http://www.karntarad.com --> การตลาด
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

โค้ชลูกชิ้น : ส่งประกวด

ลูกชิ้นไม้สุดท้ายที่อยู่ในถุงถูกรูดไม้ออก พ่อค้ายื่นถุงให้ผมเป็นเวลาเดียวกันที่ยื่นเงินให้เขา รับลูกชิ้นมานั่งกินอยู่บทฟุตบาทริมทางเดิน สาตตาทอด สอดส่องดูความเป็นไปของตลาดนัดใกล้บ้าน มีโอกาสที่ผมจะขายอะไรสักอย่างในตลาดนัดนี้ไหม อาจเป็นเสื้อผ้า อาจเป็นรองเท้า อาจเป็นยำรวมมิตร อาจเป็นไก่ทอด หรืออาจจะเป็นลูกชิ้นก็ได้

หนึ่งธุรกิจที่จะลองทำคือขายลูกชิ้นปิ้งที่ตลาดนัด ผมเป็นคนชอบกินลูกชิ้นปิ้งก็เลยอยากจะลองขายดูได้เท่านั้นแหละ เดิมที่ตั้งใจว่าจะทำเป็นงานอดิเรกเพื่อรอหางานทำ แต่ไปๆมาๆ งานในกรุงเทพนี่หายากเหลือเกิน ยิ่งสภาวะน้ำมันราคาแพง เศรษฐกิจฝืดเคืองนี่แล้ว ไม่มีใครอยากจะออกจากงานกัน ไม่มีใครอยากจะเรียนต่อ ผมเพิ่งจะเรียนจบมาหมาดๆ เป็นบัณฑิตป้ายแดงเมื่อสองเดือนที่แล้วนี่เอง ตอนนี้ยังหางานไม่ได้และเงินเก็บไว้ก็เริ่มหมด

ขายลูกชิ้นสิ เพื่อนของผมแนะนำผมให้ลองขายลูกชิ้นดู มันบอกกับผมว่ากำไรดีขายที่ไหนก็ได้ แถมมันยังแนะนำร้านที่ขายอุปกรณ์ให้ผม รวมทั้งสถานที่ซื้อวัตถุดิบ เพิ่งจะมารู้ทีหลังว่าร้านนั้นเป็นร้านญาติมันน่ะเอง นอกจากนั้นแล้ว เพื่อนผมยังแนะนำสถานที่ที่จะขายให้อีกด้วย ให้ลองไปขายตลาดนัดตรงหน้าปากซอยหมู่บ้าน มันดูมาแล้ว-มีคู่แข่งที่ขายลูกชิ้นแค่ร้านเดียว ถึงร้านนั้นจะขายมานานแต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องปิ้งลูกชิ้นช้า ทำให้ลูกค้าไม่พอใจเท่าไหร่ ที่นี่แหละที่ผมจะขายและสร้างกำไรได้

ด้วยความหวังดีของเพื่อน มันยังบอกราคาเครื่องมือขายลูกชิ้น ค่าตะแกรงปิ้งย่างราคา 220 บาท จะปิ้งได้ประมาณห้าหกไม้ แต่ถ้าจะปิ้งได้ประมาณสิบไม้ ราคา 280 บาท ค่าไม้เสียบ 30 ไม้ ราคา 10 บาท และยังมีค่าหม้อใส่น้ำจิ้ม ค่าตู้กระจกใสวางบนรถ ค่าถุงใส่ลูกชิ้นให้ลูกค้า ค่าถ่านดำไว้ติดไฟย่าง และอื่นๆอีก โชคดีที่เพื่อนคนนี้ให้ยืมรถเข็นขายก่อน ก็เลยไม่ต้องลงทุนเรื่องรถเข็น แต่รวมแล้วก็ลงทุนประมาณพันกว่าบาทได้ ก็ดีที่ยังไม่สูงเท่าไหร่ และก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายเป็นอาชีพหลักด้วย

เพื่อนของผมคนนี้สู้ชีวิตมากกว่าผมเยอะ มันชื่อเอ็ม เป็นเพื่อนที่เรียนในห้องเดียวกันสมัยที่เรียนระดับปริญญาตรี มันเป็นคนต่างจังหวัดที่พ่อแม่ส่งมาเรียนเมืองหลวงเหมือนผม แต่แตกต่างกันนิดหน่อย เอ็มต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ขณะที่ผมเรียนอย่างเดียวเพราะแม่จะส่งเงินมาให้ทุกเดือน ที่บ้านเอ็มไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่นัก บางครั้งมันก็ยืมเงินผมแต่มันก็คืนเงินที่ยืมทุกครั้ง และครบทุกบาททุกสตางค์เสียด้วย บางครั้งผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าให้มันยืมเงินไป

ตอนเรียนปีหนึ่งด้วยกัน มีประเพณีของมหาวิทยาลัย นั้นก็คือการรับน้อง รุ่นพี่จะเข้ามาที่ห้องและทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของพวกเรา รุ่นพี่ได้ให้เราจับคู่เพื่อเล่นเกมส์แมงมุมแปดขาและเกมส์นั้นทำให้ผมได้รู้จักเอ็ม และสนิทกับมันจนทุกวันนี้ แรกๆเราจะไปไหนด้วยกันเสมอจนเรียนเทอมสองของปีหนึ่ง มันก็เริ่มตีห่างผม ไม่ใช่มันรังเกียจผมหรอก แต่มันต้องทำงานหาเงินด้วย งานที่มันทำก็คือเด็กตักไอศกรีมในห้าง ได้รับเงิน 23 บาทต่อชัวโมง ขณะที่ผมได้รับเงินจากที่บ้านออกไปเที่ยวผับทุกคืน

ถึงอย่างไรเราสองคนก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม เวลาเข้าเรียนเราจะนั่งข้างๆกันทุกครั้ง เวลามีงานกลุ่มเราสองคนจะอยู่ร่วมกันเสมอ จริงๆแล้วเป็นผมน่ะแหละที่ติดมัน ผมรู้สึกมันมีแม่เหล็กพิเศษบางอย่างดึงดูดให้ผมเข้าใกล้เสมอ อ่อ! บอกไว้ก่อนนะครับว่าผมกับเอ็มไม่ใช่เกย์นะครับ เวลาอาจารย์สอนอยู่ มันจะชอบมีคำถามในใจ แต่ไม่ถามอาจารย์ มันจะเอาคำถามนั้นมาพูดคุยกับผมเสมอ ผมฟังความเห็นของมันบางครั้งอาจจะดูไร้สาระ แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าความเห็นของมันเป็นสิ่งสร้างสรรค์

“วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ หรือที่เรียกว่า Product life cycle เมื่อถึงระดับถดถอยแล้ว ทำไมมีทางเลือกแค่สองวิธีเท่านั้น ก็คือ ถอนผลิตภัณฑ์นั้นออกจากตลาด กับออก Product line ใหม่เพื่อให้เส้นชีวิตผลิตภัณฑ์กระโดดเข้าสู่จุดเริ่มต้นเหมือนเดิม ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือครับ ? ” เอ็มยกมือถามอาจารย์ไปอย่างนั้น

“ทฤษฏีและทางเลือกสองทางนั้น คิดค้นโดยฟิลิป คอตเตอร์ เจ้าพ่อการตลาด เป็นที่ยอมรับจากนักการตลาดทุกคน ทฤษฏีนี้มีอยู่ในหนังสือทุกเล่ม แล้วเธอจะบอกว่ามีทางเลือกอื่นหรือ ? ถ้าเธอคิดว่ามีแล้วทางเลือกนั้นคืออะไรล่ะ ?”อาจารย์ตอบเขากลับขณะที่เขาเงียบเป็นการตอบคำถาม

เมื่อเข้าเรียนปีสาม เอ็มก็ออกจากการเป็นเด็กตักไอศกรีม และชวนผมไปขายลูกชิ้นปิ้งด้วยกัน มันบอกกับผมว่าไปเจอโอกาสดีๆเข้าแล้ว โอกาสดีๆนั้นก็คือที่หน้าร้านเหล้าใกล้ๆอพาทเมนต์ที่มันอยู่ ยังไม่มีใครขายลูกชิ้นปิ้งเลย ผมปฏิเสธไป ให้เหตุผลว่าอยากจะเรียนให้ดี และรักษาเกรดไม่ให้โดยรีไทร์ไปเสียก่อน ขณะที่ผลการเรียนของเอ็มนั้นดีเหลือเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยจะมีผลการเรียนดีอย่างนี้ได้

แต่ถึงผมจะปฏิเสธไป เอ็มก็ยังตั้งใจจะขายอยู่ดี ผมเห็นมันวางแผนการซื้อเครื่องมือ และโทรศัพท์ต่อรองราคากับคนขายลูกชิ้นให้มัน จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 เดือน ขณะที่ผมกำลังเมา อยู่ร้านเหล้าหน้ามหาวิทยาลัย มันก็เข็นรถลูกชิ้นปิ้งมาขายหน้าร้านเหล้า และมันก็ขายหมดทุกคืนประจำ ผมยังแซวมันเลยว่า รู้อย่างนี้ขายกับมึงด้วยซะก็ดีหรอก เมื่อเรียนปีสี่ผมเห็นเอ็มเริ่มทำธุรกิจเป็นเรื่องราวมากขึ้น จากรถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง ตอนนี้มันติดต่อกับร้านเหล้าใกล้มหาวิทยาลัยทั้งหมด เป็นซุ้มเล็กๆหน้าร้านเหล้าทุกร้านในบริเวณนั้น และจ้างเด็กมาแทนขาย แน่นอน!! ลูกชิ้นทั้งหมดนั้นเป็นของมันน่ะซี

พอเรียนจบ เราสองคนไม่ค่อยได้ติดต่อกันเท่าไหร่ ที่รู้มาล่าสุดก็คือมันขายธุรกิจลูกชิ้นทิ้งไปแล้ว พอถามเหตุผล มันก็บอกว่า เริ่มมีคู่แข่งมากเกินไปและตัดราคากัน จึงตัดสินใจขายไป ตอนนี้มีเงินจำนวนหนึ่งกำลังมองลู่ทางทำเงินอยู่ ถึงกระนั้นผมเจอมันในวันนี้ มันกลับแนะนำผมว่าขายลูกชิ้นปิ้ง อาชีพค้าขายและธุรกิจที่มันเคยทำมาก่อน

“ทำไมต้องเป็นลูกชิ้นปิ้งล่ะ” ผมถามขณะปล่อยควันออกจากปาก “เพราะช่องทางที่กูเห็น มันเป็นโอกาสของมึงน่ะสิ” เอ็มตอบผมขณะที่จุดไฟที่ปลายบุหรี่ “ยังไงล่ะ” ผมถามต่อเพราะอยากรู้ทันที และมันก็อธิบายให้ผมฟังทั้งคืน

สองวันต่อมาผมตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องมือขายลูกชิ้นทันที ทั้งหมดประมาณพันกว่าบาท ได้ลูกชิ้นมาหลายชนิด หลายขนาด โดยแบ่งสัดส่วนการซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า มีไก่ หมู เนื้อ ไส้กรอกเยอะหน่อย ปลามีน้อยหน่อย น้ำจิ้มทำเองเพราะแม่เคยสอนไว้ พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ลองขายวันแรก วันนี้ต้องเตรียมของที่จะขายให้เสร็จภายในวันนี้ ผมเริ่มเสียบลูกชิ้นหมูเข้าไปปลายไม้เสียบที่ล่ะลูก ไม้ล่ะสี่ลูก ได้หลายไม้ จากนั้นก็แช่ไว้ที่ตู้เย็นเก่า เมื่อเสร็จจึงหันไปเสียบไส้กรอกกับกับลูกชิ้นปลาต่อไป

ผมเข็นรถตรงไปที่ตลาดนัดหน้าบ้านผม บนรถมี่ตู้จกใสที่เพิ่งทำความสะอาดเมื่อคืน ข้างในบรรจุของที่จะเตรียมขาย นอกจากนั้นยังมีหม้อสังกะสีขนาดใส่น้ำจิ้มได้เกือบลิตร ใต้รถเก็บถ่านสำหรับการปิ้งย่าง และยังมีถังน้ำแข็งไว้ดื่มเมื่อคอแห้ง วันนี้เป็นวันแรก ต้องขายให้ได้อย่างน้อยซักสิบไม้ล่ะ ผมคิดในใจ

เมื่อเจอเจ้าของให้เช่าพื้นที่แล้ว เขาชี้ไปที่ไกลๆจากผู้คนหน่อย เนื่องจากเราเป็นผู้ค้าขายใหม่ ยังไม่มีที่ประจำ ไม่เป็นไรที่ที่ตรงนั้นก็ยังเป็นที่มีคนเดินผ่านมาอยู่ดี หยิบแบงค์เขียวให้เจ้าของพื้นที่ จากนั้นจึงเริ่มจุดเตาถ่านทันที เมื่อถ่านติดไฟดีแล้ว ก็วางลูกชิ้นบนตะแกรงย่างยาว ถ่านไฟประคุ มีแสงแดงอ่อนๆจากตัวถ่าน พลิกไปมาเพื่อไม่ให้ไหม้ หากส่วนไหนไหม้ จึงเอากรรไกรตัดเนื้อเกรียมออก เมื่อย่างได้ที่แล้วจึงว่ามาวางต่อๆกันเป็นชั้นบนใบตองสีเขียวสด ทำให้ลูกชิ้นดูน่าทานยิ่งขึ้น

ตาเริ่มมองหาลูกค้า ใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว อีกประเดี๋ยวคงจะเลิกงานกัน คงจะย่างรอไว้พอดี สายตาสอดส่องอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ได้มองหาลูกค้า แต่มองหาคู่แข่งต่างหาก โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ ที่ร้านคู่แข่งอยู่ตรงหัวตลาด ส่วนร้านผมอยู่ตรงท้ายตลาด วินมอเตอร์ไซค์จะจอดรถรอรับคนจากตลาดนัดตรงนี้ และส่งคนลงตรงนี้เช่นกัน คนที่เอาจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์มาเอง ก็ต้องมาจอดตรงนี้ทั้งสิ้น ขณะที่ด้านหน้าของตลาดที่คู่แข่งตั้งร้านนั้น เป็นป้ายรถเมล์

ร้านคู่แข่งมีเพียงร้านเดียวเท่านั้น เป็นร้านที่ขายมานานแล้ว ไอ้เอ็มบอกมาว่าร้านนี้ขายมานาน และมักจะปิ้งไม่ทันลูกค้า ทำให้เสียลูกค้าบางส่วนไป บางคนเห็นคนรอเยอะ ก็ไม่สั่งแล้ว ที่สำคัญมันไม่ค่อยสะอาด และพูดไม่ดีกับลูกค้าเท่าไหร่ ซึ่งไอ้ตรงนั้นแหละ ที่มึงจะเข้าไปทดแทนลูกค้าบางส่วนตรงนั้น ก็เลยมาซื้อร้านมึงแทนไง อย่าลืมนะว่าลูกชิ้นของมึงน่ะ ทดแทนร้านมันได้ “น้ำจิ้ม บริการ ลูกชิ้น ต้องเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะเมื่อลูกค้าลองแล้ว เขาอาจจะกลับมาซื้อซ้ำได้ วันแรกที่ขาย ต้องมั่นใจว่าดีที่สุด ถ้าลูกค้าไม่พอใจเขาจะไม่ซื้อของร้านมึงอีกเลย” เอ็มมันบอกกับผมอย่างนั้น

“ร้านมึงเป็นร้านใหม่ ลูกค้าเห็นหลายคนเห็นก็จริงแต่ยังจะไม่ซื้อ แต่ถ้าคราวหน้าเจออีก เขาอาจจะซื้อก็ได้ อย่าลืมว่าพวกเขามีร้านประจำอยู่แล้ว ซึ่งนั้นก็คือคู่แข่งของมึง ”เอ็มบอกเพิ่มเติม ตอนนี้คนเริ่มเดินตลาดนัดเยอะ หลายคนซื้อลูกชิ้นร้านนั้น ไม่ได้มาซื้อร้านผม ร้านผมเป็นร้านใหม่ คงไม่มีคนรู้จักว่าตรงนี้ก็มีขายนะ วันแรกที่ขายนั้น ผมขายได้ตามเป้านั้นก็คือสิบไม้พอดี ขณะที่ผมเตรียมไปขายห้าสิบไม้ ราคาไม้ล่ะห้าบาท วันนี้ได้กำไรสามสิบบาทเมื่อจ่ายค่าเช่าที่แล้ว

พรุ่งนี้จะทำใหม่ คืนนั้นเอ็มมาหาผมและแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการสื่อสาร ระหว่างที่ฟังมือผมก็เสียบลูกไม้ไปด้วย จนกระทั่งดึกแล้วก็หลับไป วันต่อมาผมเข็นรถออกจากบ้าน ลองไปขายที่ตลาดนัดอีกครั้ง แต่คราวนี้ลองใช้วิธีที่ต่างออกไปนิดจากที่เคยทำ

เสาขนาดสูงประมาณสามเกือบสี่เมตร ถูกใส่เสียบอยู่ที่ท้ายรถเข็น จุดสูงสุดของเสาเป็นป้ายขนาดเมตรคูณเมตร มีตัวอักษรสีน้ำเงิน และสีแดง ผมจำเป็นต้องสื่อสารให้คนเดินตลาดนัดรู้ เป็นชื่อร้านที่ผมกับเอ็มช่วยกันตั้งเมื่อคืน น่าจะสร้างความน่าสนใจจากลูกค้าได้ ร้านชื่อว่า ลูกชิ้นตามใจปาก ชื่อนี้น่าจะจำได้ง่าย และเป็นส่วนหนึ่งให้ลูกค้าจดจำร้านได้ เอ็มบอกกับผมว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Brand ที่มุมของป้ายมีสติกเกอร์ที่ตัดเมื่อคืน เป็นรูปการ์ตูนหัวหมู หัวไก่ กุ้ง ถูกเสียบอยู่ และภาพนั้นกำลังยิ้ม Symbol นี้จะเป็นที่จดจำง่ายคืน

เตาถูกจุดขึ้นเหมือนอย่างเคย ลูกชิ้นที่ถูกเสียบไว้เมื่อคืนถูกนำขึ้นมาย่างอีกครั้ง ไม้ล่ะสี่ลูก ที่แตกต่างจากเดิมก็คือ แต่ล่ะไม้นั้น มีลูกชิ้นอย่างล่ะชนิด หนึ่งไม้จะมีลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมู และลูกชิ้นกุ้ง นอกจากนั้นยังมีลูกชิ้นที่วางอยู่ในถาดสแตนเลส โดยแยกตามประเภทของลูกชิ้น เผื่อว่าลูกบางคนต้องการกินแต่ลูกชิ้นหมู จะได้เสียบรวม ณ ตอนนั้นทันทีแล้วย่าง เผื่อว่าลูกค้าบางคนต้องการกินแค่ไม้เดียวแต่อยากกินทั้งหมูและไก่ ผมจะได้เสียบตอนนั้นและย่างได้ทันที เอ็มบอกผมว่า มันคือการผลิตแบบ Make to Order หรือทำตามความต้องการ คล้ายๆกับร้านอาหารตามสั่ง แม้จะเสียเวลานานในการย่าง แต่นั้นทำให้ลูกค้าได้ทานของใหม่เสมอ และผมก็จุดไฟเตาถ่านให้แรงขึ้นอีกนิด

นอกจากนั้นแล้ว เอ็มกับผมรู้ดีว่าเรื่องความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ หรือนั้นก็คือ Key Success Factor นั้นเอง วันนี้ผมจึงสวมผ้ากันเปื้อน หมวกรัดผม รวมทั้งถุงมือในการประกอบอาหาร น้ำยาสำหรับทำความสะอาดเนื้อถูกนำเข้ามาใช้ด้วย มีป้ายประชาสัมพันธ์ถึงความสะอาดของอาหารแปะอยู่ตรงกระจกวางลูกชิ้น

ภาพลักษณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่เหนือสุดของกระจกวางลูกชิ้น เสื้อที่ผมใส่เป็นเสื้อสีเหลือง เอ็มบอกผมอีกว่า Image เป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ควรจะเป็น Identity ต่างหากที่จะมันให้ร้านที่ภาพลักษณ์ที่ดีได้ อย่าทำเหมือนเคารพ แต่ต้องเคารพด้วยใจจริง อย่าสร้างภาพ แต่ต้องเป็นตัวของตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าได้

มีลูกค้าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง มองที่ร้านผมอย่างสนใจ เขาเดินมาและสั่งลูกชิ้นสองไม้ โดยแต่ล่ะไม้ให้ผสมลูกชิ้นทุกชนิด ผมเสียบและย่างรวดเร็ว เมื่อจะส่งลูกชิ้นให้เขา ผมถามเขา “ถ้าไม่เอาถุงหูหิ้วจะลดให้สองบาท” เขาได้ยินงงๆ แล้วก็จ่ายผมเพียงแปดบาทเท่านั้น และเดินไปพร้อมกับถุงใส่อาหารที่ไม่มีถุงหูหิ้วพลาสติก กระแสโลกร้อนน่าจะลดการใช้พลาสติก ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ การรับผิดชอบต่อสังคม หรือที่เรียกว่า CSR นั้นเอง

ผมจำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นขายได้กี่ไม้ เวลาผ่านไปหลายปีแล้วสินะ ผมเริ่มขยายสาขาด้วยการเปิดแฟรนไชส์ ทุกร้านที่ซื้อแฟรนไชส์จากผมไปจะต้องรับวัตุดิบจากผมเท่านั้น เพราะต้องควบคุมคุณภาพของอาหารและระบบของอาหาร ผมกับเอ็มไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว เอ็มมีธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ จึงต้องเดินทางอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตามสักวันผมต้องตอบแทนเขาให้ได้เพราะเขาทำให้ผมมีวันนี้




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2551
4 comments
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 1:28:25 น.
Counter : 1588 Pageviews.

 

โห สวัสดีค่ะ
เรากำลังจะขายลูกชิ้นปิ้งค่ะ
เพราะเราทำงานที่ต้องเป็นลูกจ้างเขาไม่ทนเลยค่ะ
แล้วเราก็ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวด้วย ภาระเยอะแยะมากมาย เราอยากทราบว่า สิ่งที่ต้องเตรียมขั้นแรกมีอะไรบ้างคะ กำไรดีมั๊ย แล้วถ้าเราซื้อลูกชิ้นที่แมคโคร คุณภาพจะโอเคมั๊ยคะ

 

โดย: นิ้ง IP: 125.25.207.150 1 ธันวาคม 2551 3:39:52 น.  

 

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: นิ้ง IP: 125.25.207.150 1 ธันวาคม 2551 3:40:51 น.  

 

ผมเองก็ไม่เคยขายลูกชิ้นหรอกครับ แค่เคยคิดจะขายเฉยๆ ตอนนั้นก็ไปหาข้อมูลมาบ้าง ตอนผมไปดูราคาอุปกรณ์กับเครื่องมือ พวกตะแกรง ไม้เสียบ ผมไปที่ตลาดสะพานใหม่น่ะครับ ที่นั้นมีอุปกรณ์ขายทุกอย่างเลยน่ะครับ

ปล. สุดท้ายไม่ได้ขาย นำมาเขียนแทน

 

โดย: benzmkt 10 ธันวาคม 2551 0:35:07 น.  

 

กำลังจะขายพอดีค่ะ ตรงหน้าร้านมีที่ว่าง แต่กะว่าจะทอดเอา เพราะเป็นร้านอินเตอร์เน็ตค่ะ กลัวกลิ่นรบกวนลูกค้า เริ่มครั้งแรกลงทุนประมาณเท่าไหร่เหรอค่ะ ยังไงช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ manowvan.31@hotmail.com

 

โดย: ฝ้าย IP: 117.47.125.140 27 กันยายน 2552 19:21:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


benzmkt
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










Google

Friends' blogs
[Add benzmkt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.