|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Fate of Astray - Chapter 1.6 วันแรกของสงคราม
ณ ดาดฟ้าของโรงแรม
นักรบทั้งคู่ยังคงโรมรันกันอย่างดุเดือด ระหว่างคมดาบวิเศษที่ถาโถมเข้าใส่เซอร์แวนท์สาวสวนกันธนูเวทย์มนต์ที่ระดมยิงเข้าใส่แบบไม่ยั้งมือ แม้จะดูแปลกประหลาดที่อาวุธของ “นักดาบ” และ “มือธนู” ทั้งคู่กำลังใช้ห้ำหั่นนั้นดูสลับกับคำเรียกขานของตนเองอย่างยิ่งก็ตาม
หญิงสาวนักดาบผู้เชี่ยวชาญธนู คู่กับมือธนูที่ร่ายรำดาบสองมือ
แม้จะด้วยอาวุธที่ดูแปลก แต่ความรุนแรงของการต่อสู้ก็ไม่ได้เพลาลงแม้แต่น้อย ดาดฟ้าของโรงแรมและอาคารรอบข้างที่เคยสวยงาม บัดนี้กลายเป็นหลุมบ่อจากแรงปะทะของทั้งสองฝ่าย นับว่าโชคดีที่พื้นที่บริเวณนี้ถูกปกป้องด้วยเวทย์มนต์บางอย่างของผู้สังเกตการณ์ทำให้สามารถปิดบังสายตาของพลเรือนทั่วไปได้
“ศรแสงแห่งอิโรฮะ...อามาเทรัส” เซเบอร์ง้างคันธนูสุดแขนก่อนปลดปล่อยมันออกไปพร้อมพลังเวทย์ แล้วก็กระโดดถอยหลังสร้างระยะห่างกับคู่ต่อสู้ “ไม่รู้จักหลาบจำซักทีนะ ธนูเส็งเคร็งพวกนี้ไม่ได้แอ้มข้าหรอก!” อาเชอร์สะบัดดาบคู่ทำลายลูกศรแสงกลางอากาศอย่างไม่ยากเย็นก่อนจะไล่ตามสาวน้อยไปติดๆ
ปะทะครั้งที่ 1…ครั้งที่2...ครั้งที่3 ก็ยังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ, จากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง... ทั้งคู่ต่างไล่ตามไปอย่างไม่ลดละ ทว่า...แม้จะทุ่มเทกำลังเข้าต่อสู้อย่างจริงจัง ทั้งเซเบอร์และอาเชอร์ต่างรู้ดีว่า ต่างฝ่ายยังคงเก็บงำไพ่ตายของตนไว้อยู่
สถานการณ์นี้ดูเหมือนกับการหยั่งเชิงระหว่างกัน...ซึ่งขณะนี้อาเชอร์น่าจะดูได้เปรียบกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระยะทางระหว่างเขากับมาสเตอร์ซึ่งใกล้กว่าเซเบอร์มาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมาสเตอร์เขาสามารถกลับไปหาได้ทันที ขณะที่เซเบอร์ซึ่งเป็นฝ่ายบุกอย่างเปิดเผยจนแทบจะเรียกได้ว่า เซอร์แวนท์ทุกคนในเมืองนี้น่าจะรู้เป็นอย่างดี
มาสเตอร์ของเซเบอร์กำลังอยู่ตามลำพัง... เซเบอร์มาท้าสู้กับข้าแต่กลับไม่มีทีท่าจะเอาจริง... ทำไมเซเบอร์ถึงทำเช่นนี้?
อาเชอร์ครุ่นคิดในสถานการณ์... ถึงแม้เขาจะไม่เสียเปรียบแต่การที่ศัตรูมีแผนการแอบซ่อนแล้วเขาไม่อาจรู้ได้นั่นก็ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดไม่สบายใจขึ้นมาอย่างยิ่ง
“ไม่คิดจะแสดงฝีมืออะไรจริงจังหน่อยรึ น้องหนู...” เขาถามเสียงเข้มเมื่อเข้าประชิดได้อีกครั้ง
คมดาบสีขาวฟาดเข้าแสกหน้า โดยที่เซเบอร์ไม่อาจหลบหลีกได้ จนจำต้องยกคันธนูขึ้นมาขวาง...และมันก็แหลกกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที “เปรี๊ยะ...” “สู้กันแบบกั๊กๆ นี้ข้าว่าไม่ค่อยสมเป็นวีรชนเลยนะ…” อาเชอร์แสยะยิ้มเมื่อเห็นอาวุธของอีกฝ่ายถูกทำลาย “ฮะ ฮ้า... ข้าก็ไม่ปฎิเสธว่าเจ้าเองก็กั๊กไม่ค่อยสมเป็นวีร‘บุรุษ’เช่นกันแหละน่า...” เซเบอร์สวนทันควันแบบไม่สะทกสะท้านแถมเน้นเสียงตรงคำว่าบุรุษอีกต่างหาก พร้อมกับกระโดดถอยฉากทิ้งระยะห่าง
ยัยนี่...มันคิดจะเอาแต่ถ่วงเวลาจริงๆด้วยแฮะ... อาเชอร์คิดในใจก่อนสลายดาบคู่ในมือทั้งสองข้างทิ้งไป ราวกับเลิกล้มเจตนาการต่อสู้
“เป็นอะไรไป อาเชอร์... เป็นหนึ่งในคลาสอัศวินแท้ๆ จะมาถอดใจยกธงขาวซะแล้วรึ?” เซเบอร์ถามแบบงงๆ เพราะเธอไม่คิดว่าการต่อสู้จะสิ้นสุดแบบง่ายๆเช่นนี้
อาเชอร์ไม่ตอบทันที แต่บรรยากาศรอบๆกำลังเปลี่ยนแปลง สายลมที่เคยสงบนิ่งกลับโบกพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงโดยกระทันหัน กระแสเวทย์มนต์ที่ไหลพุ่งพล่านรอบกายของวีรชนหนุ่มนั้นแสดงให้เห็นชัดว่าเขากำลังจะทำอะไรบางอย่าง “เซเบอร์...” อาเชอร์พูดชื่อขึ้นลอยๆ “ทำไมรึ...จะสารภาพรักรึไง?” เซเบอร์ตอบแบบยั่วโมโห “ข้าขอเตือนด้วยความหวังดี...อย่าละสายตาเชียว...” วีรชนชุดแดงพูดเสียงเครียด“ไม่งั้นเจ้าตาย...” สิ้นคำที่สองคันศรสีดำก็ปรากฎในมือขวาของเขา
ไม่ถึง 1 วินาทีดีด้วยซ้ำเมื่อสิ้นเสียงเตือนของอาเชอร์...ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินสายตาของมนุษย์ปกติ หรือแม้แต่ผู้สังเกตการณ์ที่กำลังจับตาดูอยู่จากสถานที่ๆห่างออกไปก็แทบจะไม่รู้ตัว
บัดนี้อัศวินแห่งธนูจะจับอาวุธคู่กายของตน… อาวุธวิเศษอันเป็นไพ่ตายของนักรบในระยะไกล… ศรเวทย์มนต์ที่ทรงศักดิ์และสิทธิ์ที่จะเด็ดชีพศัตรูชั่วพริบตา...
เซเบอร์ผู้ซึ่งระแวดระวังตัวอยู่ตลอดแม้ในขณะที่ต่อปากคำกับอาเชอร์ รู้สึกตัวได้ทันทีถึงพลังกดดันของอาวุธวิเศษ...แต่กระนั้นก็ไม่อาจตอบสนองหรือหลบหลีกเหตการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างที่เธอหวังแม้แต่น้อยในคราวนี้
มือซ้ายของวีรชนชุดแดงนั้นจับคันธนูมั่น... ดาบหลากคมเล่มใหญ่สีดำปรากฎขึ้นในมือขวา... ดาบที่แผ่รังสีอำมหิตราวกับความเกลียดชังของอสูรกาย...
มันเป็นชั่วเวลาสั้นมาก... อาเชอร์ทาบดาบเล่มนั้นลงกับคันธนูพร้อมน้าวสาย ซึ่งมันกลายสภาพจากดาบมารเล่มโตให้กลายเป็นลูกศรเรียวยาวในทันที… เวทย์มนต์ทั้งหมดถูกประจุอัดแน่นลงในคันศรเปล่งประกายสายฟ้าสีแดงออกมารอบๆ ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังกระหายเลือด
วีรชนแห่งธนูขอประกาศนาม... หมาป่าแห่งทุ่งโลหิต... Hrunting...
แสงสีแดงพุ่งทะยานออกจากธนูของอาเชอร์ราวกับจักรผันแห่งความพินาศ มันทะยานด้วยความเร็วมากกว่า 13 เท่าของความเร็วเสียง...ทิ้งเสียงคำรามลั่นแหวกอากาศตามหลัง กระจกของอาคารและตึกรอบๆส่วนที่ไม่ได้รับการปกป้องจากเวทย์มนต์ของผู้สังเกตการณ์แหลกกระจายเป็นเศษเล็กน้อยด้วยอำนาจของโซนิคบูมจากศรเวทย์มนต์
ด้วยความเร็วขนาดนี้กับช่วงห่างไม่กี่สิบเมตรระหว่างเขากับเซเบอร์นั้น เรียกได้ว่าเป็นการยิงในระยะ ‘เผาขน’ ทีเดียว…หากเป็นคนธรรมดาแค่เฉียดกับเวทย์มนต์ขนาดนี้อาจจะถูกเผาเป็นขี้เถ้าได้ไม่ยาก และต่อให้เป็นเซอร์แวนท์ระดับทั่วไปก็ยากจะรอดชีวิตได้ทันทีหากปะทะกับคมศรแห่งหมาป่ากระหายเลือดตรงๆ
แต่นั้นไม่ใช่กับเซเบอร์... เหล่าเซอร์แวนท์นั้นเมื่อได้รับพรให้จุติลงมาในสภาพกายหยาบเพื่อการต่อสู้ พวกเขาหรือเธอนั้นล้วนมีคุณสมบัติทางกายภาพในระดับที่เรียกได้ว่าเหนือสุดยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เซเบอร์, คลาสที่มักได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าเธอจะถูกอัญเชิญด้วยจอมเวทย์ที่มีศักยภาพเพียงเล็กน้อยทำให้สถานะพลังถูกลดทอนไปบ้าง แต่เมื่อวัดจากความสามารถพื้นฐาน…เธอนั้นเร็วพอที่จะสังเกตเห็นช่วงเวลาที่อาเชอร์กำลังปลดปล่อยลูกธนูและพุ่งตัวหลบออกข้างไปได้หลายเมตรในจังหวะนั้นเอง
ทว่า...คมศรที่สร้างจากดาบกระหายเลือดนั้นก็มิได้อ่อนด้อย
“อ๊ากกกกกก…..” เซอร์แวนท์สาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แน่นอนว่าเธอหลบคมศรของอาเชอร์ได้พ้นแบบเฉียดฉิว ทว่าระยะห่างหลายเมตรที่เธอหักหลบออกมาได้นั้นไม่เพียงพอที่จะหลบหนีจากรัศมีการทำลายของคมคลื่นอากาศที่ถูกแหวกออกด้วยพลังมหาศาลของธนูเวทย์มนต์
แม้เป็นเพียงเศษเสี้ยวที่หลงเหลือของพลังโจมตี...แต่คมเขี้ยวสุญญากาศของ Hrunting เรียกเลือดสีแดงออกจากแขนและสีข้างของเซอร์แวนท์สาวให้สาดกระเซ็นได้ราวกับน้ำพุทีเดียว
แก...อย่าคิดว่าจะจบง่ายๆแน่... เซเบอร์กัดฟันคิด “ฮ่าหหหหหหหห...” เธอข่มความเจ็บปวดพุ่งตัวออกเข้าหาอาเชอร์ทันที อาวุธวิเศษที่ทรงพลังเช่นนี้อาเชอร์ไม่มีทางยิงต่อเนื่องได้ด้วยความรวดเร็วแน่นอน และขณะนี้วีรชนชุดแดงเปลี่ยนมาใช้อาวุธธนู ดังนั้นเขาไม่มีทางรับมือในระยะประชิดได้แน่นอน...
แต่อาเชอร์กลับยืนนิ่ง...ไม่เปลี่ยนอาวุธ...แม้แต่การตั้งท่ารับมือ... วีรชนชุดแดงยังคงค้างท่าเล็งธนูพร้อมกับคันศรไว้พร้อมกับสแยะยิ้มและสบตาเธอโดยไม่หวั่นเกรง
สัมผัสที่ 6 ในตัวเซเบอร์กรีดร้องลั่นถึงอันตรายที่คาดไม่ถึงจากด้านหลัง ฟุ๊บบบบบบบ…..
“อ๊ากกกกกก” เซเบอร์ถึงกับร้องอีกครั้งเมื่อลูกศรดอกเดิมพุ่งเฉียดร่างเธอไปเพียงระยะเส้นผม ธนูดอกนั้นเลี้ยวกลับเข้าหาเป้าหมายราวกับสุนัขป่าวิ่งไล่ล่าเหยื่อ และมันเกือบจะทำสำเร็จในครั้งนี้ เพราะมันกรีดแขนของเธอเป็นบาดแผลลึกพร้อมความเจ็บปวดสุดประมาณ อีกทั้งแรงกระแทกจากคลื่นอากาศยังส่งผลให้เซเบอร์กระเด็นไปกับพื้นหลายรอบ
หากเธอไม่ขยับตัวเล็กน้อยในเสี้ยววินาทีก่อนหน้านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าธนูดอกนั้นต้องเข้าเป้ากลางร่างเธอแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมันโจมตีจากด้านหลัง...ทิศทางที่มีการระวังภัยน้อยที่สุด ยากนักที่จะมีใครคิดว่ามีอาวุธวิเศษบางอย่างที่จะตามล่าเป้าหมายแบบกัดไม่ปล่อยอยู่กับวีรชนผู้นี้
“ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าละสายตา...” วีรชนหนุ่มเอ่ยปาก ตัวอาเชอร์นั้นยังคงยืนในท่าเดิมอยู่ คราวนี้เซเบอร์เห็นได้ชัดเจนกับสองตา... ลูกศรสีดำแดงที่พึ่งพุ่งผ่านเธอไปเมื่อสักครู่ ตีวงโค้งเลี้ยวผ่านอาเชอร์หันวนกลับมาที่เธออีกรอบราวกับขีปนาวุธนำวิถีกำลังล็อคเป้าหมาย
คมดาบที่ไล่ล่าจนกว่าเป้าหมายจะวายชลป์
“อ้า...ต้องอย่างงี้สิถึงดูสมกับเป็นมือธนูหน่อย” เซเบอร์ตอบแบบฝืนยิ้ม แล้วศรเวทย์มนต์ก็คำรามเข้าใส่เธออีกรอบระเบิดพื้นอิฐที่เธอยืนอยู่เป็นเศษผงในพริบตา… เซเบอร์หลบได้อย่างปลอดภัยในครั้งนี้เพราะเธอเห็นทิศทางของมันตั้งแต่แรก...แต่ก็เต็มกลืนไม่น้อย
ถ้าจะไม่ดีแล้วแฮะ... เซเบอร์คิดในใจ และอดด่าตัวเธอเองไม่ได้ที่ดันเลือกมาเจอเซอร์แวนท์หนุ่มผู้นี้ พร้อมกับตั้งสมาธิคอยหลบหลีกศรเวทย์มนต์ที่กำลังตีวงเลี้ยวกลับมาแบบไม่ยอมเลิกลา
ในอีกด้าน...อาเชอร์กำลังรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง...ไม่น่ามีใครหลบหลีกธนู Hrunting ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะเป็นการหลบอย่างยากลำบาก หรือเป็นเพราะเขาจะโจมตีซึ่งๆหน้าก็ตามที แต่เธอ... เธอผู้เรียกตัวเองว่าเซเบอร์นี้กลับหลีกเลี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้โดยไม่ใช้แม้แต่อาวุธวิเศษ หรือการช่วยเหลือจากมาสเตอร์แม้แต่น้อย... นั่นทำให้เขาเองรู้สึกทึ่งไม่ใช่น้อยทีเดียว
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะออมมือให้...อาเชอร์คิดพร้อมกล่าวเสียงเบา จงมาดาบแห่งแห่งทิศเหนือ ขบเกลียวที่ทะลวงทุกการป้องกัน
ดาบอีกเล่มนึงปรากฎขึ้นในมือขวาของอาเชอร์ มันมีรูปลักษณ์คล้ายดาบสั้น แต่คมดาบมันกลับเป็นรูปทรงแประหลาดคล้ายสว่านที่ยืดยาวออก และครั้งหนึ่งมันเคยถูกครอบครองโดยวีรบุรุษแห่งไอร์แลนด์
ลองดูซิเซเบอร์ ว่าคราวนี้เจ้าจะรอดไปได้สักแค่ไหนกัน
อาเชอร์น้าวสายธนูขึ้นอีกครั้ง พาดคมดาบลงทาบทับกับคันธนูอย่างประณีตโดยจับจ้องไปที่วีรชนสาวที่พยายามหลบหลีกลูกศรดอกแรกอยู่อย่างไม่ยอมจบสิ้น... เขาเฝ้ารอจังหวะที่ธนูทั้งสองดอกจะประสานกันได้ในจังหวะที่ไม่ผิดพลาดและนั้นจะหมายถึงจุดจบอันฉับพลันของเซเบอร์ทีเดียว
อีกด้านหนึ่ง...เซเบอร์มองเห็นพฤติกรรมทุกอย่างของอาเชอร์อยู่แล้ว ไม่สิ...พูดให้ถูกคือเซเบอร์นั้นรู้อยู่แล้วว่าเซอร์แวนท์ชุดแดงนั้นต้องทำอะไรสักอย่างแน่นอนระหว่างที่เธอกำลังดิ้นรนหลบธนูดอกแรก เพราะนี่คือโอกาศอันงามยิ่งในการเล็งสังหารแบบประณีตทีเดียว
ทว่า...แม้จะรู้ดีว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา เซเบอร์กลับไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลือมากนัก...ธนูมารที่ร้ายกาจพุ่งเข้าไล่ล่าเธอแบบไม่หยุดหย่อน และการหลบมันแต่ละครั้งนั้นก็ยากเย็นอย่างยิ่ง แม้ว่าพลังเวทย์ในศรดอกนั้นจะค่อยๆลดลงก็ตาม แต่การหลบหลีกโดยไม่ตั้งสมาธิแน่วแน่นั่นก็เรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย เธอตั้งสติส่งเสียงเรียกกลับไปหานายของตน
มาสเตอร์...ข้าไม่อาจต่อสู้ทั้งที่ดาบยังอยู่ในฝักได้นานนักหรอกนะ
--------------------------------
ณ ห้องหนึ่งบนอาคารชั้นที่ 7 มาโคโตะนั่งรออย่างเงียบสงบภายในอาคารที่ว่างเปล่า ขณะที่เซเบอร์ออกไปต่อสู้ได้สักพักนึงแล้ว ซึ่งน่าจะเรียกความสนใจได้ไม่น้อย
เขา...ผู้เป็นมาสเตอร์ บัดนี้เขาซึ่งอยู่ตามลำพัง บัดนี้เขาอยู่ในอาคารส่วนที่ไม่มีผู้พบเห็น
มาแล้ว....พวกมันทั้งมาสเตอร์และเซอร์แวนท์กำลังแห่มา มาโคโตะคิดในขณะที่เซเบอร์ส่งกระแสจิตเรียกหาด้วยสถานการณ์ที่คับขัน
มาโคโตะ' Choice A) ปลดปล่อยอาวุธวิเศษของเซเบอร์ B) ใช้อาคมบัญชาเรียกเซเบอร์กลับมา
Create Date : 12 มกราคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 12 มกราคม 2553 8:36:46 น. |
Counter : 1915 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]
|
Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)
ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
|
|
|
|
|
|
|
|