แชงกรีล่า 16 วันที่ตามหา - ลี่เจียง # 3
ทานข้าวกลางวันแล้วก็ไปเดินเที่ยวภายในบริเวณหมู่บ้านน่าซี (อุทยานน้ำหยก, บ้านน้ำหยก) ชาวน่าซี (นาสี หรือ หน่าซี) เป็นชนกลุ่มหนึ่งในประเทศจีน ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองลี่เจียง เครื่องแต่งกายของสตรีน่าซี มีรองหลังเพื่อช่วยลดน้ำหนักของสัมภาระที่ต้องแบกหาม เครื่องประดับเป็นรูปกลม 2 ชิ้นใหญ่ และ 7 ชิ้นน้อยๆ ทางด้านหลังของชุด เป็นสัญลักษณ์แทนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาว ซึ่งก็คือฟากฟ้าของทั้งหลายทั้งปวงนั้นเอง เครื่องประดับเหล่านี้คือสัญลักษณ์ของสตรีผู้มีหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน (คือ ชุดที่สวมมาเต้นรำพื้นบ้านในตลาดสี่เหลี่ยม) ร้านอาหารที่เรานั่งทานข้าวกลางวันกัน อยู่ทางเข้าหมู่บ้าน เดินเข้ามาเจอน้ำตกมังกร ที่ไหลหลั่งไปตามไหลเขา แบ่งได้เป็น 3 ชั้น ชั้นแรกมีชื่อว่า มังกรออกถ้ำชั้นที่สองมีชื่อว่า มังกรเล่นน้ำ ชั้นที่สามมีชื่อว่า มังกรโบยบิน และยังมีต้นไม้เทวดา มีอายุกว่า 500 ปี ซึ่งเป็นที่สักการะของคนพื้นที่ สระน้ำมีปลาตัวใหญ่ๆ เยอะมาก น่าจะเป็นวัดนะ ... ดอกไม้สวยๆภายในบริเวณวัด แล้วเราก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปบริเวณหมู่บ้านน่าซี เพื่อดูวิถีชีวิต และการแสดงดนตรีพื้นบ้าน ...ทางเดินสบาย ม่าม๊า กะอาอี๊ เดินฉับๆ ไม่รอกันเลยอ่ะ มีหุ่นที่แกะสลักคล้ายคน ..ไม่รู้เหตุผลในการเอามาตั้งไว้หน้าบ้านอ่ะ หรือเอาไว้ไล่ภูตผี การแสดงดนตรี เต้นรำพื้นบ้าน (ขออภัยภาพน้อย เพราะสูญหายไปตอนย้ายออฟฟิศ) ภาษาตงปา (ดองปา) ของชาวหน่าซี ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่จารึกแบบอักษรภาพ คัมภีร์ตงปายังรวมเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ และประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอื่นๆของชาวหน่าซี ซึ่งรวมไปถึงความรู้ด้านดาราศาสตร์ และไสยศาสตร์ พ่อหมอตงปาที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 30-40 คน บางคนทำงานให้กับสถาบันลี่เจียง โดยทำหน้าที่แปลจารึกของชาวหน่าซี นอกจากนี้ หมอดูยังเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมเต้นไฟ และมีดอันเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมของชาวหน่าซี เดินออกมาจากหมู่บ้าน แต่เราวนมาอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทางที่เข้าในตอนแรก...ตกลงนี่ทางออก หรือทางเข้า ออกจากหมู่บ้านน่าซี ตอนนี้เริ่มจะเย็น อากาศเมฆครึ้ม เหมือนว่าฝนกะลังจะเทลงมา ที่ต่อไปต้องไปวัดอวีเฟิง จะไปดูต้นคามิเลียขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งมีดอกคล้ายกุหลาบ ออกดอกได้มากถึงครั้งละ 10,000 ดอก แต่....ตอนนี้คงจะไม่ถึงแล้วล่ะมั๊งตามคำบอกเล่าของคนขับหญิงเรา และเสนอว่าไปแวะที่นี่ดีกว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนของวัฒนธรรมตงปา หรือเรียกว่าพิพิธภัณฑ์ตงปา (ไม่รู้เรียกถูกหรือป่าวนะ) เห็นว่าไม่ค่อยมีใครไป เราจึงไป...อิอิ ม่าม๊า กะพี่หมวยขาว ไปติดต่อเสียค่าเข้า พร้อมได้สาวไกด์มา 1 คน เป็นนักศึกษาในเมืองลี่เจียง ...อาอี๊ ยกมือสละสิทธิ์ บอกว่าเดินไม่ไหว ขอนั่งรอหน้าทางเข้ากับคนขับรถแล้วกัน แต่ ม่าม๊าต้องไปด้วย เพราะต้องคอยแปลเวลาไกด์สาวเล่าประวัติ ...แต่สองหมวย ก็มัวแต่ถ่ายรูปเพลินไม่ค่อยได้ฟัง ม่าม๊าต้องเรียกมายืนฟังด้วยบ่อยๆ ลื้อมาฟังซิ อั๊วฟังเสร็จจะได้แปลให้พวกลื้อเลย เดี๋ยวอั๊วลืม อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกัน ...แต่ บางที ล่ามกิตติมศักดิ์ฟังจีนเสร็จ หันมาจะแปลเป็นไทย พออ้าปาก ก็บอกว่า อั๊วลืมไปล่ะ...อ้าว เพราะฉะนั้น ดูรูปเยอะๆ ประวัติแบบจางๆ (ผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะค่ะ) ถ้าจะเอาเข้มๆ เดี๋ยวกลับไปถามไกด์สาวมาให้ใหม่นะ... พอเข้ามา ...มันไม่น่าจะเรียกว่าพิพิธภัณฑ์ น่าจะเรียกว่าสวนแกะสลัก แต่ไกด์สาวบอกว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ บริเวณนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวด้วย ...มีทางเดินสองข้าง แต่ให้เราเดินได้แค่ด้านเดียว เสาสองด้านที่แกะสลักมีความสำคัญกับพิธีกรรมของชาวน่าซี ภาษาตงปา จะมีอักษรเป็นรูปภาพเป็นคำพูด ณ เวลานั้น มีเราแค่ 4 คน (รวมไกด์สาว) เมฆหมอกดำครึ้ม บรรยากาศอย่างนี้หมวยดำคนนี้ พยายามไม่ไปถ่ายรูปไกลจากกลุ่มเลย...แบบว่าจินตนาการกำลังจะบรรเจิดอีกแล้ว...อิอิ ช่วงแรกเดินผ่านประตูนรก จะมีภูตผี ปีศาจ ...มอกไกลๆ โน่น ก็จะเดินผ่านประตูไปเป็นสวรรค์ล่ะ (คิดว่าใช่นะ...อิอิ.) หันไปดูด้านข้างๆ ...เราอยู่เมืองจีนหรือป่าวนะ? แล้วเราก็ผ่านประตูสวรรค์เข้ามาแล้ว....อย่าแปลกใจว่าสวรรค์ทำไมมีสีสัน จิงๆ เค้ากำลังปรับปรุงทาสีใหม่ บนสวรรค์จึงได้รับการพิจารณาให้ทาสีก่อนนรก หันกลับไปมอง ยังจุดเริ่มต้นที่เราเดินมา...ไกลแฮะ เหนื่อยจังกว่าจะได้มาสวรรค์เนี่ย ด้านหน้า พ้นทางสวรรค์แล้ว ก็มีกำแพงรออยู่....พร้อมกับอะไรเอ่ย สองข้างทางเข้าเลย... ไกด์สาว ก็อธิบายว่า เจ้าจานกลมๆ เนี่ยคือ เป็นรูปราศรีทั้ง 12 ราศรีของชาวน่าซี เสาเล็กก็คือให้จับแล้วหมุน ๆ คงจะเสี่ยงทายเกี่ยวกับราศรี เสียดายถ่ายรูปราศรีมาไม่ชัด แต่ในเมืองลีเจียง ตามร้านขายของที่ระลึกแทบทุกร้านที่แกะสลักไม้จะมีวางขาย...ส่วนกำแพงด้านหลังก็จะมีอักษรภาพตงปาเต็มไปหมด เข้ามาภายใน ก็จะเจอ 12 ราศรีอีก คราวนี้วงใหญ่และใช้ก้อนหินวาง ....ส่วนที่เห็นเป็นถ้ำอยู่ฝั่งโน้น...น่าจะเป็นที่สำหรับให้พระเข้าไปนั่งทำสมาธินะ หรือพิธีกรรม (นึกเอาเองอ่ะ) เพราะตอนงานเทศกาลหนังนานาชาติที่กรุงเทพ ปีไหนก็ไม่รู้มีหนังทิเบตมาฉาย (เรื่องมิลาเลปะ...ถูกป่าวเนี่ย เนื้อเรื่องเป็นงัยถามหลังไมค์นะ แต่วิวสวย) ได้มีโอกาสเข้าไปดู เห็นว่าเวลาพระลามะจะนั่งสมาธิ หรือฝึกวิชากันเขาไปหาภูเขาสูงๆ และสร้างถ้ำด้วยก้อนหิน จะนั่งเข้าไปนั่งอยู่ในนั้นโดยปิดทางเข้าด้วย จนกว่าจะฝึกสำเร็จ...ทุกคนว่าจิตนาการของหมวยดำ...ถุกต้องมั๊ยอ่ะ เดินต่อมาก็จะเจอต้นสนสองข้างทาง มีป่า อย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย...เราจะไปกราบพระองค์ใหญ่บนโน้น... แต่สังเกตดูระหว่างทาง ต้นสนจะมีกระดิ่งหรือป้ายห้อยไว้ระหว่างทางเต็มเลย...แต่บนป้ายเป็นภาษาตงปา แล้วเราก็เข้าไปกราบพระพุทธรูปด้านใน ซึ่งมืดนิดหน่อย และห้ามถ่ายรูป ...มีพระสงฆ์และเณรแต่งตัวเหมือนหลวงจีน ยืนสวดมนต์อยู่ ...เรา 3 คน ก็กราบตามแบบไทยๆ นี่แหละ หลวงพี่ก็พูด ตามด้วยไกด์สาวพูด ม่าม๊าแปลให้สองหมวยฟัง ได้ความว่า "หลวงพี่จะสวดมนต์ให้ แต่เราต้องทำบุญหยอดใส่ตู้คนละ 100 หยวน" เอาล่ะซิ ..หมวยดำยิ่งไม่ถูกกะพระซะด้วย หันมามองพี่หมวยขาว ทำนองว่าไม่อาวนะ ไม่ทำ ถ้าเจาะจงว่าต้องทำบุญเท่าไหร่อ่ะ ...พี่หมวยขาว ก็มีนิสัยคล้ายๆ กัน ไม่ชอบโดนบังคับ แต่ ม่าม๊า ก็สยบสายตาที่สองหมวยคุยกัน ด้วยคำพูดว่า "เอาน่า พวกลื้ออย่าคิดมาก ถือซะว่าทำบุญ ช่วยเค้าไป"...เฮ้อ ทำก็ทำ พอหย่อนเงินไปปุ๊บ เค้าก็บอกให้เราหลับตา คุกเข่า พนมมือ แล้วหลวงพี่ก็เริ่มสวดมนต์และเดินวนรอบพวกเราสามรอบ... ***เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ...ว่าไม่ชอบ วัดที่ระบุจำนวนเงินในการทำบุญ วัดไทยบางแห่งทอดผ้าป่า-กฐิน ก็ระบุว่าใครเป็นกรรมการ เป็นประธานต้องใส่เงินในซองเท่านั้นเท่านี้นะ ...ทำไมต้องระบุด้วย*** พอสวดเสร็จ หลวงพี่ก็ให้กระดิ่งแผ่นป้าย มาคนละ 1 อันให้เขียนชื่อเราลงบนด้านหลังแผ่นป้าย ม่าม๊าอ่ะเขียนภาษาจีนอยู่แล้ว พี่หมวยขาวก็เขียนจีนได้ แต่หมวยดำขอเป็นภาษาพ่อขุนฯ แล้วกัน...อิอิ แล้วก็เอามาแขวนตรงด้านหน้าห้องพระ แล้วก็ออกมากราบพระพุทธรูปองค์...ล้างบาปในใจเมื่อตะกี้ แต่ว่า...ม่าม๊า ขอพรพระ พอกลับมาเมืองไทย พรนั้นก็สมปราถนานะ ...เลยบอกว่าเดี๋ยวต้องไปทำบุญกับองค์พระซะหน่อย... ด้านข้างๆ องค์พระ จะมีผู้พิทักษ์ทั้งสองด้าน ไกด์สาวบอกว่าจะพาไปบ้านพ่อหมอแม่หมอ ...ที่ใครแต่งงานแล้วอยากมีลูกให้มาขอได้ที่นี่....ป้ายระหว่างทาง ใครอ่านภาษาจีนออกก็คงแปลภาษาตงปาด้านล่างออกด้วย ท่าทางจะมีคนมาขอลูกกันเยอะแฮะ..แขวนป้ายไว้เต็มหน้าบ้านเลย แล้วก็เดินวนออกมาทางด้านข้างๆ ของประตูสวรรค์ ... หกโมงเย็นแล้ว แต่โปรแกรมเรายังไม่จบ ...คนขับบอกว่าจะพาไปเที่ยวบ้านเค้า ...อิอิ ก็คือเมืองเก่าซูเหอ เค้าบอกเก่ากว่าเมืองต้าเหยียน (คนไทยเรียกว่าเมืองเก่าลี่เจียง) ***พื้นที่ของเมืองลี่เจียงประกอบด้วยไปด้วยเขต 1 เขต (เขตเมืองเก่า) และ 4 ตำบล รวมทั้งย่านเมืองใหม่ลี่เจียง เมืองเก่าต้าเหยียน เมืองเก่าซูเหอ เมืองเก่าไป๋ซา และบางส่วนของช่องเขาเสือกระโจน*** ก่อนเข้าไปเมืองเก่าซุเหอ ....คนขับรถแวะให้เราถ่ายรูป (คือเค้าคงเห็นว่าบ้าถ่ายรูปกันมากอ่ะ) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ และไม่แน่ใจว่าเป็นเมืองเก่าอีกแห่งหรือป่าว..จำชื่อไม่ได้ล่ะ แล้วก็ไม่มีเวลาเข้าไปเดิน ม่าม๊า อาอี๊ บอกพวกลื้อจะถ่ายอารายกันเยอะแยะห๊า เมืองเก่าซูเหอ อยู่ไม่ไกลจากเมืองเก่าต้าหยัน (ลี่เจียง) ....เรามาถึงก็ประมาณหกโมงเย็นกว่าๆ แล้ว ถ้าเข้าด้านหน้าจะเสียค่าเข้า แต่คนขับรถหญิงของเราบอกว่า เดี๋ยวพาไปด้านหลังไม่ต้องเสียค่าเข้า บ้านเค้าเอง...สบาย ชอบหลังนี้ ตรงที่เค้าเอามาทำร้านกาแฟเก๋ๆ น่าจะเป็นเกสต์เฮ้าส์ด้วยนะ ...ถึงบ้านจะดูเก่าๆ ...ในเมืองเก่าซูเหอ รู้สึกจะมีฝาหรั่งมาพักเยอะนะ เพราะดูเงียบสงบ ไม่อึกทึกเหมือนเมืองเก่าต้าหยัน(ลี่เจียง) ...ภาพอาจจะดูเบลอ สั่นๆ นะ เพราะสองหมวยเรียบไปหน่อยลืมเอาขาตั้งกล้องจากบนรถลงมาด้วย เหนื่อยกันแล้วล่ะซิ กลับเมืองเก่าต้าหยันกันดีกว่า...คนขับรถหญิงของเราพามาส่งด้านหน้าเมืองเก่า พร้อมแนะนำร้านข้าวอร่อยแสนถูกให้พวกเรา จ่ายค่าเหมารถตกลงกันทั้งวัน 80 หยวน แต่สาวไทยใจดีให้ไป 100 หยวน (ทีทำบุญยังใส่ตู้ไปได้เลย นี่บริการดีประทับใจขนาดนี้ก็ต้องเพิ่มให้หน่อยล่ะ) ชามใหญ่นี่อร่อยมากไม่รู้เรียกว่าอาราย อยากกินปลาเค้าเลยทำชามนี้มาให้ ...ส่วนอย่างอื่นเหมือนเดิม ผัดผัก ผักผัด.... สองทุ่มกว่าๆ เดินกลับมาทางด้านลานหน้ากังหันน้ำ เห็นหนุ่มสาวมาเต้นรำพื้นบ้าน แต่ชุดทันสมัย ...สามารถจำภาพได้แค่ลางๆ มัวแต่ยืนเต้น... แล้วแทนที่พวกเราจะเดินไปทางขวา เพื่อเข้าประตูเมืองเก่า เดินอีกนิดก็ถึงที่พักแล้ว...แต่ อยากดูแสงสียามค่ำคืน เลยเดินวนไปทางซ้าย มาโผล่ที่ตลาดสี่เหลี่ยม ที่ตอนกลางวันเค้าเต้นรำพื้นบ้านรอบแบบเต็มชุด...ยามค่ำคืนดูเงียบเหงา แต่บรรยากาศตามในซอยที่มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม คึกคักน่าดู เสียงร้องเพลงของพนักงานชาวน่าซี ร้องเพลง เต้นรำพื้นบ้านโต้ตอบกันกับร้านตรงข้าม เหมือนเป็นการเชิญชวนแขกเข้าร้าน (ไม่ได้ดึงหรือลากนะ) ...แปลกดี บางร้านก็เปิดเพลงเสียงเหมือนผับ ลูกค้ายืนโยกกันอยู่ด้านใน ..แหม อยากเห็นสเต็ปหนุ่มตี๋สาวหมวยจัง...แต่ พี่หมวยขาวบอกไปนอนได้แล้ว เค้าว่าที่นี่มีการลอยกระทงยามค่ำคืนด้วยนะ ลอยทุกคืนด้วย...อยากเห็น แต่เดินมาหลายร้านไม่เจอเลยอ่ะ ...ร้านค้าถนนหน้าเกสต์เฮ้าบางร้านก็ยังไม่ปิด เป็นงัยล่ะ อัพบล็อกซะ หายคิดถึงกันเลยป่ะ ...555+ แต่ภาพ บางส่วน หายไป เพราะการย้ายออฟฟิศ ..ทำให้รูปเด็ดๆ หาไม่เจอ เช่น หม้อไฟไก่ดำตุ๋นยาจีน ภาพม็อบชาวจีนปากเหม็น ห้องน้ำ มหาสนุก ขอบคุณ ข้อมูลจาก อาเฮียวิกิพีเดีย ขอบคุณ BG สวยๆ จาก //www.yanta4.com
Create Date : 18 พฤษภาคม 2552
Last Update : 18 พฤษภาคม 2552 17:51:03 น.
23 comments
Counter : 1700 Pageviews.
โดย: CrackyDong วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:43:56 น.
โดย: endless man วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:14:29 น.
โดย: แหม๋ว บ้านโคก...โอกโหลกเอกเหลก^^ (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:00:31 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:41:43 น.
โดย: มินทิวา วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:4:29:08 น.
โดย: butbbj วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:51:32 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:13:10 น.
โดย: ป้ามด วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:38:42 น.
โดย: butbbj วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:52:30 น.
โดย: พลังชีวิต วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:57:17 น.
โดย: butbbj วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:26:28 น.
โดย: พนมรุ้ง12 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:29:17 น.
โดย: nLatte วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:44:55 น.
โดย: c_nia วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:44:12 น.
โดย: ครูจี๊ด วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:10:44 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:52:33 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:00:33 น.
โดย: จูน IP: 58.8.154.254 วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:20:58:44 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [? ]
เมื่อเธอยังอยู่... ทำไมไม่พูดคำว่ารัก แต่เมื่อเธอจากไป... ทำไมอยากพูดคำว่ารัก ทุกทุกวัน ทุกทุกชั่วโมง ทุกทุกนาที ทุกทุกวินาที ณ เวลานี้ ฉันทำได้เพียงพาเธอไปกับฉันทุกทุกที่ เพราะฉันต้องการอยู่กับเธอ... ตลอดเวลา ...ณ ที่เหนือฟ้า ฉันจะพาเธอไปด้วยกัน... Color Codes ป้ามด
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
สวรรค์ไปยาก แต่ไปแล้วคุ้มจริง ๆ
สวยสมกับการรอคอยเลย
น้ำท่วมถึงเข่าแล้ว
เอาเรือป่าวพี่ตา
เดี๋ยวจะส่งไปให้