ต้นทุนชีวิตคือการสะสมความเคยชินที่ดี

อ่านภาษาลาวเขียนภาษาไทย (1)


ใจจริงอยากตั้งชื่อบล็อกว่า “อ่านภาษาลาวเขียนภาษาใจ” เพราะการอ่านในที่นี้ยังอยู่ระดับประถมมากกว่าจะแปลความเอาเป็นเรื่องเป็นราวในความหมายเชิงภาษา และเป็นการอ่านเขียนที่ใช้ในความหมายของการเรียนรู้แลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมที่ตัวเองไม่คุ้นชินมากกว่าผู้สันทัดด้านภาษาศาสตร์ (ไม่ว่าภาษาลาวภาษาไทย) แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า ภาษาใจเขียนยาก… ก็เลยขอใช้ภาษาไทยเป็นสื่อกลางไปพลางก่อน

ตอนมาอยู่เวียงจันทน์ใหม่ ๆ พยายามหัดพูดภาษาลาวจนลูกชายบอกว่าแม่เลิกเหอะ ตอนแรกนึกว่าพ่อหนูทนฟังเสียงทองแดงหล่นกระจายไม่ได้ แต่ลูกชายบอกมากระชับชัดเจน “ถึงแม่พูดได้เค้าก็รู้ว่าแม่ไม่ใช่คนลาว แม่อ้วน!” ฟังเหตุผลลูกแล้วแม่ขำกลิ้งตามเคย จำได้ว่าเมื่อมาเวียงจันทน์วันแรก ลูกชายนั่งมองผู้คนที่พบผ่านแล้วก็เปรย ๆ ว่า “ยังไม่เคยเห็นคนอ้วนเลยนะแม่” จะว่าไปคนลาวอ้วนก็พอมีอยู่ แต่อาจไม่หนาตาเท่าที่เราเห็นในกรุงเทพฯ (หรือเราสองคนแม่ลูกเห็นกันเอง)

ไม่รู้เพราะเหตุผลนี้หรือเปล่าลูกชายจึงไม่ยอมหัดพูดภาษาลาว แต่คิดว่าเหตุผลที่จริงของลูกน่าจะเหมือนคนต่างชาติอีกจำนวนมากที่คิดว่าทำไมต้องหัดพูดลาวด้วย ลาวเป็นประเทศเล็ก ๆ ยากจน ผู้คนก็น้อย เสียเวลากับการเรียนรู้ทำไม เลยได้แต่บอกลูกว่าคนลาวส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในเวียงจันทน์ดูโทรทัศน์ทุกช่องจากเมืองไทย พูดฟังอ่านไทย(และสำหรับบางกลุ่มบางคนรวมเขียนด้วย) เราพูดอะไรคุยอะไรเขารู้เรื่อง แต่เขาพูดมาเรางงเป็นไก่ตาแตก บางคนอาจจะคิดว่าการที่คนอีกประเทศหนึ่ง (หรืออีกภาคพื้นที่หนึ่งของประเทศ) ใช้ภาษาของตนได้แสดงถึงความเหนือกว่า (จะในเรื่องอะไรก็ตาม) แต่ในอีกมุมหนึ่งก็น่าจะเป็นการเสียเปรียบกว่าด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อคิดจะใช้ชีวิตอยู่ยาวนานมากกว่าการเป็นนักท่องเที่ยว

เมื่อครั้งมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ เคยเดินเล่นเลาะเรื่อยจากบ้านที่เช่าอยู่ไปจนถึงประตูไชย (น่าจะประมาณห้ากม.) ดูบ้านเมืองไป อ่านภาษาลาวจากป้ายข้างทางไปก็ช่วยให้ระยะทางมันสั้นลงมากกว่าที่คิด เริ่มจากป้ายชื่อถนน ป้ายร้านค้า ประกาศโฆษณา ผิดบ้างถูกบ้าง งู ๆ ปลา ๆ ดำน้ำไปเรื่อย คนเดินไปด้วยก็อมยิ้มขำไป เพราะคงนึกถึงตอนหัดลูกชายอ่านหนังสือช่วงเรียนชั้นประถม แต่พอไปถึงประตูไชยเห็นอาคารสวยตระหง่านอยู่ด้านหลัง อ่านให้ฟังว่าสำนักงานนายกรัฐมนตรี คนฟังอุทานว่า อ้าวเหรอ ผ่านมาตั้งหลายครั้งไม่รู้นะเนี่ยว่านี่คือทำเนียบฯ ลาว


ประตูไชย (ออกเสียงว่าประตูไซ เพราะลาวไม่ออกเสียง ชอ)


สำนักงานนายกรัฐมนตรี


คนมาทีหลังเลยรู้สึกดีใจเหมือนได้รับการเสริมแรงทางบวก พอเจอป้ายข้อความที่ประตูไชยเลยยืนอ่านแจ้ว ๆ เหมือนเด็กถูกครูเรียกอ่านหนังสือในชั้น ความจริงไม่เข้าใจภาษาทั้งหมด แต่พอเดาได้จากข้อความ อ่านจบรู้สึกทึ่งว่า อ้าว, ลาวใช้ปีพุทธศักราชแบบไทยด้วยเหรอ คนไทยมาบุกลาวตอนนี้เหรอ และอีก ฯลฯ ที่กระตุ้นความสนใจตัวเอง เออหนอ, อยู่ใกล้กันแค่นี้เราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับลาวเลย มิน่า คนลาวถึงเรียกเวียดนามและกัมพูชาว่าเพื่อนบ้าน แต่เรียกไทยว่า “ประเทศไทย”

ในลาวมีหนังสือคู่มือเรียนหนังสือลาว-ไทยด้วย เห็นวางขายอยู่ที่หอพระแก้ว ซื้อมาตั้งแต่ทริปแรกที่มาเวียงจันทน์ พลิกดูแล้วเหมือนแบบเรียนภาษาไทยพร้อมตารางเปรียบเทียบอักษรสระ ดูแล้วชวนให้ปิดลงทันที เพราะเป็นโรคแพ้หนังสือเรียน แบบเรียนลาวไทยจึงนอนแอ้งแม้งอย่างเรียบกริบเหมือนตอนอยู่ที่แผงหนังสือ อดนึกถึงการเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างไม่ได้ คือถ้าไม่ใช่ถูกบังคับตามหลักสูตรแล้วเป็นไม่อยากเรียน (หรือแม้แต่ถูกบังคับก็ใช่ว่าอยากเรียน) เพราะโดยตัวเนื้อหาหลักการเองมันแข็งทื่อ ชวนน่าเกรงขามมากกว่าน่าสนใจ

แต่การอ่านเล่นตามป้ายข้างทางแล้วรู้โน่นนี่ไปด้วยนี่กระตุ้นความสนใจนักเรียนนอกห้องได้อย่างดี ยิ่งใช้ความหมายในภาษาเดิมมาขยายความด้วยแล้วยิ่งสนุก รู้สึกว่าภาษาลาวซื่อ ๆ ตรง ๆ วันก่อนเจอป้ายโฆษณารองเท้าแตะอยู่ที่ด้านข้างตลาดเช้ามอลล์ เขียนไว้ตัวเบ้อเริ่มอ่านด้วยเสียงลาวเหน่อ ๆ แบบตัวเองว่า “ใส่แฟ่บ (แฟ้บ?) แสบสบาย” ยืนอมยิ้มอยู่คนเดียวกลางถนนตอนเที่ยงเพราะเพิ่งข้ามถนนมาได้ฟากเดียวของไฟแดง ดูไปดูมา ถึงรู้ว่าเป็นรองเท้ายี่ห้อแฟน เอ้อ, ใส่แฟนแสนสบายยยย…


ด้านล่างเขียนว่า รับประกันคุณภาพ ผลิตจากประเทศไทย หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป


Note: เพิ่งมีโอกาสได้นั่งรถเมล์ในฝัน (ราคา 1500 กีบ หรือประมาณห้า-หกบาท) เลยขอถ่ายรูปโชว์เสียหน่อย


บ้านเราต้องเป็นคนรวยถึงจะได้นั่งรถกอล์ฟ แต่อยู่เวียงจันทน์ รถนี้บริการคนจนค่ะ (เย้...ดีใจจัง)


รถจอดที่สถานีขนส่งตลาดเช้า คิวแบบเต็มแล้วออก ด้านหน้าเขียนว่า ตลาดเช้า-ดอนป่าใหม่ ราคา 1500 กีบ ด้านข้างเขียนว่า รถประจำทางแล่นด้วยไฟฟ้าราคาประหยัด







 

Create Date : 04 เมษายน 2554
11 comments
Last Update : 7 เมษายน 2554 11:44:55 น.
Counter : 2727 Pageviews.

 

เย้ หาทางมาบ้านนี้เจอแล่ว

ภาษาลาวนั้นคุ้นหูเรามาก ๆ เพราะตั้งแต่เด็กก็มีคนช่วยงานเป็นคนลาว ญาติส่วนหนึ่งของเราก็ไปอยู่ภาคอิสานกัน พูดอิสานกันทั้งบ้าน ตอนนี้คนข้างตัวก้อเป็นคนลาวอีก : ) เขาเป็นคนเชียงคานค่ะ ประมาณว่า บรรพบุรุษข้ามโขงมาเลย คนที่เชียงคานเขาพูดภาษาเหมือนทางฝั่งลาวนะคะ ไม่เหมือนทางแถวขอนแก่น นั่นเขาพูดอิสาน

ได้อยู่ในบรรยากาศแบบี้ คงเหมือนจังหวะชีวิตเปลี่ยนช้าลงไปสักหน่อย เป็นโอกาสแบบที่คนบางคนอยากได้ แต่ไม่เคยเจอ

 

โดย: Secreate (secreate ) 4 เมษายน 2554 14:27:28 น.  

 

อีกอย่างจะบอกว่าอย่าซีเรียสเรื่องคำวิจารณ์จากลูกชายเลย นายคนที่บ้านยังเคยบอกเราว่า อาหารที่แม่ทำน่ะ อร่อยประมาณ 85% จากทั้งหมด. ฟังมันพูดดิ เขาชอบกับข้าวบ้านเพื่อนมากกว่าค่ะ พวกง่าย ๆ แบบหมูทอด ไข่เจียว อะไรประมาณนี้
เด็กส่วนมากจะชอบพาสต้าผัดแฮมค่ะ ทำง่าย เร็วด้วย เผื่ออยากทำอาหารจานเดียวให้ลูก ตัวคุณแม่ก็ใช้เส้นลวกมาคลุกน้ำมันมะกอก พริกกระเทียมสับ โหระพาอะไรไปตามเรื่อง เหมือนที่แมลงเขาทำนั่นก็ได้ ทำทีเดียวได้สองแบบ

 

โดย: โส่ย (secreate ) 4 เมษายน 2554 14:37:26 น.  

 

คนลาวไม่อ้วนจริงๆหรอคะ??? เพราะส้มตำรึเปล่าน๊า...
แวะมาทักทายค่ะ เห็นชื่อเรื่องน่าอ่านมากๆเลย ได้อ่านก็ยิ่งสนุกไปใหญ่ค่ะ ^^

 

โดย: ปักเข็มจอมยุทธิ์ 4 เมษายน 2554 18:17:36 น.  

 

พี่พีจ๋า..คนไทยเมื่อยี่สิบปีก่อนก็เหมือนกันค่ะ เพื่อนอเมริกันบอกว่าเขาเคยมาเมืองไทยเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ไม่เห็นมีคนอ้วนเลย แต่เดี๋ยวนี้ เต็มไปหมด พอพาไปเดินตามห้าง เห็นร้านอาหารแล้วเขาก็อ๋อ ..เออนะ เมื่อยี่สิบปีก่อน ไม่มีแบบนี้
และเพื่อนคนนนี้เอง ก็บอกว่า ความที่เขาใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ทำให้เสียเปรียบ เพราะไม่คิดเรียนภาษาที่สองกัน เข้าทำนองทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษ ภาษาชั้น..แต่เรื่องนี้ต่างจากแถวยุโรปนะคะ เขาพูดภาษาตัวเองกัน อย่างที่เยอรมัน ต้องเรียนภาษาอังกฤษบังคับ และภาษาอื่นๆ อีกสอง ..เด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารเพื่อนนิ มีห้าภาษา ว๊าวๆๆ..ยิ่งใครพูดได้มาก ยิ่งได้เปรียบ โลกทัศน์กว้างขึ้น ..เห็นด้วยกับเขาค่ะ
คุณแม่สองคนคุยกัน..เราเห็นเลาๆแล้ว ว่าต้องออกแนวนินทาลูก เหอๆ

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 5 เมษายน 2554 8:56:36 น.  

 

สวัสดีค่ะ น่าสนใจค่ะ เขียนได้ดีด้วย จะติดตามอ่านไปเรื่อยๆ นะคะ ขอเป็นแควนสักค้น ได้บ่อ ??? คริๆ อยู่่ที่โวดองก้า ออสเตรเลียนี่ ก็มีคนลาวเยอะค่ะ ส่วนมากอพยพลี้ภัยทางการเมืองมา บางคนเขาก็ดูถูกคนไทยค่ะ ได้ยินเขาเล่ามาอีกที แต่ได้รู้จักกับ ผู้ชายลาวคนหนึ่งเขาได้แฟนเป็นคนเชื้อสายอิตาลี่ในออสเตรเลียค่ะ ลูกชายเขาอยู่ห้องเดียวกับเรา เขาบอกว่าเขามาโตในออสเตรเลีย เขาพูดลาวได้และพูดไทยได้นิดหน่อยด้วย แต่ฟังไทยออกเกือบทั้งหมด แหมเก่งจริงๆ ขนาดไม่เคยอยู่เมืองไทยนะเนี่ย

 

โดย: Apples in my eyes (Apples in my eyes ) 5 เมษายน 2554 10:34:11 น.  

 

คุณโส่ย...ดีใจจริง ๆ ที่เล่าว่าทำให้ลูกชายอร่อยได้แค่ 85% มีกำลังใจขึ้นมาอีกเยอะเลย...คนเชียงคานพูดลาวแบบไหนคะ เพราะที่นี่ดูผสม ๆ กันอย่างไรไม่รู้ เหมือนภาษาเหนือปนกับภาษาอีสาน คำตอบรับนี่ใช้คำว่าเจ๊า ๆ แบบทางเหนือ ถ้าใช้เพราะ ๆ ก็ว่า โด่ย โด๋ยย..ส่วนเด๊อก็ใช่เหมือนกัน แต่คนลาวบอกว่าบ่ม่วนเท่าไหร่

ยินดีรู้จักคุณปักเข็มจอมยุทธ์และคุณAppleค่ะ แวะมาอ่านบ่อย ๆ นะคะ จะได้มีคำถามม่วน ๆ ไว้ไปแอบเรียนคำตอบจากเมืองลาว ส่วนคำตอบเรื่องคน (ไม่) อ้วนน่าจะเป็นไปตามที่คุณแมลงคอมเม้นท์ด้านล่างนะคะ ส่วนเท็จจริงเป็นประการใดเดี๋ยวจะทะยอยสังเกตแล้วมาเล่าตามข้อมูลใหม่ค่ะ (ตอนย้ายมาอยู่นี่ใคร ๆ ก็บอกขอให้เป็นคนลาวกลับไปในความหมายของ "ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่"

และทัศนคติของคนลาวต่อคนไทยนี่ก็น่าศึกษามากเช่นกัน อย่างที่เขียนไว้ตอนต้นนั่นแหละ แถมเมื่อวานได้ยินคนลาวคุยกันในรถว่า ข้าราชการไทยนี่เงินเดือนสามหมื่นยังอยู่ไม่ได้ ค่าครองชีพก็ถูกกว่าเมืองลาว คนลาว (ที่ไม่ใช่ข้าราชการ) ถ้ามีสองหมื่นกินฟุ่มเฟือยยังมีเหลือ! (ที่ใช้คำว่าไม่ใช่ข้าราชการ เพราะข้าราชการระดับกลางของที่นี่เงินเดือนต่ำกว่าแม่บ้านที่ทำงานกับคนต่างชาติเสียอีก แต่คนลาวที่รู้จักหลายคนก็บอกว่าเป็นข้าราชการดีมีเงินหลาย อ๊ะ ๆ คุ้น ๆ อะไรบางอย่างไหม)

คิดว่าสิ่งที่เราคนไทยมองลาวกับที่คนลาวมองเรานี่แตกต่างกันหลายอย่างมาก แต่เรื่องพวกนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน คงค่อย ๆ เรียนรู้ซึมซับไปสักระยะก่อนจะเล่าสู่กันฟังอย่างเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ

คุณแมลงฯ อยากบอกว่า นินทาลูกปลอดภัยกว่านินทาซะมี!

 

โดย: kangsadal 7 เมษายน 2554 12:23:21 น.  

 

คุณพี่..น้องโชคไม่ดีไม่มีลูกให้นินทา โชคดีมีฝาละมีฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ก็เลยนินทาสามีสนุก..ต่อว่า ตัวหนังสือเล็ก มองไม่เห็น ..เห็นแต่ใส่แฟบแสบสบาย แต่ข้างล่างไม่เห็น โวยวายๆๆๆๆ..อยารู้เรื่องแบบละเอียดอ่อนแบบคนที่นั่น ไม่ใช่นักท่องเที่ยว ฉาบฉวยค่ะ..สถานที่ท่องเที่ยวไม่อาว ..อาวชีวิตของเขาที่เราเห็น..เอ..เรียกร้องน่าดูเลยนะ ..แต่เอาน้ำสต๊อกมาแลก ฮี่ๆ

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 7 เมษายน 2554 19:11:04 น.  

 

ชอบรถเมล์ไฟฟ้าเมืองลาวจัง

ภาษาชาวเชียงคานฟังเผิน ๆ นี่จะสำเนียงเหมือนภาษาใต้มาก ๆ ค่ะ เคยได้ยินคนอิสานเขาเม้าท์ว่าภาษาของพวกเมืองเลยไม่เพราะ อาจจะเป็นเพราะเขาพูดค่อนข้างเร็ว ไม่ทอดเสียงเหมือนอิสานจังหวัดอื่น(กระมัง)

แล้วจะมารออ่านเรื่องราวเมืองชีพจรเดินช้าาาา ๆ แต่น่าอยู่ชะมัดเลยนะ..เราว่า..
จากบ้านนี้อีกค่ะ
นินทาลูกดีกว่าไม่ค่อยต้องกลัวกรรมตามสนองทันตา เพราะคงต้องใช้เวลากว่าเขาจะโตจนนินทาแม่ได้ ต่างกะอีกคนนึง ฮ่ะฮ่ะ

 

โดย: Secreate (secreate ) 7 เมษายน 2554 23:57:49 น.  

 

คุณแมลงฯ จ๋า โปรดเห็นใจเรื่องการถ่ายรูปหน่อย ยังต้องหัดเหมือนการทำกับข้าวนั่นแหละ และบางทีอยากถ่ายมาให้ดูชัด ๆ ก็ไม่ถนัดกับการข้ามถนนเสาะหามุม :) วันก่อนเจอป้าย ระวังหมายร้าย! อยากถ่ายมาก ยืนเล็งแล้วเล็งอีก กล้องซูมมากไม่ค่อยได้ค่ะ ตัดใจข้ามถนนไปยืนเล็งหน้าป้าย ยังโฟกัสไม่ได้เลย เสียงหมาเห่าอยู่ข้างในเล่นเอาขวัญกระเจิง ถอยกลับมาทันทีทันใด

ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนจากนักท่องเที่ยวมาเป็นสมาชิกใหม่ของเมือง คนขายผลไม้ที่ตลาดบอกว่าถ้ามาอยู่นาน ๆ ก็หัดเรียนภาษาลาวเล้ย...พี่ยังไม่ทันตอบอะไรเขาก็บอกเพิ่มว่า แต่ถ้าสำเนียงมาจากกรุงเทพฯ อย่างนี้คงหัดนานหน่อย เขาเคยรู้จักคนหนึ่งอยู่มาสิบปียังพูดไม่คือ สงสัยมากว่า"ไม่คือ" นี่คืออะไร เขาตอบว่า "ก็เหมือนที่เอื้อยพูดนี่แหละ" (ฮา)

คุณโส่ยคะ พี่คงไม่โชคดีเท่าคุณโส่ยเรื่องกรรม เหอะ ๆ เพราะตอนนี้กรรมสนองทันตาแล้วเรื่องลูก เราทำอะไรกับเขาไว้ เขาย้อนกลับมาได้โม็ดดดด..ไว้เราค่อยหาโอกาส"นินทา" เขาในวาระต่อไป 55555

 

โดย: พี่พี IP: 202.137.156.14 9 เมษายน 2554 11:32:27 น.  

 

แมลงก็พูด"บ่คือ" เหมือนกัน..เคยพูดคนึงออกไป คนอึ้งไปกันเป็นสิบ เพราะไม่คิดว่าเราจะพูดคำหยาบปานนั้น ครือว่า เคยเห็น แม่มดเอ๊กซ์ พูดใส่ลูกชายน้อย กับน้องชายญาติกันที่เป็นสุดรัดสุดสวาท อย่างนั้น ก็เลยเข้าใจว่า มันเป็นคำที่แสดงความเอ็นดู..แต่จริงๆ มันเป็นคำด่า..เจี๊ยก..พูดไปมาพอกระเทิน ไม่เหมือน..เวลาไปสั่งส้มตำ ไม่เคยได้กินอร่อยเลย ต้องให้ของแท้อย่างแก่นสั่งให้ ถึงจะกินได้..ครือว่าแม่ค้าไม่เข้าใจ และเกร็งกับคนเมืองกระมัง ..พวกนินทาลูก ย่อมได้รับผลเดียวกัน ..ก็คือถูกลูกนินทา ก๊ากๆ

 

โดย: แมลงจ่่่่อย (Bug in the garden ) 10 เมษายน 2554 20:44:06 น.  

 

อยากได้คำพ่อแม่

 

โดย: ยนั IP: 180.183.236.84 23 สิงหาคม 2554 17:29:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kangsadal
Location :
เวียงจัน Laos

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]






พระจันทร์เต็มดวงคนมองเห็นได้บางวัน
เช่นกันกับวันที่เห็นพระจันทร์เสี้ยว
แต่ทุกวัน....
พระจันทร์เต็มดวง
online
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
4 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kangsadal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.