เหล่างูเห่าตามมาจนถึงริมคลอง ก็หยุดและเลื้อยกลับเข้าป่าไป พวกโจรดีใจมาก แต่แล้วจู่ๆ น้ำในคลองก็เกิดแรงกระเพื่อมผิดปกติ และเมื่อพวกโจรเพ่งพินิศดูสิ่งที่เกิดขึ้นในลำคลองอย่างตั้งใจ ทั้งหมดก็ตกใจแทบสิ้นสติ
ฝูงปลานับร้อยนับพันมาจากทุกทิศทางตรงเข้าล้อมพวกโจรไว้หมด พร้อมกับพุ่งเข้าโจมตีพวกโจรอย่างรุนแรง แม้ปลาจะไม่มีเขี้ยว ไม่มีพิษเหมือนงูเห่า แต่เมื่อปลาทุกตัวรวมใจกันจู่โจมก็รุนแรงพอจะสร้างความเจ็บปวดให้แก่พวกโจรได้
ตอนนั้นเอง เศรษฐีคมและชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็ตามมาเพื่อจะช่วยกันจับโจรส่งให้ทางการ พวกปลากระจายตัวออกทันทีที่ชาวบ้านมาถึง และชาวบ้านก็จับโจรได้อย่างง่ายดาย เพราะพวกนั้นเจ็บปวดไปทั้งตัวและไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ ไว้ต่อสู้ขัดขืนอีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่า ทั้งหมดนี้เป็นความช่วยเหลือจากงูและปลา นอกจากเศรษฐีคมแต่เพียงผู้เดียว
บทสรุปของผู้แต่ง
โลกของเราคือเงาสะท้อนตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะเห็นอะไรหรือคิดอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะสะท้อนมายังเราทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงควรกระทำแต่ความดี มองเห็นแต่สิ่งดีๆ ทำดี คิดดี พูดดี และมีจิตวิญญาณที่ดี มีความเมตตาให้แก่ผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะเมื่อเรามีแต่สิ่งดีๆ เราก็ย่อมอยากจะกระทำดีต่อผู้อื่นด้วย และสิ่งนั้นจะสะท้อนกลับมาสู่เรา ดังนั้น เมื่อเราเป็นผู้ให้ก็มีโอกาสที่เราจะเป็นผู้รับด้วย
เปรียบดั่งกระจกเงา หากเรายืนมองตัวเอง ตัวเราเองจะมองเราตอบมา หากเราแลบลิ้น กระจกก็จะแลบลิ้น หากเรานิ่วหน้า กระจกก็นิ่วหน้า และเมื่อเรายิ้ม กระจกก็จะยิ้มให้เราด้วย
นี่คือสิ่งที่เธอควรจดจำ และระลึกอยู่ในใจเสมอในยามที่คิดจะทำสิ่งใดกับใครก็ตาม
ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดีๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ โอกาสนี้
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการรายวัน