Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

เอาประวัติการ "ถือศีล กินผัก" ของจังหวัดภูเก็ต มาฝากกันครับ

อัพบล็อกคราวนี้ขอนำประวัติของประเพณีกินผักมาฝากกันนะครับ อันนี้เป็นประวัติที่ดูน่าจะจริงมากที่สุดสำหรับจังหวัดภูเก็ตนะครับ สมัยก่อนเรียกว่า "กินผัก" ครับ มีข้อปฏิบัติที่เคร่งกว่าในปัจจุบันนี้มากเลยนะครับ ดังนี้อ่ะ

ข้อควรปฏิบัติ 10 ประการสำหรับผู้ถือศีลกินผัก
1 ชำระร่างกายให้สะอาดตลอดช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก
2 ทำความสะอาดเครื่องครัวและแยกใช้คนละส่วนกับผู้ที่ไม่ได้ถือศีลกินผัก
3 ควรสวมชุดขาวตลอดช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก
4 ประพฤติตนดีทั้งกายและใจ
5 ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์
6 ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก
7 ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา
8 ผู้ที่อยู่ระหว่างไว้ทุกข์ไม่ควรร่วมงานประเพณีถือศีลกินผัก
9 หญิงมีครรภ์ไม่ควรดูพิธีกรรมใด ๆ ในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก
10 หญิงมีประจำเดือนไม่ควรร่วมพิธีกรรมใด ๆ ในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก


แต่ในปัจจุบันนี้ได้ผ่อนปรนลงมาเยอะเลยอ่ะครับ แต่ก็กลายเป็นว่ายังทำให้คนเรามีจิตใจที่ติดอยู่กับกิเลสอยู่มากเลยครับ เพราะอาหารที่ทำออกมาในปัจจุบันจะมีการทำโปรตีนเกษตรให้เลียนแบบเนื้อสัตว์ (มันเหมือนมากทั้งรูปร่าง และรสชาติ) จริงๆแล้ว ประเพณีโดยดั้งเดิม ก็เพื่อไม่ใ้ห้ยึดติดกับรสชาติด้วย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ หากใครที่ตั้งใจจริงๆ ก็ได้รับอานิสงค์ไปตามระดับครับ

คราวนี้ยังไม่ขออัพอะไรมากนัก ไว้เก็บเรื่องราวไว้อัพกันอาทิตย์ถัดๆไปดีกว่าครับ



เดิมประเพณีกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย) ที่ชาวบ้านและชาวจีนที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตเรียกกันว่า "เจี๊ยะฉ่าย" นั้น เป็นลัทธิเต๋าซึ่งนับถือบูชาเซียนเทวดา เทพเจ้า วีรบุรุษ เป็นประเพณีที่คนจีนนับถือมาช้านาน โดยเฉพาะคนจีนฮกเกี้ยน คำว่า "เจี๊ยะฉ่าย" (กินผัก) เป็นภาษาท้องถิ่น วันประกอบพิธีตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ (เก้าโง้ยโฉ่ยอีดถึงโฉ่ยเก้า) ตามปฏิทินจีนของทุกๆปี

ประเพณีเจี๊ยะฉ่าย ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกที่หมู่บ้าน ไล่ทู (ในทู) ซึ่งเป็นหมู่บ้านกะทู้ ตำบลกะทู้ จังหวัดภูเก็ตในปัจจุบัน คนจีนเหล่านั้นได้อพยพเข้ามาทำเหมืองแร่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา (ในสมัยรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) มีการค้าขายแร่ดีบุกกับปอร์ตุเกส ฮอลันดา ฝรั่งเศส อังกฤษ เป็นต้น คนจีนเหล่านั้นได้หลั่งไหลเข้ามามากที่สุดก่อนปี พ.ศ.2368 คือหลังจากเมืองภูเก็ตและเมืองถลางถูกพม่ารุกรานเมื่อปี พ.ศ.2352 พลเมืองได้กระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ ครั้นพระยาถลาง (เจิม)ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองถลาง และได้ตั้งเมืองภูเก็ตที่บ้านเก็ตโฮ่ ให้พระภูเก็ต (แก้ว) มาเป็นเจ้าเมือง (ระหว่าง พ.ศ. 2368-2400)


พื้นที่รอบๆในทู (กะทู้) อุดมสมบรูณ์ไปด้วยแร่ดีบุก จึงทำให้คนจีนหลั่งไหลเข้ามาขุดแร่ดีบุกเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนที่อพยพมาจากเมืองถลางเดิมที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และที่อพยพมาจากมณฑลฮกเกี้ยน,ซัวเถาและเอ้หมึง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยอาศัยเรือใบผ่านมาทางแหลมมาลายู เป็นต้น หมู่บ้านในทูในสมัยนั้นยังเป็นป่าทึบ มีไข้ป่า ตลอดจนภยันตรายต่างๆ จากสัตว์ป่ามากมาย แต่ผู้คนและชาวจีนในหมู่บ้านในทูกลับเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีแร่ดีบุกอุดมสมบูรณ์จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก

คนจีนที่อยู่ในทูสมัยนั้น มีความเชื่อและความศรัทธาในเรื่องเทพเจ้าประจำตระกูลหรือเทพเจ้าที่คุ้มครองประจำหมู่บ้าน เช่น เทพยดาฟ้าดิน เซียนต่างๆ รวมถึง บรรพบุรุษของตนเองมาก่อนแล้ว เมื่อมีเหตุเภทภัยเกินขึ้นจึงได้มีการอัญเชิญเทพเจ้าแต่ละพระองค์ที่ตนนับถือบูชากราบไหว้ให้มาคุ้มครองปกป้องรักษาตน หรือพวกพ้องที่ได้ทำมาหากินในท้องถิ่นที่ตนพำนักอาศัยให้คนเหล่านั้นอยู่ เย็นเป็นสุขโดยทั่วกันและความเชื่อนี้ยังคงยึดถือจนตราบเท่าทุกวันนี้


ต่อมาได้มีคณะงิ้ว หรือ เปะหยี่หี่ ที่ได้เดินทางมาจากประเทศจีนมาเปิดแสดงที่บ้านในทู คณะงิ้วนี้สามารถแสดงอยู่ได้ตลอดปี เนื่องจากเศรษฐกิจของชาวในทู กรรกรจีน รวมถึงร้านค้า มีรายได้ดีมาก ในขณะนั้น ต่อมาปรากฏว่ามีตึกดิน 26 หลัง และโรงร้าน 112 หลัง จึงสามารถอุดหนุนงิ้วคณะนี้ได้ตลอดปี หลังจากคณะงิ้วได้เปิดทำการแสดงอยู่ที่บ้านในทูระยะหนึ่ง ได้เกิดมีการเจ็บป่วยเป็นไข้ และจากการเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้คณะงิ้วนึกขึ้นได้ว่าพวกตนไม่ได้ประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่าย (กินผัก) ซึ่งเคยปฏิบัติกันมาทุกปีที่เมืองจีน และปรากฏมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอึ่งตี่ฮ่องเต้เป็นต้นมา จึงได้ปรึกษาหารือในหมู่คณะ และได้ตกลงกันประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายขึ้นที่โรงงิ้วนั่นเอง ทั้งนี้เนื่องจากไม่สามารถลงเรือใบ หรือเรือสำเภาเดินทางกลับไปร่วมพิธีเจี๊ยะฉ่ายที่เมืองจีนได้ทันเพราะใกล้จะถึงวันประกอบพิธีแล้ว จึงได้ตกลงใจประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายขึ้นที่โรงงิ้วเพื่อขอขมาโทษด้วยสาเหตุ

ต่างๆต่อมาโรคภัยไข้เจ็บก็หายไปหมดสิ้น รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่เคยเบียดเบียดชาวในทู ก็ลดลงด้วยเช่นกัน เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่ชาวในทูเป็นอันมาก จึงได้สอบถามจากคณะงิ้วและได้คำตอบว่าพวกเขาได้ประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายแบบย่อๆ เนื่องจากไม่มีผู้รู้และผู้ชำนาญในการจัดประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายโดยเพียงแต่สักการะบูชากราบไหว้ขอขมาโทษ ระลึกถึงกิ้วอ๋องเอี๋ยหรือ กิ้วอ๋องต่ายเต่หรือพระราชาธิราชทั้งเก้าพระองค์นั้นเอง

คณะงิ้วยังได้แนะนำชาวจีนในทูต่อไปว่า การเชิญเทพเจ้ามาสักการะบูชาเพื่อปกป้องตนเอง ครอบครัว และท้องถิ่น เพื่อให้อยู่เย็นเป็นสุขตามที่ได้ปฏิบัติกันมาแล้ว เป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็ควรจะเจี๊ยะฉ่ายถือศีลไปด้วย การเจี๊ยะฉ่ายไม่จำเป็นต้องปฏิบัติให้ครบทั้งเก้าวัน จะเจี๊ยะฉ่ายกี่วันก็ได้ตามแต่ศรัทธาและเหมาะสมของแต่ละครอบครัว ชาวในทูและคนจีนส่วนใหญ่มีความเชื่อและเลื่อมใสได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะงิ้ว โดยได้ประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายในปีต่อมา ประเพณีเจี๊ยะฉ่ายของเมืองภูเก็ตได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ในทู (กะทู้) นั่นเอง ต่อมาจึงได้แพร่หลายออกไปตามสถานที่ต่างๆ

หลังจากชาวจีนในทูได้ประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายได้ประมาณ 2-3 ปี โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ลดน้อยลงและหายไปในที่สุด ทำให้ชาวจีนที่มาอาศัยทำเหมืองแร่อยู่ตามดงตามป่ามีความเชื่อและศรัทธาเลื่อมใสมากยิ่งขึ้น


ก่อนคณะงิ้วจะย้ายไปทำการแสดงที่อื่น คณะงิ้วได้มอบรูปพระกิ้มซิ้น (เทวรูป),เล่าเอี๋ย (เตียนฮู้หง่วนโส่ย),ส่ามอ๋องฮู่อ๋องเอี๋ย, ส่ามไถ้จือ และได้ให้คำแนะนำแก่ชาวจีนเกี่ยวกับการประกอบพิธีกรรมโดยย่อๆ ในครั้งนั้นด้วยในช่วงระยะที่ชาวจีนกำลังประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่าย (กินผัก) ที่ท่านผู้รู้ท่านหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏนามเคยอาศัยอยู่ที่มณฑลกังไส (กังไส คือ เจียงซี้ของประเทศจีนในปัจจุบัน) ได้เดินทางมาประกอบอาชีพในทู ได้เห็นการประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายของชาวจีนไม่ถูกต้องตามแบบฉบับของฉ้ายตึ้ง (ศาลเจ้าในมณฑลกังไส) จึงได้แจ้งให้ชาวจีนในทูทราบว่าตนยินดีรับอาสาเดินทางกลับไปมณฑลกังไสของประเทศจีน เพื่อไปเชี้ยเหี้ยวโห้ย (อัญเชิญธูปไฟ) และองค์ประกอบสำหรับพิธี แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ ชาวจีนในทูจึงได้ร่วมมือร่วมใจกันรวบรวมทุนทรัพย์ให้กับผู้รู้ท่านนี้ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปมณฑลกังไส

อีก 2-3 ปีต่อมา ในระหว่างที่ชาวจีนในทูประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายแบบย่อๆ จนถึงวันขึ้น 7 ค่ำ (วันเก้าโง้ยโฉ่ยฉีด) ตามปฏิทินจีน เวลากลางคืน เรือใบจากประเทศจีนได้เดินทางมาถึงหัวท่าบ่างเหลียว (บางเหนียวในปัจจุบัน) ท่านผู้รู้ได้เดินทางกลับมากับเรือใบลำนี้ด้วยและได้ส่งคนมาแจ้งข่าวให้ชาวจีนในทูทราบว่า บัดนี้ตนได้เดินทางกลับจากประเทศจีนมาถึงหัวท่าบางเหลียวพร้อมเชี้ยเหี้ยวเอี้ยน (ผงธูป) มาด้วยแล้ว ขอให้คณะกรรมการกับผู้ที่ร่วมประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายไปต้อนรับที่หัวบ่างเหลียวในวันเก้าโง้ยโฉ่ยโป๊ยคือวันรุ่งขึ้น

เหี้ยวโห้ย หรือ เหี้ยวเอี้ยนที่นำมาจากมณฑลกังไส ได้จุดปักไว้ในเหี้ยวหล๋อ(กระถางธูป) โดยจุดธูปให้ติดตลอดระยะทางมิให้ดับ นอกจากนี้ยังได้นำแก้ง(บทสวดมนต์,คัมภีร์,ตำราต่างๆ พร้อมทั้งป้ายชื่อเต้าโบ้เก้ง ป้ายติดหน้าอ๊ามฉ้ายตึ้ง)

ปัจจุบันประเพณีเจี๊ยะฉ่าย (กินผัก) ของชาวภูเก็ตได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาทุกปีนับเวลาได้ หลายร้อยปีแล้วซึ่งถือว่าเป็นประเพณีอันดีงามของชาวภูเก็ต

แหล่งที่มา : ไชยยุทธ ปิ่นประดับ ประเพณีกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย) จังหวัดภูเก็ต


อ้างอิง : //www.phuketvegetarian.com/phuketvegatarian-knowhow/history.htm




 

Create Date : 08 ตุลาคม 2550
59 comments
Last Update : 8 ตุลาคม 2550 17:12:57 น.
Counter : 796 Pageviews.

 

อ๋อ...เป็นอย่างนี้นี่เอง...

มะรืนเย็นบ้านเราก็เริ่มกินเจกันละล่ะ...ดีจัง...ชอบกินเจ

 

โดย: uter 8 ตุลาคม 2550 17:51:06 น.  

 

ขอบคุณค่ะ
แปลว่าพรุ่งนี้ล้างท้องรอเตรียมกินเจกันเน๊าะ
ฝันดีเจ้าค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 8 ตุลาคม 2550 23:18:46 น.  

 

อืม เพิ่งรู้ประวัิติคับ
แต่วันนี้ก็เริ่มงดเนื้อสัตว์
และกินผักอย่างเดียวแล้วเหมือนกันคับ

 

โดย: เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว 8 ตุลาคม 2550 23:56:17 น.  

 

แวะมา goodnight ค่ะ ฝันดีนะค่ะ อ่า ขอบคุณนะค่ะ ที่นำมาฝากค่ะ

 

โดย: ann_269 9 ตุลาคม 2550 0:28:56 น.  

 

เริ่มวันใหม่ด้วยเรื่องดีๆในช่วงกินเจ ขอบคุณคะ

 

โดย: ตัวหนอน (sawkitty ) 9 ตุลาคม 2550 8:37:43 น.  

 

คุณสัก 1 บาทประมาณ 480 ด่อง หรือ 1 ด่องเท่ากับ 1/480 = 0.002 บาทครับ

 

โดย: bite25 9 ตุลาคม 2550 10:21:04 น.  

 

ขอให้ได้บุญเย๊อะเยอะนะคะ

 

โดย: ฟ้าคงสั่งมา 9 ตุลาคม 2550 11:55:14 น.  

 

แล้วเจ้าของบล็อกกินเจไหม

 

โดย: ApPleNarak999 9 ตุลาคม 2550 12:02:24 น.  

 

ขอบคุณนะค่ ขอให้พรดี ๆ ไปให้น้องชายคนนี้ด้วยค่ะ ร่วมกินเจ กันด้วยนคะ

 

โดย: sukdina IP: 202.60.203.212 9 ตุลาคม 2550 12:24:07 น.  

 

แวะมาเยี่ยมนะคะ Blog น่าสนใจดีค่ะ

 

โดย: gekery (gekery ) 9 ตุลาคม 2550 12:29:05 น.  

 

ไม่ได้กินเจแต่ขอ่านประดับความรู้ครับ

 

โดย: Jump.Jr 9 ตุลาคม 2550 14:10:51 น.  

 

มาอ่านค่ะ
ดีจัง ชอบทานเจค่ะ

 

โดย: ตาลาย (jdfoxbat ) 9 ตุลาคม 2550 15:42:33 น.  

 

แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ มีสาระน่ารู้ ดค่ะ

 

โดย: พี่โรสบ้านนายกุหลาบมา (นายกุหลาบ ) 9 ตุลาคม 2550 21:37:25 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมเยียนที่บล๊อกเรา..อิอิ เขิลแฮะ..ที่ชม..เราเน้นระบายและไร้สาระไปหน่อยยย..เน้อออ
ช่วงนี้กินเจนะคะ..ชวนกินเจ..และทำจิตใจให้ผ่องใสนะคะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ..แล้วจะแวะมาใหม่ค่ะ

 

โดย: ฝนค่ะ (แองเจิ้ลดุกุ ) 10 ตุลาคม 2550 0:02:46 น.  

 

ดีครับ แวะมาทักทายครับ โหเข้ามาก็อิ่มบุญทันตา 5555 แล้วจะแวะเข้ามาบ่อยๆๆนะคับ

 

โดย: flaptop 10 ตุลาคม 2550 13:54:45 น.  

 

อยากทานเจบ้างจังค่ะ ปกติทานทุกปี

แต่ปีนี้งดเพราะต้องให้นมลูก

ยังไงก็ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้านะคะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมที่บล็อกนะคะ ว่างๆมาอีกน๊า

 

โดย: rd_lam 10 ตุลาคม 2550 14:29:51 น.  

 

ไม่ได้กินเจตามเทศกาลง่ะ
มีกินก็กินไม่มีก็ไม่ได้กิน

 

โดย: ตุ๊กตาซัง 10 ตุลาคม 2550 15:58:55 น.  

 

กินเจดีต่อสุขภาพ แบบว่าทั้งกายและใจ

 

โดย: กุลนิษฐ์ (kulanit ) 10 ตุลาคม 2550 19:50:22 น.  

 

โห ความรู้มากมาย
ขอบคุณที่แวะไปทักค่ะ
บล็อคสวยดีนะคะ^^

 

โดย: feliona_kalo IP: 125.24.74.167 10 ตุลาคม 2550 21:15:35 น.  

 

แวะมาทักทายค่า...

ช่วงกินเจ เป็นช่วงเสียตัง เพราะว่าเป็นวันเกิดของน้องเทค เหอๆ
เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย

 

โดย: silent_world 10 ตุลาคม 2550 21:35:41 น.  

 

หวัดดีครับ

เรื่องกินเจนี่ผมไม่ถนัด มาอ่านที่นี่ได้ความรู้ดีครับ

ขอให้เจริญๆ ทุกท่าน

 

โดย: ฤทัยนาวา 11 ตุลาคม 2550 9:29:52 น.  

 

เคร่งมากเหมือนกันนะ ปีนี้มีแววงดเพราะสุขภาพไม่ค่อยไหว

 

โดย: เนเวอร์แลนด์ (เนเวอร์แลนด์ ) 11 ตุลาคม 2550 14:25:31 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

 

โดย: yoint 11 ตุลาคม 2550 16:22:59 น.  

 

กินเจเพื่่อด้วยนะ

 

โดย: น้าวัชร-จัดให้ 11 ตุลาคม 2550 17:52:36 น.  

 

แวะมาทักทายคะ วันนี้เราทานมาครบ 6 วันแล้วคะ ตั้งใจทาน 19 วันอะคะ ปีก่อนทำได้ 18 วันอะคะ เพิ่ม 1 วัน

 

โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) 11 ตุลาคม 2550 18:26:03 น.  

 

"ถือศีล กินผัก" มีที่มาแบบนี้นี่เอง

 

โดย: ostojska 11 ตุลาคม 2550 18:33:28 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ อ่านแล้วได้ประโยชน์มากมาย

 

โดย: great_kade 11 ตุลาคม 2550 22:08:51 น.  

 

เพิ่งรู้ ตอนอ่านที่นี้แหละ ขอบใจนะ

 

โดย: jjbd 12 ตุลาคม 2550 2:11:08 น.  

 

back ground สวยจัง เนื้อหาก็ดี มิน่าถึงมีคนมาเม้นท์เยอะ

ขอบคุณที่แวะบล็อคค่ะ

 

โดย: MARON CREAM 12 ตุลาคม 2550 14:53:47 น.  

 

อ๋อ (ด้วยคน) เป็นอย่างนี้เองเหรอคะ ขอบใจหลาย ๆ ที่มาเล่าสู่กันฟัง

 

โดย: Noise219 12 ตุลาคม 2550 16:44:21 น.  

 

ขอบคุณความรู้ใหม่นะค่ะ
กินบ้างบางเวลาค่ะ ขึ้นอยู่กับความสะดวก

 

โดย: montira@UA 12 ตุลาคม 2550 18:49:09 น.  

 

หวัดดีค่ะ เจ็ทลี...

มาอ่านประเพณีกินผักด้วย...แต่ตอนนี้ที่กำลังกินเจน่ะ เจแตกซะแล้ว เผลอกินฮ้อทดอกไป

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา 12 ตุลาคม 2550 19:52:11 น.  

 

ไม่ได้กินเจกับเขาหรอกค่ะ แต่แวะมาอ่านเอาความรู้เฉยๆ

พี่หน้าเหมือนอ่ำเหมือนกันะคะ เนี่ย

 

โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส 12 ตุลาคม 2550 21:05:26 น.  

 

แวะมาเยี่ยมบ้านครับวิวสวยมากครับ.............

 

โดย: สวนสน612 13 ตุลาคม 2550 9:17:45 น.  

 

มาขอบคุณที่ชมบล็อกเจเราสวย...ตั้งใจทำนะนั่นน่ะ...อิอิ เป็นคนแรกเลยที่ชม

จริงๆ ประเพณีก็คล้ายๆ กันนอะ เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา และสถานที่ ความสะดวก เราว่าที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นจิตใจมากกว่า...

ตอนนี้ที่บ้านก็มีใช้ผลิตภัณฑ์ที่ว่าเหมือนกัน ก็จะเลือกเฉพาะตัวที่น่าจะใช้ละคุ้มค่า คุ้มราคา แต่เครื่องสำอางนี่ เราแพ้อย่างแรง เพราะผิวดูจะบอบบางเกินไป...ฮ่าๆๆ

 

โดย: uter 13 ตุลาคม 2550 10:41:41 น.  

 

ปีหน้ามี Plan ไปภูเก็ตครับ

อาจได้ไปรบกวนเน้อ

 

โดย: มิสเตอร์ฮอง 13 ตุลาคม 2550 15:27:10 น.  

 

เยี่ยมเลยครับ

 

โดย: อนันต์ครับ 13 ตุลาคม 2550 18:54:37 น.  

 

อืมเป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณนะครับที่ไปทักทาย ยินดีครับผม

 

โดย: แสนพลพ่าย 14 ตุลาคม 2550 17:29:55 น.  

 

กินเจด้วยคน กินมาหลายปีแล้ว
รู้สึกดีครับ แต่บางครั้งก็ไม่ครบด้วยหลายๆ เหตุผล

 

โดย: คนขับช้า 14 ตุลาคม 2550 21:02:37 น.  

 

อืม...เพิ่งรู้ตอนนี้นี่เองค่ะ

ฟิวกินบ้างไม่กินบ้าง การบังคับใจตัวเองยากจริงๆ ก็อย่างว่า กิเลสในตัวมันมีเยอะ ต้องพยายามข่มใจตัวเองเข้าไว้

 

โดย: kakok_riwkiw 14 ตุลาคม 2550 21:11:09 น.  

 

ยังไม่มีโอกาสไปงานถือศีลกินเจที่ภูเก็ตเลย ปีนี้ก็ไปไม่ได้อีก ต้องรอปีหน้าฟ้าใหม่แล้ว

 

โดย: poivang 15 ตุลาคม 2550 13:17:11 น.  

 

แวะมากินเจด้วยคนค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

 

โดย: Natthanicha 15 ตุลาคม 2550 16:21:53 น.  

 

กะไว้เหมือนกันว่าจะไปให้ได้สักปี งานเค้าดังจริง ๆ แต่คงต้องรอปีหน้าอีกตามเคยแหละเรา

 

โดย: ปลายทาง (Paitangtour ) 16 ตุลาคม 2550 18:23:01 น.  

 

เรากินได้วันเดียวเอง น่าอายจริงๆ
เนื่องจากความจำเป็นของผู้หญิง
ไว้ปีหน้าแก้ตัวใหม่ล่ะกัน

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

 

โดย: Pook_nana 16 ตุลาคม 2550 19:00:11 น.  

 

ตามมาดูบล็อกพี่ ก็อัพเรื่องกินเจแล้ว อย่าลืม ตาม ไปตอบTag ที่บล็อกผมด้วยนะคับ อิอิอิ

 

โดย: K_chang 17 ตุลาคม 2550 16:24:00 น.  

 

สาธุ!!!!

อ่านจบเลยอ่ะวันนี้...หุหุ

 

โดย: เจกเบ่ง 17 ตุลาคม 2550 17:16:37 น.  

 

เคยดูทางทีวีเห็นแล้วน่ากลัวมากเลย ประเพณีนี้

 

โดย: กระปุกกลิ้ง 18 ตุลาคม 2550 11:00:18 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

กินเจด้วยค่ะ

 

โดย: เสี่ยวป้างจื่อ 18 ตุลาคม 2550 11:10:29 น.  

 

แวะมาขอบคุณที่ไปเยี่ยมชม
บล็อคเราค่ะ
อีกสักพักใหญ่ ๆ ค่อยแวะไป
ใหม่นะตะเอง
ตอนนี้เราเลี้ยงเบบี๋อยู่
บ่มีเวลาเลยเด้อ

 

โดย: tukuta IP: 219.200.192.126 19 ตุลาคม 2550 19:20:39 น.  

 

กินเจผ่านไป กำลังจะออกพรรษาแล้วนะคะ

 

โดย: ตัวหนอน (sawkitty ) 20 ตุลาคม 2550 17:12:55 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

 

โดย: annieake 20 ตุลาคม 2550 18:28:53 น.  

 

ฮะผมก็ทานเจเหมือนกัน
ออกเมื่วานนี้แล้วครับ

 

โดย: katoy 21 ตุลาคม 2550 14:54:09 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ ไม่ได้มาเยี่ยมซะนานเลยสาบยดีไหม๊คะ....

ปล.เพิ่งกลับจากการหลงป่ามาค่ะ เกือบลงหน้าหนึ่งแล้วค่ะ เสียดายที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ไปหาเจอซะก่อนไม่งั้นล่ะก็ดังไปแย้ววว.....

 

โดย: cratrina (poockey ) 22 ตุลาคม 2550 9:02:59 น.  

 

... นุชแวะมาชวนไปฟังเพลงที่บล็อคของนุชค่ะ ...

 

โดย: Vannessa 22 ตุลาคม 2550 22:58:36 น.  

 

Up blog ใหม่แล้วครับ
ออกเจแล้วด้วย
แวะไปเยี่ยมนะครับ
สุขสันต์วันปิยะมหาราชครับ

 

โดย: katoy 23 ตุลาคม 2550 13:07:10 น.  

 


 

โดย: ม่วงคราม (the violetblue home ) 23 ตุลาคม 2550 16:56:04 น.  

 

เป็นเช่นนี้นี่เอง

 

โดย: BK LOVE (BK LOVE ) 23 ตุลาคม 2550 18:24:37 น.  

 

ปีนี้ kapaeng เกือบเจแตกเอาวันสุดท้ายค่ะ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี...

 

โดย: kapaeng_83 24 ตุลาคม 2550 14:05:54 น.  

 

ขอบคุณ สำหรับข้อมูลคับ

 

โดย: mashizaa IP: 118.173.82.76 18 กันยายน 2551 2:08:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


psak28
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]





คนเราเกิดมาจากเหตุปัจจัยจากกรรมที่เราสร้างขึ้น และด้วยอนุสัยที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตกาล ย่อมมีความสุข และความทุกข์เป็นธรรมดา เราก็แค่เป็นเพียงผู้ดูสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เปรียบเสมือนการดูละคร ดูแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปยึดติดกับมัน เคยสงสัยเหมือนกันว่าคนเราเกิดมาทำไมกัน แล้วทำไมคนเราจึงไม่เหมือนกันเลย ทั้งรูปร่าง หน้าตา กิริยา และการดำเนินชีวิต ที่กล่าวมาล้วนมีกรรมสรรสร้างให้เป็นอย่างนั้น หน้าที่ของเราก็คือ ละเว้นความชั่ว ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ขาวรอบ


อันนี้ลองดูนะครับ หากใครสนใจหวยหุ้น หวยรัฐบาล นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ ได้มากกว่า ^_^



อันนี้น่าสนใจดีครับ จุ๊บลมยางที่สามารถบอกเราได้ว่าลมยางตอนนี้เป็นเท่าไหร่ และเตือนเราในกรณีลมยางอ่อนได้ ลองดูกันนะครับ




: Users Online

Friends' blogs
[Add psak28's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.