<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
21 เมษายน 2555

นิทานเรื่องกลองมหัสจรรย์ ของปีศาจจมูกโต















กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีหนุ่มน้อยผู้ขยันขันแข็ง อยู่นายหนึ่ง
นามว่า " ทาโร่ " วันหนึ่งทาโร่หนุ่มน้อยได้ขึ้นเขาเพื่อที่จะไปตัดไม้
หมายจะนำกลับมาทำเชื้อเพลิง เขาได้ทำการตัดไม้ไปเรื่อย เปื่อยมาตั้งแต่เช้า
จนเลยมาถึงเวลาเที่ยงวันเข้าพอดี และก็รู้สึกว่า ท้องนั้นเริ่มจะหิวขึ้นมา จึงหยุดพักแล้วเดินไป
หยิบห่อข้าวปั้น ที่พกเตรียมมาเป็นอาหารมื้อกลางวันด้วยนั้น นำไปนั่งลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
แต่ในขณะที่ " ทาโร่ " กำลังนั่งกินข้าวปั้น อาหารมื้อเที่ยงของเขาอย่างเอร็ดอร่อยและเพลินๆ อยู่...พอดีนั้น...




พลัน !.....เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนกับได้มีใครมาเรียกชื่อของเขา
ดังมาขัดจังหวะขึ้นกลางครันว่า " ทาโร่ ! ทาโร่ ! แบ่งข้าวปั้นสุดอร่อยนั่น ให้ข้ากินบ้างสิ !
" ทาโร่ จึงรีบหันไปที่ต้นเสียงที่เรียกเขา...แต่สิ่งที่เขาได้เห็นนั้น !...
ทำให้เขาถึงกับต้องตกกระใจอย่างหนักเลยทีเดียวเลยหละ !
...เพราะเจ้าของเสียงที่เรียกขอแบ่งข้าวปั้น เขากินอยู่ เหยง ๆ
นั่นน่ะ...มันเป็นเสียงของเจ้าปีศาจ " เท็งกุ " นั่นเอง
" ทาโร่ " ด้วยความกลัวและตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็ได้มีปีศาจโผล่ออกมาปรากฏกายต่อหน้า
แล้วก็เป็นเวลากลางวันแสก ๆ อีกเสียด้วยแบบนี้ จะคิดหนีหรือ ?ก็คงจะหนีไม่ พ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทันทีทันใด...โดยรีบยื่นห่อข้าวปั้นของเขาให้กับ ปีศาจเท็งกุ
ไปทั้งห่อพร้อมทั้งพูดระล่ำระลักด้วยเสียงและตัวที่สั่นเทาไปหมดว่า " เชิญ...เชิญ...เชิญเลยท่าน
เชิญท่านรับประทานตามสบาย... เชิญเลยครับท่าน..เท็งกุ "




เจ้าปีศาจ " เท็งกุ " เมื่อรับห่อข้าวปั้นมาได้ ก็กินจนหมดด้วยความเอร็ดอร่อยเลยทีเดียว
และเมื่อมันกินเสร็จแล้วก็พูด กับเขาว่า " ฮ่า ๆๆๆ สุดอร่อยจริง ๆเลยข้าวปั้นของเจ้านี่
อย่างนี้เห็นทีว่าจะต้องให้รางวัลด้วยของดี ๆเป็นการตอบแทน เสียแล้วสิ ฮ่า ๆๆๆ "
เจ้าปิศาจเท็งกุ หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีตามแบบฉบับของมัน
แล้วพร้อมกันนั้น มันก็ได้ ล้วงเอากลองใบเล็ก ๆ ใบหนึ่งออกมา
แล้วยื่นมอบให้กับทาโร่ พร้อมกับพูดบอกกับเขาว่า " กลองใบนี้เป็นกลอง มหัศจรรย์ นะจะบอกให้
ตีทางด้านสีแดงนี่แล้วให้พูดว่า จมูกจงยาวขึ้น....จมูกจงยาวขึ้น....เอ้า ของดีนะเนี้ย... ลองตีดูสิ "




ทาโร่เมื่อโดนปีศาจเท็งกุเร่งเร้าเหมือนบังคับให้ลองตีดูเข้าอย่างนั้น
ก็ทำตามอย่างว่าง่ายด้วยความกลัวที่ว่า ถ้าไม่ทำ ตาม เดี๋ยวมันจะพลานโกรธเอาให้ละก็
เป็นยุ่งเลยทีเดียวเชียว ทาโร่จึงได้ยกไม้ขึ้นตีกลองใบนั้นทันที
"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...จมูกจงยาวขึ้น...
แล้วก็ให้เป็นมหัศจรรย์อย่างเหลือเกิน เพราะจมูกของทาโร่นั้นได้ยาวขึ้นมาจริง ๆ
ในบัดดล...ยาวขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบ จะเท่า ๆและเหมือน ๆกับจมูกของเจ้าปีศาจเท็งกุ
ซึ่งทั้งยาวและใหญ่จนน่าเกลียด เข้าไปทุกที ๆ ก็ว่าได้....
ทาโร่ ด้วยความตกกระใจสุดขีดจึงร้องขึ้น จนเสียงหลง เลยแหละว่า
" จ๊าก...แย่แล้ว...แย่แล้ว...แง้ ๆๆ ข้าแย่แน่แล้ว จมูกยาว จนน่าเกลียดอย่างนี้
ทีนี้ข้าก็กลับไปที่หมู่บ้านไม่ได้อีกแล้วน่ะสิ โอ้ย..ข้าอายเขาตายเลย ฮื่อ ๆๆ "



เจ้าปีศาจเท็งกุ เมื่อเห็นทาโร่ตกใจ จนร้องลั่นเข้าอย่างนั้น
ก็หัวเราะเสียงดังอย่างกะฟ้าจะถล่มทลายด้วยความถูกใจ
เพราะ มันเป็นปีศาจที่ขี้เล่นอยู่ไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน
" ฮ่า ๆๆๆ ไม่ต้องต๊กกะใจ อย่างนั้นสิ ทาโร่ ก็... ฮ่า ๆๆ ตีอีกด้านที่เป็นสีน้ำเงินนั่น
แล้วให้พูดว่า จมูกจงหดลง...จมูกจงหดลง...แค่นั้นเอง เอ้า..รีบตีเข้าสิ ฮ่า ๆๆๆ "
ทาโร่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตาเหลือก รีบทำตาม คำบอกของเจ้าปีศาจเท็งกุทันที
"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...จมูกจงหดลง
แล้วจมูกของทาโร่ก็พลันหดสั้นลงมาในทันตาเห็น
กลับมาเป็นจมูกเหมือนจมูกเดิมอันเก่าของเขาในทันทีเลยหละ...




ทาโร่ด้วยความดีใจยิ้มทั้งน้ำตาเลยทีเดียวเชียว
" ฮ่า ๆๆ ตกใจหมดเลย...แต่ว่ากลองนี่ ช่างน่ามหัศจรรย์จริง ๆ อย่างที่ท่านว่า
เหลือเชื่อเหลือเกิน มีวิธีแก้ได้ด้วย ฮ่า ๆๆ
" ทาโร่ให้เป็นนึกทึ่งในความมหัศจรรย์ของกลองใบนั้นเป็นอย่างมาก
แล้วก่อนที่เจ้าปีศาจเท็งกุจะจากไป มันยังได้บอกกับทาโร่อีกด้วยว่า
" เหอ ๆๆ เก็บรักษากลองใบนี้ไว้ให้ดี ๆ นะ เพราะ ว่าเจ้ากลองใบนี้น่ะ
ถ้าใครมีเก็บไว้เป็นเจ้าของ แล้วจะช่วยดลบันดาลให้เจ้าของได้รับแต่สิ่งที่ดี ๆ
เป็นการตอบแทนแถมอีก ด้วยนะจะบอกให้ จำไว้ให้ดี ๆ ด้วย
ทาโร่พ่อหนุ่มน้อย...ด้านสีแดงนี่ตีแล้วจมูกจะยาวขึ้น และถ้าจะให้หดสั้นกลับลงมาอย่างเดิม
ก็ให้ตีด้านสีน้ำเงินนั่น
ฮ่า ๆๆ...ข้าไปหละ ขอบคุณสำหรับข้าวปั้นสุดอร่อยของเจ้าด้วย บ้าย..บาย "




ทาโร่เดินลงเขามาด้วยความดีใจ ที่อยู่ ๆ ก็โชคดีได้ของดีจากปีศาจเท็งกุ มาเป็นเจ้าของ
อย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเข้าแบบนี้ และในระหว่างกลางทางที่เขากำลังจะกลับถึงบ้าน
ก็ได้หยุดพักเหนื่อยที่ตรงทางลาดของเชิงเขา เมื่อวางไม้ที่เดินแบกลงแล้ว
ทาโร่ก็ล้มตัวนอนไปที่บนพี้นหญ้า แล้วหยิบกลองของปีศาจเท็งกุขึ้นมาส่อง
เพ่งพินิจพิจารณามองดู มองไปมองมา ทาโร่ก็เกิดความคิดที่พิลึกพิลั่นขึ้นมาอย่างหนึ่งเข้า "
เห...กลองมหัศจรรย์นะเนี่ย..ฮึ ฮึ นี่ถ้าตีแล้วจมูกยาวขึ้นไป ยาว ขึ้นไป จนไปถึงบนสวรรค์ล่ะ... ฮึ ฮึ คงจะพิลึกกึกกือดี
ไปอีกอย่างนะเนี่ย ฮ่า ๆๆ " คิดไม่คิดปล่าว ทาโร่ยังยกไม้ ขึ้นตีไปที่กลองใบนั้นทันที เลยจริง ๆ ด้วย




"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...จมูกจงยาวขึ้น...จมูกจงยาวขึ้น...

แล้วเมื่อสิ้นเสียงสั่งให้จมูกยาวเข้าเท่านั้นแหละ...จมูกของทาโร่ก็เกิดปฏิกิริยาขึ้นมาเลยหละ
มันเริ่มสั่นไหวกระดุกกระดิกอยู่ พักหนึ่งแล้วจึงค่อย ๆ ยาวขึ้น...ยาวขึ้น
ยาวสูงขึ้นไป...สูงขึ้นไป...ยาวสูงชี้ขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ไม่ยอมหยุด...
สูงขึ้นไปจน เลยผ่านเหนือต้นไม้ขึ้นไป ผ่านเลยฝูงนกที่กำลังบินกันอยู่บนท้องฟ้านั่นขึ้นไปอีก และก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลยเสียด้วย
" ว้าว...สนุกจังเลย จมูกเอ๋ย...จงยาวขึ้นสูงขึ้นไปอีก ยาวขึ้นไปให้ถึงบนสวรรค์นั่นเลย...ฮ่า ๆๆๆๆ "
"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...
ทาโร่ด้วยความที่นึกสนุกอย่างหนักจนลืมตัว
เพราะคิดอยู่แต่ว่าอยากจะให้จมูกของตนนั้นยาวขึ้นไปให้ถึงสวรรค์นั่นแหละ...
ปากก็พูดสั่งให้จมูกยาวขึ้นไป ๆ...มือก็รัวตีกลองไปให้จ้าระหวั่นไปหมดเลยทีเดียว...
"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...



จมูกของทาโร่นั้น ยาวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนสูงขึ้นไปจนทะลุก้อนเมฆขึ้นไปเลยทีเดียว...
แล้วจะเป็นด้วยการบังเอิญหรือ จะเป็นความโชคร้ายหรือจะโชคดีหรือยังไงของทาโร่ ก็ตามเถอะ
ที่วันนั้น " ตัวฟ้าผ่า " ซึ่งเป็นยักษ์ตระกูลหนึ่งที่อาศัยอยู่เหนือก้อนเมฆนั้น
วันนี้มันได้รับหน้าที่ให้มา ซ่อมสะพาน และขณะที่มันกำลังซ่อมสะพานอยู่เพลิน ๆ
มันก็ได้เหลือบไปเห็นจมูกของทาโร่ที่ยาวทะลุก้อนเมฆขึ้นมา นั้นเข้า
และด้วยมันไม่คาดคิดว่าจะเป็นจมูกของคน " เอ๋...นี่มันไม้อะไรอีกละ
แต่ เดี๋ยวก่อน แหมขนาดมันช่างพอดีพอ เหมาะเหลือเกินเลยหละ " มันพูดอย่างดีใจ
พร้อมทั้งกับฉวยเอาจมูกที่คิดว่าเป็นไม้นั้นของทาโร่ จับได้ก็ผูกและมัดติดไว้
กับเสาสะพานที่มันกำลังซ่อมอยู่นั้นทันที อย่างแน่นหนาเสียด้วยสิ....




ทาโร่ที่นอนตีกลองอยู่ด้านล่างอย่างเมามันนั้น
อยู่ ๆเขาก็รู้สึกว่าได้เกิดอะไรที่ผิดปกติขึ้นกับปลายจมูกของเขาเข้า จึงตกใจ
และร้องขึ้นด้วยความเจ็บ " โอ้ย..เจ็บ เกิดอะไรขึ้นกับปลายจมูกของข้านี่ ฮี้..
" ทาโร่จึงรีบตาลีตาเหลือกหันกลองด้าน สีน้ำเงินได้ ก็ยกไม้ขึ้นตีให้เป็นพันละวันเลยทีนี้ "บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง... "บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง... "จมูกจงหดลง...จมูกจงหดลง..."
เขาออกคำสั่ง หมายจะหดจมูกของตัวเองให้หดลงมา แต่ เวรเอ๋ย..เวรกรรม..
ด้วยจมูกของเขาได้โดนผูกไว้กับเสาของสะพานบนฟ้านั้นอย่างเหนี่ยวแน่นอย่างที่ว่า
ก็เลยเป็นว่าแทน ที่จมูกจะหดลงมาเลยกลับกลายเป็นว่า...
ตัวและร่างกายของเขานั้นกลับเป็นอันต้องลอยละลิ่วขึ้นไปสู่ด้านบนคือท้องฟ้าอย่าง รวดเร็ว




จึงด้วยการละฉะนี้ ทาโร่จึงอยู่ในสภาพที่ตีกลองไป
ตัวก็ลอยละลิ่วขึ้นไปสู่ท้องฟ้า อย่างที่ว่าใครก็ช่วยอะไรไม่ได้เสียแล้ว
" ว๊าก..จ๊าก ๆๆ โอ้ย..ใครก็ได้ช่วยด้วย พระเจ้าก็ได้ช่วยข้าด้วย ฮื่อ ๆๆๆ
...แว๊ก..นั่นภูเขา...นั่นท้องทะเล..มองเห็นลิบ ๆ อยู่ข้างล่างนั้น เหวอ...แย่แล้วเราทำไงดี...ฮื่อ ๆๆ
พ่อแก้ว...แม่แก้วช่วยข้าด้วย " ทาโร่ตะโกนโหวกเหวกร้องขอความช่วย เหลืออยู่เหยง ๆ
แต่จะมีใครเล่า ที่จะช่วยเขาได้...ก็นั่นมันบนฟ้านะ...แม้แต่นกที่กำลังบินอยู่ดี ๆ
ก็ยังบินหนีด้วยความตกใจ เลยดูสิ...เออ...ก็คิดเล่นพิเลนอย่างนั้นน่ะ...ทาโร่ก็...




เมื่อทาโร่ลอยทะลุก้อนเมฆขึ้นมาแล้วก็มาติดห้อยต่องแต่งอยู่ที่สะพานอย่างหมดท่าหมดทางเลยทีเดียว
และเมื่อเจ้าตัวฟ้าผ่าได้ เดินออกมาสำรวจตรวจดูความมั่นคงของสะพานอีกครั้ง
และเมื่อมันได้มองไปเห็นทาโร่เข้ามันให้เป็นตกกระใจเป็นอย่างมาก
" อ้าว..ข้าก็นึกว่าไม้อะไร ที่ไหนได้ ดันกลายเป็นจมูกของมนุษย์ไปได้ยังไงละนี่
เอ้อ..ต้องขอโทษทีเถิดพ่อหนุ่ม ข้ามัวแต่รีบ ร้อนมากไปหน่อยไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ
ขอโทษที...ขอโทษที "
แล้วเจ้าตัวฟ้าผ่าจึงได้แกะเชือกแล้วฉุดเอาทาโร่ขึ้นมาบนสะพาน นั้นให้




แล้วเจ้าตัวฟ้าผ่าก็ได้พูดบอกกับทาโร่ว่า
" เออ..ไหนก็ไหนแล้ว ไหนก็ขึ้นมาถึงข้างบนนี้แล้วนี่นะ
จังหวะดีทีเดียวพอดีกับข้าละก็ กำลังยุ่งอยู่พอดี
เพราะมีงานมากเต็มมือไปหมดทุกวันนั่นแหละ..
เอ้านี่น้ำ...ช่วยข้าทำงานให้สักอย่างก็แล้วกัน
" ทาโร่เมื่อได้ฟังดัง นั้นและด้วยทั้ง ๆ ที่กำลังออกจะงง ๆ
และยังตกใจไม่หายอยู่กับเหตุการณ์ที่ผ่านมาอย่างสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสักครู่นี้อยู่นั่นเอง
เขาจึง ร้อง " เห " ขึ้นด้วยเสียงอันดังเลยทีเดียวว่า
" อ้า..งานอะไรล่ะท่าน ! เออ..ข้าทำไม่เป็นหรอก งานของตัวฟ้าผ่านะ " " เออน่า..ไม่ ยากหรอก
ก็น้ำที่ข้าส่งให้เมื่อตะกี้นี้ยังไง เอาไปราดลงไปที่ด้านล่างนั่นเท่านั้นเอง...
แล้วมันจะกลับกลายเป็นฝนให้เองแหละ เทลงไปข้างล่างแค่นั้น
ง่ายจะตาย ใช่ไหม?"
ทาโร่เมื่อได้ฟังดังนั้น ก็เดินถือน้ำแล้วไปชะเง้อเมียงมองลงไปข้างล่างดูอยู่สักพัก
แล้วเขาก็เลยนึกสนุกขึ้นมาทันที




ทาโร่ได้เริ่มเทน้ำลงไปสู่ด้านล่าง " ซ่า ๆๆๆ..ซ่า ๆๆๆ "
แล้วพลันทันใดนั้นที่พื้นดินด้านล่างก็เกิดปฏิกิริยากลายเป็นฝนตกลง ไปทั่วไปหมด
พวกผู้คนที่อยู่ข้างล่างและคนที่กำลังทำงานกันอยู่ที่ในท้องนา
ต่างก็วิ่งหนีฝนกันให้วุ่นไปหมด เพราะฝนนั้น ตกลงมาอย่างกระทันหัน
ทาโร่ได้ยินเสียงแม่ของเด็กตะโกนร้องสั่งและเรียกพวกลูก ๆ ให้เป็นการใหญ่ว่า
" อ้าว..ฝนตกลงมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยนี่..เออ..เร็ว ๆ ลูกเก็บผ้าที่ตากไว้นั่นเร็ว ๆๆ
" ทุกคนวิ่งหลบฝนกันให้วุ่นไปหมด " ซ่า ๆๆๆ..ซ่า ๆๆๆ "




ทาโร่ให้เป็นสนุกสนานเป็นอย่างมากที่ตนเองสามารถทำให้ฝนตกลงมาได้อย่างนั้นเข้า
เขาคิดว่าไหนก็สามารถบรรดาลฝนให้ ตกลงมาได้อย่างนั้นแล้ว
จึงอยากจะบรรดาลให้ฝนตกลงไปให้มาก ๆ
เพื่อที่ว่าพืชผักที่อยู่ในสวนจะได้น้ำมาก ๆ เห็นจะดี ไหน ก็ไหนเลย
เขาจึงเดินเทน้ำไปรอบ ๆบนก้อนเมฆนั้น หมายจะโปรยฝนลงไปให้ทั่วถึง
แต่แล้วด้วยความที่เป็นคนซุ่มซ่ามและไม่ ค่อยที่จะระวังตัวสักเท่าไหร่
ทำให้ทาโร่เป็นอันต้องก้าวพลาด และลื่นตกลงมาจากก้อนเมฆเสียแล้ว
ตกลอยละลิ่วลงมาสู่ด้าน ล่างอย่างโชคร้ายอีกแล้ว ดูสิ.. .




" จ๊าก...แย่แล้วใครก็ได้ช่วยด้วย..ว๊าก.." ทาโร่ร้องลั่น
แต่ก็เหมือนอย่างเดิมกับตอนที่ลอยขึ้นไปสู่ด้านบนนั่นอีกนั่นแหละ
ใครจะ ช่วยได้เล่า...เพราะคราวนี้นั้นเขาเล่นหล่นลงมาด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบอย่างนั้นด้วย
แต่แล้วความที่โชคชะตายังจะดีอยู่ หรืออาจเป็นว่ามัจจุราชคงจะยังไม่อยากจะอัญเชิญเขาไปสู่ความตายเสียกระมัง
ทาโร่จึงเป็นอันตกลงมาตรงที่พอดีพอเหมาะ
คือ บนเกวียนขนหญ้าฟางที่จอดอยู่ข้างโรงนาแห่งหนึ่งเข้า เสียงดัง " ตุ๊บ " เลยทีเดียว
เขาถอดใจอย่างโล่งอก
" เออ..นึกว่าจะมรณะ เสียแล้วนะเนี่ยเรา...ดีที่ตกลงมาในที่ดีหน่อย..โอ้ย ช่างน่ากลัวเหลือเกิน "
ดังนั้นทาโร่จึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด และเมื่อเขาตั้งหลักได้แล้ว
ก็ได้กระโดดลงมาจากเกวียนนั้น แล้วได้ออกเดินสำรวจสถานที่แถว ๆ นั้นไปเรื่อย ๆ
ด้วยที่แถว ๆ นี้เขาไม่เคยได้ เห็นและได้เคยผ่านมาก่อน
" ตกลงมาที่หมู่บ้านไหนละนี่ เออ ว้อย..จะตกก็ตกให้ใกล้ ๆ บ้านหน่อยก็ไม่ได้..เฮ้อ "
เขาจึงได้แต่เดิน สะเปะสะปะไปเรื่อยเปื่อยตามเรื่องตามราวด้วยไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี




แล้วในขณะที่ทาโร่กำลังเดินของเขาไปเรื่อย ๆ นั้น
หูของเขาก็พลันแว่วได้ยินเสียงการบรรเลงเพลงอันแสนไพเราะเข้า มัน
เหมือนดังออกมาจากคฤหาสห์หลังใหญ่กลางหมู่บ้านซึ่งอยู่ใกล้ ๆกับที่เขากำลังยืนอยู่พอดี
และด้วยความที่อยากรู้อยากเห็น ว่าใครนะที่เป็นผู้บรรเลงเพลงอันแสนที่จะไพเราะนั้น
และด้วยความที่ห้ามใจของตัวเองไม่ได้ ทาโร่จึงได้กระโดดขึ้นปีน กำแพงของคฤหาสห์หลังนั้นทันที
แล้วขึ้นไปชะเง้อแอบมอง พลัน...
เขาก็ได้เห็นสาวงามซึ่งก็คงจะเป็นลูกสาวของเจ้าของ คฤหาสห์หลังนั้นอย่างแน่นอน
นางกำลังนั่งดีดขิม อยู่คนเดียวอย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว




ทาโร่เหมือนกับโดนศรรักของกามเทพปักอกเข้าให้อย่างจังเสียแล้ว
เพราะเขาต้องตกตะลึงเอาเข้ากับความสวยงามของสาว น้อยนางนั้นให้อย่างเต็มเปาทีเดียว.... " อ้า
ทำไมถึงได้เป็นผู้หญิงที่สวยงามอย่างไม่มีที่ติอย่างนี้นะ
ทำยังไงถึงจะโชคดี ได้มาเป็นเจ้าสาวของเรา..ละนี่ เฮ้อ "
แล้วขณะที่ทาโร่กำลังฝันหวานอยู่อย่างเพลิน ๆ อยู่นั้น
พลันเจ้าปีศาจเท็งกุก็ปรากฏกาย ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วได้บอกกับทาโร่ว่า
" จ๊ะเอ๋..เป็นยังไงล่ะทาโร่พ่อหนุ่มน้อย เหอ ๆๆ ศรรักปักอกเข้าให้แล้วสิ..
ข้ามีวิธีที่จะช่วยทำให้ได้สาวน้อยนางนั้นมาเป็นเจ้าสาวด้วยนะ...ฮ่า ๆๆ อยากฟังหรือปล่าวล่ะ เหอ ๆๆ "
มันหัวเราะร่วนเลยทีเดียว ด้วยมันเป็นปีศาจที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านอย่างที่สุดตัวหนึ่ง
ตามนิสัยแท้ ๆ ของมันนั่นเลยหละ
แต่ทาโร่สิด้วยกำลัง ตกอยู่ในภวังของความรักเข้าเสียด้วย
เมื่อได้ยินว่าจะมีวิธีที่ทำให้ได้สาวน้อยนางนั้นมาเป็นเจ้าสาวได้ ก็ดีใจเลยทีเดียวเชียว
" เอ๋.. ท่านรู้ด้วยเหรอ..จะทำยังไงล่ะ ? " เจ้าปีศาจเท็งกุยิ้มกลิ่มแล้วบอกว่า
" มานี่ข้าจะบอกแผนให้ เอียงหูมา ฮ่า ๆๆ "
แล้วเจ้า เท็งกุก็เริ่มบอกถึงแผนการณ์ให้กับทาโร่ทันที




ทาโร่เมื่อได้ฟังแผนการณ์แล้วก็เริ่มทำตามอย่างที่เจ้าปีศาจเท็งกุมันว่าบอกมาทันทีเลยทีเดียว....
ขั้นแรกนั้นเขาได้ตีกลองของเขาขึ้น ที่ตรงริมกำแพงนั่นเลย แล้วสั่งกลองของเขาว่า
"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...จมูกของสาวน้อยจงยาวขึ้น...จมูกจงยาวขึ้น...บ้อง...บ้อง... บ้อง...บ้อง...
แล้วพลันทันใดนั้นจมูกของสาวน้อยลูกสาวของเจ้าของคฤหาสห์
ที่กำลังนั่งดีดขิมอยู่ก็เกิดความผิดปกติขึ้นมา
อยู่ ๆก็ กระดุกกระดิกและยาวออกมาในบัดดล ยาวและใหญ่ขึ้นมาจนเกือบจะเท่าๆ กับจมูกของเจ้าปีศาจเท็งกุเลยทีเดียว...
แล้วจะเป็นยัง ไงเล่า...สาวน้อยนางนั้นก็ร้องลั่นขึ้นมาด้วยความตกใจนะสิทีนี้....
" ว๊าย..เกิดอะไรขึ้นกับจมูกของฉันนี่ ว๊าย...ช่วยด้วย จะทำยังไงดี ฮื่อ ๆๆๆ "



ทุกคนในคฤหาสห์ต้องให้เป็นวุ่นวายและโกลาหนไปหมด
ด้วยลูกสาวคนโปรดของเจ้าของคฤหาสห์นั้นเอาแต่ร้องให้คร่ำครวญ ที่อยู่ ๆ
จมูกก็ต้องมายาวออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุเข้าแบบนั้น " จมูกยาวออกมาจนน่าเกลียดแบบนี้
แล้วฉันจะไปพบกับใครเขาได้ เล่า..ฮื่อ ๆๆๆ..ฉันอายเขาตายเลย ฮื่อ ๆๆๆ "
นางเอาแต่ร้องให้คร่ำครวญอยู่อย่างน่าสงสาร..แต่อย่างเดียว ท่านเศรษฐีผู้เป็นบิดา
ก็เที่ยวป่าวประกาศหาและได้อัญเชิญหมอหลวงจากในวังให้มาดู
แต่ไม่ว่าจะใช้ยาอะไรก็ไม่สามารถที่จะทำให้จมูกของลูกสาวคน สวยหดกลับลงมาอย่างเดิมได้เลยสักนิด
ท่านเศรษฐีต้องนั่งกุมขมับและรำพึงว่า " โอ้ย..ข้าละกลุ่มใจจัง เป็นโรคที่รักษาไม่ หายอย่างนี้
คงหมดโอกาสที่จะได้แต่งงานเหมือนกับใครเขาแล้วสิลูกเอ้ย..น่าสงสารเหลือเกิน โฮ่ โฮ่ โฮ่ "




ทีนี้ก็ได้เวลาและถึงบทที่ทาโร่ก็ได้ออกมาปรากฏตัวขึ้น เขาได้บอกกับท่านเศรษฐีว่า "
เรามีความสามารถที่จะทำให้จมูกของลูก สาวท่านหายและหดกลับมาเป็นอย่างเดิมได้ "
ดังนั้นเขาจึงได้ถูกเชิญให้เข้าไปในห้องของลูกสาวเจ้าของคฤหาสห์ทันที
และทาโร่ก็เริ่มตีกลองด้านสีน้ำเงินขึ้น
"บ้อง...บ้อง...บ้อง...บ้อง...จมูกของสาวน้อยจงหดสั่นลง...
จมูกจงหดสั้นลง...บ้อง... บ้อง...บ้อง...บ้อง...
แล้วพลันทันใดนั้นจมูกของสาวน้อยคนสวยก็หดกลับลงมาเป็นเหมือนอย่างเดิมทันที....



ท่านเศรษฐีเจ้าคฤหาสห์ให้เป็นซึ้งในความกรุณาของทาโร่ที่ได้ช่วยลูกสาวคนโปรดไว้ได้
แล้วได้บอกกับทาโร่ว่า " ม่า ม่า ขอบคุณท่านอย่างเหลือเกิน ที่ได้ช่วยไว้ครั้งนี้
เพื่อเป็นการตอบแทน...ท่านอยากได้หรือต้องการอะไรเล่า
บอกเรามา และถ้าเกิดไม่เกินความสามารถ เราจะหามาให้ทันที "
ทาโร่จึงได้โอกาสและได้ตอบไปอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยทันทีว่า
" ขอลูกสาวของท่าน ให้มาเป็นเจ้าสาวของเราแล้วกัน "
ท่านเศรษฐีหัวเราะร่วนอย่างถูกอกถูกใจเลยทีเดียว
" ม่า ช่างเป็นเรื่อง ที่น่ายินดีและดีใจอย่างที่สุด เลยแหละท่าน "




เรื่องทั้งหมดจึงจบลงอย่างที่ว่า " Happy Happy "
และน่ามีความสุขอย่างที่สุด เพราะต่อมาหลังจากนั้นทาโร่ก็ได้แต่งงาน
และอยู่กินกับลูกสาวคนสวยของท่านเศรษฐีในคฤหาสห์หลังใหญ่อย่างมีความสุขตลอดมา...
แล้วถ้าจะถามถึงเจ้าปีศาจเท็งกุ น่ะหรือ..
มันก็อยู่ของมันไปเรื่อยเปื่ยนั่นแหละเพราะเป็นปีศาจเลยไม่มีวันที่จะได้ตายกับใครเขา
และก็อยากจะกระซิบบอกอีกนิด หนึ่งว่า ด้วยเจ้าปีศาจตัวนี้มันเป็นปีศาจที่ชอบสอดรู้สอดเห็น
กับเรื่องของชาวบ้านอย่างที่สุด ไม่แน่นะ...บางทีถ้าท่านเกิดโชคดี
หรืออาจจะโชคร้าย..อันนี้ไม่รู้...ก็อาจจะได้พานพบกับมันเข้าโดยไม่รู้ตัว...ก็ไม่แน่....เขาว่ามาอย่างนั้นค่ะ






ข้อมูลโดย อินเตอร์เน็ท








Create Date : 21 เมษายน 2555
Last Update : 21 เมษายน 2555 18:01:19 น. 25 comments
Counter : 3138 Pageviews.  

 



โดย: ญามี่ วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:18:06:04 น.  

 
คนแรก ดีจัง ตรังฝนหยุดแล้วค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:19:01:24 น.  

 
คนแรก ดีจัง ตรังฝนหยุดแล้วค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:19:02:03 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะน้องมี่
แวะมาเยี่ยมพร้อมส่งกำลังใจ
โหวตค่ะ



โดย: forgetmenot_ok วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:20:25:59 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณมี่..

เนื้อเรื่องดีมากๆนะค่ะ..สอนเด็กได้ดีเชียวแหละ..

งานเลี้ยงต้อนรับ-เลี้ยงส่งคุณน้ำฝนเสร็จสิ้นไปแล้วค่ะ

ไปกัีนทั้งหมด 13 คนค่ะ

มีคุณน้ำฝนกับน้องนาขวัญและน้องสาว

คุณเริงฤดีนะ/คุณโสมรัศมีมากะแฟนค่ะ/คุณอุ้มสี/คุณคิตตี้น้อยสีชมพู

อาคุงกล่อง/คุณไก่(aitai)/คุณอร(cengorn)/คุณcatt&cattleya

และอ้อมแอ้ม(คนผ่านทางมาเจอ)อ้อ..มีน้องหมาชิสุของคุณโสมด้วยค่ะ

บรรยากาศสนุกสนาน ต่างคนต่างคุยกันดังดีค่ะ

คราวหน้านัดกันไปทำบุญถวายสังฆทาน

แถวๆนครนายกค่ะ

ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ค่ะ

เพื่อนๆจะมาร่วมแจมก็ได้นะค่ะ

จะได้จัดสรรที่นั่งได้ครบค่ะ

แล้วเจอกันใหม่นะค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:23:01:39 น.  

 
ญามี่ Education Blog ดู Blog
แวะมาเยี่ยมก่อนเดินทางค่ะ
โหวตนะคะน้องมี่


โดย: jamaica วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:8:00:41 น.  

 
สวัสดีจ๊ะน้องมี่

อ่านสนุกเลยจ๊ะ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ถ้าไม่มีกลองก็ต้องไปทำศัลยกรรมที่
ประตูน้ำ โพลีคลินิค ใช่ไหมล้า 555
มีเพื่อนมาชวนไปเที่ยวสวนกันจ๊ะ อิๆ


โดย: multiple วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:8:52:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ช่วงนี้เป็นเดือนไหว้ผีและบรรพบุรุษของจีน มี่เลยติดตามไปด้วย อิอิ
อยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับผีบ่อย แล้วเลยได้อ่านสมใจในเรื่อง”เจ้าบ้านเจ้าเรือน”
อ่านแบบประหยัดมาหลายวัน ใกล้จบติดลมค่ะเลยอ่านยันเช้าเลย อิอิ มาเข้านอนตอน7โมงเช้า โอ๊ยมึนมากค่ะ แต่ก็คุ้มนานๆอ่านที ลืมคำสั่งหมอให้นอนไวเลย555
ฝันดีค่ะ




โดย: ญามี่ วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:19:57:46 น.  

 
โอ้โห ค่อยๆอ่านไปก็ได้นี่นา ไม่ต้องรีบหรอก คนเขียนเค้าเขียนตั้งหลายเดือน
น้องมี่เล่นอ่าน 2 วัน อีกหน่อยเค้าก็เขียนไม่ทันแล้ว555
พักผ่อนบ้างนอนบ้างนะจ๊ะ


โดย: multiple วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:20:26:53 น.  

 


ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ติดลมบ่อยๆเหนื่อยน๊า


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:21:13:49 น.  

 
นอนเช้าเชียวหรือคะ แสดงว่าเรื่องนี้สนุกมาก
แต่ยังไงก็ต้องระวังสุขภาพด้วยนะคะคุณมี่
นิทานคุณมี่อ่านเพลินเลย เดี๋ยวจะจำไปเล่าต่อ
ให้คู่ซี้ต่างวัยของปายฟังค่ะ
ราตรีสวัสดิ์นะคะ ขอให้ฝันหวาน ๆ ค่ะคุณมี่


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:22:20:44 น.  

 
มี่...ชอบอ่านนิยายผีเหรอ
ผมไม่ได้อ่านหนังสือนิยายมานานมากแล้ว
ช่วงหลังใช้ดูหนังแทน...
ปัจจุบันหนัง แม้แต้ทีวี ก็ไม่เคยได้ดูเลย
ไม่มีเวลาเลยครับ


โดย: พันคม วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:22:37:37 น.  

 
มาอ่านนิทานค่ะ สีสรรสดใสน่าอ่านมากลยค่ะ กิ่งโหวตให้เลยค่ะ

ญามี่ Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

หลับฝันดีค่ะคุณมี่ อย่านอนดึกนะคะ



Friends18.com Good Night Scraps


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:23:27:46 น.  

 
สงสัยน้องมี่ จะหลับคาหนังสือ อิอิ
เอาดอกไม้มาฝากจ๊ะ ตื่นขึ้นมาจะได้สดชื่นนะจ๊ะ



โดย: multiple วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:8:50:26 น.  

 



More Flower Bouquet Comments

----------------------------
ร้อนเหลือหลายถ้าไม่อยู่ในห้องแอร์คงจะต้องตายแน่ๆ แวะมาทักทายช่วงสายๆของวันจันทร์ ระลึกถึงอยู่เสมอนะคะน้องมี่


โดย: เกศสุริยง วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:10:22:26 น.  

 
น เว อนตฺถกุสเลน อตฺถจริยา สุขาวหา
คนฉลาดไม่ถูกเรื่อง ถึงจะพยายามทำประโยชน์ ก็ไม่สัมฤทธิ์ผลให้เกิดสุข

ใช้ความฉลาดให้ถูกกาลเทศะ ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:10:51:07 น.  

 

ลุ้นๆ ไปกับทาโร่ คิดว่าเป็นเด็กน้อยซนๆ คนหนึ่ง ตอนสุดท้าย ตายละ นึกปิ๊งสาวขึ้นมา อ้าว ไม่เด็กสิเนี่ย




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:13:36:25 น.  

 
ต้องขอบคุณคุณญามี่ที่เอาเรื่องน่ารักๆ มาให้ได้ยิ้มกันค่ะ




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:14:53:28 น.  

 
เรื่องน่ารักเหมาะกับเด็กดีค่า น้องมี่


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:16:07:38 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาเยี่ยมคร้า ยังไม่ได้ไปทำงานเลยอะ ^^

จะแวะมาอ่านต่อนะคร้า พี่มี่


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:19:56:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณมี่
อย่าอ่านหนังสือมากจนลืมพักผ่อนนะ ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นห่วงนะ
เอาขนมมาฝาก...ทองม้วนสด...



โดย: pantawan วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:22:17:15 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
มัชชาร Food Blog ดู Blog
ญามี่ Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
------------------
แวะมาส่งความสุขให้กับน้องดีก่อนไปนอนค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:22:53:59 น.  

 
อยากจมูกโตมั่ง เผื่อจะฮาเหมือนอุดม เนอะมี่เนาะ

แว้บไปหาตะพาบก่อนน่ะ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:2:44:32 น.  

 
สวัสดีค่ะ ฝนลงโปรยๆทำให้ง่วงนอนจัง อิอิ
เย็นนี้ทานข้าวให้อร่อยนะคะ




โดย: ญามี่ วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:16:38:26 น.  

 
อ่านสนุกจังเยย...


โดย: bell IP: 27.55.7.67 วันที่: 21 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:38:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]