เวอร์ชั่นใหม่ยาคุม ไม่อ้วก-ไม่อ้วน-ไม่สิว-ไม่ฝ้า
เวียนหัว
คลื่นไส้
อาเจียน
ไมเกรน
ฝ้าขึ้น
หน้าเป็นสิว
น้ำหนักเพิ่ม
เมน มาผิดปกติ
คัดหน้าอก
เหล่านี้เป็นเรื่องปวดหัว ปัญหาใหญ่ของคนกินยาคุม จะไม่กินก็ไม่ได้ เสี่ยงกับการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ จะกินรึ
ร่างกายก็ปั่นป่วน หาทางออกไม่เจอ เรื่องป่วนเช่นนี้จึงทำให้มีการคิดค้นวิธีที่จะทำให้การคุมกำเนิดนี้ ส่งผลกระทบต่อความผิดปกติที่มีต่อร่างกายให้น้อยที่สุด จากการค้นคว้ายาคุมกำเนิดจึงได้พบว่า ตัวการที่ทำให้เกิดอาการทั้งหลายเหล่านั้นมีสาเหตุหลักมาจากฮอร์โมนที่ชื่อว่า เอสโตรเจน เอสโตรเจน (estrogen) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ร่างกายผลิตขึ้นจากรังไข่ รก และต่อมอะดรีนาลิน เป็นส่วนที่ผลักดันทำให้เกิดลักษณะของความเป็นผู้หญิงทั้งหลาย ทั้งรูปร่าง ผิวพรรณ หน้าอกหน้าใจ ไปจนถึงเป็นส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของมดลูกและเนื้อเยื่อปากมดลูก ในการทำงานเพื่อคุมกำเนิดนั้น เอสโตรเจนยังต้องทำงานคู่กับฮอร์โมน โปรเจสโตเจน หรือ โปรเจสเตอโรน ตัวหลักในการปรับเยื่อบุโพรงมดลูก ก็ได้มีการพัฒนาอย่างมากเช่นกัน ถ้าเป็นในเชิงธรรมชาติ โปรเจสโตเจนนี้จะเป็นตัวการทำให้เกิดการตั้งครรภ์ แต่ในช่วงที่ไม่ใช่ ฮอร์โมนตัวนี้จะเป็นตัวปรับเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาขึ้นและจะหลุดลอกออกมา เป็นประจำเดือน แต่ถ้าเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อยับยั้งการตั้งครรภ์นั้น เอสโตรเจนจะยับยั้งการตกไข่ ส่วนโปรเจสโตเจนจะทำให้ มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นจนสเปิร์มไม่สามารถเจาะทะลุผ่านเข้าไปได้ ระบบการทำงานที่สอดประสานนั้นน่าจะดีหากไม่มีผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน นี่เองจึงเป็นที่มาที่ทำให้นวัตกรรมยาคุมกำเนิดพัฒนาก้าวไปไกลอย่างไม่หยุด ยั้ง ด้วยมีการปรับลดขนาดฮอร์โมนทั้งสองเป็นลำดับ โดยมีการพัฒนาโปรเจสโตเจนตัวใหม่ให้ใกล้เคียงกับฮอร์โมนจากธรรมชาติมาก ที่สุด ขณะเดียวกับที่ได้มีการลดขนาดเอสโตรเจนให้น้อยลง ๆ จากปริมาณสูงถึง 150 ไมโครกรัม ลดลงต่ำเหลือเพียงแต่ 20 ไมโครกรัม จนล่าสุดพัฒนาการก้าวไกลจนได้เป็นยาคุมกำเนิดที่ ไร้เอสโตรเจน ที่มีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าเดิม ที่ว่าดียิ่งกว่าเดิมนั้นเป็นเพราะยาคุมแบบไม่มีเอสโตรเจนนี้เคยมีวาง ตลาดอยู่บ้างแล้ว หากมีประสิทธิภาพในการป้องกันต่ำมากกว่ายาคุมแบบฮอร์โมนรวม แต่สำหรับตัวใหม่นี้ประกอบด้วย โปรเจสโตเจนสังเคราะห์ ที่เรียกว่า desogestrel 75 ไมโครกรัม ทำให้มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการตกไข่สูงถึง 99% และยังเป็นตัวเร่งในการสร้างมูกที่ปากมดลูก และแม้จะลืมกินยาไปนานถึง 12 ชั่วโมง ยังปิดโอกาสการ มีลูกได้ฉมังถึง 1 ใน 1,000 รายทีเดียว โดยมีข้อแม้อยู่ที่ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอ ความดีเด่นของยาคุมตัวนี้ ศ.น.พ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ ผศ.น.พ.มานพชัย ธรรมคันโธ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยรายงานจากการประชุมวิชาการเกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดรุ่นใหม่นี้ว่า พัฒนาขึ้นเพื่อผู้หญิงที่ไม่สามารถทนต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาเม็ดคุมกำเนิด ทั่วไป โดยมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์สูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้เอสโตรเจน คนอ้วนหรือผู้ที่มีความเสี่ยงในโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่สูบเยอะ ดื่มเยอะ ผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี และผู้ที่กำลังให้นมบุตร สามารถใช้ยาคุมประเภทนี้ได้โดยจะไม่มีผลต่อน้ำนม ไม่มีอาการตึงคัดเต้านม คลื่นไส้ อาเจียน เป็นสิวฝ้า ตัวบวม หรือปวดหัวจากการแพ้เอสโตรเจน ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะได้รับรองทางวิชาการ หาก WHO องค์การอนามัยโลกยังให้การยอมรับอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับหญิงที่มีสภาวะร่างกายปกติไม่มีอาการแพ้ใด ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุม สามารถเลือกที่จะใช้ยาคุมฮอร์โมนต่ำแค่ 20 ไมโครกรัมก็เพียงพอแล้ว เพราะสามารถช่วยทำให้รอบเดือนมาสม่ำเสมอ ลดอาการปวดหรือมามาก ลดความเครียดระหว่างมีประจำเดือน ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก มะเร็งรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก กระดูกพรุน ซีสต์ที่เต้านมและรังไข่ ไปจนถึงอุ้งเชิงกรานอักเสบ และตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ลืมกิน
ทำไงดี ?!? ลืมกิน ปัญหาที่เกิดขึ้นแสนบ่อยสำหรับสาว ๆ ที่ต้องพึ่งพิงกิน ยาคุม พอลืมแล้วก็แสนจะกลุ้มใจ กลัวนั่นกลัวนี่สารพัด แต่จะบอกให้
เรื่องนี้ ศ
คลินิก เกียรติคุณ น.พ. สุวชัย อินทรประเสริฐ มีทางแก้ หากลืมกินยา 1 เม็ด-ให้รีบกินทันทีที่นึกได้ และให้กินเม็ดต่อไปในเวลาเดิม หากลืมกิน 2 เม็ด ให้กินยาวันละ 2 เม็ด ติดต่อกัน 2 วัน โดยแบ่งเป็น เช้าเม็ด-เย็นเม็ด และควรใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วยไป 7 วัน หากลืม 3 เม็ด หยุดยาเสีย รอให้ประจำเดือนมาก่อนจึงเริ่มยาแผงใหม่ พร้อมกับคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วยไปอีก 7 วัน นอกจากการลืมแล้ว หากเกิดมีอาการอาเจียน ท้องร่วง หลังจากกินยา จำเป็น ที่จะต้องใช้การคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมไปด้วยตลอดเวลาที่มีอาการ และหลังจากนั้นไปอีก 7 วัน ทั้งหมดเพื่อสุขภาพร่างกาย และความชัวร์สุด ๆ ที่จะไม่เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์
ที่มา //dekguide.com
Create Date : 23 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 10:05:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1433 Pageviews. |
|
|