<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
10 สิงหาคม 2554

สาวิตตรี...





คำกล่าวของชาวฮินดูที่ว่า พลังรักของสตรีนั้น เกินจะกล่าวได้ น่าจะเปรียบได้กับรักของสาวิตรี มหาสตรีที่ทุกคนยังกล่าวสรรเสริญถึงความรักและการเสียสละเพื่อสามีของตนเอง แม้แต่คัมภีร์พระเวทย์ยังกล่าวถึงนาง

สาวิตรีนั้นเป็นบุตรของมหาราชอัศวบดี ราชาแห่งแคว้นมัทรราษฏร์ ซึ่งพระองค์นั้น ไม่มีบุตรชายเลย จึงทรงบำเพ็ญตบะอันเข้มงวด โดยทรงถือพรหมจรรย์ข่มกิเลส จำกัดพระกระยาหาร ทำการพลีไฟวันละหมื่นหน และเล่ามนต์สรรเสริญพระนางสาวิตตรี(มเหสีพระพรหมา)อย่างเคร่งครัดติดต่อกันเป็นเวลานานถึง๑๘ ปี พระนางสาวิตตรีจึงทรงปรากกฏองค์ท่ามกลางเปลวไฟที่ใช้บูชาและประทานพรแก่ท้าวอัศวบดี ให้มีพระธิดาคุณสมบัติเป็นเลิศนางหนึ่ง

จากนั้นไม่นาน มเหสีของท้าวอัศวบดีก็ทรงครรภ์และประสูติพระธิดาผู้งามดังเทพธิดาหยาดฟ้านางหนึ่ง เหมือนพรที่ได้รับ เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระนางสาวิตตรีที่ประทานพรให้ ท้าวอัศวบดีจึงตั้งพระนามพระธิดาว่า “สาวิตรี”

สาวิตรีเจริญวัยขึ้นพร้อมด้วยปัญญาที่เฉลียวฉลาดและคุณสมบัติแห่งกัลยาณีทุกประการ รวมทั้งความงดงามอันเป็นเลิศ ซึ่งแม้แค่พระนารท ผู้เป็นถึงเทพฤๅษีเมื่อได้ยลโฉมนาง ยังต้องออกปากชมว่า






ผิวพักตร์ผ่องพรรณดังจันทรา
ลักขณาราวพระศรีอวตาร
กิริยามารยาทพิลาสล้ำ
ทั้งวาจาถ้อยคำก็อ่อนหวาน
อีกทรงธรรมกำกับในสันดาน
เห็นเป็นยอดนงคราญในชาตินี้


นี่คือคำพูดจากปากพระนารทผู้เป็นเทพฤๅษีที่สถิตบนสรวงสวรรค์ จึงเป็นที่ยืนยันได้ถึงคุณสมบัติและรูปโฉมของสาวิตตรี

จะอย่างไรก็ตาม เป็นที่หน้าแปลกอย่างยิ่งที่ว่า แม้สาวิตรีจะเจริญวัยเข้าสู่ความเป็นสาวแล้ว ทั้งยังทรงความงามอย่างหาผู้ใดทัดเทียมยาก แต่ไม่ปรากฏชายใดและเล็มหมายปองนางเลยจึงทำให้ท้าวอัศวบดีกังวลพระทัยเกี่ยวกับเรื่องคู่ครองของนางอยู่ไม่น้อย ในที่สุดก็ต้องตัดใจให้สาวิตตรีเลือกสวามีเอง ตามความเห็นชอบของนาง

สาวิตรีได้เดินทางไปหลายเมืองจนมาถึงเมืองของมหาราชจันทราเซน มาดันราชกุมารของมหาราชนั้นเป็นคนที่เลวร้ายมาก มักมากในกามคุณและไม่ให้เกียรติสตรีเลย เขาได้เข้ามาเพื่อที่หมายจะย่ำยี แต่สาวิตรีได้หลอกมาดันแล้วทำพิธีผูกรัคชิด เพื่อให้มาดันกลายเป็นพี่ชายของตน มาดันได้กล่าวคำอาฆาตกับสาวิตรีไว้ สาวิตรีจึงหมดหวังที่จะหาสามีตามที่พ่อและแม่ได้มอบหมายไว้ นางจึงออกเดินเพื่อหย่อนอารมณ์ พลันก็ได้ยินเสียงตัดไม้ นางจึงแอบเข้าไปดูก็พบกับชายรูปงามกำลังต่อเถียงกับนางยักษ์ที่เข้ามาพัวพัน โดยที่นางยักษ์กล่าวชักชวนให้ชายผู้นั้นมาร่วมหลับนอนด้วย ชายคนนั้นจึงกล่าวกับนางยักษ์ว่า ความอายเป็นคุณสมบัติของสตรี หญิงใดที่ไม่มีคุณสมบัตินี้ก็สมควรที่จะตายไป นางยักษ์จึงกลับไปด้วยความผิดหวัง แต่คำนี้เองที่ทำให้สาวิตรีหลงใหล

ในขณะที่นางซุ่มอยู่ในพุ่มไม้นั้นพลันก็ปรากฏเสือตัวใหญ่ไล่กวดนาง ชายหนุ่มจึงได้เข้ามาช่วยนางโดยที่ขว้างขวานเข้าที่คอเสือ และในขณะเดียวกัน มาดันก็เข้ามาแล้วยิงธนูเข้าที่หลังเสือ เมื่อชายหนุ่มเข้ามาหาสาวิตรี มาดันก็ได้เข้ามากล่าวคำหยาบช้าต่อสาวิตรี ชายหนุ่มจึงได้เข้าต่อสู้เพื่อปกป้องสาวิตรีไว้ สาวิตรีตกหลุมรักชายหนุ่มมากขึ้น มหามนตรีสุเกรชีเข้ามาหลังจากที่เขาได้ไล่มาดันไปแล้ว เขาแนะนำตัวเองว่า ชื่อสัตยวาน เป็นบุตรของอดีตมหาราชจันทราเซนซึ่งตาบอด มหามนตรีสุเกรชีจึงได้เข้าไปสู่ขอสัตยวานกับอดีตมหาราช แต่มหาราชไม่ยอมรับในเรื่องนี้ สาวิตรีจึงได้เข้าไปกล่าวกับอดีตมหาราชเอง ทำให้ทั้งมหาราชและมเหสียินยอม

ในขณะที่งานมงคลจะเกิดขึ้นนั้น พระนารทฤๅษีก็ได้เดินทางมาเพื่ออวยพร แต่ระหว่างทางได้พบกับพระยมราช พระยมราชจึงได้แจ้งว่า สัตยวานนั้นเหลืออีกเพียง 1 ปี เมื่อสาวิตรีรู้ข่าวจากพระฤๅษีนั้น นางก็มั่นคงในคำพูดจึงได้เข้าพิธีสมรสกับสัตยวาน โดยที่ไม่ฟังคำค้านจากบิดามารดาเลย

แต่ดูเหมือนว่าอานุภาพของความรักจะยิ่งใหญ่เหนือกว่าความหวั่นเกรงใดๆ สาวิตตรีเมื่อปลงใจในพระสัตยวานแล้ว แม้เห็นชัดว่าจะมีขวากหนามชีวิต รอคอยอยู่ภายหน้า ก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจแต่อย่างไร

พร้อมกับวันเวลาที่คล้อยผ่านสาวิตตรี ได้ลอบนับไว้อย่างแม่นยำ จนเหลืออีกเพียงสี่วันก็จะถึงกำหนดหมดอายุขัยของพระสัตยวานตามคำทำนายของพระฤๅษีนางก็เริ่มบำเพ็ญตรีราตรธุดงค์ (อดอาหารสามวันสามคืน) พอถึงวันสุดท้ายแห่งการบำเพ็ญ นางได้ยืนนิ่งแน่วสะกดอารมณ์ บรรดาฤๅษีชีพราหมณ์ทั้งหลายในสำนักของราชฤๅษีท้าวมยุมัตเสน ก็ช่วยกันสวดมนต์อำนวยพรให้พระสัตยวานพ้นภัย

จนถึงเวลาที่สัตยวานจะต้องถูกนำวิญญาณไป นางจึงได้เฝ้าอยู่กับสามี แต่แล้วยมราชได้ใช้อุบายพรากวิญญาณสามีของนางไปจนได้

นางจึงได้ออกติดตามไปจนถึงแม่น้ำเวตาล ยมราชได้บอกว่า นางข้ามไม่ได้เพราะภพหน้าคือภพของคนตาย สาวิตรีจึงขอพรจากพระแม่กามเทนุให้พาข้ามไป

ยมราชเห็นความตั้งใจของนางจึงได้กล่าวเตือนอีกครั้งเพราะข้างหน้าคือเทวโลก ที่ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ ยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี นางจึงขอให้ดวงตาของพ่อและแม่สามีมองเห็นได้อีกครั้ง ยมราชจึงได้ให้พรดังนั้นแล้วเดินทางต่อไป พระแม่กาลีจึงได้ให้ตรีศูลพาข้ามไป

ยมราชเห็นดังนั้น จึงได้บอกกับสาวิตรีว่า ข้างหน้าเป็นโลกสวรรค์ ซึ่งจะไปได้เฉพาะเทวดาเท่านั้นแต่สาวิตรีไม่ยอม ยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี สาวิตรีจึงขอบัลลังก์ของพ่อแม่สามีคืน ยมราชให้พรแล้วเดินทางต่อพระแม่ลักษมีจึงได้ให้ดอกบัวพาสาวิตรีข้ามโลกสวรรค์ไป

และเมื่อยมราชเห็นดังนั้นจึงได้บอกสาวิตรีว่า ข้างหน้าเป็นป่าสวรรค์และเป็นวรรณะโลกที่ผู้คนบูชาที่ซึ่งแม้แต่เทวดาถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็เข้าไปไม่ได้ แต่สาวิตรีไม่ยอมยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี นางจึงขอให้พ่อและแม่ที่ไม่มีลูกชายเลยของนางมีลูก 100 คนเพื่อความรุ่งเรือง ยมราชให้พรแล้วเดินทางต่อไป พระแม่สุรัสวตีจึงได้มอบหงส์ของพระแม่ให้พาสาวิตรีไป

เมื่อถึงยมโลก ยมราชได้บอกกับสาวิตรีว่า ที่นี่คือยมโลก ไม่มีใครเข้าไปได้นอกจากยมราชจะอนุญาต แต่สาวิตรีไม่ยอมฟังได้เดินตามยมราชเข้าไป ยมราชจึงหันมาบอกกับสาวิตรีว่าลูกรักอย่าได้ดื้อไปเลยกลับไปเถอะ สาวิตรีบอกว่าเมื่อท่านเรียกข้าว่าลูกท่านก็เหมือนพ่อ แล้วพ่อจะไม่ให้ลูกเข้าบ้านหรือ ยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี แล้วกลับไป สาวิตรีจึงขอมีบุตรถึง 100 คน ยมราชได้ให้พรดังที่ขอ แต่สาวิตรีไม่ยอมกลับ ยมราชจึงหันมาดุสาวิตรี

นางจึงเข้ามาบอกว่า ท่านให้พรได้แต่ไม่เข้าใจในคำพรที่ให้เลย นางที่ซื่อตรงกับสามีจะมีบุตรได้อย่างไรถ้าไม่มีสามี ถ้าท่านจะให้พรสำเร็จไปก็ต้องคืนวิญญาณสามีให้ ยมราชจึงยอมปล่อยวิญญาณไป นางได้ตามวิญญาณสามีกลับมา เหล่าเทวะและฤๅษีได้เข้ามาแสดงความยินดีและคำนับนางด้วยความเคารพและยกย่องนางว่าเป็นมหาสตรี

นี่คือเรื่องราวของนางสาวิตตรี เจ้าหญิงผู้มีความงามราวพระศรี(พระลักษมีมเหสีพระนารายณ์) แต่เหนือกว่าความงาม นางเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติของกุลสตรีอื่นๆทัดเทียมไม่ได้ รวมถึงความกล้าหาญที่แม้แต่ชายสามศอกน้อยคนนักที่จะสู้นางได้ เมื่อนางกล้าเผชิญหน้ากับพระยมเทพแห่งความตาย แล้วใช้วาทศิลป์อันคมคายช่วยชีวิตพระสวามีของนางเอง






เรื่องจาก อินเตอร์เน็ต








 

Create Date : 10 สิงหาคม 2554
1 comments
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 10:41:19 น.
Counter : 2449 Pageviews.

 

<º))))><.•_•.><((((º>•.★* *★
(◡‿◡✿)ขอบคุณที่แวะมาทักทายกัน (◕‿◕✿)
•.★* *★<º))))><.•_•.><((((º>
ขอบคุณที่ชอบชมภาพที่แบ่งปัน✿ (◕〝◕)
<º))))><.•_•.><((((º>•.★* *★
ชอบใจภาพใด(¯`•¸•´¯)ใช้ภาพได้ตามสะดวก
_000000___00000___*
00000000_0000000___*
0000000000000000____*
_00000000000000_____*
___00000000000_____*
______00000_______*
________0________*
ขอบคุณที่เราพบกัน(◡‿◡✿)
*☆❤*☆❤*☆❤*

 

โดย: ญามี่ 10 สิงหาคม 2554 23:07:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]