5 อันดับอาหารเจ้าปัญหา ที่ทำให้มีกลิ่นตัวแรง
ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า "เหงื่อ" ที่ร่างกายคนเราผลิตออกมานั้น เมื่อทำปฏิกิริยาเคมีกับแบคทีเรียที่หมักหมมอยู่บนผิวหนังของเราแล้ว ก็จะแปรสภาพเป็นกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่ทำให้ใครหลายต่อหลายคนต้องเสียเซลฟ์กันอยู่บ่อยๆ ซึ่งวิธีแก้ปัญหากลิ่นตัวแรงที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว ก็คือการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน อาทิ กระเทียม และหัวหอม เป็นต้น แต่หนุ่มๆ ทราบกันหรือไม่ว่า? ยังมีอาหารอีกหลายประเภท ที่เป็นต้นเหตุของปัญหากลิ่นตัวแรงเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะนานๆ กินทีก็ตามเถอะ ว่าแล้วเราลองมาดูตัวอย่างอาหาร 5 ชนิดที่มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัวแรงแบบที่คุณคาดไม่ถึงกันเลยดีกว่า

1. บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ

หนุ่มๆ หลายคนคงกำลังงงว่าการรับประทาน บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี และ ดอกกะหล่ำ จะทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ยังไงกัน? ขอบอกว่าตัวการสำคัญก็คือเจ้าสารซัลเฟอร์ ที่มีอยู่ในผัก 3 ชนิดนี้นั่นแหล่ะ ที่จะคายกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมาผ่านทางต่อมเหงื่อของคุุณ แต่จะว่าไปแล้วประโยชน์ของเจ้าบร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี และดอกกะหล่ำ นั้นก็มีมากมายเกินกว่าที่จะตัดมันออกจากเมนูอาหารในชีวิตประจำวันเราได้ ซึ่งก็มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยลดปฏิกิริยาเคมีของการเกิดกลิ่นตัวได้ เพียงแค่คุณนำผักไปลวกในน้ำเดือดที่ใส่เกลือเล็กน้อยก่อนจะนำไปรับประทาน ก็จะเป็นการช่วยแก้ปัญหานี้ได้ และยังไม่เป็นการทำลายคุณค่าทางสารอาหารอีกด้วย

2. เนื้อแดง

การบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีสีแดง ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว หรือแม้แต่ ตับ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์แบบที่คุณคาดไม่ถึงกันเลยแหล่ะ ทั้งนี้ก็เพราะกรดอะมิโนในเนื้อแดง เมื่อถูกย่อยจะก่อให้เกิดสารชนิดหนึ่งซึ่งมีผลต่อการเกิดกลิ่นตัว โดยจะถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อของร่างกาย และทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียที่หมักหมมอยู่บนผิวของคุณ ใครไม่อยากตัวเหม็นจนต้องร้องยี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อแดง หรือทานให้น้อยลง โดยอาจจะหันมาบริโภคอาหารทะเลแทนบ้างก็ได้

3. อาหารขยะ และ บรรดาฟาสต์ฟู๊ดทั้งหลาย

ใครที่เป็นสาวกอาหารฟาสต์ฟู๊ด และกำลังประสบกับปัญหากลิ่นตัวกวนใจ อาจต้องงดตามใจปากกันบ้างแล้วล่ะ เพราะนักวิจัยเค้ายืนยันมาแล้วว่าปริมาณน้ำตาลในอาหารเหล่านี้มีเยอะมาก ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณเสี่ยงต่อโรคเบาหวานแล้ว ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหลังการรับประทานอาหารขยะทั้งหลาย อาจทำให้ร่างกายของคุณผลิตเหงื่อออกมามากขึ้น และเมื่อเหงื่อมาเจอกับแบคทีเรียบนผิวของคุณ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ก็จะโผล่มาทักทายคุณได้น่ะซิ

4. อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ (Low-carb diets)

เมื่อใดก็ตามที่คุณรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ร่างกายก็จะหันไปเบิร์นไขมันแทนการเบิร์นแป้ง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่การกินอาหารแบบลดแป้งทำให้คุณลดน้ำหนักได้ แต่ก็อาจจะได้กลิ่นตัวมาเป็นของแถมได้อีกเช่นเดียวกัน ก็เพราะกระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณขับเหงื่อที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาได้ ดังนั้น วิธีที่เวิร์คที่สุดสำหรับหนุ่มๆ ก็คือการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตามปริมาณที่เหมาะสมสำหรับร่างกาย ไม่มากและไม่น้อยเกินไป

5. ชีส และ นม เนย ต่างๆ

อาหารประเภทชีส และ นม เนย ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะย่อยยากแล้ว ยังเป็นตัวการอันก่อให้เกิดสารไฮโดรเจน ซัลไฟด์ หรือแก๊สไข่เน่าในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อกลิ่นตัวกวนใจคุณได้อีกเช่นกัน หนุ่มๆ ฟังแล้วก็จำกัดปริมาณการบริโภคนมเนยกันหน่อยแล้วกัน อย่าสนุกกับการกิน จนสุดท้ายต้องมาปวดหัวกับปัญหากลิ่นตัวกันอีกเลย

ทราบถึงอาหารต้นเหตุกลิ่นตัวแรงกันไปแล้ว หนุ่มๆ ก็พยายามหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณการบริโภคให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ ก็อย่าลืมใส่ใจในสุขภาพความสะอาดของร่างกาย อาจจะเสริมด้วยการใช้โรลออนระงับกลิ่นเหงื่อทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพียงเท่านี้คุณก็จะหมดความกังวลกับปัญหากลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์แล้วล่ะ


แหล่งที่มา  //www.khanpak.com/content/30657/



Create Date : 21 สิงหาคม 2558
Last Update : 21 สิงหาคม 2558 15:05:51 น.
Counter : 422 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2419533
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
22
23
25
26
28
29
30
31
 
 
21 สิงหาคม 2558
All Blog