แชงกรีล่า 16 วันที่ตามหา - ต้าหลี่ # 2
เช้าวันที่ 31 มี.ค. 49 ...ที่นอนนุ่มสบายจนไม่อยากลุก เพราะแค่ยื่นมือออกมาก็สัมผัสความหนาวเย็น ไม่รู้กี่องศาแต่หนาวมาก ....พี่วีน นอนตื่นเช้าอยู่แล้ว (สังเกตจากการไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ) แต่ ...ป้าตา อยากอยู่ใต้ผ้าห่มนานๆ อ่ะ..แต่ก็ต้องลุกไปวิ่งผ่านน้ำ แล้ว ม่าม๊า อาอี๊ ก็มาเรียกให้ไปเดินตลาดยามเช้าในเมืองเก่าด้วยกัน ไปหาของกิน...แค่นี้ก็ตาลุกวาวแล้ว...
แค่เดินออกจากซอยเกสเฮ้าส์ มานิดหน่อยก็เจอกับถนนที่เดินเข้าตลาดยามเช้า ผู้เฒ่า ผู้แก่คนจีนยิ้มทักทายให้กล้อง และเช่นเคย..ป้าตา ก็เป็นที่น่าสนใจแก่ประชาชนท้องถิ่น เพราะใบหน้าของ 3 สาวนะดูออกว่าสัญชาติจีน แต่ป้าตานะ สัญชาติแขก ป่ะ ไปดูของกินยามเช้ากัน...มากะ ม่าม๊า อาอี๊ ชอบมากๆ เลยเพราะ ม่าม๊าจะชอบกิน อาอี๊ชอบซื้อแต่กินไม่หมด อย่างนี้ก็เสร็จชูชกป้าตาล่ะซิ..(อยากบอกว่ากลับจากเมืองจีนคิดว่าอ้วนขึ้น 5-6 โลนะ ตอนนี้ก็ยังไม่ยอมลงเลย...เฮ้อ)
เช้านี้ก่อนไปทัวร์รอบทะเลสาบเอ๋อไห่ เราก็ทานกันเล็กน้อย แค่ ซาลาเปาไส้หมูใบใหญ่ ขาหมู และขนมปังไส้หมูหยอง+น้ำพริกเผา (อันนี้เอามาจากบ้าน อยู่ได้หลายมื้อเลย) ชา กาแฟ อืม คิดว่าหมดแล้วนะ...อ้อ แอปเปิ้ลเอาไปกินบนรถระหว่างเที่ยว...
เจ้าของเกสเฮ้าส์ หาคนขับรถพาเที่ยวเมืองต้าหลี่ได้ราคา 1 วัน 180 หยวน ...เราแจ้งไปว่าเราจะไปที่ไหนบ้าง อาเจ๊ก (คนขับรถพาเที่ยว) คุยถูกคอกะม่าม๊า อาอี๊ แกรเลยแถมหลายที่ พร้อมเล่าประวัติอีก...พี่วีน พอฟังออกเป็นบางคำ แต่ ป้าตา ต้องให้ม่าม๊าแปลอีกที ... ม่าม๊าคงเหนื่อย พอแปลมาแล้ว ยังบอกอีกนะว่า ...ช่ายป่าวหว่ะ? อั๊วลืมไปแล้ว!!....
ระหว่างทางออกจากเมืองเก่า มาเมืองใหม่
อาเจ๊ก พามาเที่ยวในเขตเมืองใหม่ เรียกว่าอารายไม่รู้ สองสาวเลยขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ทะเลสาบเอ๋อไห่ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของเมืองต้าหลี่ มีขนาดกว้าง 5 กิโลเมตร ยาว 45 กิโลเมตร ลึกประมาณ 20 เมตร น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาชางซาน อันเป็นเทือกเขาที่สูง และมีหิมะปกคลุมตลอดปี น้ำอีกส่วนหนึ่งได้มากจากที่ราบสูงทิเบต ก่อนที่จะไหลเป็นแม่น้ำไปรวมกับต้นน้ำของแม่น้ำล้านช้าง หรือแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชาและ เวียดนาม รวม 6 ประเทศ
อันนี้น่าจะเป็นหอคอย มีห้องทานอาหาร ดูวิว (เท่าที่จำได้นะ..อิอิ) ตอนไปกำลังจะเสร็จล่ะ ...ตอนนี้น่าจะเปิดให้บริการได้แล้วนะ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อไห่
อาเจ๊ก เล่าว่า แม่นางผู้นี้มีตำนานเกี่ยวกับการเกิดทะเลสาบเอ่อไห่ ในมือถือดอกบัว (ใช่ป่าวอ่ะ จำได้แค่เนี้ย)
มีลานแสดงกลางแจ้ง ริมทะเลสาบ และภูเขา
และเราก็นั่งรถไปรอบๆ ทะเลสาบเอ๋อไห่ มีวัดบนภูเขา แต่เราไม่ขึ้น...ม่าม๊ากะอาอี๊ บอกอั๊ว ม่ายไหว...งั้นก็ไปโลด
มีบริการพานักท่องเที่ยวนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ล่องในทะเลสาบด้วย...
สมาชิกเริ่มปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำกันแล้ว...ป้าตา อยากจะนั่งรับลมข้างๆ ทะเลสาบนี่แหละ แต่ อาเจ๊กบอกว่าไปอีกหน่อยมีห้องน้ำสาธารณะไม่เสียตังค์ ..โอ้ว ไม่นะ ถ้าให้ไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ ขอวิ่งเก็บดอกไม้ริมทะเลสาบดีกว่า ....แต่ อาเจ๊กก็มิได้นำพา...จอดรถให้ไปเก็บ
เลยต้องทนนั่งรถมาจนถึง ห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งกลิ่นมันลอยมาแต่ไกล ยังไม่เห็นตัวห้องน้ำด้วยซ้ำ... ยิ่งเดินมาดูทางเข้าแล้ว...รับไม่ได้ เหมือนที่เก็บขยะอ่ะ ไม่มีหลังคา (ถึงว่ากลิ่นออกมาเชียว) แบ่งซ้ายขวา ชายหญิง ...ป้าตา ขออดทน อดกลั้นไปข้างหน้าดีกว่า ...ส่วน 3 สาวขอเข้าห้องน้ำ เห็นหน้าตาแต่ละคนออกมาแล้วก็ ต้องบอกว่าอย่าเล่าสภาพด้านในเลยนะ ป้าตาขอร้อง
และเพื่อให้ลืมเรื่องห้องน้ำ (ปวดฉี่) ไปเดินถ่ายภาพวิวงามๆ ดีกว่า เป็นเกาะในทะเลสาบเอ๋อไห่ ไม่แน่ว่าจะเป็นวัดหรือป่าว แต่ริมทะเลสาบไม่มีเรือจอดเลยอดไปชมบนเกาะ...(มาหาข้อมูลภายหลัง น่าจะอยู่ในโปรแกรมทัวร์นั่งเรือชมวิวรอบทะเลสาบนะ)
อาเจ๊ก พามาหมู่บ้านชาวไป๋ ซึ่งอยู่บริเวณริมทะเลสาบเอ๋อไห่ แกรบอกว่าจะพาไปดูบ้านของดาราสาวนักร้อง นักรำที่มีชื่อเสียงอยู่เมืองเชียงรุ้ง (จำชื่อไม่ได้ล่ะ แต่ ม่าม๊า อาอี๊ พีวีน รู้จัก..ป้าตา งง..เอาไว้ไปเชียงรุ้งจะไปสืบมาให้นะ..) อุ้ย นี่เรามากะคนเส้นหย่าย...นี่หว่า?
แกรพาเดินลัดเลาะ ผ่านชาวบ้าน เข้าซอยเล็ก วนโน่นนี่ ...หน้าบ้านเค้าจะเอาอึสัตว์มาตากแดด คงไว้ทำเชื้อเพลิง หลังคาบ้าน ผนังบ้าน ...ดูผนังบ้านแต่ละหลัง ธรรมชาติดี ...ชอบๆ
เจอแล้วทางเข้าบ้าน อ้าว ทำไมเราต้องมุดประตูเข้าไปล่ะ เปิดไม่ได้รึ อาเจ๊ก ...โธ่ นึกว่าเส้นหย่าย ที่แท้บ้านเค้ายังสร้างไม่เสร็จ เลยไม่มีใครอยู่ (ตอนนี้น่าจะเข้าอยู่ได้แล้วมั๊ง)
เรียบง่าย แต่มีสไตล์ ที่สำคัญอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อไห่ ...รับลมเย็นสบายเลย..
ก่อนกลับ แวะอุดหนุนไอติม ที่ร้านมินิมาร์ทของหมู่บ้านซะหน่อย...อากาศเย็นๆ อย่างนี้ กินไอติมประชดซะเลย....
อาเจ๊ก พาแวะหม่ำก๊วยเตี๋ยว (คล้ายเส้นอูด้งเลย) กะเกี๊ยวใหญ่น้ำ ...อร่อยมาก ซดจนน้ำซุปหมดชามอ่ะ..ทำตาม อาเจ๊ก เห็นแกรกินแต่เส้นก่อน แล้วยกชามซดน้ำซุปตามจนหมดชามเลย...
ไปเที่ยวต่อที่บ่อน้ำพุผีเสื้อ ...อ่ะ ฟังชื่อแล้วน่าสนใจ
อาเจ๊ก เล่าว่าบ่อน้ำพุ "หูเตี๋ย" หรือบ่อน้ำพุ "ผีเสื้อ" น้ำในบ่อน้ำพุใสสะอาด มีต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ริมบ่อน้ำพุ ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมทุกปี จะมีผีเสื้อเป็นจำนวนมากชวนกันบินไปเกาะอยู่บนต้นไม้ต้นนี้ หลากหลายพันธุ์ เป็นความงามที่น่าดูชมจริงๆ ...แต่ ช่วงเราไปบ่ายแล้ว อีกทั้งมีรถทัวร์จอดตรึม ...พี่วีนกลัวว่าจะไม่ทันปดูบ้านเก่า อีกหมู่บ้านหนึ่ง (โปรแกรมเด็ดของพี่วีนเค้า) และอาเจ๊กบอกเวลานี้ผีเสื้ออาจน้อยหรือไม่มี ...ลงมติในที่ประชุมเห็นว่า...ขอติดไว้คราวหน้าอีกล่ะ
บริเวณลานจอดรถ ที่จะไปชมบ่อน้ำพุผีเสื้อ มีของที่ระลึกขาย เป็นพวกภาพวาด หินอ่อนแกะสลักรูปต่างๆ
ข้อมูลเพิ่ม ..ตำนานเกี่ยวกับบ่อน้ำพูผีเสื้อ อันนี้ไปจิ๊กจากเว็บท่องเที่ยวเว็บหนึ่งมา จำชื่อไม่ได้ล่ะ
เล่ากันว่า ในสมัยดึกดำบรรพ์ มีสาวงามคนหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในเขตเชิงเขาชังซาน สาวคนนี้ชื่อ "เสียกู" เธอมีคู่รักคนหนึ่งชื่อ "เหวินหลัง" ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กและสนิทสนมรักใคร่กัน จนอยู่มาวันหนึ่ง มีคหบดีในท้องถิ่นคนหนึ่งเห็นสาวงามเสียกูแล้วเกิดความรักใคร่ จึงคิดจะแย่งมาเป็นของตนเองเมื่อทราบเรื่องเข้า หนุ่มเหวินหลังจึงได้พาสาวเสียกูหนีไปถึงบ่อน้ำพุผีเสื้อคหบดีคนนั้นได้เกณฑ์คนให้ตามล่าหนุ่มสาวทั้งสองมาถึงบริเวณบ่อน้ำพุแห่งนั้น หนุ่มสาวคู่นี้เมื่อหมดหนทางที่จะหนีต่อไปได้จึงได้พร้อมใจกันกระโดดลงสู่บ่อน้ำพุทั้งคู่ หลังจากมีพายุและฝนกระหน่ำหนักสักครู่ บริเวณเหนือน้ำพุได้ปรากฏรุ้งสายหนึ่งสีสดใสและมีผีเสื้อสองตัวบินเคียงกันออกจากบ่อน้ำพุแห่งนั้น ต่อมา เพื่อระลึกถึงคู่รักคู่นี้ คนท้องถิ่นจึงเรียกบ่อน้ำพุแห่งนี้ว่า "บ่อน้ำพุผีเสื้อ"
ทางเข้าหมู่บ้าน ที่จะไปชมบ้านเก่าของตระกูลหยาง และตระกูลเอี๋ยน
บ้านตระกูลหยาง เสียค่าเข้าคนละ 10 หยวน ภายในมีทั้งบ้านไม้เก่า และแบบตึกโบราณ
ดอกไม้ภายในบริเวณบ้าน
เห็นภาพนี้ที่ผนังบ้านตระกูลหยาง...อ่านไม่ออก แต่พอจะเดาได้ว่า น่าจะเกี่ยวกับตำนานบ่อน้ำพุผีเสื้อหรือป่าวหว่า...เอ๊ะ หรือว่าคหบดีตัวอิจฉาในตำนานคือคนในตระกูลหยาง เอ๊ะ (อีกที) หนุ่มสาวคู่รักจะเป็นคนหมู่บ้านนี้ ...เอ๊ะ (อีกครั้ง) ถ้าใคร งง ดูภาพนี้แล้วก็ไปอ่านตำนานรักบ่อน้ำพุผีเสื้อ ด้านบน (อีกสักรอบ) ...555
นั่งรถมาอีกนิด ก็เป็นบ้านตระกูลเอี๋ยน ...บ้านนี้ไม่เสียตังค์เพราะเย็นแล้ว... เลยได้เข้าฟรี แต่ก็อดชมการแสดงรำ พิธีแต่งงาน การชงชา 3 ถ้วย แบบชาวไป๋
บ้านของเศรษฐีตระกูลเอี๋ยน ที่เมืองสี่โจว (Xi Zhou) ซึ่งสร้างตามแบบแผนบ้านเรือนชนชั้นสูงของชาวไป๋ สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1919 ในยุคสมัยของประธานาธิบดีซุนยัดเซ็น ต่อมาภายในปี ค.ศ. 1987 ได้รับการขึ้นทะเบียนอนุรักษ์เป็นโบราณสถานประจำเมืองต้าลี่
ไปเที่ยวต่อ...
เจดีย์สามองค์ในวัด "ฉงเซิ่ง" จากเมืองเก่าเต้าหลี่ไปทางทิศเหนือประมาณ ๑ กิโลเมตร ด้านหลังของเจดีย์เป็นภูเขาชังซานที่สูงเด่นเป็นสง่า และด้านหน้าเป็นทะเลสาบเอ๋อไห่ที่สวยงามกว้างใหญ่
เห็นภาพเบื้องหน้าแล้วสวยมาก เลยให้ อาเจ๊ก หยุดรถขอลงไปถ่ายรูปงามๆ กลางถนนหน่อยเต๊อะ
เจดีย์สามองค์นี้มีสีขาวทั้งหมด สร้างขึ้นเมื่อกว่า ๑๐๐๐ ปีที่แล้ว เจดีย์องค์กลางมีชื่อว่าเจดีย์ "เชียนหลินถ่า" สูงประมาณ ๗๐ เมตร มี ๑๖ ชั้น
เจดีย์ทั้ง3 องค์นี้สร้างไม่พร้อมกัน และมีขนาดต่างกันองค์ใหญ่ สร้างในสมัยราชวงศ์ถังทำเป็นชั้น ๆ เช่นเดียวกันรวม 10 ชั้น เป็นรูปแปดเหลี่ยม เมื่อคราวที่เกิดแผ่นดินไหวในต้าหลี่ ทำให้เจดีย์องค์เล็กทั้ง 2 องค์เอียงเข้าหาเจดีย์องค์ใหญ่แต่ไม่ล้มส่วนเจดีย์องค์ใหญ่ ตอนแรกเกิดรอยแตกร้าว แต่ภายหลังรอยร้าว ได้หายไป ปัจจุบันวัดนี้เป็นวัดร้าง
มาซะเย็นขนาดนี้ ประตูวัดก็ปิดแล้ว ได้แต่นั่งรถวนรอบๆ บริเวณวัดแทนล่ะกัน...แล้วก็กลับเข้าเมืองเก่า
อาเจ๊ก มาส่งทางเข้าเมืองเก่า แล้วบอกว่า เย็นนี้รออยู่ที่พักนะ ที่บ้านแกรทำเกี๊ยวนึ่งเดี๋ยวมาให้กินมื้อเย็นนี้ ...เราเลยรีบกลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัวรอท่า....อาเจ๊กกับเกี้ยวนึ่ง ไม่สนใจสองข้างทางมีของให้ช้อป ล่อตา ล่อกระเป๋าตังค์เยอะมาก...เอาไว้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยช้อปดีกว่า
รอท่า..อาเจ็กไม่นาน แกรก็มาพร้อมเกี๊ยวนึ่งลูกโต โอ้...แม่เจ้า ไส้ตรึม แป้งนุ่ม อร่อยมาก แกรเอามาฝากเยอะมาก...แต่ก็ไม่เหลือขอบคุณนะคร้าบ
เราจองโต๊ะตรงลานในบ้านพัก ..อิอิ ใครๆ ก็อิจฉา ม่าม๊า กะอาอี๊ ก็เม้ากะอาเจ๊กไป ...พี่วีน ก็นั่งเม้ากะมาดามฝา-หรั่ง จากอิงแลนด์ (มาอยู่หลายอาทิตย์แล้ว) มาคนเดียว อายุก็พอๆ กะม่าม๊า ....
อันตัวเรานี้...ก็ตั้งใจศึกษารูป รส กลิ่น เกี๊ยวนึ่งของอาเจ๊ก...เพราะไม่สันทัดทั้งสองภาษาเลย (พอเข้าห้องพัก พี่วีนเทอจะกินไปถึงไหน ทำไมไม่ช่วยกันเม้าบ้าง...อ้าว เค้ากลัวอาเจ๊ก แกรจะเสียใจนะ ถ้าเกี๊ยวไม่หมด)
คืนนี้เหนื่อย อิ่ม ไม่มีแรงไปท่องราตรีในเมืองและเก็บภาพแสง สี เสียงของเมืองเก่า....ขอหลับดีกว่า
ขอบคุณข้อมูล ในส่วนสาระ เรื่องราว ที่ไปจิ๊กมาจากเว็บต่างๆ ที่มิได้เอ่ยนาม...ขออนุญาตด้วยนะค่ะ...
ขอบคุณ BG หวานๆ จาก yanta4.com
เป็นงัย บอกแล้ว รูปตรึม ....ตอนหน้าพาเที่ยวรอบเมืองเก่า หม่ำของอร่อยอีก
Create Date : 31 มีนาคม 2552 |
|
49 comments |
Last Update : 1 เมษายน 2552 17:42:33 น. |
Counter : 1994 Pageviews. |
|
|
|
กำลังรอรูปทั้งหมดเพื่อมาคัดเลือกอยู่
แบบว่ารูปเยอะมากๆ อ่ะ
ประมาณ10กว่ากล้องได้ หุหุ