|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องอยากเล่า จากใจ ช่างแต่งหน้าธรรมดาคนหนึ่งค่ะ
จริงๆ เรื่องนี้เขียนไว้ตั้งแต่ 4 มีนาคม 2554 ใน LSQ ค่ะ แต่ไม่ได้นำมาอัพลงบล็อก เพิ่งนึกได้ เลยคิดว่านำมาเก็บไว้ดีกว่า อย่างน้อยก้อเป็นส่วนหนึ่งวันหนึ่งของชีวิตที่เรามีสุขมีทุกข์
//www.ladysquare.com/forum_posts.asp?TID=117358&title=coffee-master
ช่วงนี้เหนื่อยค่ะ เลยแลสับสนไปบ้าง งงๆๆ กับสิ่งต่างๆ ที่ทำอยู่ หายๆ ไป เพราะกำลังยุ่งๆ กับการตามล่าอีกความฝัน กำลังจะมีร้านเล็กๆ เป็นของตัวเอง (ไว้มาแจ้งข่าวแน่นอนค่ะ) และ ถือเป็นการพักเรื่องความฝันหลัก คือการแต่งหน้า แต่ไม่ได้หยุดงานแต่งหน้านะค่ะ ยังคงรับ แต่แค่พักใจ มีเรื่องให้บอบช้ำเยอะเหมือนกัน เหนื่อยใจกับความคิดของคนที่ไม่รู้จัก นั่นสิ จะคิดทำไม ก็คิดได้แล้วค่ะ เก็บสิ่งดีดี ไว้ให้กับคนที่รู้สึกดีดีต่อกันดีกว่า
ส่วนหนึ่งคงเพราะเหนื่อย ร่างกายอ่อนแอ จิตใจเลยไม่แข็งแรง
แต่ก้อมาที่นี้ เพราะรู้ว่ามีกำลังใจอบอุ่นอยู่เสมอ ไม่ต้องมาก แต่มั่นคง ก้อพอค่ะ ขอบคุณสำหรับความจริงใจที่แสดงให้รับรู้ได้เสมอๆ นะค่ะ
ยังคงเป็นคนเดิม ที่ยังคงผูกพันกับเรื่องเก่าๆ แต่ไม่ยึดติด ก้าวเดินไปด้วยการเอาสิ่งที่ผ่านมาเป็นบทเรียนค่ะ
คิดถึงนะค่ะ
วันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นวันหนึ่งที่เหนื่อยเหมือนกันค่ะ หมดแรงเลยตอนกลับมาถึงบ้าน เช้าวันนี้ วันที่ 4 มีนาคม แค่วันเดียว มีความรู้สึก มีเรื่องราวเกิดขึ้น มีสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราคิดได้ มากมายเหลือเกินค่ะ
แค่ ในวันเดียว มีทั้งทำให้เรายิ้ม หัวเราะ ซีเรียส และน้ำตา แต่สุดท้ายก้อ happy ending เสมอ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ ถ้าเรามีสติ แล้วรู้ว่า กำลังใจอยู่ตรงไหน วิ่งเข้าไปหา ฉีดกำลังใจเข้าไปแรงๆๆ สูดความห่วงใยเข้าไปลึกๆๆ เด่วสติก้อมา สติมาปัญญาเกิดค่ะ
แล้วความเป็นตัวเราจะกลับมาอีกครั้ง แหมว่าจะเสียศูนย์ไปสักชั่วโมงก็ตาม
อ่ะๆๆ เพื่อนๆ เริ่มงง ว่ากรุ๊ฟมาอารมณ์ไหน
เกริ่นมานาน จะไม่เหนื่อยยังไงไหว มัน มีเรื่องให้ไม่สบายใจตั้งแต่วันที่ 2 ปวดหัว หงุดหงิดใจกับสิ่งโง่ๆ ที่เราตั้งใจมอบให้ใครสักคนแล้วเค้าก้อย้ำยี เหอ ไม่เป็นไร ให้อภัย เลยพยายามนั่งออกแบบ Artwork ให้มันยุ่งๆ ลืมๆ เลยทำให้คืนนั้นนอนไม่หลับ ทั้งๆที่รู้ว่าต้องตื่นแต่ตี 4 ครึ่ง มีนัดแต่งหน้าที่ราม 6 โมง แต่งเสร็จสอนแต่งหน้าตอน 9 โมง เสร็จเที่ยง จากราม ขับกลับบ้านที่นครปฐม เปลี่ยนชุด ขับไปรามอินทราต่อ มีนัดแต่งหน้าปิดกล้อง 4 โมงเย็น ตั้งใจว่าจะรีบกลับ เพราะตี 1 มีแต่งหน้ารับปริญญา
ฟังดูน่าเหนื่อยเนอะ แต่รู้ป่ะ หนักกว่านี้ก้อเคยมาแล้ว แต่ใจไหว กายก้อสู้ แต่ครั้งนี้ ใจบอบช้ำ ห่อเหี่ยว เหนื่อยจัง
คิดซะว่า กระทู้นี้ แชร์ไอเดียแล้วกันค่ะ บอกแล้วว่าวันเดียว มีสิ่งชวนคิดมากมาย เอาเรื่องแรกที่อยากแชร์ก่อนนะค่ะ
จาก แต่งหน้าเสร็จ นั่งรอน้องคนหนึ่ง มาเรียนแต่งหน้า จริงๆ ปกติ จะไม่ไปสอนข้างนอก แต่ไม่รู้คุยกับน้องคนนี้ แล้วรู้สึกว่า เค้าน่าจะรีบต้องการใครสักคนอย่างไว เลยนัดสอนกันที่ใต้โรงแรมที่ไปแต่งหน้าเลยค่ะ
แล้วก้อไม่ผิดหวัง น้องเค้าน่ารักมากๆ เลย หน้าตาน่ารัก นิสัยน่ารัก พูดจาน่ารัก
ที่บอกว่า เค้าควรต้องการใคร ไม่ใช่เพราะ ต้องการการแต่งหน้าค่ะ แต่เค้าควรจะได้มีคนบอกความจริง กับความฝันที่บางคนคิดจะฝัน
น้องเค้าอยากเรียนแต่งหน้าประกอบอาชีพค่ะ
แต่ ไม่ได้สอนเค้าแต่งหน้าประกอบอาชีพ แต่สอนเค้าแต่งหน้าตัวเอง และสิ่งที่จะสอนเค้า อย่าเรียกว่าสอนดีกว่า แต่ให้แง่คิดในฐานะรุ่นพี่ค่ะ (เขิลจิ๊ง อายุต่างกับน้องเค้า 11 ปี เป็นลูกได้เลยนะเนี่ย 555)
น้องเค้าเพิ่งเรียนจบวิศวะค่ะ แล้วก้อได้งานดีด้วย บริษัทใหญ่มีชื่อ แต่ชอบแต่งหน้า อยากจะผันตัวเองมาเป็นช่างแต่งหน้า เพราะได้เผลอเข้าไปนั่งอ่านยายคนพร่ำเพร้อคนหนึ่ง 555 คงไม่ต้องบอกว่าใคร
ตอน แรกก้ออธิบายเส้นทางว่า จะเป็นช่างแต่งหน้าได้กี่แบบ แต่ละแบบ อยากจะทำ ต้องเริ่มยังไง เรียกว่าบอกทางลัดให้ค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาไปคลำเอง
ดูไม่ยากใช่มั๋ยค่ะ ใครๆ ก็ทำได้ แต่ สิ่งที่ยาก มีใครเคยบอกหรือป่าวค่ะ กรุ๊ฟเองยังไม่เคยบอกที่ไหนเลยค่ะ เวลาลงใน Blog ก้อเป็นอารมณ์มีความสุข ก้อมาแชร์ เพราะเวลามีความทุกข์ ไม่ได้นึกถึง Blog เพราะใน Blog เรามีไว้แชร์ให้กับใครที่เราอาจจะรู้จักหรือไม่รู้จัก แต่ถ้าเราทุกข์แน่นอนเราต้องนึกถึงครอบครัว คนที่เราไว้ใจ มันก็เลยทำให้ ไม่ค่อยมีใครรู้เวลาเราทุกข์ แต่ตั้งแต่มี Facebook เริ่มหากำลังใจง่ายเลย เพราะแค่โพส เด่วเพื่อนก็มาค่ะ
สรุปสิ่งที่อยากจะบอก คือ เส้นทางนี้ ไม่ยากเท่าใจคิด แต่ต้องถามตัวเองว่า ใจไหวแค่ไหนค่ะ ทนรับได้แค่ไหน ถ้าเล่าแล้วก้อยาวอ่ะนะ
เหอ ยิ่งเขียนยิ่งงงๆๆ ขอสรุปความคิดเลยนะคะ (เพราะว่ามันมีเรื่องในสมอง ตอนนี้สมองไปไวกว่ามือพิมพ์อ่ะ ปกติเป็นคนที่พิมพ์อะไรเร็วมาก แต่ตอนนี้มือพิมพ์ไม่ทันอ่ะ งงแหล่ะ)
เลยสรุปว่า ถ้าเรียนอะไรมาตั้ง 4 ปี ก้อขอให้ทำในสิ่งที่ตัวเองมาก่อนค่ะ ทำทุกอย่างให้เต็มที่ก่อน ทำให้รู้สึกว่าเราได้พยายามแล้ว ถ้าอยากทำสิ่งที่รัก ก้อให้มันมาคู่กันค่ะ
กรุ๊ฟแก่แล้ว ผ่านอะไรมาหลายอย่าง เคยเป็นครู เคยเป็นเลขาที่เคยทำทั้งงานบัญชี การเงิน การตลาด ไอที งานขาย วางแผน ทำมาหมดแล้ว อิ่มตัวแล้ว แล้วเริ่มคิดว่า เงินไม่ใช่สิ่งที่สุดในชีวิต เลยขอทำงานที่ตัวเองรัก ไม่มีความมั่นคง ไม่มีอะไรมารับประกันปากท้อง ถ้าอยากทำ ก้อทำคู่กันค่ะ ค่อยๆ ทำ
ยาวไปม่ะ
ไม่เอาแหล่ะ เด่วเศร้า
ช่วงนี้ติดรายการ coffee master อ่ะ เพราะอยากเป็นบาริสต้า อิอิ บ้าขนาด เปลี่ยนแนวการแต่งตัว ช่วงนี้ ไม่เอาแหล่ะ แนวเมคอัพอาร์ติสท์ ขอบาริสต้า 555 เรา ประสาทเนอะ ปญอ มาก คือไม่รู้สิ เวลาทำไร ชอบแต่งตัวสวยๆ ไว้ก่อน แค่คิดว่าทำไรแล้วได้สวย ก้อมีความสุขอ่ะ กะว่าถ้าได้เป็นบาริสต้า จะแต่งสวยทุกวัน แต่งหน้ายิ้มรับลูกค้าตลอดเวลา LOL
จาก ที่บอก สอนเสร็จเที่ยง ขับรถกลับง่วงมากๆๆ แต่ก้อครุ่นคิดเรื่องของน้องวิศวะตลอดทาง เริ่มคิดว่า เราผิดป่าวฟร่ะ ที่เขียน Blog อยากให้หน้าคอม ใน internet มีข้อความว่า "ควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง" เออ หรือว่าเราควรแปะใน Blog ว่า "ไม่เหมาะกับผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี" หรือว่า ปิด Blog ดี
ตอนแรกกะว่าจะอาบน้ำ แต่หมดแรงอ่ะ ไม่มีแรง แค่แต่งหน้าอย่างเดียว เพราะเด่วต้องไปงาน
นัดกอง 16.00 แต่ดันไปไว ที่ร้าน BlarBlarBar รามอินทรา มีเวลา กรี๊ดด แวะไป CDC ดีกว่า จะไป Coffee Master
อยากชิมกาแฟ แต่มีคนบอกไม่อร่อย ซะงั้น เลยสั่ง โอชา อร่อยมาก พี่เจี๊ยบชอบมาก เป็นโอเลี้ยง ผสม ชาเย็น อยากทำได้อ่ะ อยากได้สูตรอ่ะ
ส่วนเราสั่ง Trust Me ชื่อแปลกดี เป็นน้ำสตอเบอรี่ปั่นกับวิปครีม อ้วนดีแท้ อร่อยดีนะ แต่แพงเวอร์อ่ะ 110 บาท แง่ก แก้วกลาง บอกจะเอาแก้วเล็ก คนรับออเดอร์ฟังเป็นแก้วกลาง ไม่กล้าแย่ง กำลังออกทีวี
มีข้อคิดอีกอย่างที่อยากแชร์
ในความหมายของตัวเองนะ คำว่า "ช่างแต่งหน้า" คือ เราอยากทำให้คนที่เป็นแบบเราสวยที่สุดที่เราจะทำได้ ไม่ว่าต้องทำอะไรก็ตาม จะคิดว่ามันเป็นงานเป็นหน้าที่ แหมว่าบางครั้งจะดูรับใช้มากเกินไป แต่เราไม่เคยคิดมากนะ อย่างเช่น เวลาก้มไปช่วยเจ้าสาวสวมรองเท้า เพราะเจ้าสาวคงไม่ถนัดที่จะก้มลงไปสวม เราเต็มใจทำให้ ไม่ได้คิดอะไร
แต่ ถ้าคนอื่น เข้าใจผิดว่า ช่างแต่งหน้า คือ ผู้รับใช้ เค้าผิดมาก ไร้ความคิด ไม่ให้เกียรติคนอื่น ทุกหน้าที่มีบทบาท มีความสำคัญ เอาอะไรมาวัดค่าของคน อาชีพนี้ถูกย้ำยีมานานหรือป่าวนะ ไม่อาจรู้ได้ แต่สำหรับเรา เราไม่สน อาวุธเราคือแปรงแต่งหน้า เรามีตาไว้มองสิ่งที่จะแก้ไขให้สวย และมองเทียบว่าสวยหรือยัง มีปากไว้ถามสิ่งที่แบบต้องการ และมีไว้ยิ้มเวลาเราพอใจกับความสวยของแบบที่เราแต่ง มีหูไว้ฟังความต้องการและรับคำแนะนำติชม มีมือไว้แต่งหน้า แต่งตัว บรรจงให้สวย มีใจที่ตั้งใจทำ แต่ถ้าใครอยากมีปาก มีตา ไว้เฉือดเฉือน ดูถูกคนอื่น ก็เรื่องของเค้า เพราะเค้ากำลังใช้สิ่งที่มีผิดทาง แล้วก้อจะไม่มีอะไรพัฒนาตัวเอง คนดูถูกคน ไม่มีใครได้ดีไปกว่าคนที่ตัวเองดูถูก
ครั้งหนึ่ง เราเคยลำบากใจ เวลามีคนถามว่า ตอนนี้เราทำอาชีพอะไร เพราะเราเคยโดนถามหลายครั้ง แล้วเราได้รับความรู้สึกแบบ งงๆๆว่า "ทำไมมาเป็นช่างแต่งหน้า" แต่แค่เพียงครั้งเดียว ที่เราลำบากใจที่จะบอก และจะไม่ดูถูกกับสิ่งที่เรารัก
เราคือ "ช่างแต่งหน้า"
มีอีกเรื่องที่อยากแชร์
เราว่านะ เวลาทำอะไร ได้ลองเป็นคนนั่งดู นั่งฟัง นั่งมอง สิ่งต่างๆ รอบตัว มันได้เห็นอะไรเยอะดี ยังเคยคิดว่าเราอยากเป็นมนุษย์ล่องหน อยากจะลองติดตามคนอื่นสักคน แต่ละคนในแต่ละวัน บางทีแค่มอง มองคนคนหนึ่งทำอะไรในแต่ละอย่าง มันก้อทำให้เดาๆ นิสัย ความคิด ความรู้สึกของคนๆ นั้นได้เหมือนกัน แต่ก้อไม่ได้ให้ตัดสินใครจากแค่มองนะ บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจเค้าทั้งหมดหรอก แต่เราคิดว่า การได้มอง ได้คิดตาม บางทีจะทำให้เข้าใจคนอื่น ลองมองเค้าในมุมของเค้า เราก้อจะเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงแสดงออกมาแบบนั้น ถ้ามองแค่ในมุมของตัวเอง อาจจะทำให้เข้าใจคนอื่นผิดๆๆ
เราว่าเด่วนี้เรารู้สึกว่า เรามองอะไรผิดๆ ในหลายๆ เรื่องมากเหมือนกัน ทำให้เวลาต่อไปเราคิดอะไร เราต้องตรองมากๆๆ คิดเยอะๆๆ คิดหลายๆ มุม
แต่ดีที่สุดคือ "คิดบวก"
จากนั้นก้อไปแต่งหน้าปิดกล้องหนังค่ะ ชมบรรยากาศการปิดกล้องหนังได้ที่นี้นะค่ะ
//www.ladysquare.com/forum_shoppost.asp?TID=118245
มาดูเรา "บ้าดารา" ในความคิดของคนอื่นกัน 555 แต่ไม่โกรธนะ อย่างที่บอกไง เมื่อไรคนตัดสินคนจากความคิดของตัวเอง นั่นคงเป็นเพราะเค้าก้อคิดว่าถ้าเป็นเค้าคงคิดแบบนี้เหมือนกัน ชิมิล่ะ
ก้อคงมีเราวิ่งตามเก็บรูปคู่กับดารา ป่าวนะ เราแค่วิ่งตามเก็บรูปคู่กับ "ผลงาน" ต่างหากค่ะ
ครบทุกผลงาน ก้อรีบกลับบ้านอ่ะ คงเพราะเหนื่อย เลยมีน้ำตา
กลับถึงบ้านเกือบ 5 ทุ่ม รีบอาบน้ำนอน เพราะตี 1 ครึงต้องตื่น ตื่นมางอแง เป็นครั้งแรก ที่มีความคิดแว่บขึ้นมาว่า ไม่ไปได้ป่ะ ไม่ไหวแล้ว อยากนอน
แต่พอนึกว่า วันนี้ลูกค้ารับปริญญา ถ้าเราไม่ไป เค้าจะทำยังไง เคยเหมือนกันนะ เวลาแบบไม่สบาย หรือแบบกลัวตัวเองเป็นอะไร เคยพูดกับพี่เจียบว่า "ถ้าเป็นไร พรุ่งนี้เจ้าสาวเค้าจะทำไงล่ะเนี่ย" หรือ เคยแบบ คิดว่า ถ้าเค้าเป็นไร พี่เจี๊ยบเปิดสมุดดูคิวก่อนนะ เบอรโทรตรงนี้ โทรบอกลูกค้าให้ด้วย แล้วค่อย พูดว่า ถ้าเค้าเป็นไร เตร็งอยู่ได้ป่าว พี่เจี๊ยบตอบว่า "ชื่อเค้า มาหลังลูกค้าเตร็งอีก" กรี๊ดดด ไม่จริง เค้ารักเตร็งที่สุดนะ แค่ห่วงงานเฉยๆ
เลยคิดว่า จะไม่ยอมป่วย จะดูแลตัวเองดีดี จะต่อสู้กับโรคภัยทั้งหมด
แล้วเราก้อรีบลุก ล้างหน้าแปรงฟัน ใส่ชุดนอน ขับไปแต่งหน้าลูกค้า
แต่งเสร็จ ลูกค้าพูดว่า "ขอบคุณมากนะค่ะครูกรุ๊ฟ ที่ทำให้สวยเลย"
ยิ้มแก้มแตก แล้วก้อคิดว่า เมื่อหัวค่ำ ตรูร้องไห้ทำไมฟร่ะ บ้าหรือป่าว
"ช่างแต่งหน้า" ฮิโซ อย่างเรา จะไปสน จะไปแคร์ทำไม กับ เสียงนกเสียงกา โฮะๆ
ใครจะทำได้อย่างเราบ้าง อยู่กับเรื่องสวยๆ เรื่องมงคลๆๆ
ขับรถกลับบัานด้วยความสุข ถึงบ้านตี 4 นอนสลบ
เป็นอันจบ happy ending จ้า
ขอบคุณที่ติดตามวันบ้าๆ บอๆ ของเรานะ แฮะๆๆ
Create Date : 27 มีนาคม 2554 |
|
17 comments |
Last Update : 30 มีนาคม 2554 11:08:29 น. |
Counter : 936 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: cvJ; 27 มีนาคม 2554 1:03:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: pamaano 29 มีนาคม 2554 15:20:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กรุ๊ฟ (Groof&Jeab ) 30 มีนาคม 2554 11:01:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: bigeye2u (tewtor ) 11 เมษายน 2554 17:44:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: pokpak IP: 14.207.81.218 21 เมษายน 2554 23:58:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ~เอ IP: 127.0.0.1, 119.160.214.218 12 พฤษภาคม 2554 14:01:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: กรุ๊ฟ (Groof&Jeab ) 12 พฤษภาคม 2554 15:36:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไพ่ IP: 203.156.91.200, 203.147.0.48 13 มิถุนายน 2554 10:00:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: กรุ๊ฟ (Groof&Jeab ) 13 มิถุนายน 2554 12:30:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: บอมบ์ IP: 202.151.6.25 1 กรกฎาคม 2554 15:37:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: lak IP: 192.168.182.125, 183.89.203.1 9 กรกฎาคม 2554 23:20:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|