Group Blog
 
 
มีนาคม 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
ความหลัง ความจำ ความรัก

ภายในห้องรับแขกขนาดกว้างขวางแห่งหนึ่งซึ่งตกแต่งในแบบยุโรปสมัยใหม่ ด้านซ้ายเป็นตู้หนังสือที่ถูกเรียงเต็มไว้ด้วยตำราภาษาอังกฤษอย่างเรียบร้อย ในขณะที่ทางฝั่งตรงข้ามถูกวางไว้ด้วยโซฟาหนังขนาดใหญ่ซึ่งมีชายหนุ่มผู้หนึ่งอายุราวยี่สิบเจ็ดนอนหลับตาพริ้ม ใบหน้าของเขาดูราวกับหนุ่มเจ้าสำอาง คุณหนูผู้ไม่เคยลำบาก เรื่องแต่งกายก็ดูเนียบพิถีพิถันอีกทั้งชุดที่สวมอยู่ก็แบรด์เนมชื่อดังทั้งสิ้นซึ่งบ่งบอกถึงฐานะได้เป็นอย่างดี แต่ที่ดูขัด ๆ ก็เห็นจะเป็นตรงที่มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบหน้าผากเสมือนคล้ายพึ่งประสบอุบัติเหตุมา

ในขณะที่ข้างกายของเขานั้นมีชาวยุโรปสูงวัยผมสีขาวโพลนแต่งกายภูมิฐานซึ่งกำลังนั่งเก้าอี้ไม้เนื้อสวยอยู่ใกล้ ๆ และห่างออกไปอีกไม่มากคือหญิงสาวผมดำยาวในวัยยี่สิบห้ายี่สิบหก ใส่แว่น แต่งกายในชุดคนทำงานตัดกลับใบหน้าที่ยังอ่อนวัยนัก

“ขอให้คุณกลับไปในวันที่เกิดเหตุ” ชายยุโรปสูงวัยกล่าวด้วยภาษาอังกฤษอย่างหนักแน่น พูดเน้นยำทีละคำ ในขณะที่ชายหนุ่มได้แต่หลับตาคล้ายดั่งหลับไหล แต่ปากกลับขมุขมิกเหมือนพูดกับตัวเองอย่างไรสติ และเมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่นานนักชายแก่ก็กล่าวต่อไปอีกว่า

“คุณเห็นอะไรบ้าง” ชายแก่ซึ่งดูคล้ายนักจิตแพทย์กล่าว

“วิวทิวทัศน์ ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน” ชายหนุ่มหรือคนไข้ตอบ

“ตอนนั้นคุณกำลังทำอะไรอยู่” ชายแก่กล่าวพร้อมทั้งยื่นหน้าเข้าไปหาคนไข้ใกล้ยิ่งขึ้น

“ผมกำลังขับรถอยู่” ชายหนุ่มตอบน้ำเสียงเรียบ ๆ คล้ายไม่มีสติ

“ขอให้คุณย้อนกลับไป ก่อนหน้านั้น” ชายหนุ่มหลังฟังคำกล่าวคุณหมอได้ครู่หนึ่งจึงค่อยกล่าวตอบไปว่า

“ผมออกจากบ้านหลังหนึ่งด้วยอาการโมโหสุดขีด พร้อมทั้งหยิบกุญแจรถ….” ชายหนุ่มพร่ำพรรณาไม่ทันจบนายแพทย์ก็แทรกขึ้นมาว่า

“ขอให้คุณมองย้อนกลับไปอีก ย้อนกลับไปอีก” นายแพทย์อาวุโสกล่าวพร้อมทั้งเหงื่อที่ไหลรินจากหน้าฝากอย่างไม่ตั้งใจ

“ผมทะเลาะกับหญิงสาวคนหนึ่ง อย่างรุนแรง” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็หน้าตาเคร่งเครียดคิ้วขมวดปม ใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวอย่างที่สุดพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า

“ถ้าอยากเลิกกันมากนักก็ได้ อย่าคิดว่าผมจะง้อคุณนะ” ชายหนุ่มกล่าวคล้ายพาตัวเองกลับไปอยู่ในเหตุการณ์อีกครั้งจน จิตแพทย์ต้องรีบกล่าวแทรก

“ขอให้คุณหยุด หยุด หยุด หยุด” สิ้นเสียงนายแพทย์ คนไข้ก็เหมือนกลับค่อย ๆ สงบลง จึงเปิดโอกาสให้จิตแพทย์กล่าวยิงคำถามต่อไปอีกว่า

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”

“ผมไม่รู้ ผมไม่เห็น”

“ขอให้คุณมองไป มองไป ที่ผู้หญิงคนนั้น”

“ผมไม่เห็น ผมไม่รู้ ผมไม่เห็น ผมไม่รู้” ชายหนุ่มได้แต่กล่าวซ้ำ ๆ ไปมาด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าตื่นกลัวมากแล้ว จนใจที่นายแพทย์จะแก้ไขสืบสาวอะไรต่อไป ได้แต่รีบคลี่คลายสถานการณ์

“ถ้าผมนับหนึ่งถึงสามให้คุณกลับมา ๆ” นายแพทย์อาวุโสกล่าว

“หนึ่ง สอง สาม” จิตแพทย์กล่าวพร้อมกับปรมมือ และก็เป็นวินาทีนั้นทันทีที่ชายหนุ่มก็พื้นคืนสติเสมือนแค่หนึ่งฝันไปแล้วมีคนมาปลุก

“คุณหมอค่ะ” หญิงสาวกล่าวเป็นเชิงคำถาม

“คุณปริศนา นี้เป็นครั้งที่สามแล้วที่ไม่สำเร็จและผมไม่คิดว่าวิธีของผมสามารถรักษาโรคความจำเสื่อมของคุณนาวีได้” นายแพทย์กล่าวด้วยน้ำเสียงท้อใจ

“อะไรของคุณ นี้ผมเสียเงินไม่ใช่น้อยนะ ไม่ใช่แค่จะมานอนเล่น” นาวีกล่าวขึ้นเสียงต่อนายแพทย์อาวุโส

“คุณนาวีค่ะ” ปริศนากล่าวขึ้นเสียงสูงเป็นเชิงตักเตือนจึงทำให้ชายหนุ่มสงบปากลงไปได้บ้าง ชายแก่จึงได้โอกาสกล่าวต่อไปว่า

“แต่ผมก็พอรู้ที่มา และทางแก้สำหรับคุณนาวีแล้วครับ”

“รีบพูดมาหมอ” นาวีชิงกล่าวทันที

“ที่คุณนาวีความจำเสื่อมนั้นส่วนหนึ่งมาจากคุณต้องการจะหนีความเป็นจริงบางอย่าง และน่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนที่คุณนาวีไม่สามารถจำใบหน้าคนนั้นได้”

“คุณหมอจะบอกว่าคนอย่างผมเนี้ยนะโดนหักอก เลยทำให้ไม่อยากจำเรื่องในอดีตเหรอ” นาวีกล่าวเสียงดัง

“เป็นไปได้ครับ และทางรักษามีทางเดียวก็คือคุณต้องจำเธอคนนั้นให้ได้” จบคำกล่าวคุณหมอ ชายหนุ่มก็สบถโต้ตอบทันควัน

“บ้าบอ เหลียวไหล” และก่อนที่เขาจะสบถคำหยาบคายไปมากกว่านี้ ปริศนาก็รีบมาคว้าตัวดึงเขาออกจากห้องคุณหมอไป

หลังจากชายหนุ่มและหญิงสาวออกจากห้องคุณหมอไปได้ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มผู้กำลังฉุนเฉียวก็อ้าปากกล่าวสบถอย่างไม่สบอารมณ์ต่อเนื่อง จนหญิงสาวทำหน้าเอือมระอา

“ไม่พอใจผมเหรอ ทำหน้าแบบนั้น” นาวีกล่าวห้วน ๆ ต่อปริศนา

“เปล่าค่ะ คุณเป็นเจ้านายดิฉัน ฉันจะกล้าเหรอ”

“รู้ตัวก็ดี ว่าแต่คุณเลขาช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่ากำหนดการของเย็นนี้ที่ผมเคยวางไว้ก่อนจะความจำเสื่อมคืออะไร” จบคำพูดชายหนุ่ม ปริศนาก็รีบหยิบสมุดโน๊ตขึ้นมาดูก่อนจะกล่าวต่อไปว่า

“เย็นนี้คุณมีนัดพบกับคู่หมั้นของคุณ”

“ผมมีคู่หมั้นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มกล่าวสีหน้าตกใจไม่น้อย


ยามเย็น ณ ภัตคารของโรงแรมห้าดาวหนึ่งในเมืองไทย

ชายหนุ่มนั่งรอที่โต๊ะภายในห้องของแขกระดับวีไอพี พร้อมกับเลขาฯ สาวที่ถูกดึงมาร่วมด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก เธอมองหันรีหันขวาไปทั่วเสมือนคล้ายไม่เคยมาห้องอาหารที่หรูหราเชกเช่นนี้มาก่อน และเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนักคู่นัดหมายก็ปรากฏตัวพร้อมคำทักทาย

“ไม่น่าเชื่อคุณมาก่อนเวลา นี้คุณนาวีคู่หมั้นตัวจริงของฉันรึเปล่า” หญิงสาวผู้มาดูเป็นคุณหนูผมสั้นใบหน้าสระสวย ผิวขาวนวล อีกทั้งแต่งกายดูดีมีชาติตระกูลยิ่ง อากัปกิริยาก็ดูสง่างาม และแฝงความเยิ่อหยิ่ง

“อย่าพูดมาก ผมน่ะจำอะไรเกี่ยวกับคุณไม่ได้หรอก”

“หยาบคาย อะไรเช่นนี้” หญิงสาวตัดพ้อ ก่อนที่ปริศนาจะกล่าวแทรกขึ้นมาว่า

“คุณสลิตาค่ะ คือคุณนาวีเขาความจำเสื่อมจริงๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ค่ะ” สิ้นคำกล่าวของเลขาสาวก็เป็นสลิตาที่มองเธอเพียงหางตาแล้วกล่าวต่อนาวีไปว่า

“ถ้างั้นคุณก็คงจำไม่ได้สิว่านัดฉันมาที่นี้ทำไม”

“จำไม่ได้” ชายหนุ่มกล่าวเรียบ ๆ

“คุณจะคุยกับฉันเรื่องแต่งงานยังไงล่ะค่ะ” สลิตากล่าวพร้อมกับยื่นมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรเม็ดงามที่นิ้วนาง

“จริงเหรอ” นาวีกล่าวพร้อมทั้งมองไปยัง ปริศนาอย่างงงงวยยิ่ง

“ยินดีด้วยค่ะคุณนาวี” ปริศนากล่าวเรียบ ๆ ยิ่งทำเอาชายหนุ่มทั้งอึ้งทั้งตะลึงงัน ในหัวพลันว่างเปล่าพูดอะไรไม่ออก

“ถ้าเป็นอย่างนั้น….” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปยังสลิตา และเป็นความงามของเจ้าหล่อนที่แทบจะทำให้เขาละลาย แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดจบก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังแทรกขึ้นมาว่า

“ขอโทษค่ะคุณวี รอพัชชานานไหมค่ะ” พัชชาเป็นสาววัยรุ่นดูสดใสแต่งกายน่ารักในชุดรัดรูปกระโปรงสั้น และพอมาถึงก็เข้าโอบกอดนาวีจากทางด้านหลังทันที จนร้อนถึงสลิตาต้องรีบกล่าวขึ้นว่า

“ยัยเด็กกะโปโล รีบปล่อยมือจากคุณนาวีเดียวนี้” แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เป็นพัชชาที่กลับยิ่งกอดแน่นพร้อมทั้งยื่นหน้าแก้มชนแก้มกับนาวี

“คุณชื่อพัชชาใช่ไหม ปล่อยผมแล้วมาคุยกันดี ๆ” นาวีพยายามกล่าวเสียงแข็งทั้งที่หน้าแดงไปหมดแล้ว

“ว่าแต่คุณวี เรียกพัชชามามีธุระอะไรคะ”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ชายหนุ่มกล่าว

“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงพัชชาก็อยากมาหาคุณวีอยู่แล้ว ว่าแต่ยายแก่อีกสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นใครค่ะ”

“ใครกันยายแก่” สลิตากล่าวขึ้นเสียงสูงด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่ปริศนาถึงกับทำตาขวางเลยทีเดียว

“คุณพัชชา ผมความจำเสื่อมคงจะจำไม่ได้หรอกว่าทำไมนัดคุณมา แต่ถ้าคุณจะบอกผมก็อยากฟัง” นาวีพยายามกล่าวเสียงหนักแน่น แต่สายตาซุกซนก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองไปที่หน้าอกหน้าใจของเด็กสาว

“จะมีอะไรพิเศษล่ะคะ คุณวีก็นัดพัชชามาเดทกันที่นี้ไงล่ะค่ะ” เด็กสาวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“เออออ เดี๋ยวก่อนนะ” นาวีอึ้งไปเล็กน้อยกับคำตอบที่ได้ จนต้องเหลือบมองยังเลขาสาวเป็นเชิงขอความเห็นแล้วกล่าวไตร่ถามไปว่า

“ปริศนา คุณเคยเจอน้องพัชชาคนนี้ไหม”

“ไม่เคยค่ะ” ปริศนาตอบน้ำเสียงเบื่อ ๆ

“น้องพัชชาครับคือพี่ความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้…” แต่ก่อนที่นาวีจะกล่าวจบ พัชชาก็รีบกล่าวแทรกว่า

“แต่คุณวี คงไม่ลืมความหลังและสัญญาที่เราจะเจอกันที่ร้านอาหาร Le Paris ทุกสิ้นเดือนนะค่ะ” สิ้นเสียงพัชชา เลขาสาวก็เหมือนประติประตอเรื่องราวได้พร้อมกล่าวเสริมว่า

“คุณนาวีค่ะ ดิฉันทราบแล้วค่ะว่าคุณพัชชาเป็นใคร” นาวีถึงกลับหูพึ่งรอฟังคำตอบ

“คุณพัชชาที่แท้คือ ลูกค้าคนสำคัญที่คุณนาวีให้ดิฉันจองโต๊ะให้ทุกเดือนในนาม คุณสมชายไงค่ะ” เมื่อความลับโดนเปิดโปง ทำเอาคู่หมั้นสาวโกรธหน้าแดงลุกขึ้นชี้หน้าใส่พัชชาพร้อมกล่าวตะคอก

“ที่แท้เป็นแก”

“ทำไม มีปัญหาอะไร” เด็กสาวก็ซ่าไม่น้อยลุกขึ้นยืนสองมือเท้าสะเอวท้าทาย เหตุกาณ์เริ่มวุ่นวายหนักข้อจนชายหนุ่มได้แต่ท้อใจ

“นรก จริง ๆ เลย” ชายหนุ่มสปถในใจ

แต่ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก หญิงสาวอีกนางหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาร่วมวงไพบูรณ์โดยกล่าวอย่างสนใจศึกระหว่าง สลิตาและพัชชา

“นาวี คุณนัดแพรวมามีเรื่องอะไรเหรอค่ะ” คราวนี้เป็นสาวสวยเสนห์แรง ดูเป็นผู้ใหญ่อีกทั้งยังคงดูแก่กว่านาวีสักเล็กน้อย เธอมาในชุดแซกสีดำ ดูเย้ายวนยิ่งนัก ทำเอาชายหนุ่มตะลึงมองตาค้าง แต่พอตั้งสติได้ก็พบว่ามีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านมาจากอีกสองนางแทนที เริ่มโดยสลิตาที่กล่าวว่า

“คุณนาวี นี้มันเรื่องอะไรกันค่ะ” คราวนี้คนซวยกลับไปเป็นนาวีอย่างช่วยไม่ได้

และยังไม่ทันที่สลิตาจะกล่าวจบพัชชาก็มองนาวีแบบไม่พอใจเล็ก ๆ พร้อมกับกล่าวต่อไป

“คุณวี นัดยัยแก่พวกนี้มาทำไมกันค่ะ” เด็กสาวดันกล่าวไปฟาดพิงสลิตา ทำให้เธอไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว

“ยัยเด็กเหลือขอ หุปปากไป”

“แกนั้นแหละหุบปาก” พัชชาถึงกลับลุกขึ้นชี้หน้าด่าสลิตาอย่างไม่ยอมกัน และจากนั้นทั้งคู่ก็เปิดปากด่ากัน ต่างงัดเอาคำเจ็บ ๆ มาใช้จนห้องอาหารหรูแทบกลายเป็นตลาดไปเลย

“ทั้งคู่นั้นแหละหุปปาก” นาวีลุกขึ้นตะคอกกล่าวเสียงดังลั่นร้าน ทำเอาสลิตาและพัชชาเงียบปากไปได้

“ถ้าไม่สะดวกจะคุยกันวันนี้ ไว้วันหลังค่อยเจอกันก็ได้นะค่ะ” สาวชุดแซกดำกล่าวเรียบ ๆ อย่างใจเย็น

“คือผมความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้และไม่รู้ว่าผมนัดคุณมาทำไม”

สาวชุดแซกดำหรือแพรวดูอึ้ง ๆ ไปเล็กน้อยก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยกล่าวอย่างเรียบเฉียบต่อไปว่า

“คุณนัดดิฉันมาเพื่อขอคืนดีค่ะ”

“คืนดี?” นาวีกล่าวทวนคำสงสัย

“คุณนาวี ฉันเริ่มจะทนไม่ได้แล้วนะ” คู่หมั้นสาวเริ่มสร้างปัญหาอีกครั้ง ก่อนจะโดนตอกกลับจากพัชชา

“ทนไม่ได้ก็กลับบ้านไปกินหมากสิยาย” การกระแทกคำด่าของพัชชาครั้งนี้นำมาซึ่งจุดเริ่มของการด่าเสียดสีกันระหว่างสองนางอีกครั้ง

“งั้นฉันขอตัวก่อนดีกว่า” แพรวกล่าวก่อนจะเตรียมตัวลุกจากไป

“เดี๋ยวก่อน คุณแพรวคุณอย่าเพิ่งไป” เขากล่าวขอจนเธอกลับนั่ง

“อะไรกันคุณวี ถ้าเธออยากไปก็ให้เธอไปสิ” คู่หมั่นสาวแอบกล่าวสอดแทรก

ณ เวลานี้นาวีได้แต่ปวดหัวกุมขมัดคิดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น และไม่เข้าใจตัวเขาเองเลยว่าทำไมถึงนัดสามสาวมาพร้อมกันสามคนแบบนี้ อีกทั้งพอคิดไปว่าคนหนึ่งนัดมาขอแต่งงาน อีกคนนัดมาเดท ในขณะที่คนสุดท้ายนัดมาเพื่อขอคืนดี ฟังดูแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย

“ต้องมีใครโกหก และใช้ประโยชน์จากความจำเสื่อมของเรา” ชายหนุ่มกล่าวกับตัวเอง

แต่ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังพยายามใช้ความคิดหาคำตอบท่ามกลางเสียงด่าทอเสียดสีระหว่างสลิตาและพัชชา ก็เป็นปริศนาที่กล่าวขึ้นว่า

“คุณนาวี ค่ะอย่าเพิ่งปวดหัวไป คุณยังมีนัดอีกคนหนึ่งหลังจากนี้ที่นี้ในอีกครึ่งชั่วโมง” ปริศนากล่าวพร้อมร้อยยิ้มเยาะที่มุมปากและคำกล่าวนี้ยิ่งทำให้นาวีดูแย่ยิ่งกว่าเดิม จนสลิตาอดไม่ได้ที่จะถามว่า

“คุณนาวี บอกมาเลยดีกว่าว่าจะเลือกใคร” คำกล่าวของสลิตาทำเอาทั้งห้องเงียบกริบ หันไปรอฟังคำตอบชายหนุ่ม

“ผม ผม ผม” ได้แต่อ่ำอึ้ง ก่อนจะเป็นแพรวที่พูดแทรกขัดจังหวะว่า

“นาวี ฉันน่ะไม่อยากหลอกตัวเองอีกต่อไป จริง ๆ แล้วคุณนัดฉันมาน่ะไม่ใช่เพื่อขอคืนดีหรอก แต่เพราะจะมาขอเลิกกับฉันต่างหาก” แพรวกล่าวจบก็ลุกเดินจากไปทันที ทำเอาทั้งวงได้แต่อึ้งปนทึ่ง ก่อนจะเป็นสลิตาที่ครานี้มองไปยังพัชชาอย่างเข้าใจหัวอก

ในที่สุดก็เป็นสลิตาที่ลุกขึ้นถอดแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายวางทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วเดินจากไปโดยไม่กล่าวแม้นสักครึ่งคำ จนทั้งโต๊ะตอนนี้เหลือเพียงเลขาสาวและ พัชชา

“คุณวี เห็นไหมค่ะคนที่พูดจริงมีเพียงฉันเท่านั้น” พัชชากล่าวพร้อมยิ้มแห้ง ๆ

“ผมเข้าใจแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวน้ำเสียงเรียบเฉียบ

“งั้นเราไปต่อกันที่อื่นกันเถอะค่ะ” น้ำเสียงพัชชาเริ่มสั่น

“ผมเข้าใจแล้วว่า ผมน่ะ นัดทุกคนมาเพื่อบอกเลิก โดยที่จะได้บอกรักกับคนที่ผมนัดคนต่อไปได้อย่างเต็มปาก”

“คุณวี คุณวี…..” พัชชากล่าวน้ำตาซึมก่อนจะเข้ามาโอบกอดแขนนาวีไว้ไม่ยอมปล่อย

“คุณวีอย่างทิ้งพัชชา”

“พัชชาคุณไปเถอะ” นาวีกล่าวก่อนจะค่อยๆ ดึงแขนออกจากการกอดกุมของเจ้าหล่อน จนเธอต้องเสียหน้าและเสียใจไม่น้อย

“คนเห็นแก่ตัว” เด็กสาวกล่าวอย่างโมโห ก่อนจะตบหน้านาวีแล้ววิ่งหายไป

“ไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะทำแบบนี้” เลขาฯ สาวกล่าวเรียบ ๆ ในขณะที่นาวีได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ

“ถ้าเช่นนั้น ดิฉันขอลาก่อนนะค่ะ” ปริศนากล่าวทิ้งท้าย

“เธอจะไปไหน”

“นี้มันหกโมงครึ่งแล้วนะค่ะ เวลาเลิกงานแล้ว”

“ถ้างั้นเจอกันพรุ่งนี้”

“คุณนาวี ความจำเสื่อมคงไม่รู้สินะคะว่าดิฉันยื่นใบลาออกนานแล้ว และวันนี้ก็ทำงานเป็นวันสุดท้าย”

คำกล่าวของปริศนาเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจของนาวีแบบไม่ให้ทันตั้งตัว เขาทั้งช๊อกและสุดจะคาด เป็นความรู้สึกสูญเสียและใจหายอย่างที่สุด เพราะสิ่งที่เขาจำได้จนถึงตอนนี้ก็มีเพียงปริศนา และอาจจะกล่าวได้ว่าเธอในตอนนี้ก็เป็นเพียงคนสนิทคนเดียวของเขา

“คุณนาวีคะ เธอคนที่นัดเดินมาโน้นแล้วค่ะ ดิฉันขอลาเลยนะค่ะ” เธอกล่าวจบก็เตรียมเดินจากไปไม่เหลียวหลังทันที

“ปริศนา…..” ชายหนุ่มกล่าวเรียกชื่อตะกุกตะกัก และตกตะลึง ไม่แม้นจะมีแรงยื่นแขนมาเหนี่ยวรั้งเธอไว้ จนในที่สุดเธอก็เดินห่างไป

และในวินาทีนั้นเองก็เป็นสาวอีกนางหนึ่งที่เดินเข้ามาที่โต๊ะแทนที เธอเป็นหญิงสาวอายุน้อย ตาโต ผมยาว ผิวขาวนวล น่ารักสดใส แต่งกายดี และทันทีที่นาวี เห็นเธอก็รู้สึกถูกชะตาอย่างประหลาด รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่า เธอคนนี้คุ้นตายิ่งนัก

ไม่ผิดแน่ผู้หญิงคนนี้ต้องคนที่เขาหวังไว้แน่นอน แต่ถึงกระนั้นแล้วปริศนาล่ะ จะปล่อยเธอไปเหรอ แล้วความรู้สึกที่เจ็บปวดที่หัวใจนี้มันคืออะไรกัน

แล้วสุดท้ายเขาจะเลือกใครกัน นาวีมองหญิงสาวผู้น่ารักคุ้นตาอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดก็เหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ พร้อมกับกล่าวไปว่า

“คือที่ผมนัดคุณมานี้ก็เพื่อ…......บอกเลิก” ชายหนุ่มกล่าวไปอย่างตะกุกตะกักยิ่ง แต่กลับเป็นหญิงสาวที่ยิ้มให้ แล้วต่อไปว่า

“พี่ชายน้องสาวเค้ามีบอกเลิกกันด้วยเหรอ” พูดจบเธอก็หัวเราะตัวงอไปเลยทีเดียว

“น้องสาว?” เขากล่าวเสียงสูง

“แม่บอกว่าพี่ความจำเสื่อมจำใครไม่ได้ สงสัยจะจริงแหะ แต่ก็ไม่นึกว่าจะเพี้ยนแบบนี้” นาวียามนั้นได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก เขาเดาเรื่องผิดหมดเลย

“พี่ชาย….ว่าแต่พี่น่ะไปทำอะไรให้พี่ปริศนาโกรธ หนูเดินสวนกับเธอเห็นพี่เค้าร้องไห้ใหญ่เลย”

“หนูน่ะนะ ชอบพี่ปริศนาที่สุดในบรรดามิตรรักแฟนเพลงของพี่เลยนะ” หนูน้อยยังพร่ำไปเรื่อย แต่ชายหนุ่มยามนั้นได้แต่ตะลึงดวงตาเปิดกว้าง

“ปริศนา” นาวีกล่าวแบบไม่รู้ตัวก่อนจะรีบลุก ออกตัววิ่งออกจากโต๊ะไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท้าที่เขาจะวิ่งไปได้ และเมื่อออกผ่านประตูหน้าร้านไปก็เห็นเพียงปริศนาที่กำลังขึ้นรถแท๊กซี่คันหนึ่ง

วินาทีนั้นชายหนุ่มตะโกนเรียกชื่อเธอสุดเสียงแต่ก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยินหรือไม่สนใจก็ไม่ทราบได้ และรถแท๊กซี่คันนั้นก็ค่อยๆ ออกตัวไป

แต่สุดจะคาดกลับเป็นชายหนุ่มก็ไม่คิดหน้าคิดหลังกระโดดลงไปกลางถนนยืนขวางรถแท๊กซี่คันอย่าไม่กลัวตาย

เอี๊ยยยยยยยดดดดด

เสียงเบรกของรถแท๊กซี่ดังสนั่นพร้อมกับเสียงคนขับที่หมุนกระจกออกมาด่าอย่างถึงพริกถึงขิง ก่อนจะเป็นอดีตเลขาสาวที่ลงจากรถมาด้วยน้ำตานองหน้าและขณะนั้นได้ถอดแว่นตาของเธอออกแล้ว

“คุณอย่าทิ้งผมไป” นาวีกล่าวอย่างหนักแน่นก่อนจะเหลือบไปมองจ้องตากับเธอ

“เราเลิกกันเถอะคุณกับฉันต่างกันเกินไป” เธอกล่าวพร้อมน้ำตา โดยที่ลืมตัวไปว่าคำพูดนี้ได้กล่าวเป็นครั้งที่สองแล้ว

เราเลิกกันเถอะคุณกับฉันต่างกันเกินไป… ต่างกันเกินไป ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงคำกล่าวนี้ดังก้องขึ้นในหัวของนาวีนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะเป็นภาพในอดีตของเขาที่ค่อย ๆ ปรากฎชัดขึ้นเรื่อย ๆ ภาพในอดีตที่เคยถูกปิดผนึกไว้ ภาพของปริศนาที่เคยบอกเลิกกับไปเขาเมื่อครั้งก่อนด้วยคำพูดเดิม ภาพนั้นได้ย้อนกลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับความทรงจำที่กลับคืน

“ถึงผมจะเคยพูดไว้ว่า “ถ้าอยากเลิกกันมากนักก็ได้ อย่าคิดว่าผมจะง้อคุณนะ” แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้คิดแบบนั้น”

“ผมรักคุณ”


จบ


Create Date : 22 มีนาคม 2549
Last Update : 22 มีนาคม 2549 10:45:29 น. 5 comments
Counter : 479 Pageviews.

 
วันนี้บล๊อคนี้การ์ตูนไม่มีอะ มาผิดบล๊อคปะนี่


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:11:01:33 น.  

 
หักมุม...


โดย: cascade วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:8:14:37 น.  

 
ซึ้งๆ กุ้งแช่ไม่ได้ความจำเสื่อม แค่ปัญญาอ่อนนิดหน่อย


โดย: Goongchae วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:09:04 น.  

 
โห อยากโรแมนติกแบบนี้มั้งจัง


โดย: sugarhut วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:09:33 น.  

 
ว่าแล้วต้องเป็นยัยปริศนา..ว่าแต่ว่า ผู้ชายเจ้าชู้อย่างงี้ไมสุดท้ายลงเอยด้วยดีอ่ะ ไม่ยุติธรรมเลยสักนิดดดดดดดดดดด


โดย: ladysammy IP: 161.200.255.162 วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:0:41:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bluejade
Location :
Birmingham Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ช่วงนี้ออกนิยายชื่อ จอมเทพกระบี่มาร จ้า ใครชอบแนวนิยายจีนลองหามาชมได้นะเออ

Friends' blogs
[Add Bluejade's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.