-:- ว่าด้วยเรื่องโรงแรม 5 -:- ตอน ชีวิตมันดราม่านะ

เนื้อหาในตอนนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความ ดราม่า นะจ๊ะ !

กว่าจะมาเป็น พนักงานโรงแรม . . . พอมีคนรู้ว่าเรียนจบอะไรมาก็จะถามว่า ทำไมมาทำงานนี้ล่ะ ??? ถามแบบงงมากกกกก @-@  ก็ตอบแบบนางงามว่า หนูมีความฝันค่ะ …ว่าหนูจะมีโรงแรมเป็นของตัวเอง….. หนูเลยต้องการมาเริ่มจาก 0 ค่ะ…..ดูดีมากๆๆๆๆๆอะ กรี๊ด >_<

งานโรงแรมก็ง่ายๆนะจ๊ะ แค่คุณต้องมีความอดทน ขั้นเทพ เรียกว่ามากกว่าคนธรรมดาน่ะ 

ถ้าคนรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเป็นเด็กน้อย จะรู้ว่า เราเป็นคนพูดตรง ไม่ชอบใจอะไรพูดเลย คิดอะไรก็พูดออกไปแบบนั้นแหละ ซึ่งมันขัดกับหลักที่บอกไปใช่มั้ย ยิ่งทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ ยิ่งต้องอดทน สงบปากสงบคำอย่างมากกก บางที่เหมือนคนเก็บกด 555

ไม่รู้ว่าพนักงานต้อนรับ ของงานอื่นๆจะ เป็นเหมือนกันรึป่าว แต่ถ้าเป็นพนักงานโรงแรม ต้องฝึกความอดทน ฝึกจิต ไม่ให้ตอบกลับไป เรียกว่าไม่ให้แย้ง ไม่ให้สวน ไม่ให้ด่ากลับอะไรประมาณนี้  

อดทน อดทน อดทน 

อดทนกับการโดนด่าด้วยเรื่อง งงๆ ของแขก  เช่น มีกรุ๊ปมาพักที่โรงแรม ก็วุ่นวาย เฮฮาปาจิงโกะกันไปตามเรื่องตามราว ผ่านไปจนถึงวันกลับ แต่ละห้องก็จะขนกระเป๋ามากองไว้หน้าห้องให้ พนักงานขนกระเป๋าเอามาไว้ที่ Lobby เพื่อจะลำเลียงขึ้นรถ แขกบางคนก็ขับรถมาเองบ้าง  พอฝูงชน กลับกันหมด เราก็พบกระเป๋าเดินทางสีชมพู กระเป๋าเป้แบบสะพายและถุงพลาสติกอีกนิดหน่อย ถูกทิ้งให้วางอยู่บนโต๊ะไม้ยาวสำหรับวางกระเป๋านั่นแหละ  พนักงานยกกระเป๋าก็งง ของใครล่ะเนี่ย ไปดูชื่อที่ tag กระเป๋าสิ มีชื่อด้วย สมมุติว่าชื่อ คุณสมศรี  พนักงานยกกระเป๋า ก็โทรมาบอกที่ front ว่ามีกระเป๋าเหลืออยู่นะ ของกรุ๊ปรึป่าว เค้าเอาไปไม่หมด โทรตามสิ ชื่อคุณสมศรี

เราก็โทรไปตามที่ organizer ของกรุ๊ป ว่า มีกระเป๋าของคุณสมศรี เหลืออยู่ที่โรงแรมนะค่ะ ไม่มีคนเอาขึ้นรถไปด้วยค่ะ สรุป กระเป๋าเป็นของ Organizer คนนึงค่ะ  คือ แทนที่จะขอบคุณเราที่พบกระเป๋า หรือ สลดในความสำเพร่าของตัวเองที่ลืม ไม่ได้เอากระเป๋าขึ้นรถ ไม่ค่ะๆ she ว่าโรงแรมค่ะ ว่าทำไมไม่เตือน she ให้เอากระเป๋าขึ้นรถ แถม complain ใหญ่โต โทรไปถึง Manager กับ Sales ที่ดูแลกรุ๊ปว่า พนักงานโรงแรมไม่ดูแลกระเป๋า ไม่ยอมบอกให้ she เช็คกระเป๋าก่อนขึ้นรถ

แล้ว She ไม่กลับมาเอานะค่ะ ให้โรงแรมเอารถไปส่งของให้ ที่กรุงเทพ  โถ แม่คู้ณ ตอนมาก็เอามาเอง พอลืมก็ให้เราไปส่งให้  แต่เราก็ต้องเอาไปส่งให้นะค่ะ  เอารถโรงแรมเราเนี่ยล่ะไป ขับรถเพื่อไปส่งกระเป๋า แถมได้รับคำขอโทษ จากโรงแรมอีก งงมั้ยล่ะค่ะ  

หรือ อดทนกับเรื่องที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย

แขกกรุ๊ปอีกเหมือนกัน ขอเอ่ยเลยว่า เป็นกรุ๊ปคุณหมอนะค่ะ เพื่อเพิ่มดีกรีความงง  คุณหมอท่านอื่นๆมาเช็คอินกันหมดแล้ว เริ่มกินข้าวเย็นอะไรกันไป สัมมนากัน  แต่มีคุณหมอครอบครัวนึง มาหลังสุด เกือบ 2 ทุ่มแล้วล่ะ มาแบบ โมโหเลย

คุณหมอ  : ทำไมทางมันหายากขนาดนี้ ผมหลงทาง วนไปวนมาตั้ง 2 ชม  ป้ายบอกทางก็ไม่มี  ผมขอร้องเรียนกับผู้จัดการของคุณ รู้มั้ยทำอย่างงี้ ผมว่าอีกไม่นานก็เจ๊ง บลาๆๆ @#%$@#%$#@#$^#$%

อ้าว คุณหมอ ขับรถหลงทางเอง  ยังจะมาว่า โรงแรมจะเจ๊งอีก  มันอะไรกันว่ะเนี่ย  คือ โรงแรมมันก็ตั้งอยู่นี่มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้ย้ายทุกเดือน  ป้ายมันก็มีเป็นระยะๆมองไม่เห็นหรือยังไง  แล้วหลงทาง ทำไมไม่โทรมาโรงแรม ใจนี้อยากจะด่ากลับ ตัวชาไปแล้ว เพราะคุณหมอพูดแบบด่าเลยล่ะ น้ำเสียงแย่มาก

ได้แต่พูดกลับไปว่า  ต้องของประทานโทดจริงๆนะค่ะ  คือว่าโรงแรมตั้งอยู่ลึกนิดนึงค่ะ แล้วทางมันอาจจะมืด คุณหมออาจจะไม่ทันสังเกตุป้าย แล้วจะแจ้งให้  manager ทราบอีกทีนะค่ะ

(ปล. คุณหมอแกเคยมาพักแล้วครั้งนึงด้วยนะ ไม่รู้จะบรรยายยังไงจริงๆ )

พอแกได้คุยกับManager คุณหมอกลับบอกว่า ที่แกไม่พอใจ คือพนักงาน จัดการไม่ดี พูดไมค่อยดีกับแก โอโห้ !!!!!!  คราวนี้นับ 1 ถึง 100 อะ  ตั้งกลับมานั้งทบทวนว่า ก็พอคุณหมอ ว่าๆๆๆๆๆเราเสร็จ อารมณ์ ผ่อนคลายแล้วไง  พอได้นอนบนเตียงอันอ่อนนุ่ม  เริ่มใจเย็น คิดได้แล้วว่ากรูโง่เองรึป่าว เคยมาแล้วก็ยังหลงอีก แต่พรุ่งนี้ต้องคุยกับผู้จัดการโรงแรม เดี๋ยวจะเสียหน้า โอเค ค่ะ แค่คุณหมอ กลับไปรักษาชีวิตคนได้เยอะๆ  คำขอโทษไม่จำเป็นค่ะ

. . . คำขอโทษไม่เคยมาจากปากลูกค้านะค่ะ จำไว้

ขอเล่าอีกกรณีนึง  มีแขก ชายหญิง มาพักที่โรงแรม มา Check in ตอน ทุ่มนึง เวลาประมาณนี้มันเป็นเวลาราหูอมค่ะ มาช่วงมืดๆทีไรโดนด่าทุกที เป็นแขกชายฝรั่ง หญิงคนไทย ก็ดูดีหน่อย  ตอนแรกก็ปกติ check in พาไปส่งที่ห้อง พอไปส่งพี่คนที่พาไปโทรกลับมาว่า แขกบอกว่า จองมาเป็น เตียงใหญ่ (แล้วจะมาพูดถึงส่วนประกอบของโรงแรมอีกที)  แต่ในห้องมันเป็น 2 เตียง ดูใน booking อะไร ก็เห็นเป็น 2 เตียง แต่ตอนนั้นแขกมาที่ Lobby แล้วมาโวยวาย เพราะบอกว่าก็โทรบอกแล้วนิว่าจะเอาเตียงใหญ่ (บอกใคร?มี พนักงานอยู่แค่ 2 คน) แล้วเข้าไปในห้อง แขกคิดว่า มีคนใช้ห้องแล้ว  คือมี ผ้าเช็ดตัวมาแขวน มีslipper มาวางข้างเตียง คุ้นๆมั้ยค่ะ มันคือการ Turndownของโรงแรมนั่นเอง

อธิบายแขกไปแล้วว่า มันเป็นการ Turn down มันเป็น service ของเรา

 แขกบอก ไม่จริง ฉันก็ทำงานโรงแรม ฉันเคยไปนอนโรงแรม 5 ดาวมาเยอะแยะ ไม่เคยมีที่ไหนทำแบบนี้ เอาผ้าขนหนูมาไว้ของนอก แล้วห้องก็ไม่ Ready  นี่มันอะไรกัน เดินทางมาเหนื่อยนะ อยากจะนอนแล้ว   

แขกฝรั่งบอกเสริมทัพ ว่า  นี่มันอะไร มาถึง ห้องมันไม่ Ready  It’s look like somebody used, Are u 5 star hotel ?

ณ ขณะนั้น ยืนเป็นพนักงานอยู่คนเดียว แต่มี Organize ของกรุ๊ป ยืนอยู่ด้วย แบบ อายด้วย ตัวชาไปหมด  โดนด่าไป บลาๆๆๆๆๆๆ   โอ้ยใจก็คิด มันวันซวยอะไรว่ะเนี่ย กรุ๊ปก็เข้า  ห้องเต็ม  Manager ก็ไม่อยู่ โชคยังดี มีห้องของแขกกรุ๊ปที่แขกยังไม่มา แล้วเป็นเตียงใหญ่ พอจะสลับให้ได้  ก็บอกว่า ขอประทานโทดจริงๆค่ะ ตอนนี้กำลังเช็คห้องอีกห้องให้อยู่ รอสักครู่นะค่ะ

(ได้แต่ทำตัวนอบน้อบ  แต่หน้าคงซีดแล้ว Organizer ก็ทำหน้าตาสงสาร ส่งมาให้ ปิ๊งๆ ประมาณว่า ไม่เป็นไรนะๆ)

แขกผู้หญิงบอก : รออีกกี่นาที เหนื่อยไ ม่ไหวแล้ว  รอมานานแล้ว กว่าจะมาถึงก็มืด  (เหวี่ยงกุอีก)

พอพี่อีกคนโทรมาว่าห้องพร้อม ส่งสัญญาณกันเสร็จสรรพ พี่เค้าก็พาแขกไปส่ง เข้าไปพี่เค้าบอกว่า ห้องก็เหมือนนนนนนกันทุกอย่าง  มีผ้าเช็ดตัวมาแขวน มีslipperมาวางข้างๆ ผ้าคลุมเตียงดึงออกไปแล้ว ชัดมั้ยค่ะว่ามันเป็น Turndown service?  แล้วเข้าไปทีนี้ไม่เห็นโวยวายว่าอะไร แล้วที่ด่าเมื่อกี้คืออะไร?

ทำเอานอยเลย พอวันต่อมาเข้าบ่ายเลยไม่ทันได้เจอตอนเช็คเอ้า  เห็นว่าก็จากไปแบบเงียบๆ ไม่มีอะไร ไม่ได้โวยวายจะพบManager อะไรแล้ว  แล้วมีบ้างมั้ย คำขอโทษที่ด่าพนักงานไปเมื่อวาน

เนี่ยแหละ มันเป็นชะตากรรมของคนโรงแรม . . . ถ้าจะมาเป็นคนโรงแรม ต้องมีความอดทนมากๆนะ กับแขกน่ะ แต่พอเลิกงานอาจจะ หลุดโลกนิดหน่อยเพราะเก็บกด 5555

พนักงานโรงแรมก็เป็นคนนะค่ะ ~*

แมวขี้บ่น

24/01/12

Create Date : 10 เมษายน 2555 Last Update : 12 เมษายน 2555 13:22:37 น. Counter : 1318 Pageviews.		1 comments
Share Tweet