ลึกซึ้งแฝงความหมาย เห็นด้วยว่าการแต่งงานมันแค่การเริ่มต้นนั่นเอง มิใช่คำตอบสุดท้าย

การแต่งงานเหมือนเป็นการเริ่มต้นอีกบทบาทหนึ่งของชีวิต
แล้วคงเพราะกามารมณ์ที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์อีกเช่นกันนะคะ ที่ทำให้มันเกิดเรื่องราววุ่วาย
พวกมักมากก้อมีใหม่อยู่เรื่อยไป เหอ ๆ อ้าวบ่นซะงั้น อิอิ

แวะมาทักทายค่ะ

แต่งงานก็เหมือน ยกระดับเพื่อนรู้ใจไปอีกระดับนึงนะ..วันนึงไม่รู้ใจหรือผิดใจขึ้นมาแรงๆ ก็ลดระดับด้วยการหย่า..เฮ้อ..!!!
สู้มีกิ๊กดีกว่า.........เย้เย้เย้เย้เย้...

ขึ้นต้นมีสาระ อวสานแย่จังเร้ย..

ka kao jai ka.

การแต่งงานเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ค่ะ
คือการยอมรับคนอีกคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต
แบ่งปัน ดูแล ผูกพัน มิใช่ผูกมัด เอื้ออาทร
แต่บทสรุปจบท้าย
อยู่ที่คนทั้งสองว่าจะจบอย่างไร
หนังเรื่องนี้ยาวค่ะ
ต้องรอดูตอนจบจะรู้ว่า "กามารมณ์ หรือจิตใจ"

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
อ่านแล้วได้แง่คิดมากๆ เลยค่ะ

อืมมมม ผมก็ว่างั้นนะ


เลยยังไม่กล้าคิดเรื่องแต่งงานเนี้ยะ

ธรรมชาติของมนุษย์..




ขอบคุณที่แวะเอากำลังใจมาฝากกันค่ะ

หน้าบล็อกหวานแหววขัดกับชื่อจขบ.และบทความที่เขียนแฮะ...

การแต่งงานกับกามารมณ์เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ...
มิใช่คำตอบสุดท้ายของความรัก

อือฮึ...?

เมื่อความรักมันถูกบิดเบือนไปมันก็กลายเป็นยังงี้แหละ....
หากเข้าใจที่จะรัก และรักด้วยความเข้าใจ
ปัญหามากมายก็จะไม่เกิด

เพศสัมพันธ์เป็นแค่เศษเสี้ยวส่วนเล็กๆของความรัก

คนเรารักกันได้โดยไม่ต้องมีเรื่องนี้ก็ได้..จริงป่ะ...

ขอบคุณที่ี่แวะไปเยี่ยมเยียนบล็อคนะคะ

มาเยี่ยมนักคิด...

ดีคับผม......................

ปุจฉา : ปลาอะไรที่ผู้หญิงกลัวมากที่สุด?

วิสัชนา : ปาเข้าไป 30 แระยังหาผัวไม่ได้

คนอื่นขำนะ แต่มิ๊กเซอร์มะขำ ทำไมอ่าส์ คนโสดผิดเหรอ

(เกี่ยวกับเรื่องของเจ้าของบ้านนี้ป่าวเนี่ยะ)

เมื่อมีความรัก กามารมณ์มิใช่ปัญหา แต่เมื่อใดที่ขาดความรักนั่นแหล่ะ ปัญหาจึงเกิดขึ้น
|
|
|
นั่นสิเนอะ เมื่อไหร่ที่คนเราขาดความรัก การยอมรับ จากคนอื่น ก็รู้สึกว่าตัวเองขาด และ พยายามดิ้นรน เพื่อให้ได้มันมา



แวะมาเยี่ยมจ๊ะ

เมื่อมีความรัก ก็อยากเป็นเจ้าของและต้องการครอบครอง
การเป็นเจ้าของที่ถูกต้องตามกฏหมายและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยคือการแต่งงาน
ผู้ใหญ่ (ที่ไม่ใช่ญาติกำนัน) บอกมา

รักยามเฒ่าคงจะเหมาะกับบทความของป้าได้ถ้วยค่ะ
ล้อเล่นค่ะ โบคิดว่าทั้งสองอย่างต้องมีอย่างสมดุลในความเป็นมนุษย์ โลก อย่ามากเกินไปและอย่าน้อยเกินไป

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ถ้าบทสรุปของการแต่งงาน ไม่ใช่วัตถุประสงค์สุดท้ายของกามมารมณ์ งั้นต้องแสดงว่า กามมารมณ์ไม่มีจุดสิ้นสุดใช่ไหมครับ?

แล้วพวกที่เข้าสู่วัยทองแล้วล่ะ? ถ้านกเขาไม่ทำงาน แสดงว่ากามมารณ์จะสิ้นสุดไปด้วยเหรอเปล่าครับ? หรือเพียงแค่หยุดพักในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

อยากรู้จังเลย

อิอิ

มาอ่านเรื่องกามารมณ์
อิอิ

การแต่งงานก็เป็นประเพณี ..
แต่ถ้าปราศจากความรักก็ไม่มีประโยชน์ ..

เรามองความรักเป็นสิ่งสวยงาม
ความรักความใคร่มันต่างกัน
บางคนให้ความรักย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

บางทีเราอาจต้องมองความรักในมุมที่ต่างออกไป
ในมุมที่กว้างออกไป ... อาจจะได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า
"ความรัก" จริงๆก็ได้ค่ะ

แวะมาดูก็รู้ว่าอยู่ในที่ปลอดภัยจริงๆจ้าาาา

ขอบคุณที่ไปเยี่ยม และกำลังใจที่ให้ค่ะ
แวะมาเยี่ยม อิ อิ ได้แต่อ่านนะคะ ไม่ค่อยถนัดอ่ะค่ะ
ทั้งกามารมณ์ทั้งธรรมะ ....
อ่านแล้วก็ค้นพบสัจธรรมบางอย่างนะคะ

การแต่งงาน ยังมิใช่คำตอบสุดท้ายของความรัก..

ฮิ.ฮิ.คมดีจังค่ะ แถมจริงแท้แน่นอน เพราะความรักเป็นมากกว่าคิด

เป็นยิ่งกว่าที่เห็นค่ะ..(พูดหยั่งกะรู้ดีเลย..ยัยลิตช์นี่)..ฮิ.ฮิ..

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะค๊า
อ่านแล้ว..ได้คิดดีค่ะ
ไหมว่านะ..ความรักที่สวยงามที่สุด
คงเป็นความรักที่ไม่มีข้อแม้อ่ะ
เพื่อนไหมแต่ล่ะคนนะ
งอนแฟนกันทุกวัน เห็นแล้วเหนื่อยแทน
แต่ล่ะคนก็เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
(แต่คู่ไหมไม่เป็นค่ะ บ้าเหมือนกันทั้งคู่)

เอ..เหมือนมาบ่นเลยแฮะ

เขียนblogใหม่แล้วแต่หัวข้อเดิมลองเข้าไปเยี่ยมดูนะ

ถ้าผมแต่งงานไปแล้วคงจะแย่แน่ๆเลย

ดีนะที่ยังเป็นแค่แฟนน่ะ

แต่แค่นี้ก็ไม่รู้จะไปกันรอดหรือเปล่าเลยครับ

ทะเลาะกันวันเว้นวันเลยทีเดียวครับ

ตอนนี้ก็ทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยซ้ำ

ผมล่ะงงกะเค้าจริงๆเลยครับ

ฝันดีนะครับ

Comments for Hi5, Myspace Hi5 Blog บล๊อคส่วนตัว


สวัสดีเช้าวันพุธสีเขียว
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความสดใส
รักย่อมเข้าใจในรักใช่ไหมค่ะ

ทักทายยามเช้านะคะ



Comments for Hi5, Myspace Hi5 Blog บล๊อคส่วนตัว

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

ผมไม่ได้หิวแน่นอนครับ เพราะเพิ่งกินข้าวเที่ยงไปน่ะครับน่ะครับ

//i191.photobucket.com/albums/z215/n_phusi/annoyed_official.jpg


สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ยุ่งๆ เรื่องงานนะคะเลยไม่ค่อยได้มาเยี่ยมค่ะ

เอาภาพมาฝากอีกทีค่ะ

ความรักมีหลายแบบ
อาจมิได้จบลงที่การแต่งงานก็ได้เนาะ

แต่กามารมณ์เนี้ย...ไม่สามารถออกความเห็นได้

อิอิ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อคนะคะ
อ่านแล้วก็....เฮ้อ เป้นโสดดีกว่า อิอิ
เคยทำงาน มน.ปีไหนคะเนี่ย พี่สาวก็ทำงานนั่น

แวะมาทักทายบ้าได้ถ้วยเห็นหายไปนานไม่สบายรึป่าวยังไงก้อรักษาสุขภาพนะฝากความคิดถึงผ่านสายลมด้วยนะ

การแต่งงานก็คือการสิดสุดการเป็นเด็ก เร่มต้นการเป็นผู้ใหญ่ หรือตกสวรรค์มาลงนรก ล้อเล่น

"เราพร้อมที่จะให้ความรักแก่ผู้อื่น เมื่อนั้นเราจึงจะมีความสุขที่แท้จริง"

คุณรู้และเข้าใจความรักดีจัง....ดังนั้นขอถามว่าคุณได้พบกับความสุขที่แท้จริงหรือยัง และถามโดยส่วนตัวคุณคิดว่าจะแต่งงานไหมคะ

และข้อแย้งหน่อยสิ "กามารมณ์จึงเป็นปัจจัยเด่นในชีวิตของเรา" อันนี้ไม่เห็นด้วยได้ไหม เพราะอารมณ์แบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีอิทธิพลมากกับชีวิตก็ได้ เพราะถ้ามีแล้วคนก็ยังรู้จักอารมณ์ยับยั้งหรือชั่งใจว่าจะทำตามหรือไม่และถ้าตรงข้ามถ้าชีวิตเราทำตามสิ่งที่ต้องการหรือตามปัจจัยที่คุณพูดถึง ก็คงทำให้เกิดปัญหาหรืออะไรหลายอย่างตามมาแน่นอน

เรื่องความรักกับกามารมณ์บางทีก็อาจจะอยู่ร่วมกันหรืออาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันก็ได้

มีความคิดเห็นก่อนหน้านี้ว่า ถ้าแก่ตัวมานกเขาไม่ขันจะทำไง "บางทีนะคะความรักต้องอยู่บนความเข้าใจด้วย" เข้าใจในหลายๆด้านหลายๆปัญหา ความรักไม่จำเป็นต้องมีกามารมณ์หรือเรื่องแบบนี้อย่างเดียว

แต่ที่แน่ๆๆการแต่งงานต้องมาจากความรัก (สำหรับคนดีคนนี้)

วันนี้ขออนุญาตมาเสริฟกาแฟอย่างเดียวนะคะ
ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ (สารภาพ)
รีบมารีบไปค่ะ งุงิ

ได้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบครับ ได้แง่คิดในเรื่องความรักและกามารมณ์ เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ขอบคุณครับ

...เมื่อมีความรัก กามารมณ์มิใช่ปัญหา แต่เมื่อใดที่ขาดความรักนั่นแหล่ะ ปัญหาจึงเกิดขึ้น...หมายความว่า ความรักมีผลต่อกามารมณ์
....ความรักมิได้เกิดขึ้นจากการลงชื่อร่วมกันในเอกสาร ทั้งมิได้เกิดขึ้นจาก 1.การสนองความต้องการของกันและกัน 2.การแสวงหาความมั่นคงให้กันและกัน และ 3.ความสะดวกสบายจากกันและ.... หมายความว่า ความรักยิ่งใหญ่กว่าการแต่งงาน

และอนุมานได้ว่า การแต่งงาน จึงเป็นเพียงข้อตกลงข้อหนึ่งของความรัก และหมายความว่า การแต่งงานย่อมไม่ใช่บทสรุปของความรัก จะแต่งงานกันได้แสดงว่าต้องมีความรักระหว่างกันและกัน แต่ก่อนจะรักใคร มนุษย์มีกามารมณ์ในตัวเองทุกคน และจะหยุดลงได้เมื่อได้รับการเติมเต็มด้วยความรัก และสรุปได้ว่า กามารมณ์หยุดลงที่การแต่งงงาน

หาก....แต่งงานแล้ว ยังหยุดอารมณ์อันเกี่ยวข้องกาม(กามารมณ์)ไม่ได้ การแต่งงานนั้นก็ไม่ได้มาจากความรัก และผลที่ตามมา คือ การนอกใจ (มีกิ๊ก มีชู้ฯลฯ )

.....เหตุใดเรื่องเพศจึงเป็นปัญหาก่อให้เกิดความสับสน กามารมณ์จึงเป็นปัจจัยเด่นในชีวิตของเรา.?.... คำตอบคือ กามารมณ์เป็นเรื่องของจิตใจ (คงไม่ต้องบอกอีกแล้วนะว่าทำไม อย่างไร...คิดเอาเอง อิอิ ++ จิตใจมนุษย์คือสิ่งทรงอิทธิพลที่สุดของมนุษย์ )และมังคุดเห็นด้วยอย่างยิ่ง


ปล. ที่นี่ฝนตกหนัก แต่ไม่รู้สึกเหงาอย่างที่เคย มังคุดมีใครบางคนอยู่ข้างๆ

หาก....แต่งงานแล้ว ยังหยุดอารมณ์อันเกี่ยวข้องกาม(กามารมณ์)ไม่ได้

(ในที่นี่หมายถึงหยุดให้มีอยู่เท่าที่มี ไม่ให้เตลิดไปไกลจนควบคุมไม่ได้)

การแต่งงานนั้นก็ไม่ได้มาจากความรัก และผลที่ตามมา คือ การนอกใจ (มีกิ๊ก มีชู้ฯลฯ )

คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า
บางคนโหยหาการแต่งงานทั้งชีวิต
บางคนก็เข็ดขยาดแล้วกับการแต่งงาน
บางมีความสุขมากมายที่ชีวิตได้เติมเต็ม
บางคนกำลังระทมทุกข์กับชีวิตแต่งงาน
สรุปคือ สรุปไม่ได้
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ยังไม่อัพเหรอครับ

อยากอ่านอ่ะครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา บอกได้ว่าเกินคำบรรยาย คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

แวะมาเยี่ยมคะ เอากุหลาบงาม ๆ มาฝากนะคะ

แวะมาขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล๊อกครับ เอ คุ้นๆว่าชื่อนี้เคยบอกว่าเข้าป่าในบล๊อกไหนหรือเปล่าครับ

ส่วนเรื่องความรักนั้น เอ่อ รักไม่ยุ่ง แต่ไม่รู้มุ่งอะไรดี 5555

ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆค่ะ^^

สวัสดีครับ..ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกครับ

มาตามไปอ่านเรื่องใหม่ที่บล็อคของผมครับ

อิอิ

มาทักทายยามเย็นค่ะ

สวัสดีค่ะ
ปอแวะมาเยี่ยมพร้อมของฝากเหมือนเคยค่ะ งุงิ
มีความสุขในทุกๆ วันนะคะ

อยากแต่งงานจัง แต่คงยังไม่ถึงเวลา อิอิ

แอบแวะเข้ามาชมครับ
หุหุ
ความรัก คือ จุดเริ่มต้นของความผิดหวัง
การแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของการหย่าร้าง
ถ้าไม่มองทั้งสองอย่าง อย่างเข้าใจก่อน ปฎิบัติ

วิถีชีวิตอันงดงาม คือ วิถีชีวิตที่เป็นอิสระ ที่จิตใจหลุดพ้นจากกิเลส และเลิกดิ้นรนเพื่อสนองกิเลส เมื่อเราค้นพบกิเลสที่ฝังอยู่ในจิตใจ เราเฝ้าสังเกตความคิด ความรู้สึกของเราอย่างละเอียด ยิ่งถ้าเราพร้อมที่จะมีความรักให้ผู้อื่นอยู่เสมอ เราจะพบว่าและรู้สึกว่ากิเลสในใจเราจะยิ่งเบาบางลง




มีความสุขน่ะค่ะ

น่าคิดดีค่ะ ถูกต้องทีเดียว คนเราส่วนมากจะมองที่ความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ใกล้ไม่ไกล เราก็ด้วยค่ะ

เคยรู้สึกว่า คนเราไม่ได้รักกันแต่ต้องมาอยู่ด้วย การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำให้เกิดความรู้สึกหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น จากที่ไม่เคยรัก ไม่เคยคิดจะรัก ก็ก่อให้เกิดความผูกพัน ความห่วงใย ที่มีให้กัน แม้จะไม่ได้รัก แต่ก็ห่วง สรุปแล้ว ฉันเข้าใจถูกต้องใช่ไม๊???

แวะมาทักทายกันวันศุกร์คะ

เข้าใจนะ แต่ก็เห็นด้วย แต่งงานไม่ใช่คำตอบของความรัก แต่ผมมองว่ามันเป็นทางแยกของความรักต่างหาก

ถ้าเราเข้าใจในรัก เราจะมีความสุขที่สุด

และเราก็จะหาเรื่องทะเลาะกันไม่ได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

แวะมาอ่านแวะมาทักทายค่ะ

คุณเคยดูหนังเกาหลีมั้ย ที่ตอนจบต้องมีคนใดคนหนึ่งตายไม่พระเอกก็นางเอก และนางเอกมักจะป่วยมีโรคประจำตัวและสุดท้ายก็ต้องจบแบบเศร้าสุด ๆ ฉันก็คงเป็นทำนองนั้น ตอนนี้ฉันก็เลยไม่คิดที่จะแต่งงาน เพราะคงหาคนที่จะรักเราจริงยากและคนที่จะเข้าใจและยอมรับในสภาพร่างกายกายของเรา พร้อมที่จะดูแลเรานั้นมันคงยากยิ่งกว่า ผู้ชายการมีความสัมพันธ์ทางกายมันต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ และการมีลูกก็เป็นสิ่งสำคัญของครอบครัว ฉันยอมที่จะอยู่คนเดียวแทนที่จะให้คนที่เรารักต้องเศร้า ลำบาก และเสียใจ เพราะตัวฉัน ชีวิตมันไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอไป ตอนนี้ฉันก็มีความสุขดีกับชีวิตโสด ไม่เดือดร้อน ไม่วิ่งเข้าหา (ผู้ชาย) มีพ่อ มีแม่ มีญาติพี่น้อง หลาน ๆ และคนอีกมากมายที่ต้องการให้เราช่วยเหลือ แม้จะไม่มีแม้คนที่จะดูแลเราอย่างจริงใจก็ไม่เป็นไร สู้ ๆ สู้ตาย

สำหรับส้มคิดว่าการแต่งงานไม่เพียงเพราะต้องการแค่กามารมณ์อย่างเดียว แต่ต้องการสร้างครอบครัวขึ้นมาอีกครอบครัวมากกว่าค่ะ คนไม่แต่งงานก็มีกามารมณ์ได้เหมือนกันนะคะ อยู่ที่ว่าคนคนนั้นจะมีสติในเรื่องนี้แค่ไหนน่ะค่ะ

แวะมาทักค่ะ

น่าคิดนะค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปทักนะคะ...
อ่านแล้ว

รัก...ช่างเข้าใจยากจริง ๆ ค่ะ ^^"

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม

มนุษย์มีสามอย่างที่ขาดไม่ได้

กิน กาม เกียรติ

ถ้ายังต้องกินแต่ให้พออยู่ได้ส่วนสองอย่างหลัง
ไม่สนใจก็ไปบวชได้บวชที่บ้านหรือที่วัด
ไม่ต่างกัน

อ่านแล้วได้ข้อคิดมากเลยค่ะ

สุขสันต์วันเสาร์จ้า พักผ่อนอย่างมีความสุขนะคะ

โดยส่วนตัวแล้วก็มีความเห็นอย่างนั้นด้วยจริงๆค่ะ ว่าการแต่งงานมิใช่คำตอบสุดท้ายของความรัก คนส่วนใหญ่แต่งงานกันเพื่อเหตุผลอื่นๆทั้งนั้น..แต่งเพราะเงิน แต่งเพราะอยากมีลูกไว้เลี้ยงยามแก่...แต่งเพราะเหงา..แต่งเพราะถึงวัยฯลฯ.. น้อยคนมากๆที่จะแต่งเพราะความรักแท้.....

ขอบคุณสำหรับกำลังใจคับ

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาชวนไปอ่านเรื่องสั้นที่บล็อคของผมครับ

พาฝรั่งเที่ยวกรุงเทพฯ : ไปวัดโพธิ์ ... ดูจิ้งจก

อิอิ

ตัดสินใจแต่งงานมีคู่ชีวิต กามารมณ์เป็นแค่ส่วนนึง...ที่มีก็ดี ไม่มีก็ได้ไม่ยีดติด
หากแต่เลือกทางสายนี้ เพราะรู้สึกดีๆที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันในเวลาแห่งชีวิตที่ยังเหลืออยู่
ได้ร่วมสุขร่วมทุกข์กับคนที่รักตราบชั่วชีวิต...

" Together" is better than "Alone"....

z,ผมก็ว่างั้นนะ

พื้นที่ของความรักยังเหลือเฟือไม่หมดสิ้นมีที่ว่างสะสมมาตลอดยี่สิบสามปีแต่ยังไม่มีครายงมาจองกามารมณ์จึงจบลงด้วยความเศร้า

ในนิยายเมื่อพระเอกแต่งงานกับนางเอกเรื่องก็จบแต่ในชีวิตจริงเมื่อพระเอกแต่งงานกับนงเอกชีวิตเพิ่งเริ่มต้นขอบคุณครับที่แวะไปทักทาย

นึกถึงชีวิตที่อิสระก่อนแต่งงานเมื่อแต่งงานไปแล้วคงสูญเสียความเป็นอิสระแน่เลยแต่ก็ต้องยอมถ้าได้ตัดสินใจแต่งงาน

อืมเป็นแฟนก็รักกันดีแต่ถ้าแต่งงานไปไม่รู้ว่าจะเป็นยังงัยเน๊อะ

ชีวิตที่ยุ่งยาก เพราะมี ความอยาก มากเกินไป
เข้าใจความหมายอะนะ แต่ยังปลงไม่ได้ซะที ก้วุ่นวายกันต่อไป ขอบคุณสำหรับบทความดีๆอีกมุมมองหนึ่งนะคะ

หนูว่านะความรักอะไร ๆ มันก็ไม่แน่นอน หนูน่ะผิดหวังกับความรักออกบ่อยไป รักกันอยู่ดี ๆ อยากจะเลิกกันก็จากกันไปซะงั้น และก็ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างของการเลิกลากัน แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนก็ยึดมั่นถือมันตามความพอใจของตนเองทั้งนั้น หนูเลยปล่อย ปลง อ่ะ ถ้าเค้าไม่อยากรักกับเราก็ตามใจเค้า เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้