคับเนี่ย อิๆ
... จริงๆ ก็ไม่ลึกเท่าไหร่นะครับ เป็นความรู้พื้นฐานทั่วๆ ไปที่เราควรจะมีสิทธิ์รู้ จะได้ดูแลฟันตัวเองอย่างถูกวิธีได้อ่ะครับผม
... 'ท่านั้น' ของฟูฟู ถ่ายได้ใจเจงๆ อ่ะครับ เอิ๊กๆ

+ นู๋แปงแปง : พี่ก็สงกะสัยเหมือนกันจ้ะ กะอ้าย t เนี่ย เง้งเง็งและงง
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:28:43 น.  

 
 
 
ทอดที มาช้า..วันนี้ ง่วนแต่การเอารถไปติดก๊าซ...นั่งๆนอนๆ ตีลังกาดู โอ้โหแฮะ...ยากส์เหมือนกัลล์....


อาบรู๊วว...เราก็มีปัญหาคนนึงเหมือนกันนะ..เรื่องฟัน..

ฟันไม่ถูกที่ถูกทาง...

อิอิ..

ไม่ช่าย...........

มันหนาวหงะ....เลย ฟันออกปาก...อิอิ....ตอนนี้ก้อดัดอยู่หงะ......

ทำไม๊ ทำไม พี่ชายเราเป็นหมอ..ทำไมไม่รักษาให้เราฟระ...อ้าว ลืมไป..หมอ หมานี่หว่า..(สัตว์แพทย์)..

ปล...เดี๋ยวมาใหม่...เน่อ..ขออัพบล็อค ตอนเที่ยงคืนก่อน...

 
 

โดย: ลิงจ๊ากจ๊าก วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:34:43 น.  

 
 
 
จบมาหลายปีอะไร หน้าข้าพเจ้ายังเบบี๋เฟซซะขนาดนี้ โฮะๆ

อ่านเรื่องฟันๆเยอะแยะเลยวันนี้ บางทีผมรู้สึกปากไม่สะอาดพอก็ใช้น้ำยาบ้วนปากนะ..บางอารมณ์ก็รำคาญจนอยากจะงัดฟันออกมาแปรงข้างนอกแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่เหมือนฟันปลอมเลย 55+

ส่วนเรื่องหมาฝรั่งผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกันคับว่าจะช่วยในเรื่องของความจำ
...แต่ที่เคยอ่านเขาบอกเป็นการช่วยในระยะสั้นๆเท่านั้นอ่ะ แบบอ่านหนังสือก่อนสอบไรเงี๊ยะ(จริงเท็จไม่รู้นะคับ คลับคล้ายเหมือนจะเคยอ่านจากนสพ.เฉยๆ)

 
 

โดย: P_Poy วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:01:43 น.  

 
 
 
+ ดูแลฟัน? ตอนแก่ทันมั้ย? << ไม่เห็นจะตอบคำถามเลย

หมอฟันมักจะย้ำว่าให้หมั่นไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน << เป็นหลักการตลาดของหมอฟันหรือเปล่า 555 อ่ะ ล้อเล่นนะ

+ “แปรงฟันแล้ว อย่าลืมแปรงลิ้นด้วย!” << ขอแหวะด้วยคน ไม่ไหวเหมือนกัน แต่คงต้องทำให้ชิน

เป็นบทความที่มีความรู้จริงๆ แต๊งค์มากมาก ที่เอามาเผยแพร่

เห็นต้นแซวที่บลอกเรา ก็น่ากลัวจริง
 
 

โดย: fzero วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:05:35 น.  

 
 
 
zwani.com myspace graphic comments
Myspace Hello Comments & Graphics

แหม..นึกว่าเป็นหมอฟันเองซะอีกค่ะ
มีประโยชน์มากมายเลยที่เข้ามาอ่านบล็อคนี้..
ไปล่ะไปรับอดีตนายกฯก่อน อิ อิ



หากมีเวลาจะแวะไปดูภาพยนตรฺยอดเยี่ยมประจำปีที่แล้วซะหน่อยค่ะ..
 
 

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:25:04 น.  

 
 
 
ได้ความรู้ดีมากๆ ค่ะ

จะพยายามนะคะ



เอ่อ..ถ้าบอกว่า ไม่ได้ไปหาหมอฟันมาเกือบสิบปีแล้ว จขบ.จะตกใจมั้ยนี่?

แต่ตั้งใจว่าปีนี้จะไปตรวจหละค่ะ แหะๆ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:30:45 น.  

 
 
 
เป็นประโยชน์ดีครับ

- ตอนแปรงลิ้นก็จะต้องเกือบขย้อนทุกครั้งไปเหมือนกันครับ แต่เหมือนเคยอ่านเจอว่ามันก็มีประโยชน์เหมือนกัน เพราะมันช่วยปลุกประสาท ยิ่งเป็นการแปรงตอนเช้าหลังตื่นนอนด้วยแล้ว

อีกอันหนึ่งเขาว่าไว้ว่า ถ้าตอนเช้า แปรงลิ้นแล้วอาการจะขย้อนมันน้อย ก็หมายความว่าเรานอนหลับสนิทดีเมื่อคืน แต่ถ้าอาการจะขย้อนมันหนัก ก็แปลว่าเมื่อคืนเรานอนหลับไม่สนิท อันนี้ผมรู้สึกเองว่าใกล้เคียงความจริง

- ตอนผ่าฟันคุดมันทรมานดีจริงๆ ครับ ไม่เคยเห็นเลือดตัวเองในปริมาณมากขนาดนั้นมาก่อนเลย มีอยู่ซี่หนึ่งที่มันคุดฝังอยู่ในเหงือก หมอต้องผ่าเปิดเหงือก กระเทาะให้ฟันแตกเป็นชิ้นสองสามชิ้นก่อน แล้วค่อยเอาออกมา โห... รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นถนน กำลังถูกเครื่องเจาะกระเทกกระทั้น...

- เป็นอันว่าได้รับคำยืนยันว่ายาสีฟันมีผลน้อยกว่าแปรงสีฟัน ผมก็ได้แต่สงสัยครับ แต่ไม่รู้จะถามใคร ผมว่าเขาโฆษณากันจนเกินเหตุว่ายาสีฟันสามารถทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้กับฟันและเหงือกได้เยอะขนาดนั้น ทุกวันนี้ผมใช้ยานิดเดียวเอง ผมว่าสิ่งสำคัญของมันคือช่วยลดกลิ่นปากมากกว่าที่จะทำอะไรอย่างอื่น
 
 

โดย: คนทับแก้ว วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:10:24 น.  

 
 
 
emoemoemoemo


สรีสวัสดีครับอ้ายวิน
เป็นจะใดภ่องครับวันนี้ไปยะการสายแหมแล้วแม่นก่อครับ

เป็นจะอี้บ่อยๆเจ้านายเปิ้นจะไล่ออกบ่ฮู้เน้อ




emoemo
 
 

โดย: big-lor วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:15:21 น.  

 
 
 
ก่อนอื่นคงต้องสวัสดีก่อนเลยค่ะ ไม่ได้ทักทายกันมานาน
ใครว่ากันว่าคุณซ่า สว (ต้องขอบคุณเค้านะคะ อิอิ)
ไม่ได้ไปหาหมอฟันมานานเหมือนกัน ... แต่ส่วนตัวนิยมขัดฟัน แม้ไม่ได้แปรงฟันครบทั้ง 3 มื้อ แต่ก็จะบ้วนปากหลังรับประทานอาหาร แต่ก็อยู่ดีค่ะ มีปัญหาเรื่องฟันสึก ...


ส่วนเรื่องการแปรงลิ้น ก็แปรงทุกเช้า (เย็นไม่แปรง อิอิ) ก็มีอาการขย้อนบ้าง ไม่ขย้อนบ้าง ..... แต่ก็ดีค่ะ แปรงลิ้นแล้วรู้สึกดี มั่นใจมากขึ้นด้วย

พอได้อ่านblog แล้ว คงต้องหาเวลาไปหาหมอสักทีเหมือนกัน อิจฉาคุณซ่า ที่มีหมอฟันส่วนตัวถึง 2 ท่าน

รักษาสุขภาพนะคะ
 
 

โดย: ป้าจี่ IP: 203.149.46.70 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:01:23 น.  

 
 
 
ตาลิงจ๊ากฟันออกปากแปลว่าไงอะ ฟันไม่เข้ารึเป่า

แระจาตอบปังหาของม่าเป่า จัดฟันตอนแก่ได้ปะ
เค้ามีเขี้ยวสองข้างเรยง่ะ มะชอบสุดริดเรย มันเมหือนมีฟันซ่อนง่ะหยอด อ้อๆๆ ฝากถามอิก

เค้าเห็นมีแบบว่าโคสะนา ฟอกสีฟันแบบ คูล ไลท์มานเป้นไงอะ
แบบว่าอยากไปฟอกมั่ง
กินกาแฟ แระฟันไม่ขาว เรืองรอง ผ่องอำไพ...


ไปล่ะ ......
 
 

โดย: ซซ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:13:08 น.  

 
 
 
.. (2 บทนี้ ต่อจากของพี่บิ๊กนะกั๊บ)

เมื่ออารมณ์สปาร์ค
ก็ฉุดลากไปบรรจถรณ์
กอดก่ายสุมไฟฟอน
ห่อนหารักไว้พักใจ
บังเอิญลืมใส่ถุง
เรื่องเลยยุ่งไปกันใหญ่
โทต๊องมีน้องไว้
เป็นสายใยแห่งรักนิรันดร์


+
+
+
+
อ้าย...อ้าย....
ไปแป๊ะไว้จะอี้มันบ่ดีเน้อ...คนอื่นเปิ้นจะหาว่าอ้านเป็นคนกราม (กาม) โต...หูดำ

น้องเป็นห่วงขนาดเลยครับ....







จะใดก็เอามาใหม่นะ...เอาแบบเอ็กซ์วายแซดน้อยกว่านี้นิดนึงนะ...


 
 

โดย: big-lor วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:29:04 น.  

 
 
 
บล๊อกนี้ของวิน หนุ่ม ๆ น่าจะชอบเป็นพิเศษนะพี่โตสว่า .. เคล็ดลับเรื่อง " ฟัน " เนี่ย......... หุหุหุ

แต่สำหรับพี่โตส หญิงสาว (อยู่) ที่ใส่ใจเรื่อง " ฟันในปาก " อ่านแล้วต้องบอกว่า .. ทำบล๊อกออกมาสมกับเป็นน้องชายหมอฟันเลยนะวิน .. มีประโยชน์มากค๊าบ......

เห็นด้วยมาก ๆ เลยนะว่าหลังจากการขูดหินปูนจะรู้สึกโล่งฟันจริง ๆ เลยเนอะ .. พี่โตสจะชอบเอาลิ้นไปเขี่ย ๆ ตรงช่วงฟันล่างด้านหน้า .. รู้สึกลื้น......ลื่น.... สะอ๊าด... สะอาดดี .. ชอบ..... ล่ะ

พี่โตสเป็นคนที่เวลาแปรงฟัน จะพยายามนึกถึงตอนต้องไปหาหมอฟัน เพื่อเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่า .. อยากไปหาหมอฟันหรือเปล่ายะหล่อน..... ถ้าไม่อยากไปหา ก็แปร๊ง........แปรง ๆๆๆๆๆๆ มันเข้าไป ทุกซอกทุกมุม และหลาย ๆ ครั้ง พี่โตสจะใช้แปรงสองอันเลยล่ะ คือปกติจะแปรงด้วยแปรงสีฟันแบตเตอรี่ แต่ก็จะมีแปรงธรรมดาไว้ใช้ด้วย และหลายครั้งหลังจากแปรงด้วยแปรงแบต (อย่างน้อยสองนาที) ก็จะต่อด้วยแปรงธรรมดาอีกประมาณหนึ่งนาที .. อารมณ์ประมาณว่า .. ไม่อยากไปหาหมอฟันเฟร้ย.....
ฟังดูเหมือนกับว่าจะแปรงอะไรกันนักกันหนาวะ .. แต่ก็ได้ผลนะ .. ถึงฟันจะไม่เปอร์เฟค แต่ก็สุขภาพดี .. เพียงแต่ไม่ค่อยขาว เพราะดื่มกาแฟสองสามถ้วยต่อวัน .. ขนาดพยายามแปรงฟันหลังดื่มกาแฟทันที ยังไม่ได้ผลเลย .. เซ็ง...... แต่มันติดแหง่ก .. ไม่ดื่มแล้วจะลงดำ ..

เห็นด้วยมาก ๆ กับเรื่อง "ยาสีฟัน กับ แปรงสีฟัน" ว่าสำคัญอยู่ที่วิธีการแปรงฟันมากกว่า
นานมาก........... แล้ว เคยได้ยินมาโนชย์ พุตตาล เค้าบอกว่า เค้าใส่ยาสีฟันแค่จึ๋งนึงเวลาแปรงฟัน .. แล้วฟันเค้าก็ขาวค้าว...........ขาว พี่โตสก็เลยเชื่อเค้า...

แปรงลิ้นทีไรแล้ว .. อุแหวะ .. เหมือนกัน .. ก็เลยไม่ทำ ไม่ชอบความรู้สึกอุแหวะ

เรื่องไหมขัดฟัน .. ไปหาหมอฟันเมื่อไหร่ เค้าก็เน้นเรื่องนี้ทุกครั้งไป แต่ไม่เคยทำได้ทุกที .. แย่จัง .. ไม่รู้ทำไมไม่ทำทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันมีประโยชน์มาก ๆ .. สงสัยขี้เกียจนั่นแหละ .. ซักวันหนึ่ง........ เราจะท้ำ.......เราจะทำ....

คนปากหมา .. เอ๊ย... ปากเหม็นเพราะไม่ใส่ใจสุขภาพปากและฟันตัวเองเนี่ย... เป็นอะไรที่พี่โตสไม่อยากเข้าใกล้เลยจริง ๆ นะ .. เพราะเวลาคุยกับใคร ๆ พี่โตสชอบมองหน้าเค้า แต่กับคนปากเหม็น พี่โตสไม่สามารถเผชิญหน้ากับเค้าได้......

แต่เคยได้ยินมาว่า ต้นเหตุของปากเหม็นในบางคน เกิดมาจากภายในช่องท้องเลย .. มีจริงหรือเปล่าอ่ะวิน .. ซึ่งในกรณีนี้ดูเหมือนเจ้าของปากเค้าจะแก้ไขอะไรไม่ได้ .. ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสงสารเค้าเนอะ .. แต่ถึงจะสงสาร พี่โตสก็ไม่ชอบเผชิญหน้ากับเค้าเหมือนกันแหละ

การเคี้ยวหมาฝรั่งช่วยให้ฉลาดและความจำดีขึ้นได้ด้วยหรือเนี่ย .. ปกติพี่โตสไม่ชอบเคี้ยวหมาฝรั่งเท่าไหร่ .. ตัวมันใหญ่ .. เอ่อ.. พูดถึงหมากฝรั่งนี่เนอะ .. คือไม่ชอบเคี้ยวเพราะขี้เกียจเคี้ยว แล้วก็รู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยดียังไงไม่รู้ โดยเฉพาะเป็นกุนละสะตีด้วยอย่างนี้ .. ยิ่งดูไม่งาม
แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ก็เริ่มกลัวอันไซเม่อ .. สงสัยต้องเริ่มเคี้ยวหมาฝรั่งแล้วล่ะพี่ .. ลืมไปว่าหมาฝรั่งตัวเล็ก ๆ ก็มีนี่นาเนอะ


ย้ายเข้าบ้านใหม่หรือยังอ่ะวิน .. แต่งบ้านเสร็จเรียบร้อยหรือยังเนี่ย.....

พูดถึงเรื่องบ้าน พรุ่งนี้พี่โตสกลับบ้านที่อเมริกาอีกแล้วล่ะ (แค่หนึ่งอาทิตย์เหมือนเดิม) .. เจ็ดอาทิตย์ในลิม่าผ่านไป ไวจริงจัง ..
 
 

โดย: Chini วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:01:01 น.  

 
 
 
ตอบ ... ตอบ #2
+ อาจ๊าก : เฮ้ย! นายดัดฟันเหล็กอยู่เหรอเนี่ย? ไหงในรู ที่บ๊อกๆ มองไม่เห็นง่ะ
... ตามไป Y ... เอ๊ย ไปซึ้ง ที่บ๊อกๆ นายแว้วเน้อ

+ น้อง (P) ป่อยยย : เบบี๋กิงๆ ง่ะ? ไหงพี่เห็นรอยทีนส์นกแร้งแปะอยู่แถวๆ ขอบตาอ่ะครับ กร๊ากๆๆ

+ เพื่อนโจ : ... ถ้าอ่านคำตอบของคำถามแรกดีๆ อีกครั้ง ... อาจพบว่า มันแปลว่า "ไม่ทัน" นะเพื่อน ... ความหมายก็คือ ฟันก็ต้องการการดูแลสุขภาพให้ดีอยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างจากอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายอ่า

+ คุณเริงฤดีนะ : ประโยครองสุดท้ายนี่ ... ไปจริงเหรอครับ?
... ส่วนประโยคสุดท้าย ... หาโรงให้เจอเน้อ รู้สึกจะมีอยู่แค่ 3 - พารากอน, SFX เอ็มโพเรียม แล้วก็ ลิโด อ่ะครับ

+ ครูเต้ย : มีช่วงนึง ที่ผมเว้นหายไปหลายปีดีดักเหมือนกันครับ ... จนกลายเป็นโรคเหงือกไปเลยนั่นแหละ ถึงเกิดการ reunite กับหมอฟันช่วงที่ 2 จนต้องกลายเป็นขาประจำไปแล้วอ่ะครับ

+ จารย์ทส : มีคน 'แปรงลิ้น' เยอะเหมือนกันแฮะ ... และส่วนความรู้ที่มาเพิ่มเติมให้ ก็ นะครับผม
... ผ่าฟันคุด เป็น 'ประสบการณ์สยอง' ของใครหลายๆ คน เจงๆ แหละครับ (ผมก็ด้วย)

+ ป้าจี่ : รักษาสุขภาพเช่นกันครับ

+ ม่าซวงซวง : ใจร้อนเป็นวัยสะรุ่นเรยเนาะ ... ช่วงเน้พี่เค้ายังวุ่นๆ จัดประชุมอยู่อ่ะ เด๊วถ้าว่าง (และไม่เลิม) จะโทรถามให้จ้า
... ฟอกสีฟัน เหรอ? มานลึกไปแล้วง่ะม่า (เพราะเค้าก็ไม่เคยทำ) ... คูลไลท์ เน่ มานเป็นการฟอกด้วยเลเซอร์รึเปล่าง่า?

+ พี่บิ๊ก-ชะ-หล่อ ๑-๒ : เสียใจ๋ เฮาฮู้เวลาอยู่เน้อ บ่เหมือนคนอ่านนิยายดึ๊กดื่นกึ่งคืนหรอกอ้าย
... โห! มีเอาผลงานพ้ม ตามกลับมาแป๊ะในบ๊อกๆ ผมอีกรอบเนี่ยนะฮับ ... แล้วยังมีแต่งบทของตัวเองใหม่อีกต่างหาก เลยไม่ค่อยคล้องจองกะบทนี้เลยอ่า
... ก็เห็นกลอนพี่บิ๊กมานหวานๆ ก็เลยอยากเติมรมณ์ฮาๆ ขำๆ เรทนิดๆ ต่อให้อีกหน่อยแค่นั้นเอง งุงิๆ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:36:05 น.  

 
 
 
ตอบ ... ตอบ #2.1
+ เจ๊โตส : ยาวสะจายอีกแว้วคับ ชอบๆ อิๆ
... ผมก็เป็นเหมือนกันครับ หลังขูดหินปูนเสร็จ ชอบเอาลิ้นไปดุนๆ ฟันเล่น
... โห! มีลง 2 แปรงด้วยวุ้ย
... ฟันไม่ขาว เด๊วนี้เค้ามีเทคโนโลยี 'ฟอกสีฟัน' ด้วยนะครับ แต่ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้เหมือนกันง่า
... ปากเหม็นจากภายในช่องท่อง?!? ไม่แน่ใจนะครับ คงต้องไปหาอ่านเพิ่มเติมต่อไป

... บ้านใหม่ โอนเดือนพฤษภา นี้ครับ ตอนนี้ก็เริ่มเป็นทรง เข้าไปเหยียบยืนได้ทั้ง 2 ชั้น เตรียมจะทาสีละครับ
... เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคร้าบ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:49:14 น.  

 
 
 
ดัด ข้างใน ว้อย...แบบ ว่า ดัดจนไม่เห็น แปรงก็ยาก.ใช้ที่ส่องๆด้ามกระจกเล็กๆ....กะเหล็กแคะ..ยังมีเศษ เยอะชิบ...

เฮ้อ...

ปล...อาบรู๊วว....เราจะไม่เข้าบล็อค ซัก สองสามวันนะ...ฝากบ้านล่วย...เอาให้ y ไปทั้งบล็อคเราเรยนะ...ขอเข้าป่า ล่าสาดก่อน....จะ เห็นหมี...ป่าวหว่า..คิคิ...
 
 

โดย: ลิงจ๊ากจ๊าก วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:40:23 น.  

 
 
 
มีประโยชน์มากเลยค่ะคุณวิน
เราก็ไม่ค่อยถูกกับหมอฟันเหมือนกันค่ะ
แต่มีอันต้องไปพบหมอฟันตั้งแต่จำความได้ เพราะฟันผุค่ะ
ฟันผุร้ายแรงจนต้องถอนฟันเพราะมันอักเสบจนเป็น ฝีที่รากฟันค่ะ
แล้วหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ส่งผลต่อชีวิตของเราอย่างมากมาย
เพราะฟันเราล้มระเนระนาด ต้องจัดฟันตั้งแต่ประถมแหน่ะ
ชีวิตเลยผูกพันกับหมอฟันอยู่จนถึงปัจจุบันค่ะ

ปล.ช่วงนี้ ยังไม่มีอารมณ์อัพบล็อกค่ะ...แต่ยังแวะมาเยี่ยมเยียนอยู่เรื่อย ๆ นะคะ
 
 

โดย: Almondblist วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:27:52 น.  

 
 
 
เมื่อวานไปถามหมอ ผ่าฟันคุดตั้ง3,500แน่ะ แพงไปป่ะ
 
 

โดย: butbbj วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:59:37 น.  

 
 
 
...



มาคุยต่อ

ก็อย่างที่ผมเอาเนื้อหามาแปะไว้อ่ะครับพี่

ผมเลยคิดว่า เราน่าจะกินไข่ได้ 1-2 ฟอง ทุกวัน

(ส่วนที่ผมกินไป 8 นี่ ถือเป็นความสามารถส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณละกัน )





ส่วนเรื่องว่า คนไทยกินไข่น้อยกว่าคนชาติอื่น

อันนี้ผมลองมองว่า เป็นเพราะพวกเราพิจารณากันในมุมของตัวเองหรือเปล่า?

คือเราอาจจะสะดวกและพร้อมที่จะเลือกกินได้ไงครับ

แต่อาจจะมีคนที่ไม่มีกำลังทรัพย์แม้แต่จะซื้อหาไข่มากิน

ก็คงเป็นได้มั้งนะพี่ (คิดเอาเอง )




เช่นเดียวกันกับเรื่องการอ่านหนังสือปีละ 7 บรรทัด
(ซึ่งผมก็รู้สึกทะแม่งๆเหมือนกัน)

เห็นว่า นับเฉพาะหนังสือเล่มพ็อกเก็ตบุ๊ค เท่านั้น

นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ อะไรแนวๆนี้ไม่นับ

เคยดูรายการ จุดเปลี่ยน ที่แม้จะไปสัมภาษณ์และถ่ายทำมาเฉพาะคนกลุ่มหนึ่ง (ถึงจะต่างพื้นที่หรือฐานะ)

แต่ก็แสดงให้เห็นว่า คนที่ไม่อ่าน...ไม่ว่าจะด้วยกำลังทรัพย์ อ่านไม่ออก หรือไม่สนใจเลย...เขาก็ไม่อ่านกันอย่างจริงๆจังๆเลยอ่ะครับ

ยังไงถ้า พี่วิน อยากให้ค่าเฉลี่ยมันเพิ่มขึ้นบ้าง คงต้องอ่านเผื่อพวกเขาเหล่านี้แล้วล่ะ




 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:44:09 น.  

 
 
 
ง่า...อาหยอดเอ๊ย หายหน้าหายหนวดกันหมกแร่ว..
อาม่อนก้อหาย อาลิงก็จะไปแร่ว แว๊กเสาร์ทิตย์ติ๊ดชึ่งเค้าจะอยู่ก๊ะครายยย แง.....แต่ หมาโจกลับมาแระนะ ..


โอ๊ย วันเน้ ไปดูหน้าแฟนอาม่าหน่อยนะ เค้าเอาแฟนมาโชว์ อิอิ
 
 

โดย: ซซ วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:05:31 น.  

 
 
 
หวัดดีพี่วิน....

เป็นจะใดภ่อง...ยะการม่วนก่...
วันติ๊ดบ่ดีลืมไปจ่อมบัตรเลือกสว.เน้อ..
หันว่าอ้ายก่อเป็นสว.แม่นก่อ



รึว่าเลือกไปแล้วล่วงหน้า....


อาม่ามาชวนไปดูกิ๊กรึนี่...
ไปแยงย่อน่อยลุ..หน้าตาเป็นจะใด...งามก่อ...



 
 

โดย: big-lor วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:03:06 น.  

 
 
 
มาแอบอ่านเงียบ ๆ
เป็นคนหนึ่งเลยคะ ทีกลัวหมอฟันมาก ๆ

รู้สึกว่าตัวเองยังดูแลสุภาพฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น
 
 

โดย: verdancy วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:09:51 น.  

 
 
 
ว้าว สาระสุดๆ

ปัจจุบันฟันผมมันอยู่ในสภาพยับเยินเกินเยียวยาแล้วอ้ะครับ ว่าจะกัดฟันไปให้หมอยกเครื่องใหม่ก็ยังกลัวๆอยู่ เดี๋ยวจะลองตั้งสติดูอีกที
 
 

โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:38:59 น.  

 
 
 
Ninja!
 
 

โดย: big-lor วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:01:48 น.  

 
 
 
โอ๊ย! ... ช่วงนี้ดองงานไว้เยอะมั่กๆ ไม่รู้วันจันทร์จะทันไปเยี่ยมเยียนใครมั้ย ถ้าไปช้า ก็ขออำภัยไว้ด้วยนะขอรับ

ตอบ ... ตอบ #3
+ อาจ๊าก : ป่าไหนง่ะ? ป่าเดียวกัน รึป่าวว้า เอิ๊กๆ

+ คุง L ม่อนด์ : ไม่เป็งไรคับ คนเราย่อมมีรมณ์ขึ้นรมณ์ลง ... อยากอัพเมื่อไหร่ ค่อยอัพก็ได้ครับ ว่าแต่กำลังจะหมดคอร์ส ได้กลับไปอยู่บ้านสงขลาแล้วรึเปล่าครับเนี่ย?

+ คุณ butbbj : แหะๆ ถ้าถามราคาแบบนี้ ผมไม่แน่ใจแฮะ (ตอนผมผ่า ผ่า(ฟรี)กับพี่สาว) ... แต่ดูจากที่บอกมา ก็ไม่น่าจะแพงเกินนะครับ

+ นัท-คุง : ช่วงนี้เหมือนจะว่างขึ้นนะครับ มีเวลาคุยยาวๆ มากกว่าช่วงก่อน
... ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ

+ ม่าซวงซวง : คริๆ เพี้ยนบ๊อกๆ หายโหม้ด น่าฉงฉานอาม่า

+ พี่บิ๊ก-หล่อ(พันลี้) ๑-๒ : เฮาเลือก ส.ว. นอกเขตล่วงหน้าไปตั้งกะติ๊ดที่แล้ว แล้วเน่อ อ้ายบิ๊ก แทบบ่ฮู้จักซักคน มีแต่ป้ออุ๊ยตี้ไหนบ่ฮู้

+ นู๋ครูอ้อม : เปลี่ยนมาดูแลสุขภาพฟันให้มากขึ้น ยังทันจ้า ยังไม่สายหรอก ... แค่ต้องทำใจนิดนุง

+ คุณแฟนผมตัวดำ : ผมเคลียร์เม้นต์ให้แล้วนะครับ ไม่รู้บล๊อกแก๊งอ่านยังไงเหมือนกัน เง็ง
... อย่าทิ้งไว้นานเกินนะครับ เด๋วต้องเปลี่ยนเป็นฟันปลอมหมดปากไม่รู้ด้วยนะเออ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:38:06 น.  

 
 
 
มีประโยชน์จริงๆค่ะ ชอบทานไอศครีม ช๊อคโกแลต และเค้กมากๆ ตอนเด็กๆ กลัวหมอฟันมกๆ
เพราะมีอยู่ครั้งนึงปวดฟันมากคงอักเสบหมอถอนโดยที่ยังไม่ชา ร้องแทบตาย ปกติถ้าอักเสบ
หมอจะยังไม่ถอนให้ ทำให้กลัวหมอฟันมากๆ จนฝั้นผุ ต้องถอนฟันกรามล่างและด้านบนบางซี่
ไป เสียดายมาก ๆ ตอนนี้มาทั้งครอบฟันด้วย กลับไปไทยก็จะตรงดิ่งไปทำฟันเป็นอันดับแรก
คุณหมอบอกว่า แปรงฟันแรง ตอนนี้เลยหันมาใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าแทน และใช้ไหมขัดฟันตลอด
หวังเพียง รักาษาฟันทีมีอยู่ไว้ให้นานที่สุด
อยากทราบเรื่องฝังรากเทียมนะค่ะ เพระฝันกรามด้านล่างไม่เหลือแล้วต้องใส่ฟันปลอมแต่รู้สึก
ไม่สะดวกเลยค่ะ
 
 

โดย: แมวขี้อ้อน วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:24:41 น.  

 
 
 
เข้าออกห้องทันตกรรมเป็นว่าเล่นค่ะตอนเด็กๆ
ขูดหินปูนทั้งนั้น...
 
 

โดย: renton_renton วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:11:15:00 น.  

 
 
 
มีฝันผุ อยู่ 5 ซี่ ถอนทิ้งไป 1 เหลือ 4 หมอให้อุด แต่มันเสียวววววววววอ่ะ เลยยังไม่อุด

ถามพี่สาวนายให้หน่อยเด่ ว่า ไอ้ที่เอามาอุดฟันอ่ะมันยังมีตะกั่วผสมอยู่อ่ะป่าวววววว แบบว่ากัว


ปอลิง.ความจริงก็ชอบให้หมอฟันน๊า แต่ติดตรงมันเสียวเน่เซ่เลยกัววววว
 
 

โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:12:37:51 น.  

 
 
 
พูดถึงเรื่องฟัน ก็มีปัญหาเหมือนกันค่ะ ฟันผุหลายซี่เชียว
แต่มันขี้เกียจจะไปหาหมอฟันจังเลย คนเยอะจัง
เรื่องเจ็บ เรื่องกลัวไม่เท่าไหร่ค่ะ เพราะดัดฟันมาตั้งแต่เด็กๆ
เจ็บจนชินแล้ว ...นึกได้แล้วก็จะไปหาหมอฟันดีกว่านะเนี่ย
 
 

โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:00:37 น.  

 
 
 
หยอดดดดด เค้าอยากไปดูหนังม่างงไม่ชวนเค้าเรย

ไม่มีไรทำเค้ามางอนเร่นๆ แต่อยากไปดูหนังจริงๆ

หวัดดีวันอาทิตย์ รีดจก..
 
 

โดย: ซซ วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:8:04:23 น.  

 
 
 
เขียนสนุกจังเลยค่ะ ได้ความรู้อีกต่างหาก

เราไม่เคยชอบการทำฟันเลยค่ะ สงสัยกลัวฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เป็นคนที่ฟันเกสุดยอด (มีเขี้ยวตั้ง 4 อันแน่ะ) มีคนบอกให้ไปจัดฟันเยอะแยะ ก็ไม่ยอมไปทำซักที
 
 

โดย: azzurrini วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:8:38:15 น.  

 
 
 
หวดดีพี่วิน...
เป็นจะใดภ่องครับ

ไปยะการสายแหมก่อครับ



 
 

โดย: big-lor วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:9:56:35 น.  

 
 
 
เอ่อ...พี่บลูววววววววว..คับ
ถ้าผมแก่ไม่เป็นไรคับ
เพราะพี่บลูวววววววววยังแก่กว่าผมอยู่ดี...


+++++5555555++++



ส่วนไอ้เรื่องที่ว่าจะเผาหีบเนี่ย...
เพื่อนผมมันทำท่าจะเอาจริงนะ...
ถ้ามท.๓ ของมันไม่ห้ามไว้มีเฮ...
พี่ได้หิ้วข้าวผัดอเมริกันกับน้ำกีวีไปเยี่ยมผมแน่ๆ....


Ninja!
 
 

โดย: big-lor วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:11:00:51 น.  

 
 
 
...



มาอนุโมทนากับ พี่วิน ถึงบล็อกนี้อีกที

ตั้งแต่อ่านไปนี่ผมก็พยายาม รักษ์ฟัน อย่างที่พี่ว่าไว้อ่ะนะครับ



นึกแล้วก็อยากย้อนกลับไปให้ตัวเองเมื่อนานมาแล้วอ่านบ้างจัง

ผมว่ามันคงเป็นเรื่องเดียวอ่ะนะครับพี่ ที่ผมคิดว่าจะกลับไปแก้ไขมัน ถ้าย้อนอดีตได้


 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:16:28:13 น.  

 
 
 
แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ
แปงยังมีสอบเอเน็ตอีกพี่วิน ศุกร์นี้
ปล.สงสัยจะไม่ติดแล้วล่ะ วารสาร มธ. ทำเลขกะวิทย์ไม่ได้เลย เหอ เหอ เหอ
+รักษาสุขภาพนะค่ะพี่วิน
 
 

โดย: pangz IP: 118.173.129.122 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:18:49:58 น.  

 
 
 
ที่ลดก็ไม่ได้หักโหมค่ะ และก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไร เพียงแต่ลดช๊อคโกแลต
ก็เค้ก ลงจากเดิม เพราะน้ำหนังที่ขึ้นมาเพราะเจ้าพวกของหวานล้วนๆๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจ 2 อาทิตย์ ลดมา 1 โลแล้วค่ะ
 
 

โดย: แมวขี้อ้อน วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:19:08:11 น.  

 
 
 
ไปดู "ข้ามจักรวาล" มาแล้วล่ะพี่วิน
ชอบนะ หนังบ้าและเซอร์รีลได้ใจมากๆ
เพราะไม่เคยฟังและรู้ข่าวคราวเกี่ยวกับวงเต่าทองมากเท่าไหร่นัก
ต้นเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าเนื้อเพลงของเขาโดดเด่นสักเท่าไหร่
ฟังไปฟังมา แทบทุกเพลงก็ออกมาในแนวเดิมๆเดียวกัน
กับอีกอย่างที่รู้สึกแปลกๆคือมันดูชีวิตจะไร้กฏเกณฑ์มากเกินไปอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนชีวิตนี้จะไม่มีอะไรเลยนอกจากความสุข(สนุก) กับความรัก


อุตส่าห์ดีใจตอนที่พระเอกกลับมาบ้าน
ความรู้สึกเหมือนกับเพิ่งหลุดไปในโลกแห่งความฝัน
แต่สุดท้ายคุณก็ stay fun forever ไม่ได้
แต่สุดท้ายก็ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกกลับไปอีกรอบ


แต่ก็ชอบหลายฉากมาก และเปลืองน้ำตาอย่างถึงขีดสุด
ตั้งแต่ฉากเปิดหนังเลยก็ว่าได้ ที่เป็นคลื่นซัดเข้ามาแล้วแบ๊คกราวด์เป็นภาพวุ่นวายๆ
แต่ฉากที่ชอบที่สุดก็หนีไม่พ้นฉากที่นอนเป็นปลาดาวกลางทุ่งหญ้า
โหย ชอตนั้นโดนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ด้วยความที่ชอบสายลมแรงๆแบบนั้นอยู่แล้วด้วย
แต่ความเหงา ความสวยงามของฉาก และทุกๆอย่างมันลงตัวจริงๆ
กับอีกฉากคือตอนปักสตอร์เบอรรี่ สวยจริงๆ
 
 

โดย: Unravel วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:19:28:26 น.  

 
 
 
แง้


กลับมาก็ยังเป็นเรื่องฟัน


กลัวววว
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:19:48:31 น.  

 
 
 
ไม่เคยกลัวหมอฟันนะเฮีย

แต่ขอเจอท่านหมอแค่ปีละครั้งพอ....(ขูดหินปูนอ่ะ)
 
 

โดย: คำห้วน เฉือนคำรัก IP: 124.120.180.191 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:2:44:32 น.  

 
 
 
.............
 
 

โดย: ซซ วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:10:02:50 น.  

 
 
 
^
^

เลิมๆๆ เลิมบอกว่า แปลเอาเองนะ ...
 
 

โดย: ซซ วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:10:06:41 น.  

 
 
 
หวัดดีครับพี่วินรูปเหรียญ...(น้อยกว่ารูปหล่อนิดนึง)
เพิ่งจะว่าง...
ว่าจะอัพแอนด์ดาวน์บล๊อกก็ทรงพระขี้เกียจ...
เอาไว้อีกซักวันพรุ่งนี้ค่อยอัพดีกว่าเนาะ

 
 

โดย: big-lor วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:11:03:28 น.  

 
 
 
ขอบคุณนะครับพี่หนุ่ม ผมยังจำได้พี่หนุ่มเคยสอนการใช้ไหมขัดฟันว่าผูกยังไง ขัดยังไงให้ง่ายๆ
ทุกวันนี้ ก็ยังจำได้ แต่ทำบ้างไม่ได้ทำบ้าง ตามความขยันอะ
 
 

โดย: ball IP: 61.47.30.68 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:11:13:36 น.  

 
 
 
- ตอนเด็ก ไม่ชอบหมอฟันเหมือนกันฮะ เอาเชือก ถอนฟังยังเคยเลย 555 พอโตขั้น ฟันเลยเรียกกันไม่สวยเลย ทำให้ปากไม่ตรง เบี้ยวซะงั้นง่ะ .. เฮ้อ..

- พักนึงเคยคิดจะจัดฟัด ไปปริกษาหมอ เค้าบอกว่าต้องถอน ได้ยินเท่านั้นแหละ ตอบไปว่า "ขอคิดดูก่อน" จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ได้ทำ แต่ก็ยังอยากจะทำอยู่ดีแหละครับ

- ตอนนี้อยากขูดหินปูนนะ เห็นเพื่อนๆ ทำมา เค้าบอกสบายปากดี ปากสะอาด ต้องหาโอกาสทำมั่งแล้วฮะ...

 
 

โดย: haro_haro วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:11:39:57 น.  

 
 
 
บลูด๊อก เอ้ยย บลูยอร์ช สบายดีป่าว
 
 

โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:12:17:54 น.  

 
 
 
ตอบ ... ตอบ #4
+ คุณแมวขี้อ้อน ๑-๒ : แหะๆ ฝังรากเทียม ผมไม่มีความรู้เลยอ่ะครับ

+ คุณ renton : ขูดบ่อยๆ ก็ดีกว่าไม่ขูดเลยนะครับ

+ อาม๋าโจ ๑-๒ : เน้น เสียวววววว อย่างเดียวเลยใช่ป่ะ? กรั่กๆ
... รู้สึกเค้าจะเลิกปนตะกั่วลงในวัสดุอุดฟันแล้วนะ เหตุผลก็อย่างที่กลัวนั่นแหละฮับ

+ คุงกุเต่ย : รีบไปเหอะครับ ก่อนที่รอยผุมันจะลุกลามอ่า

+ อาม่า ซซ ๑-๒-๓ : แล้วม่าอยากดูเรื่องไรล่ะจ๊ะ?
... แล้วจะแปลออกมะเนี่ย ... แปลว่า กินกาแฟ แล้วปวดอี้ แต่ไม่ออกเหรองับ? 555

+ คุณ azzurrini : ขอบคุณสำหรับคำชมครับ
... แหมคุณ (ว่าที่) หมอมีเขี้ยว คนไข้คงชอบอ่ะครับ

+ พี่บิ๊ก ดุกฟู ๑-๒-๓ : กิ๋นของหรู โตยเน้ออ้าย
... อ้ายบิ๊กดองบ๊อกๆ เป๋นโตยก๊ะ บ่เกยหันอ่า

+ นัท-คุง : ขนาดนั้นเชียวครับ

+ นู๋แปงแปง : ไม่แน่หรอกจ้า ตอนพี่สอบเอ็นท์ ม.5 พี่ก็รู้สึกว่าตัวเองทำไม่ค่อยได้บางวิชาเหมือนกัน แต่ก็ติดคณะอันดับ 1 ที่เลือกเอาไว้น้า

+ น้องต้นต้น : เรื่อง 'ข้ามจักรวาล' พี่ตามไปคุยที่บล็อกแล้วนะคราฟ

+ น้องหมีชุน : แหะๆ ... แบบว่ายังดองไม่ครบอาทิตย์ (จริงๆ ยังไม่ได้ร่างหน้าใหม่เลย) อ่ะจ้า

+ นายเติ้งเติ้ง : โอววว! ดีฮับ รักษาสุขภาพฟันสม่ำเสมอเข้าไว้เน้อ

+ นายบอล : ขยันกว่าเดิมอีกหน่อยก็ดีนะครับ

+ มะระคุง : เอาเชือกถอนฟัน ... ปากเบี้ยว
... รีบๆ หน่อยก็ดีนะครับ อ่านแล้วเหมือนต้องโมฯ เยอะเลยนะนั่น หุๆ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:12:54:29 น.  

 
 
 
พี่วินครับ
ผมสงสัยมาพักนึงละ ว่าไอ้ my network นี่มันใช้ทำอะไรอะนิ
 
 

โดย: nanoguy IP: 125.24.230.205 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:13:40:54 น.  

 
 
 
จำได้ว่าเสียเงินเพระเรื่องฟันเยอะมากกกกกกก

จัดฟันก็ปาไปเกือบ 5 หมื่น ไหนจะต้องทนเจ็บฟัน

ทรมานตอนถอนฟัน ผ่าฟัน หูย........คิดแล้วสยองอ่ะค่ะพี่วิน
 
 

โดย: ซัน (The Invisible girl) IP: 202.60.203.201 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:16:16:34 น.  

 
 
 
ตอนนี้ผมเริ่มแปรงฟันหลังอาหาร

...ไม่รู้มันจะบ่อยไปรึเปล่า?
 
 

โดย: rath IP: 222.123.20.183 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:16:46:32 น.  

 
 
 
ตอนนี้จริง มีปัญหาเรื่องโรคเหงือกจ้ะ ตอนแรกว่าจะจัดฟัน แบบว่า เตรียมทุกอย่างหมดแระแต่ พอจะจัด คุณหมอดันมาบอกว่า จริงเป็นโรคเหงือกนะ จัดไม่ได้ ตอนนั้นเหมือนหัวใจ ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มอ่ะ อยากจะร้อง แล้วต้องรักษายังไงบ้างจ้ะ ไง ช่วยตอบทีนะจ้ะ เพราะว่าอยากหายมาก กลัวเสียฟันอ่ะ ไง ขอบคุณล่วงหน้าจ้ะ อยากรู้เรื่องค่าใช้จ่ายด้วย แล้ว โรงพยาบาลไหนดี ayano_orn@hotmail.com
 
 

โดย: จริงใจ IP: 58.136.174.201 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:13:52:25 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

บลูยอชท์
 
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add บลูยอชท์'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com