Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 

++ วัดพระธาตุดอยสุเทพ และ วัดอุโมงค์ จ. เชียงใหม่ ++




สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ช่วงวันหยุดยาวนี้เพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างนะ  ส่วนเรามีโอกาสได้เดินทางไปเชียงใหม่  แต่มีเวลาแค่ 1 วัน  ซึ่งเราก็ใช้เวลาใน 1 วันเที่ยวและทำบุญในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ไปหลายที่เลยค่ะ  ลองมาดูสิว่าเราไปที่ไหนกันบ้างนะคะ  (ภาพเยอะเหมือนเดิมนะคะ  ไม่อยากเขียนหลายตอน Smiley )


เริ่มต้นออกเดินทางจากเชียงรายในวันที่  11  ก.ค. 57  เป็นวันอาสาฬหบูชา  เวลา 8.30  น.  ก็สายพอสมควรแล้ว เราขับรถไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทาง เชียงราย - เชียงใหม่  จุดหมายแรกคือ   แวะมาบอกรัก ภูภัตร Coffee 

























แวะพักแป๊บเดียวค่ะ  ซื้อกาแฟ เดินถ่ายรูปแล้วเราต้องเดินทางต่อไปค่ะเพราะมีเวลาไม่มาก  ไปกันโลดค่า     เรามีโปรแกรมอยู่ 2 ที่ค่ะ คือวัดพระธาตุดอยสุเทพ  และไปเวียนเทียนที่วัดอุโมงค์  นอกนั้นก็เป็นการขับรถไปเรื่อย ๆ ค่ะ เจออะไรสวย ๆ ก็แวะเที่ยวและถ่ายรูป   และเราก็เจอรีสอร์ทสวย ๆ นี่เลยค่ะ

San pareni  Resort








คล้าย ๆ ปาลิโอ   เราแค่แวะถ่ายรูปกันค่ะ ไม่ได้เข้าพักนะคะ 





รีสอร์ทแห่งนี้อยู่ใกล้ ๆ กับ Big C หางดง





ตกแต่งได้สวยงามมากค่ะ





ที่เห็นคล้ายโบสถ์ด้านหลังคือร้านอาหาร และมุมกาแฟ























จุดหมายต่อไป  วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร


หน้าสวนสัตว์รถเยอะมากค่ะ  พอเห็นป้ายจึงถึงบางอ้อ วันที่  11 ก.ค. 57  เปิดให้เที่ยวฟรี




ก่อนขึ้นพระธาตุแวะสักการะครูบาศรีวิชัยก่อนค่ะ












แวะจุดชมวิวก่อนขึ้นพระธาตุ






จุดชมวิวเมืองเชียงใหม่






ไปกันต่อค่ะ






มาถึงด้านหน้าก่อนขึ้นพระธาตุค่ะ  มี 2 ทางเลือกคือ  เดินขึ้นบันไดนาค  300  ขั้น หรือนั่งกระเช้าไฟฟ้า  ซึ่งเราก็เลือกนั่งกระเช้าไฟฟ้าค่ะ ค่าบริการคนละ  20  บาท





ทางขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ด่านแรกต้องเจอกับตู้ ATM หลากหลายธนาคาร และแม่ค้าล๊อตเตอรี่





จุดจำหน่ายตั๋วกระเช้าไฟฟ้า





ขึ้นมาถึงบนพระธาตุแล้ว สิ่งแรกที่ทำทุกครั้งที่มาคือมาถ่ายรูปตรงจุดนี้เก็บไว้ค่ะ





บรรยากาศรอบ ๆ พระธาตุ


































วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร  เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม



































หลังจากทำบุญกันเรียบร้อยแล้ว  เราก็เดินออกมาชมบริเวณวัดด้านนอกกันบ้าง  วันนี้คนเยอะมากเนื่องจากเป็นวันพระ 























หลังคาถูกปกคลุมไปด้วยต้นมอสส์  บ่งบอกถึงความหนาวเย็นตลอดฤดูกาลของที่นี่























ลงแล้วค่ะ  ได้เวลาไปกันต่อ






ลงจากดอยสุเทพแล้ว เรายังมีเวลาเหลือระหว่างรอไปเวียนเทียนที่วัดอุโมงค์ในคืนนี้  ก็ขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ จนมาเจอแหล่งเดินเล่นน่าสนใจที่นี่ค่ะ 

The Harbour





เสียดายที่ร้านค้าต่าง ๆ ปิดไปเยอะเลยค่ะ  คงไม่ค่อยมีคนมาเดินซื้อของเท่าไหร่นะเราว่า  ส่วนใหญ่ที่เห็นก็เป็นพวกสาว ๆ จากเมืองจีนนะ ที่มาช้อปปิ้งกัน  (มีแถมภาพ  Think park  ของคุณตันมา 2 ภาพ)









หลังจากรอจนได้เวลาเวียนเทียนแล้ว  เราก็มุ่งหน้าสู่วัดอุโมงค์

วัดอุโมงค์เดิมชื่อ  วัดเวฬุกัฎฐาราม  แปลว่า วัดป่าไผ่ 11 กอ  ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้งพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่แล้ว  ประมาณปี พ.ศ.1840  ได้สร้างวัดขึ้นบริเวณป่าไผ่ 11 กอ  เพื่อถวายเป็นที่พำนักแด่พระภิกษุนามเถรจันทร์ และ พระภิกษุชาวสิงหล (ลังกา)  ต่อมาในสมัยพญากือนา โปรดสร้างอุโมงค์ขึ้นในบริเวณวัด ภายหลังจึงเรียกกันว่าวัดอุโมงค์เถรจันทร์  หรือ วัดอุโมงค์

ในอดีตถือว่าเป็นวัดป่าหรือวัดอรัญวาสี  ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเวียงสวนดอก  นอกเวียงเชียงใหม่ ภายในมีเจดีย์ทรงระฆังกลม ตั้งอยู่บนฐานกลมเตี้ย  (รูปแบบคล้ายเจดีย์สัปต เมืองพุกามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 19)  ภายในห้องกรุใต้องค์เจดีย์มีภาพเขียนรูปอดีตพระพุทธเจ้า ประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วเรียงกันเป็นแถว  องค์เจดีย์นี้ตั้งอยู่บนเนินลานโล่ง ล้อมรอบด้วยกำแพง มีบันไดนาคทางขึ้น - ลง อยู่ทางด้านทิศใต้  ด้านทิศตะวันออกเป็นลานหินหลังคาคูหาของอุโมงค์ที่มีช่องประตูทางเข้าอยู่ด้านล่างทางทิศใต้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป และตกแต่งผนังคูหาด้วยภาพจิตกรรมรูปต้นไม้ ดอกไม้ และนก  ด้านหน้าอุโมงค์เป็นลานกว้าง ล้อมรอบด้วยกำแพงมีประตูเข้า-ออก อยู่ทางด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก  เชื่อมต่อกับบันไดนาคทางขึ้นเจดีย์  ปัจจุบันด้านหน้านี้เป็นที่ตั้งศาลา  หมู่กุฏิสงฆ์  เสาหินซึ่งหัวเสาทำเป็นรูปปั้นสิงห์โตและฐานวิหารเดิม  จากเอกสารทางด้านประวัติศาสตร์  สถาปัตยกรรมและภาพจิตรกรรมฝาผนัง  สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่  20-21  ต่อมาในปี  พ.ศ. 2490  เจ้าชื่นสิโรรส  ได้สร้างสวนพุทธธรรมขึ้นในวัด และนิมนต์ท่านปัญญานันทภิกขุ (พระธรรมโกศาจารย์)  มาเป็นเจ้าอาวาส  วัดอุโมงค์นับว่าเป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่

(ข้อมูลจากป้ายในวัด)














เสาอโศก   เครื่องระลึกถึง พระเจ้าอโศกมหาราชพระมหากษัตริย์ของประเทศอินเดียราว พ.ศ. 270  ผู้เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นนักเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่องค์แรกของโลก

เสานี้เป็นเครื่องหมายอันสำคัญซึ่งค้นพบที่อินเดีย  เมื่อเสาอโศกนี้ตั้งอยู่ที่ใดนั้น หมายถึงสถานที่นั้นมีความสำคัญกับองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา


เสานี้จำลองมาสร้างเมื่อ  พ.ศ.  2507
















































เดินออกจากอุโมงค์เพื่อไปเวียนเทียนรอบ ๆ เจดีย์


















เวียนเทียนเสร็จเรียบร้อย ก็เดินย้อนลงมาที่อุโมงค์เพื่อเดินทางกลับบ้านค่ะ

















ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามการเดินทางและเรื่องราวของ จขบ. ค่ะ









 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2557
2 comments
Last Update : 15 กรกฎาคม 2557 12:54:42 น.
Counter : 3569 Pageviews.

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 14 กรกฎาคม 2557 3:38:20 น.  

 

มาเที่ยวด้วยครับ
ไหว้พระมีความสุขในวันดีๆ

ภาพสวยงามครับ

 

โดย: wicsir 14 กรกฎาคม 2557 21:07:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kor_pink
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]





บันทึกการเดินทาง

19 พฤษภาคม 2556 หลังจากเริ่มหัดเขียน blog มาได้สักระยะแล้ว ก็ได้รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้มีมิตรภาพอยู่มากมาย
เนื่องจาก จขบ. เป็นคนชอบท่องเที่ยวและเก็บภาพที่ไปไว้ จึงอยากแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ที่ได้พบเจอมาลงในบล๊อกแห่งนี้ค่ะ ยังไงก็ลองติดตามดูกันนะคะ ^_^

(ขอบคุณของแต่ง blog จาก ยายเก๋า(ชมพร) คุณญามี่ คุณเนยสีฟ้า และขอบคุณทุกเพลงจากท่านที่นำมาลงในยูทูป นะคะ)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายกันค่ะ


New Comments
Friends' blogs
[Add kor_pink's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.