ปัจจุบันการสร้างบ้านหรือคอนโดฯ นั้นไม่เหมือนเเต่ก่อน เพราะเทคโนโลยีล้ำสมัยบวกกับการเเข่งขันเรื่องเวลา หลายโครงการเลยหันไปใช้ระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูปสร้างบ้านกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะลดระยะเวลาเเล้ว ยังช่วยลดต้นทุน ช่วยเเก้ปัญหาการขาดเเคลนช่างเเละเเรงงานอีกด้วย
การก่อสร้างบ้านด้วยระบบ Precast เป็นเทคนิคที่มีมานานแล้ว เห็นได้จากเวลาก่อสร้างสะพาน ชิ้นส่วนของคานคือชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปที่วิศวกรนำมาใช้ สำหรับการสร้างบ้านโดยใช้ชิ้นส่วน Precast นั้นเริ่มจากการใช้พื้นสำเร็จรูปเเทนการเทคอนกรีตก่อนหล่อพื้น เพราะทำได้รวดเร็วเเละประหยัดกว่า
หลายคนกังวลว่าระบบการก่อสร้างเเบบนี้จะเเข็งเเรงมั้ย..เเน่นอนว่าเเข็งเเรงปลอดภัยเพราะเป็นส่วนที่ได้ผ่านการออกแบบจากวิศวกรมาเเล้ว เเต่ก็มีคำถามว่าระหว่างผนังก่ออิฐกับผนังคอนกรีตสำเร็จรูปแบบไหนเเข็งเเรงกว่ากัน ความจริงแล้วเราไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ในเชิงความเเข็งเเรง เพราะอาคารที่สร้างด้วยระบบเดิมแบบผนังก่ออิฐ ไม่ใช่ส่วนที่ใช้สำหรับรับเเรงทางโครงสร้าง เป็นเพียงส่วนกั้นพื้นที่ เเละการคำนวณก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่มากระทำต่อโครงสร้าง (180 กิโลกรัม/ตารางเมตร) ดังนั้นจะรื้อทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้
ส่วนผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่ใช้สร้างบ้าน Precast เป็นส่วนของโครงการที่ทำหน้าที่รับน้ำหนัก ไม่สามารถทุบทิ้งได้
สำหรับระบบอาคารสำเร็จรูปนั้น ทางวิศวกรรมเเบ่งได้ 2 ระบบ คือ ระบบ frame และ ระบบ Bearing Wall โดยระบบ Frame คือระบบหล่อชิ้นส่วนคานเเละเสานำมาประกอบเป็นโครงสร้าง ขณะที่ระบบ Bearing Wall คือระบบที่หล่อชิ้นส่วนเป็นแผ่นผนังเเล้วนำมาประกอบเป็นอาคาร ซึ่งปัจจุบันโครงการบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ใช้ระบบนี้
>>> อาคารที่สร้างด้วยระบบ Bearing Wall
>>> บ้านที่สร้างด้วยระบบ Frame
ในประเทศไทยนั้นยังไม่มีมาตรฐานกำหนดสำหรับการก่อสร้างอาคารที่ใช้ชิ้นส่วนสำเร็จรูป ต่างคนต่างสร้าง ไม่เเน่ว่าในอนาคตอาจมีมาตรฐานกลางเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
เรื่องระบบก่อสร้างด้วยชิ้นส่วนสำเร็จรูปดูจะเพิ่มมากขึ้น เเต่สิ่งที่ผู้อยู่อาศัยต้องทราบเเละทำความเข้าใจก็คือข้อจำกัดต่างๆ เช่น ไม่สามารถทุบผนังเพื่อต่อเติมได้ หรือปัญหาปลีกย่อยเรื่องการรั่วซึม อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพการก่อสร้าง ซึ่งผู้ซื้อต้องพิจารณาให้ละเอียดเพื่อการตัดสินใจ