เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง พาณิชย์กั๊กไม่ถึงขั้นฝืด
พาณิชย์เผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมีนาคมลดลง 0.2%ติดลบต่อเนื่อง 3เดือนรวด เหตุราคาน้ำมันปรับลด ยืนยันจะคงเป้าเงินเฟ้อไว้ที่ 0-0.5% โดยขอดูสถานการณ์ถึงไตรมาส2 ก่อนจะประเมินว่าเข้าข่ายเงินฝืดหรือไม่ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรือเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2552 เท่ากับ 103.6 ลดลง 0.2%เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2551 นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 3 เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีน้ำหนักใช้ในการคำนวณดัชนีสูงมีราคาลดลงอย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ของปีเดียวกัน พบว่าเงินเฟ้อสูงขึ้น 0.5% สาเหตุสำคัญมาจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศปรับสูงขึ้น รวมทั้งราคาอาหารสดประเภท ข้าว ผักและผลไม้ เนื้อสุกร ไข่และผลิตภัณฑ์นม ปลาและสัตว์น้ำ เครื่องประกอบอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มีราคาสูงขึ้น ขณะที่ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ น้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มและน้ำยาล้างห้องน้ำ รวมทั้งวัสดุก่อสร้าง และแบตเตอรี่รถยนต์ เป็นต้นดัชนีเงินเฟ้อในช่วง 3 เดือนแรก(มกราคม-มีนาคม)ของปี2552 ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับ 3 เดือนแรกของปี 2551 สาเหตุหลักยังเป็นปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนมีนาคม 2552 เท่ากับ 102.8 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน แต่สูงขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีก่อน และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานไตรมาสแรกของปีนี้สูงขึ้น 1.7%นายศิริพลกล่าวยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์จะยังคงประมาณการเงินเฟ้อทั้งปีไว้ที่ 0 ถึง 0.5% ส่วนที่จะเปลี่ยนแปลงเป้าเงินเฟ้อหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ และการจะเกิดเงินฝืดหรือไม่นั้น ก็จะต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องถึง 2 ไตรมาสก่อนถึงจะประเมินได้ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดูแลในเรื่องราคาสินค้าเป็นหลักเท่านั้น ซึ่งยอมรับว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก จากเดิมที่ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปกว่า 100 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะนี้ลดลงมาที่ 30-40 กว่าดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งยังมีปัจจัยอื่นที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของกระทรวง เช่น การจ้างงาน ภาวะการณ์ว่างงาน อัตราแลกเปลี่ยน และการอัดฉีดเงินเข้าระบบเป็นต้น"การจะเกิดเงินฝืด นั้น ราคาสินค้าจะไม่มีความเคลื่อนไหว แต่ขณะนี้ราคาสินค้ายังมีทั้งขึ้นและลง กระทรวงพาณิชย์จึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเกิดภาวะเงินฝืดหรือไม่ "สำหรับโครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทของรัฐบาลที่ออกมานั้น ยอมรับว่า อาจจะมีผลกระทบกับเงินเฟ้อบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งอาจจะทำให้สินค้าบางรายการปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากประชาชนนำไปจับจ่ายใช้สอย เป็นการเพิ่มอำนาจซื้อให้แก่ประชาชน แต่โดยภาพรวมคงไม่ส่งผลมากนัก และยังไม่สามารถประเมินได้ว่า เงินเฟ้อเดือนเมษายนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแต่กระทรวงพาณิชย์จะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด--จบ--
Create Date : 02 เมษายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2552 10:36:08 น. |
Counter : 581 Pageviews. |
|
|
|