มาเป็นพนักงานต้อนรับ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ แล้วก็รู้สึกตลกตัวเองในบางครั้ง เช่น  . . . .

**เวลารับโทรศัพท์ ถ้าใครโทรมาที่โรงแรม จะได้ยินประโยคภาษาอังกฤษยาวๆๆๆลงท้ายด้วย You ถ้าใครฟังไม่ทัน ฮาาาา

 บางโรงแรมมันพูดเร็วจริงๆ ตอนแรกก็สงสัยว่าเค้าพูดว่าอะไร จริงๆคือขี้เกียจฟังด้วยแหละ เสียเงินค่าโทรแล้วยังต้องมาฟังอี๊ก !!! พอมาทำงานต้องพูดเองสะงั้น  มาตรฐานจะคล้ายๆกัน คือ

Thank you for calling หรือ Good ช่วงเวลา+  ชื่อโรงแรม + ชื่อเรา speaking + How may I assist you?

ยาวไปมั้ย 555 ตนแรกๆเราก็ไม่ชิน พูดช้าทีละประโยคๆ ทำให้โดนแทรก เช่นแบบ

Liu : Good morning, ALiLA Cha Am……..

แขก : คือ.

Liu :อึ้ง . . . เอ่อ…

อึ้งไป 5 วินาที แล้วหลุดเลย ลืมไปแล้วว่าพูดอะไร เซ็งเลย ช่วยฟังให้จบก่อนได้มั้ย ขอทำตาม standard ของโรงแรมที่ได้รับการสอนมาเป็นอย่างดี พอนานเข้ารับโทรศัพท์บ่อย เริ่มชิน ที่นี้จะเป็น สเตปเทพ ประมาณว่าใครอย่าได้แทรกมา ขอกุพูดให้จบก่อน  5555

**ปกติเป็นคนที่ ไม่คุยกับคนแปลกหน้า เดินผ่านใครก็อยากจะเดินหนี ประมาณว่า อย่าทักกุๆ 555  แต่เดี๋ยวนี้เวลาเดินผ่านใคร ผ่านแขก ต้องทักทุกคน  ทักแบบไม่ได้ต้องการสาระใดๆ พอเดินผ่านแขกก็ Good morning ….Good morning  ไม่ก็ Good afternoon …..Good afternoon  โรงแรมต้องการทำให้แขก รู้สึกว่าเราเป็นมิตรรรรรเหลื๊อเกินนน - -“   เคยมีแขก comment ไว้ว่า โรงแรมนี้ พนักงานดูยุ่งตลอดเวลา น่าจะ เงยหน้ามาทักทายกันบ้างก็ยังดี   จนตอนนี้บางทีคิดว่าตัวเองเป็นนกแก้วรึป่าวว่ะเนี่ย ใครเดินผ่านก็ทัก  แต่ก็มีแขกบางคน ก็ไม่อยากคุยกับพนักงาน  เวลาเดินก็อ้อมไปนู้นนนไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็แบบ อย่าทักกุ อย่าทักกุ เหมือนกัน 555

*** และยังมีโอกาสได้ใช้ airline code ด้วยอะ ดูดีสุดๆ  ตอนมาทำงานที่แรก มีไกด์ผู้หญิงคนนึง มาเช็คชื่อแขกขงบริษัททัวร์ที่จะมาเข้าพัก

พี่เค้าก็บอกว่า แขกชื่อ Charle able roger roger obob love

ไอเราก็ใหม่แกะกล่องเลยยย คิดในใจว่า ทำไมมันชื่อยาวจังว่ะ แถมหาในคอมก็ไม่เจอด้วย ก็เลยถามเค้าใหม่ แขกชื่ออะไรนะค่ะ Charle อะไรนะ ??? ทำไมแขกชื่อยาวจัง แสดงความโง่ออกไป พี่พนักงานอีกคนต้องเดินมาบอกว่า เอาแต่พยัญชนะตัวหน้าย่ะ !! เราก็ อ่ออออ อย่างนี้นี่เอง แล้วจะบอกว่า Carrol มันยากตรงไหนเนี่ย? แต่บางเสียงมันก็พ้องกัน เข้าใจๆ 555

Code alphabet ที่โรงแรมใช้จะเป็นชุดที่ว่า

a-      Able

b-      Baker

c-       Charle

d-      Dog

e-      Easy  

ประมาณนี้

พอได้ย้ายมาทำงานอีกที่นึง ก็ ปริ้นตัว airline code มาไว้เลย เพราะจำไม่ได้ ไม่ได้เรียนนิ 555 ซึ่งมีครั้งนึงต้องโทรไปเช็คบุคกิ้งให้แขกที่โรงแรมในกรุงเทพฯ เป็นโรงแรมแบรนด์ เราก็กลัวว่า เค้าจะหาว่าเราบ้านนอก ประมาณว่า เป็น พนักงานต้อนรับโรงแรมบ้านนอก ไม่รู้จัก Code รึไงจ๊ะ   ขณะที่คุยกับพนักงานอีกโรงแรม ก็เปิดหาสมุดที่จด code ไปด้วย แล้วก็ถ่วงเวลาขณะหา code ว่า เดี๋ยวสักครู่นะค่ะ กำลังหา last name แขกอยู่ ทั้งๆที่ก็ยืนอยู่หน้าคอมนั่นแหละ 555 

แต่เวลาใช้ก็แบบ ดูดีอ่ะ !!! ฮาาา