BlogGang.com : : scimovie : Mercedes-Benz A-Class Concept

Mercedes-Benz A-Class Concept

Mercedes-Benz A-Class Concept : พลิกโฉมเบนซ์รุ่นเล็ก

รูปลักษณ์ภายนอกก็สุดยอดแล้ว

จากรถยนต์ที่ออกแนวเหมือนกับแฮตช์แบ็กสำหรับไว้ใช้ขับจ่ายกับข้าว ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์กำหนดเป็นรูปทรงตัวถังของเอ-คลาสใน 2 รุ่นที่ผ่านมา ถึงในตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ภาพต้นแบบที่เห็นอยู่นี้ คือ ว่าที่โฉมใหม่ของเอ-คลาส ซึ่งหันมาเน้นความสวยและสปอร์ตในทุกรายละเอียด...ที่สำคัญ มีรุ่น 3 ประตูด้วย

เอ-คลาสเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัวออกมาเปิดตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ระดับหรู ไซส์เล็ก ซึ่งรุ่นแรกรหัส W168 ที่เปิดตัวในปี 1997 และก็โด่งดังเอาเรื่อง ไม่ใช่เป็นเพราะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าในไลน์ผลิตรุ่นแรกของเบนซ์ หรือว่าความไฮเทคของพื้นตัวถังแบบแซนด์วิช ที่จะดันเครื่องยนต์ให้มุดลอดลงไปด้านใต้ตัวถังเมื่อเกิดการชนทางด้านหน้า

แต่เป็นความล้มเหลวในการทดสอบการหักหลบแบบกะทันหันที่เรียกว่า Moose test หรือการหักหลบกวางมูสที่มักจะพบได้บนท้องถนนนอกเมืองในประเทศแถบตอนเหนือของโลก โดยทางหนังสือในสวีเดนเป็นผู้ทดสอบ ซึ่งเมื่อหักหลบแล้วเอ-คลาสพลิกคว่ำ จนทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องรีบแก้ไขด้วยการติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว หรือ ESP ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงปรับเซตระบบช่วงล่างใหม่ และทำให้เอ-คลาสกลับมาได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าอีกครั้ง

สำหรับรุ่นที่ 2 เปิดตัวในปี 2004 ในรหัส W169 และก็คงเอกลักษณ์ของตัวถังในแบบมินิแวนทรงสูงที่ถูกย่อส่วนเอาไว้ จนกระทั่งมาถึงรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ที่ว่ากันว่าการพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว และถ้าข่าวไม่ผิด การผลิตจะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2011 เพื่อเริ่มทยอยส่งมอบให้แก่ลูกค้าในช่วงปลายปีเดียวกัน

ในรุ่นที่ 3 ยังไม่มีคันจริงให้เห็น แต่ทุกอย่างจะถูกประยุกต์มาจากต้นแบบที่เห็นในภาพซึ่งก็คือเอ-คลาส คอนเซ็ปต์ ซึ่งประเด็นหลักของตัวรถอยู่ที่การพลิกแนวคิดให้กับเอ-คลาส จากรถยนต์เดิมๆ สำหรับครอบครัวให้หันมาตอบสนองความเร้าใจและไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนรุ่นใหม่มากขึ้น

รุ่นต้นแบบของเอ-คลาสใหม่สร้างความฮือฮาด้วยการเผยโฉมรุ่น 3 ประตูมาดสปอร์ตที่ดูแล้วเหมือนกับสปอร์ตคูเป้ท้ายลาด ส่วนรุ่น 5 ประตูยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีการผลิตขายในชื่อเอ-คลาส หรือว่าจะโยนหน้าที่นี้ไปให้กับบี-คลาสตามที่มีข่าวเปิดเผยออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต

ตามข่าวที่มีการเปิดเผยออกมาระบุว่า ตรงนี้เป็นการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน โดยเอ-คลาสจะรับหน้าที่จับกลุ่มลูกค้าระดับหรูวัยรุ่นเหมือนกับที่ออดี้ประสบความสำเร็จกับรุ่น A1 ขณะที่บี-คลาส ซึ่งเป็นผลผลิตที่ใช้พื้นฐานเดียวกับเอ-คลาสและเปิดตัวรุ่นแรกโดยใช้พื้นฐานเดียวกับ W169 ก็จะถูกขยับให้เป็นเน้นทำตลาดกลุ่มลูกค้าที่ชอบความอเนกประสงค์เป็นหลัก เป็นการแบ่งตลาดกันอย่างชัดเจนไม่ก้ำกึ่งเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา

งานออกแบบตัวรถเน้นเส้นสายที่เฉียบคม และความปราดเปรียวในทุกรายละเอียด และแม่แบบในการออกแบบก็มาจากต้นแบบรุ่น F800 Style เหมือนกับรุ่นขายจริงของ CLS รุ่นปัจจุบัน บวกกับฝากระโปรงหน้าซึ่งมีขนาดยาวออกแนวสปอร์ตชัดเจน ไม่ใช่แบบตัดตรงเหมือนกับมินิแวนอย่างที่สัมผัสได้จาก 2 รุ่นที่ผ่านมา ขณะที่ไฟหน้าและไฟท้ายมีการนำหลอด LED มาใช้ เพื่อความสวยสะดุดตา และการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการส่องสว่าง

สำหรับพื้นตัวถังของต้นแบบรุ่นนี้เป็นของใหม่ที่เรียกว่า MFA หรือ Modular Front-engine Architecture ซึ่งเป็นพื้นตัวถังรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งเข้ามาแทนที่รุ่นเดิมที่อยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปี 1997 และว่ากันว่าค่ายดาว 3 แฉกจะพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งอิงกับพื้นตัวถังนี้ออกสู่ตลาดมากถึง 5 รุ่นเลยทีเดียว

รุ่นแรกคือ เอ-คลาสโฉมใหม่ รุ่นที่ 2 เป็นเอ็มพีวีซึ่งเข้ามาแทนที่บี-คลาสรุ่นปัจจุบัน รุ่นที่ 3 เป็นรถยนต์ซีดานที่วางเป้าหมายประชันกับโฟล์คสวาเกน เจ็ตตา รุ่นที่ 4 เป็นสปอร์ตมาแทนที่รุ่น CLC และรุ่นที่ 5 เป็นรถยนต์ทรงสเตชันแวกอน

ในห้องโดยสารเน้นความสปอร์ตเพื่อให้สอดรับกับบุคลิกของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดดวงกลมแยก เบาะนั่งทรงสปอร์ตแบบรวมพนักพิงหลังกับหมอนรองเป็นชุดเดียวกัน เบาะนั่งด้านหลังแยกฝั่งซ้าย-ขวา และคั่นด้วยคอนโซลกลาง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อเป็นรุ่นจำหน่ายจริงแล้วจะมีการปรับปรุงจากนี้มากน้อยแค่ไหน

สำหรับรุ่นต้นแบบมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ 2,000 ซีซี ในรหัส M270 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาสำหรับการวางขวางของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าโดยเฉพาะ ติดตั้งทั้งระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรงหรือ Di บวกกับเทอร์โบชาร์จทำให้ได้ทั้งพลังในการขับเคลื่อน ลดระดับมลพิษในไอเสีย และเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ส่วนกำลังขับเคลื่อนอยู่ในระดับ 210 แรงม้า และส่งกำลังด้วยเกียร์แบบ Dual Clutch

นอกจากนั้นในรุ่นต้นแบบยังติดตั้งระบบ Collision Warning โดยอาศัยการตรวจจับด้วยเรดาร์ ทำงานร่วมกับระบบเสริมแรงเบรก หรือ BA พร้อมกับแจ้งเตือนผู้ขับให้รับทราบถึงความเสี่ยงในการชนผ่านทั้งเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ถูกถ่ายทอดผ่านทางแป้นคันเร่ง หรือเบรก ซึ่งถ้าหากมีการติดตั้งในรุ่นจำหน่ายจริง ก็จะถือเป็นครั้งแรกของโลกสำหรับรถยนต์คลาสคอมแพ็กต์ระดับหรู

เอ-คลาส 2 รุ่นแรกอาจจะถูกออกแบบมาในลักษณะหน่อมแน้มเพื่อเอาใจสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกสาว หรือคุณแม่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าในรุ่นนี้บุคลิกจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพิ่มความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวและดุดันอย่างกับเป็นรถยนต์คนละสายพันธุ์

และคราวนี้จะเป็นคิวของบรรดาท่านชายในครัวเรือนที่จะได้สัมผัสกับรถยนต์ไซส์เล็กระดับหรูมาดสปอร์ตรุ่นนี้...แต่สาวๆ ในบ้านถ้าอยากขับก็ไม่ผิดปกติ

จะรอดูคนขับรถสวยๆ แบบนี้นะครับ ผมคงต้องรอรับเปิดหมวกไปเรื่อยๆ ใครสงสารอยากบริจาคคลิกให้ทิปผมได้เลยนะ มุมขวาบนครับ...

ที่มา
//www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000045288

Create Date : 29 เมษายน 2554

Last Update : 29 เมษายน 2554 13:16:22 น.

0 comments

Counter : 1269 Pageviews.