สวัสดีค่ะ ตอนนี้ยังเป็นวันที่ 3 วันที่มีภาพเยอะ เลยต้องแยกมาตอนที่ 5.5 ทำไมจุดห้า เพราะตอนนี้ไม่มีวิดีโอค่ะ เดี๋ยวงงเวลาแปะวิดีโอ
แบบไหนเลือกเลยจ้า
ในวัดห้ามถ่ายภาพค่ะ
ข้างในทุกคนก็จะต่อแถว รอพราหมณ์ให้พร โดยที่นี่เทพเจ้าหลักคือ พระพิฆเนศวร นะคะ
ด้านหน้าวัดจะมีวัตถุมงคลให้เช่าไปบูชา ราคามีตั้งแต่ถูกมาก จนถึงแพงมาก พระพิฆเนศวรปางแปลก ๆ ก็มี เช่นปางที่ถือ Laptop แต่เขาไม่ไห้ถ่ายรูปมาค่ะ
ไหว้พระเสร็จเราไปร้านกาแฟกันดีกว่า
เมืองพอนดี้นี่ร้านกาแฟชิค ๆ เยอะดี
เอวิผู้เจ็บคอก็กินได้แต่ลาเต้ร้อนนี่แหละ
ฟูฟ่องมาก
ร้านเขาก็น่ารัก นั่งข้างนอกก็สบาย ไม่ร้อน
ผ่อนคลายหายเหนื่อยกันไป
ส่วนภาพข้างล่างนี้เป็นมุมที่ตกแต่งโดยใช้ผ้า สวยไปอีกแบบ
พิซซ่าก็มี แต่ไม่ได้ลอง
เมนูนะคะ
แต่ไม่ได้หิวอะไรขนาดนั้นเลยทานแต่ลาเต้ร้อน
ยัง ยังไม่พอ ไปกิน subway กันต่อ
นี่คืออยู่เมืองไทยก็ไม่เคยกิน subway ไปถึงเขาถามเอาขนมปังยาวเท่าไหร่ เอ้า มีงง
แต่ที่แจ่งมี่ subway ก็คือ ชา นั่นแหละค่ะ ชาอินเดียนั่นแหละ
แจ่มสุด(แนะนำว่าห้ามพลาด) และในร้านมีไวไฟฟรี
ยัง ยังไม่จบ เราไปกันต่อในซอยเล็ก ๆ
อันนี้คือหมดปัญญาจะระบุพิกัดจริง ๆ มีความฉวัดเฉวียนมาก จัดเป็นร้านลึกลับ(เฉพาะของเรา)
เป็นร้านเล็ก ๆ ในตรอก
นี่เป้นรายการกินไปเรื่อย ๆ หรือเปล่าเนี่ย
ขวาบนถ้าจำไม่ผิดคือ กุหลาบจามุนน่ะค่ะ
ที่เด็ดคือ ชาต่างหาก
หอมอร่อยกลมกล่อมมาก
แม้ว่าเราเพิ่งเลิกกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง เมื่อเปลี่ยนจากแฟนกลายเป็นเพื่อน ความเกรงใจในฐานะแฟนหายไปสิ้น มันถ่ายรูปเรากับช้าง
น่าเอ็นดูคนถ่าย
(จริง ๆ ชายก็เป็นคนกวน ๆ อยู่แล้วหละ)
ร้านเขาแต่งได้เก๋ไก๋มาก ทุกคนมาจะมาสั่งชากันแทบทุกโต๊ะ
ยังค่ะ ยังไม่จบ เราไปกันต่อ
ที่นี่
อ่านกันเอานะคะ ป้ายอมแพ้
ถึงกลางคืนหรือยัง ถึงกลางคืนแล้วทำอะไรคะ ถึงกลางคืนแล้วต้องกินค่ะ
ร้านนี้อีกแล้ว
อาหารอินเดีย เมื่อกินเข้าไป ส่วนตัวคิดว่ากินนิดเดียวก็อิ่มค่ะ ด้วยกลิ่นเครื่องเทศด้วย ด้วยความหนักของแป้งด้วย ดังนั้นมื้อนี้ก็เหลือแค่นี้
ไก่ 1 ชิ้น จบ นอนได้
วันต่อไป ไปไหนต่อโปรดติดตามนะคะ