Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
มาร ฟ้า เทพ หิมะ (นิยายจีน) บทที่ 22

บทที่ 22

ภายในคุกใต้ดินซึ่งไม่มีแม้นหน้าต่างสักบาน ภายในนั้นล้วนเหม็นอับไปด้วยกลิ่นที่น่ารังเกียจยิ่ง แสงสว่างอันพอจะมีก็เพียงมาจากคบไฟข้างทางด้านนอกคุกแค่ไม่กี่ดวงซึ่งพอทำให้เห็นร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งคุกเข่าเนื้อตัวมอมแมมเหม็นเน่า หน้าตาสกปรกไร้ราศรีถูกตรึงแขนขาไว้ด้วยโซ่ตรวนเหล็กขนาดใหญ่ที่ยึดต่อออกมาจากพนังซึ่งจำกัดให้ชายผู้ถูกล่ามนั้นไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ห่างจากพนังมากกว่าห้าศอก

มาตรการเช่นนี้นับว่ามากเกินไปอย่างน่าขบขัน เพราะหากพิจารณาแล้วจะเห็นว่าที่ข้อพับแขนขาของชายผู้นั้นมีแผลจากคมกระบี่ซึ่งตัดขาดเส้นเอ็นของเขาหมดสิ้นแล้ว เชกเช่นนี้แล้วยังจะล่ามโซ่เขาเสียนั้นมินับว่าเกินไปหน่อยหรือ

ชายผู้น่าสงสารนี้นอกจากเส้นเอ็นข้อพับจะถูกตัดขาด แขนขาใช้ไม่ได้คล้ายดั่งวรยุทธ์สูญสิ้น ซ้ำร้ายสีหน้าแววตาของมันยังคงเหมือนไร้วิญาณไม่เป็นผู้เป็นคนอีกต่อไป ใบหน้าที่เคยหล่อคมคายกลับดูซอมซ่อสกปรก หากจะกล่าวไปแล้วใครจะเชื่อว่าชายผู้นี้คือ หวงเย่ว์!!!

“ทำไม ทำไม ทำไม” เด็กหนุ่มผู้เคยมีอนาคตที่สดใสกลับดูไร้สติพูดจากซ้ำซากวกวน

“ทำไมมมมมมมมม” เขาตะโกนลั่นเหมือนคนบ้าก่อนจะเอาหน้าผากของตนโขกกับพื้นคล้ายดั่งต้องการจะทำลายชีวิตตนก็ไม่ปาน จนเลือดสีแดงฉานหลั่งรินไปทั่วทั้งใบหน้า และวินาทีนั้นเองเขาก็พลันนึกถึงการตายของไหมขาวขึ้นมาจับใจ จึงคิดได้แล้วหยุดการกระทำโง่ ๆ นั้น

“ไม่ ไม่ ข้าต้องไม่ตาย ข้าต้องล้างแค้นให้ท่าน” ยามนั้นเลือดที่เปรอะเปื้อนคละเคล้ากับน้ำตา ดูน่าเวทนายิ่งนัก


ใครจะนึกได้ว่าเพียงหลังการตายของไหมขาวคืนเดียว หวงเย่ว์ก็ถูกกระดาษแดงอาจารย์ของเขาเองยักยอกความผิดให้ โดยกล่าวหาว่าหวงเย่ว์นั้นเป็นคนฆ่าไหมขาว โดยใช้กระบี่ของหวงเย่ว์ที่ปักอยู่ที่ร่างของไหมขาวหลักฐานอย่างดี ทั้งที่จริงแล้วคนทิ่มแทงนั้นกลับเป็นกระดาษแดง และไม่เพียงเท่านั้นยังกล่าวหาว่าหวงเย่ว์นั้นแอบฝึกคัมภีร์มารเสียด้วย

นี้นับว่าเป็นแผนการที่แยบคายชั่วร้ายอย่างยิ่งของกระดาษแดง เพราะนอกจากจะกำจัดหวงเย่ว์ที่รู้ความลับว่าตัวมันนั้นฝึกคัมภีร์มารแล้วยังเป็นการป้ายความผิดให้หวงเย่ว์ว่าเป็นคนซ่อนเก็บคัมภีร์มารไว้ ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นมันเองเก็บไว้อย่างดี

และด้วยศักดิ์ศรีและอิทธิพลของมันซึ่งเป็นถึงเจ้าสาขาฯ ไม่ว่าหวงเย่ว์จะกล่าวความจริงอย่างไรก็กลับถูกมองว่าพยายามจะปรักปรำเจ้าสาขาฯ ไปเสียได้ จนในที่สุดเด็กหนุ่มก็รับเคราะห์ เจอบทลงโทษหนัก และตัดเส้นเอ็นขอพับแขนขาให้ใช้มือเท้าไม่ได้ วรยุทธ์สูญสิ้น


“ล้างแค้น ล้างแค้น ล้างแค้น” หวงเย่ว์ยามนั้นได้แต่กล่าวคลั่งแค้นกล่าวคำซ้ำ ๆ แววตาอำมหิตยิ่ง แต่ถึงกระนั้นเขาจะทำอะไรได้ในเมื่อมือเท้าล้วนใช้การไม่ได้ วรยุทธ์ก็เหมือนหมดสิ้นแล้ว ความหวังในการหนีออกก็เรียกได้ว่าไม่มี แต่กระนั้นเขาก็ยังคงเก็บความแค้นนั้นไว้ไม่จางหายพร้อมกับกล่าวในใจว่า

“ลมปราณแลกมารอสูร ถอดหยางเคลื่อนหยิน ไหลเวียนลมปราณย้อนทางสวรรค์ คล้ายตายคล้ายสิ้น คล้ายเป็นคล้ายพื้น…” สุดจะคาดหวงเย่ว์กลับท่องเคล็ดวิชาลมปราณแลกมารอสูรที่เขาเคยเห็นเพียงแว่ปหนึ่งเมื่อครั้งค้นเจอคัมภีร์มารครั้งแรก

แต่มิเพียงท่องปากเปล่าเขายังลองเสี่ยงชีวิตฝึกวิชาที่อยู่นอกเหนือความเป็นไปได้ของสารบทวรยุทธ์อีกต่างหาก ซึ่งหลักการณ์นั้นคือทำลายปราณหยางในตัวให้สูญสิ้นหากเพียงค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ หลายปีย่อมพอเป็นไปได้อยู่บ้าง

แต่ยามนั้นเด็กหนุ่มคล้ายดั่งหมาจนตรอก คิดเห็นเป็นว่าไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกแล้ว พลันถอดหยางเคลื่อนหยินด้วยปราณทั้งหมดสิ้น หากมิสำเร็จดั่งคาดหนทางเดียวที่จะปรากฎคือลมปราณแตกซ่านตายตกไปอย่างสูญเปล่า แต่มันเล่านั้นหาสนใจไม่

เสียงกรีดร้องของมันดังกึกก้องไปทั่วคุกใต้ดิน เสียงอันโหยหวนนั้นคล้ายดั่งผีห่าซาตานก็ไม่ปาน


หลายสัปดาห์ต่อมา

มิทราบผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด เด็กหนุ่มย่อมสุดจะทราบได้ วันคืนมิเคยเห็น เวลาไม่เคยรู้ แต่สำคัญนั้นคือเด็กหนุ่มยังคงไม่ตาย แม้นร่างกายจะคล้ายดั่งศพแห้งที่ซีดเผือด อาหารคนคุกที่ถูกสาดเข้ามาบนพื้นนั้นเพียงแค่ประทังมิให้มันตายเท่านั้นเอง

“ลมปราณแลกมารอสูร ถอดหยางเคลื่อนหยิน ไหลเวียนลมปราณย้อนทางสวรรค์ คล้ายตายคล้ายสิ้น คล้ายเป็นคล้ายพื้น…” เด็กหนุ่มกล่าวพึมพัมไร้สติ ร่างกายหยาบแห้ง สั่นเทา คล้ายดั่งผีดิบไปแล้ว ทั่วทั้งไปหน้าหาได้มีสีเลือดไม่

ชั่วยามผ่านไปไม่นาน ก็มีเสียงฝีเท้าหนึ่งเดินเข้ามา นี้นับว่าแปลกยิ่งนักเพราะคุกนี้น่ากลัวสุดแสน หากมิจำเป็นต้องให้อาหารนักโทษผู้ถูกลือว่าเป็นปีศาจอย่างหวงเย่ว์ แล้วย่อมไม่มีผู้ใดใครอยากจะลงมาสิงสู่

แต่หวงเย่ว์นั้นหาได้สนใจไม่ ยังคงมีสีหน้าแววตาที่เหมอลอยยิ่ง และเป็นเชกเช่นนั้นจนกระทั้งผู้มาเยี่ยมได้เดินมาถึงตรงหน้ากรงขัง

ผู้มาเยี่ยมผู้นี้เป็นชายสูงวัย รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน ที่หวงเย่ว์ไม่คาดคิดว่าชาตินี้จะได้พบหน้าอีกแล้ว มันคือ ไม้เขียว หนึ่งในเจ้าสาขาฯ อื่น พอมันมาถึงก็เปิดประตูกรงเข้าไปหาหวงเย่ว์พร้อมกับกล่าวว่า

“หวงเย่ว์ เอ่ย ทีแรกข้านึกว่าเจ้าตายไปแล้วจึงปล่อยเวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าจะมาเยี่ยมเยือนเจ้าได้” ไม้เขียวกล่าวถามน้ำเสียงคล้ายดั่งเป็นห่วงสนใจ แต่นั้นก็หาได้มีน้ำเสียงตอบกลับจากหวงเย่ว์ไม่ จนมันต้องกล่าวต่อไปว่า

“ตัวข้านี้มาเพื่อช่วยเหลือท่าน มิได้คิดร้ายอันใด” ยามนี้หวงเย่ว์เพียงเหลือบสายตามองมันเท่านั้นเอง

“หวงเย่ว์เอ่ย ด้วยอำนาจที่ข้าพึงพอจะมีอยู่บ้าง ยังคงสามารถยื่นขอหย่อนโทษเจ้าให้เปลี่ยนมาอยู่คุกที่ดีกว่านี้ได้ เพียงแต่.....”

“เพียงแต่….” หวงเย่ว์กล่าวย้อนน้ำเสียงเหือดแห้ง แผ่วเบา

ก่อนไม้เขียวจะกล่าวอันใดสืบไป แววตาของมันก็พลันเปี่ยมประกาย พร้อมรอยยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเลห์ก่อนจะกล่าวสืบไปว่า

“เพียงแต่เจ้าต้องบอกเคล็ดวิชาคัมภีร์มารเปลี่ยนอสูรให้ข้า” จิ้งจอกเฒ่าหางออกแล้ว หวงเย่ว์ได้ฟังดังนั้นก็เพียงแต่หัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะกล่าวแต่เพียงแผ่วเบาตอบไปว่า

“ไปเอาในนรกเองเถิด” สิ้นคำกล่าวหวงเย่ว์ หนึ่งหมัดของไม้เขียวก็พลันกระแทกเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างรุนแรงจนหน้าสบับ เลือดอันแทบจะไม่มีอยู่แล้วต้องแตกกระจายจากปากไปทั่ว อีกทั้งฟันซี่หนึ่งถึงกับหลุดออกไปอยู่ในปากเลยทีเดียว

“ไอ้เด็กบัดซบ เจ้าฆ่าไหมขาว แล้วยังบังอาจมาเล่นลิ้นกับข้าอีก” มันกล่าวเดือดดาล ทว่าคำตอบที่รับกลับเป็น

“ไปนรกเถิดไอ้ลูกเต่า” หวงเย่ว์กล่าวด่าพร้อมเลือดที่กลบปาก ก่อนจะโดนอีกหนึ่งหมัดประเคนเข้าไปเต็มท้องจนร่างพุ่งกระเด็นไปกระแทกกำแพง

“หากไม่บอกมาวันนี้เจ้าต่างหากที่ต้องไปนรก” จิ้งจอกเฒ่ากล่าวก่อนจะหักนิ้วเสียงดังกรอบแกรบ

ขณะนั้นเองเด็กหนุ่มที่นอนแผ่คว่ำหน้ากับพื้นไร้ทางต่อกร ก็ค่อยๆ ยกมือที่สั่นเทาด้วยความลำบากเหมือนดั่งจะขอกล่าวบางสิ่ง ไม้เขียวจึงรีบเข้าไปพยุงร่างของเขาขึ้นอย่างช้า ๆ ทันที

และเป็นดั่งคาดหวงเย่ว์พยายามจะเปิดปากกล่าวบางสิ่งต่อไม้เขียว เป็นคำกล่าวที่เบาอย่างยิ่ง

“ข้าพเจ้าบอกเคล็ดวิชาแล้ว” คำกล่าวแผ่วเบาของหวงเย่ว์ทำเอาจิ้งจองเฒ่าตาเป็นประกายทันที

“มีคำพูดใดรีบกล่าว” มันกล่าวน้ำเสียงกระตืนรือร้นอย่างยิ่ง

หวงเย่ว์พยายามพูดเคล็ดวิชาด้วยปากอันสั่นเทาและเสียงอันแหบเบายิ่ง จนเรียกได้ว่าฟังไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย มันจึงต้องให้เด็กหนุ่มมากระซิบที่ข้างหูจึงพอฟังได้ยินเป็นว่า

“จุดสำคัญของวิชามารเปลี่ยนอสูรคือ….” เป็นเสียงกระซิบแต่แผ่วเบาที่ข้างหู

“คือ?” ไม้เขียวลอบกล่าวทวนคำตั้งใจฟังอย่างยิ่ง

“เลือด!!!!” สิ้นคำกล่าวสุดจะคาด หวงเย่ว์สบัดคอเข้าไปกัดเข้าไปที่ต้นคอของไม้เขียวอย่างรุนแรงด้วยพลังปราณมารเปลี่ยนอสูรพร้อมกับดูดเลือดมันอย่างรวดเร็ว

ไม้เขียวตะลึงงั้นดวงตาเบิกกว้าง รีบคิดหาทางตอบโต้ แต่พริบตาก่อนจะทำอะไรได้ดั่งใจ หวงเย่ว์พลันเอาเข่ากระแทกพื้น ดีดตัวลอยขึ้นหมุนร่างควงสว่านกัดฉีกเนื้อต้นคอของมันจนขาดวิ้นเป็นแผลใหญ่เลือดพุ่งกระจายดุจน้ำพุเลือด

“อ๊าาาากกกก แก…” ไม้เขียวรีบเอามือซ้ายปิดบาดแผลไว้ ในมือขวาพลันควานหากระบี่ข้างกาย

แต่วินาทีนั้นยามเมื่อหวงเย่ว์ดูดกลืนเลือดของมันเข้าไปในร่างก็เหมือนดั่งกระบวนการฝึกวิชามารได้สมบูรณ์แบบ ถ่ายปราณหยางสูญสิ้นแล้วทนแทนด้วยเลือดมนุษย์ ยามนั้นพลังปราณวิชามารจึงสำแดงเดชเต็มขั้น ทั่วทั้งร่างของหวงเย่ว์พลันแล่นไปด้วยพลังมารเต็มเปี่ยม

พริบตาดุจหนึ่งลมพัด ก่อนที่ไม้เขียวจะชักกระบี่ที่ข้างกายออกมาได้ หวงเย่ว์ก็พลันรวบรวมพลังปราณทั้งมวล พ่นฟันหักที่อมไว้ในปากออกไปอย่างรวดเร็วรุนแรง ฟันซี่นั้นจึงพุ่งผ่านอากาศประดุจหนึ่งดั่งอาวุธลับเข้าทะลวงกลางคอหอยและทะลุออกไปทันที

“แกกกกก!!!” ไม้เขียวกล่าวจบก็ทรุดร่างตายตกไปในทันที

“ข้าบอกแล้วให้เจ้าไปนรก” หวงเย่ว์กล่าวอย่างเลือดเย็น ก่อนที่ใบหน้าจะค่อย ๆ มีสีเลือด คล้ายดั่งพลังวังชากลับคืน กระชากแขนซ้ายขวาหลุดจากโซ่ตรวน แล้วจึงใช้เพียงเข่าต่างเท้าพาร่างหนีออกไปจากคุกไป

คัมภีร์มารฤทธิเดชสุดจะคาด ด้วยพลังปราณใหม่แม้นเพียงใช้แต่เข่าต่างเท้าก็ยังทะยานร่างหนีออกไปได้ไกลและแม้นผู้ใดจะขัดขวาง เขาก็เพียงใช้ร่างพุ่งกระแทกชนเอาชนะได้ และอาจจะเป็นโชคดีของหวงเย่ว์อีกด้วยที่กระดาษแดงอดีตอาจารย์ของเขานั้นมิได้อยู่ที่สำนัก จึงทำให้การหนีของเขาง่ายดายยิ่งขึ้น

และเมื่อออกจากสำนักได้ก็ประดุจนกหนีออกจากกรง เขาหนีไปอย่างไปรู้จุดหมายหลายชั่วยามจนกระทั่งเข้าไปในป่าไผ่แห่งหนึ่ง

“ฮะฮะฮะฮะ ข้ารอดแล้ว ๆ ๆ” หวงเย่ว์ตะโกนกล่าวขึ้นฟ้าด้วยความสะใจ วินาทีนั้นความรู้สึกของเด็กหนุ่มก็เสมือนเกิดใหม่ไม่ปาน แต่เพียงไม่กี่อึดใจ สุดจะคาดก็มีหนึ่งฝ่ามือเย็นเฉียบค่อย ๆ วางลงบนไหล่ของเขาอย่างเรียบง่าย

ใครกันวรยุทธ์สูงส่งยิ่ง สามารถเข้าใกล้ตัวหวงเย่ว์จนถึงขั้นสัมผัสตัวได้ ทั้งที่เด็กหนุ่มนั้นไม่รู้ตัวเลยแม้นแต่น้อยว่ามีผู้คนอยู่บริเวณนั้น

หวงเย่ว์ตื่นตกใจหน้าซีดรีบดีดตัวออกห่างทันทีก่อนจะรีบหันหลังกลับไปมองดูผู้ที่มาสัมผัส แต่สุดคาดก็ไม่พานพบผู้ใด แต่ฉับพลันเขากลับรู้สึกถึงบางสิ่งมีคมและเยือกเย็นคาวางอยู่บนไหล่แนบชิดลำคอของเขา

เขากลืนน้ำลายหนึ่งอึกด้วยความหวาดกลัวก่อนจะเหลือบมองดูสิ่งนั้นด้วยหางตาและเห็นเป็นกระบี่สีน้ำเงินอ่อน กระบี่หยกน้ำเงิน!!!

อันว่าชะตากรรมของผู้ครอบครองกระบี่หยกน้ำเงิน กับผู้ใช้วิชามารเปลี่ยนอสูรหลีกหนีกันไม่พ้น แต่กระนั้นใครจะคาดคิดว่าการพบเจอจะรวดเร็วเยี่ยงนี้

“ท่านผู้สูงส่งเป็นใครกัน” หวงเย่ว์กล่าวเสียงสั่นหน้าตาตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด นาทีเมื่อครู่เขายังคงเป็นอิสระ ยากจะเชื่อได้ว่านาทีต่อมาความตายกลับใกล้ชิดเพียงนี้

แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ กลับเป็นกระบี่หยกที่ล้าถอยออกไป ปล่อยให้หวงเย่ว์ค่อยๆ กลับหลังหันไปมองดูผู้ถือกระบี่หยก

ผู้ถือกระบี่หยกยามนี้กลับเป็นชายแก่ผู้หนึ่งสีหน้าแววตาแจ่มใสยิ่ง ดูสูงส่งนักไม่ว่าสติปัญญาหรือวรยุทธ์ ประหนึ่งดั่งเซียนจากฟ้าก็ไม่ปาน แต่งกายสีขาวล้วนรับกับผมขาวทั่วหัว ในมือถือกระบี่หยกสีน้ำเงินอยู่หนึ่งเล่ม

“ท่านผู้อาวุโสต้องการอะไร” เด็กหนุ่มถาม

“ชีวิตของเจ้า” ชายแก่ตอบเรียบง่าย

“แล้วเมื่อกี้ใย ท่านผู้เฒ่าไม่เอาไป” หวงเย่ว์กล่าวน้ำเสียงตะกุกตะกัก แม้นกล่าวถือดีแต่แท้จริงๆ แล้วยังมิอาจกล้าสู้ความตายเป็นแน่แท้

“ข้าพเจ้าอยากทราบทางมาแห่งมารของเจ้า”

“ทางมาแห่งมาร?” หวงเย่ว์กล่าวย้อนคำน้ำเสียงสูง

“เป็นมารเพื่ออะไร”

“เพื่อเอาชีวิตรอด”

“สายตาเจ้ามิเพียงนั้น หากมิตอบตามจริงอีกหนึ่งลมพัดกระบี่ข้าจะปักไปตรงคอหอยเจ้า” เซียนเฒ่ากล่าวคำอำมหิตได้อย่างเรียบเฉย

“เพื่อล้างแค้น” หวงเย่ว์กล่าวเน้นย้ำทีละคำ

เมื่อได้รับฟังชายแก่จึงลอบมองไปยังแผลเป็นตามเนื้อตัวหวงเย่ว์

“พอเข้าใจได้ แขนขาถูกตัดเส้นเอ็นสองข้างสิ้น มิทราบโดนทัณฑ์ทรมาณเสียเท่าใด แต่ถึงกระนั้นข้าคงจะปล่อยเจ้าไปทำลายผู้อื่นมิได้”

“ข้าพเจ้าไม่เคยคิดทำลายผู้อื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้อง”

“เมื่อเข้าสู่ทางมารแล้วยากกลับคืน ในกายเจ้ามิใช่เรียกร้องหาเลือด มิใช่เลือดหรือที่ทำให้เจ้ามีพลัง”

เซียนเฒ่าพูดถูกแทงใจดำ หวงเย่ว์แม้นอยากปฏิเสธแต่ร่างกายมันนั้นอยากดื่มเลือดผู้อื่นเป็นอย่างมาก คล้ายดั่งเข้าสู่ทางมารเต็มตัวไปแล้ว ยามนั้นมันคงทำได้เพียงละอายใจ

“ข้าดูแล้วเจ้านั้นมิใช่เด็กหนุ่มชั่วร้ายแต่อย่างใด เพียงแต่สถานการณ์บีบบังคับ”

“ท่านผู้อาวุโสมีทางใดชี้แนะโปรดบอก” หวงเย่ว์กล่าวก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้น ทำเอาชายแก่ต้องมีสีหน้าลำบากใจอยู่ไม่น้อย ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า

“ทางแก้จากมารยังพอมี ขอเพียงเจ้าดื่มเลือดอันบริสุทธ์ของข้า” ชายแก่กล่าวก่อนจะถลกแขนเสื้อแล้วยื่นข้อมือไปให้หวงเย่ว์อย่างไม่ลังเล

เด็กหน่มค่อยๆ เหงยหน้าขึ้นมอง แววตาสับสนอยู่เพียงครู่ก่อนจะกัดเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ที่ข้อมือของชายแก่ทันใดแล้วจึงดูดดื่มเลือดนั้นอย่างกระหาย

ฉับพลันพริบตาเดียวที่เลือดได้เข้าสู่ร่างกาย ก็เหมือนดั่งมีพลังใหม่แล่นไปทั่วร่างแทรกซึมกระจายไปทั่วทิศ ดั่งน้ำฝนเดือนห้าตกสู่พื้นแผ่นดินที่แห้งแล้ง ยามนั้นพลังปราณพลันเปล่งประกายเพิ่มพูนอีกหลายขั้นประดุจมันเป็นคนใหม่

“พอได้แล้ว” ชายแก่รีบสบับมือออกจากการคร่ากุมด้วยว่าเสียเลือดไปไม่ได้น้อย

“พลังนี้มันอะไรกัน” ชายหนุ่มตื่นเต้นในพลังใหม่ของตนเป็นที่สุด พลังปราณหยินอันเยือกเย็นแล่นไปทั่งร่าง

“ทำไมเจ้าไม่ยืนขึ้น” ใยผู้เฒ่ากล่าวเชกเช่นนี้ เขาย่อมรู้มิใช่หรือว่าหวงเย่ว์นั้นโดนตัดเส้นเอ้นเสียหมดแล้ว

“ยืน?” ชายหนุ่มกล่าวสงสัยก่อนจะเข้าใจได้ในพริบตา พลันเดินพลังปราณใช้เลือดวิเศษในกายถ่ายโอนไปเชื่อมต่อเส้นเอ้นทุกส่วนให้กลับมาเหมือนเดิมได้อย่างอัศจรรย์ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นอยากลำบากแต่ก็ทำได้ในที่สุด

“วิเศษ เจ้าเรียนรู้ได้รวดเร็วนัก ใยไม่มาเป็นศิษย์ข้าล่ะ” สิ้นคำกล่าวไปไม่เนิ่นนาน หวงเย่ว์ก็รีบคุกเข่าโขกศีรษะคาราวะรับอาจารย์ใหม่ทันที

หวงเย่ว์ยามนั้นพลันได้แต่ลอบสำนึกดีใจอย่างสุดแสน อดไม่ได้ที่จะคิดไปว่าหลังผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในที่สุดเขาก็ได้เจอเรื่องดี

“ดีมากศิษย์ข้า” ชายแก่กล่าวพร้อมทั้งลูบหัวศิษย์คนใหม่อย่างเอ็นดู ใบหน้าปิติยินดีเต็มไปด้วยร้อยยิ้มแต่ทว่าร้อยยิ้มนั้นกลับเจือปนไปด้วยความร้ายกาจอย่างประหลาด



Create Date : 08 ธันวาคม 2550
Last Update : 8 ธันวาคม 2550 18:57:03 น. 0 comments
Counter : 482 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bluejade
Location :
Birmingham Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ช่วงนี้ออกนิยายชื่อ จอมเทพกระบี่มาร จ้า ใครชอบแนวนิยายจีนลองหามาชมได้นะเออ

Friends' blogs
[Add Bluejade's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.