Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
วัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น เริ่มต้นแล้ว

ธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 พ.ค. 2551 ที่ผ่านมา เป็นการเกิดขึ้นพร้อมกับการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม และถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา
หลังจากนี้คาดว่าคงจะมีธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งอื่นๆ ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนว่าวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3.25% ก็ตาม
- การรักษาฐานลูกค้าเงินฝาก และส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไทยได้แข่งขันระดมเงินฝากตั้งแต่ต้นปี 2551 ท่ามกลางการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อแนวโน้มการขยายสินเชื่อในปีนี้ ดังนั้น จึงทำให้มีการออกโครงการเงินฝากพิเศษจำนวนมาก และผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทอื่นๆ อาทิ ตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ ส่งผลตามมาให้มีการโยกย้ายเงินฝากระหว่างธนาคาร
- สินทรัพย์สภาพคล่องลดลง ค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2551 อยู่ที่ 3.42 แสนล้านบาท ก็ลดลงค่อนข้างชัดเจนจากค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์สภาพคล่องในปี 2550 ที่ระดับ 3.89 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การลดลงของสินทรัพย์สภาพคล่องดังกล่าว เป็นผลจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่เร่งขึ้นเหนือเงินฝาก ขณะที่การ ที่ธนาคารพาณิชย์ไทยเลือกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเป็นการทั่วไปใน ครั้งนี้ แทนที่จะเป็นการเลือกออกโครงการ หรือผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบพิเศษ ซึ่งเอื้อให้สามารถกำหนดต้นทุนได้ดีกว่านั้น สะท้อนการคาดการณ์ของธนาคารพาณิชย์เหล่านั้นว่าแนวโน้มสภาพคล่องน่าจะปรับลดลงชัดเจนขึ้นในอนาคต และอัตราดอกเบี้ย ในประเทศคงจะใกล้ถึงจุดต่ำสุดเต็มทีแล้ว
ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจังหวะที่สามารถล็อกเงินฝากต้นทุนต่ำที่สุดได้ในช่วงนี้
- การเตรียมพร้อมรับมือกับการครบกำหนดของผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบพิเศษและตั๋วแลกเงิน ที่ได้ทยอยออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษระยะ 4 เดือน ที่ออกมาในช่วงปลายเดือน ม.ค.ถึงปลายเดือน ก.พ. อันมีส่วนทำให้เงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึงกว่า 1 แสนล้านบาท
สำหรับในช่วงของวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นำโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ก็มีสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในครั้งก่อนหน้า
นั่นคืออัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น 6.2% ในเดือน เม.ย. และ 7.6% ในเดือน พ.ค. หลังจากที่มีค่าเฉลี่ยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 5% อันเป็นผลจากปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ การพิจารณา “สภาพเศรษฐกิจ” ที่วัดจากจีดีพี ในช่วง 1 ปีก่อนหน้าที่จะเข้าสู่วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยในแต่ละช่วงนั้น พบว่า ในวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในครั้งก่อนหน้านั้น เริ่มจากภาวะเศรษฐกิจที่เคยขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี
โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยรายไตรมาสของจีดีพีที่ 7% เพราะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าของรัฐบาลที่ดำรงตำแหน่งในสมัยนั้นๆ ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 5% ในช่วงวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำหรับวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ เศรษฐกิจไทยเพิ่งผ่านพ้นช่วงปี 2550 ที่ประเทศอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง ทำให้มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยรายไตรมาสที่ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 4.7%
ดังนั้น แม้ว่าจีดีพีไตรมาสแรกของปี 2551 จะขยายตัวสูงถึง 6% แต่ก็มีความเปราะบางต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาการเมือง
ดังจะเห็นได้จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดในเดือน เม.ย. ที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นภาคเอกชนเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาการเมืองชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อประเมินถึงภาวะสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย เปรียบเทียบระหว่างช่วงวัฏจักรขาขึ้นทั้งสองช่วงแล้ว พบว่า ในวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นครั้งก่อนหน้านั้น ปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่องได้ปรับตัวลดลงชัดเจน
ขณะเดียวกัน การที่ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียงขาเดียวได้ในช่วงนั้น เป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินทั้งในและนอกประเทศได้ปรับขึ้นไปก่อนแล้ว (ตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ซึ่งส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถนำเงินฝากที่ระดมได้มาลงทุนในตลาดเงินและตลาดพันธบัตร
และนำผลตอบแทนที่ได้รับไปชดเชยกับต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นได้ โดยที่ยัง ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในรอบนี้ แม้ว่าปริมาณสภาพคล่องมีแนวโน้มลดลงเช่นกัน แต่ด้วยช่องทางของการนำสภาพคล่องไปลงทุนค่อนข้างจำกัด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนในตลาดเงินลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ (เพราะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก ธปท. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2550) จึงน่าจะมีส่วนผลักดันให้การตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินให้กู้ยืม
ผลของการกระทำดังกล่าวทำให้ธนาคารพาณิชย์ไทยยังสามารถรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและการทำกำไรไว้ได้ อย่างน้อยก็ในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้า
สำหรับความรวดเร็วของการขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไป ยังคงต้องชั่ง น้ำหนักปัจจัยด้านเศรษฐกิจ
ทั้งนี้เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำและเงินให้กู้ยืม ซึ่งแม้ว่าจะช่วยพยุงให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว แต่ก็ย่อมจะซ้ำเติมความต้องการสินเชื่อจากภาคเอกชน รวมถึงคุณภาพสินเชื่อ ที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางการเมือง
ดังนั้น จึงคาดว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไป จึงน่าจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดว่าลูกค้าสินเชื่อ หรือลูกค้าที่ต้องการกู้เงินจะสามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมได้มากน้อยเพียงใด
ในกรณีที่ภาวะเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ และความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในระยะต่อไปยังมีความเปราะบาง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทยในรอบนี้อาจจะกินเวลาไม่นานนัก ก็อาจจะถึงจุดสิ้นสุด
รวมทั้งอาจจะมีขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่มากนัก เพราะนั่นคือวัฏจักร ขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ คงจะ สั้นกว่าวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ครั้งก่อนหน้าในช่วงระหว่างเดือน พ.ย. 2547 – ส.ค. 2549 ซึ่งกินระยะเวลาถึง 1 ปี 10 เดือน และมีขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 1 ปี ด้วยขนาด 4%
สาเหตุเพราะปัญหาเอ็นพีแอลอาจ ทวีความรุนแรงมากขึ้น และสินเชื่ออาจชะลอตัวลง ซึ่งจะทำให้ปริมาณสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยไม่ได้ลดลงตามคาด
ขณะที่หากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาการเมืองและปัญหาเงินเฟ้อเริ่ม คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านการเร่งการใช้จ่าย และการออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐบาลสัมฤทธิผล ก็คงจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องได้ ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น และสภาพคล่อง ลดลง
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะหนุนส่งให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดำเนินต่อเนื่องได้ยาวนานขึ้น


Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 14:47:30 น. 6 comments
Counter : 770 Pageviews.

 
ดอกเบี้ยขึ้นแบบนี้ค่อยน่าฝากเงินหน่อย

แต่ก่อนดอกเบี้ยยังไม่พอค่าธรรมเนียมบัตร ATM เลยครับพี่ศักดิ์


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:16:15:57 น.  

 
พี่ฝากประจำสามเดือนกับ Bank of China ที่จีน หุหุ ดอกเบี้ย 3.88% แต่ตอนนี้อาจจะขึ้นจากเดิมนิดหน่อย
Search ในเน็ต เห็นบทความเยอะแยะแนะนำจีนในการดูแลเศรษฐกิจ
อยากให้เอามาทำกับเศรษฐกิจไทยจัง
อย่าไปห่วงจีนเลยค่ะ จีนรอดแน่ๆ แต่พวกเราสิ หันซ้ายก็ไม่ได้ หันขวาก็ไม่ได้ ไม่ได้รวยอย่างจีนเค้า
เฮ้อ ดูทุนสำรองระหว่างประเทศก็พอเห็นรำไร
ดีจาย ดีจาย ดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นซะที เห็นชอบขึ้นแต่เงินกู้ เอาเปรียบคนจนจริงๆ ธนาคารไทยเนี่ย :) เจ้าของเวป ทำงานธนาคารนี่หว่า ว้าาาาาา :)


โดย: น่าคิด IP: 221.217.14.58 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:13:54:36 น.  

 
ที่เขียนมาดีมาก


โดย: ทนงศักดิ์ กองสุข IP: 125.26.215.47 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:33:35 น.  

 
ที่เขียนมาดีมาก


โดย: ทนงศักดิ์ กองสุข IP: 125.26.215.47 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:33:35 น.  

 
GCSDVBRTBCEFGDBYUTWEAIUBDV7UTHBSDFWEVPCBZNXCB7L;IW834TYH VNV NVKCNVHERYWT94328937 5HJGFBSKJNXZBVCVN.ZZDNSNVJGHSUDVBGVUSEFEHBNKVSKDJFSKDOWIJFNS8GFWEFKWJ9GJREWH789URFGISANBCVLKASOQ;83WMFWEKJIKDUDL9RELRINF/;SZA;L4INNFTE7307U7,MFDOJFUDFKFH8FMNHE7RFFTDEEHWEUTR23U82R384 IJRUYTFDSAGCBASG7E4Y7836356REWAFDICDSAGUYEFSGDHFG73U2U EBDSBASBCXCDBVJVNUEKVCBDGFTFEWGGQ


โดย: UYOIRTLIU TIGH78UGH IP: 125.26.215.47 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:39:40 น.  

 
ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครบ้างหรือปล่าว

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญาเช่น
เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่
อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้
ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ

คำขอขมาและอธิษฐานจิต
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

(นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาติมีคู่
มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน
คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน

ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง
จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา
ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก
ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท
ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลกทางธรรมเทอญ



“คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน
การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง”


“ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้ กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อ
เพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป"







โดย: ... IP: 118.174.7.160 วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:9:35:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

psak28
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]





คนเราเกิดมาจากเหตุปัจจัยจากกรรมที่เราสร้างขึ้น และด้วยอนุสัยที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตกาล ย่อมมีความสุข และความทุกข์เป็นธรรมดา เราก็แค่เป็นเพียงผู้ดูสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เปรียบเสมือนการดูละคร ดูแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปยึดติดกับมัน เคยสงสัยเหมือนกันว่าคนเราเกิดมาทำไมกัน แล้วทำไมคนเราจึงไม่เหมือนกันเลย ทั้งรูปร่าง หน้าตา กิริยา และการดำเนินชีวิต ที่กล่าวมาล้วนมีกรรมสรรสร้างให้เป็นอย่างนั้น หน้าที่ของเราก็คือ ละเว้นความชั่ว ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ขาวรอบ


อันนี้ลองดูนะครับ หากใครสนใจหวยหุ้น หวยรัฐบาล นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ ได้มากกว่า ^_^



อันนี้น่าสนใจดีครับ จุ๊บลมยางที่สามารถบอกเราได้ว่าลมยางตอนนี้เป็นเท่าไหร่ และเตือนเราในกรณีลมยางอ่อนได้ ลองดูกันนะครับ




: Users Online

Friends' blogs
[Add psak28's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.