เวลาจะซื้อขายบ้านก็ต้องประเมินราคากันก่อน เราจะได้รู้ว่าบ้านของเรานั้นมีราคาเท่าไหร่ เเละควรจะขายในราคาเท่าไหร่ถึงจะดี รวมทั้งจะได้นำไปเปรียบเทียบกับบ้านในละเเวกเดียวกันด้วย
แล้วการประเมินราคา เขาทำกันอย่างไรกัน...
เทคนิคการประเมินราคา เพื่อหามูลค่าที่ควรจะเป็น ตามหลักสากลที่ยอมรับกันโดยทั่วไปนั้น มีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน คือ
1.วิธีเปรียบเทียบราคาตลาด(Market-Comparison Approach)
เเนวคิดนี้เชื่อว่ามูลค่าของทรัพย์สินเกิดจากทรัพย์สินอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน แบบเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน เวลาประเมินก็จะมีราคาหรือมีมูลค่าใกล้เคียงกัน วิธีคิดแบบนี้นำมาใช้เรื่องการเปรียบเทียบบ้าน คอนโดฯ อาคารพาณิชย์ ฯลฯ ลักษณะคล้ายกันที่มีอยู่ในตลาด เพื่อปรับเเต่งราคาตลาดของทรัพย์สินที่อ้างอิงไว้ให้มีมูลค่าที่ควรจะเป็นของสินทรัพย์ที่ต้องการประเมิน
นอกจากเป็นที่นิยมมากแล้ว วิธีการประเมินแบบนี้มักใช้ได้ดีกับบ้านในบริเวณที่มีการซื้อขายมากรายในระยะเวลาที่ผ่านมา และยิ่งมีบ้านมาเปรียบเทียบมากแค่ไหน มูลค่าที่ได้ ก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากเพียงนั้น
2.วิธีคิดจากรายได้(Income Approach)
สำหรับเเนวคิดนี้เชื่อว่าสินทรัพย์ใดที่ก่อให้เกิดรายได้ ก็ควรจะมีมูลค่าตามเเนวคิดนี้มีสูตรคำนวณราคาประเมินง่ายๆ คือ
ตัวอย่างการประเมินราคา
วิธีนี้เหมาะที่จะนำมาใช้กับทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ ประเภทให้เช่าทุกประเภท เช่น แฟลต อพาร์ทเมนท์ หอพัก บ้านเช่า รวมตลอดทั้งที่ดินเพื่อการเกษตร
3.วิธีต้นทุนทดแทนหรือวิธีคิดจากต้นทุน(Replacement-Cost Approach)
แนวคิดสุดท้ายนี้เชื่อว่ามูลค่าทรัพย์สินที่ควรจะเป็น ควรเท่ากับต้นทุนในการก่อสร้างหรือต้นทุนในการได้มาซึ่งทรัพย์สิน แล้วหักด้วยมูลค่าการเสื่อมสภาพของทรัพย์สิน หรือค่าเสื่อมราคา(Depreciation)
วิธีนี้นิยมใช้กันมากในการวางแผนปลูกสร้างที่อยู่อาศัยในเมือง เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายและไม่ซับซ้อน และมีลักษณะเป็นเทคนิคมาตรฐาน สามารถนำมาใช้คิดราคาทรัพย์สินจำนวนมากๆ ได้ และวิธีนี้ยังเหมาะอย่างยิ่งในการนำมาใช้ในการประเมินทรัพย์สินประเภทมีการซื้อขายน้อย ไม่สามารถวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบราคาตลาดได้
ตัวอย่างการประเมินราคา
ต้องการประเมินราคาตึกแถว 2 ชั้น กว้าง 4 เมตร ยาว 10 เมตร แห่งหนึ่งที่ปลูกมาแล้ว 3 ปี
วิธีการประเมินราคาตามวิธีนี้เริ่มจาก
ที่มา : หนังสือ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพ โดย อนุชา กุลวิสุทธิ์