|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวอังกฤษ - เวลส์ - สก๊อตแลนด์ (วันที่ 3)
วันจันทร์ ที่ 12 เมษายน 2010
วันที่ 3 Cardiff Bourton on the Water Shakespeares birthplace (Stratford Upon Avon) Chester
กรุ๊ปทัวร์เรา พี่ไกด์กำหนดเวลาการตื่นตอนเช้า ทานข้าว และออกเดินทางไว้ที่ 6-7-8 Meaning ก็คือตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า ทานอาหารเช้าตอนประมาณ 7 โมงเช้า แต่ถ้าใครตื่นก่อนเสร็จก่อนก็ลงมาทานก่อนได้ และสุดท้ายล้อหมุนออกจากโรงแรม 8 โมงตรง ตั้งแต่เริ่มเดินทางกันมาก็ทุกคนตรงเวลากันหมด แถมบางครอบครัวเสร็จเร็วก็ลงมานั่งคอยก่อนเวลาก็มี เราว่านะส่วนนึงเนี่ยเป็นเพราะสมาชิกทัวร์ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ มากันเป็นครอบครัว พาลูกมาด้วย จะไม่มีแบบว่าวัยรุ่นมากันเป็นคู่ ก็เลยค่อนข้างรักษาเวลากันเป็นอย่างดี
ช่วงวันแรกๆ ที่ไปถึง พี่ไกด์บอกว่าหลายๆ ครอบครัวคงจะตื่นกันประมาณตี 3-4 เพราะเวลาที่ต่างกันของประเทศไทยและอังกฤษ แล้วเมื่อคืนเราก็ตื่นตั้งแต่ตี 4 เหมือนกัน (แฮ่ะๆๆ เมื่อคืนก็นอนตั้งแต่สามทุ่ม ด้วยความง่วงแล้วก็เพลีย แต่พอตื่นมาตี 4 ก็รู้สึกโอเค สดชื่นขึ้นมาหน่อย)
ตอนเช้าพี่ไกด์ก็พาออกเดินทางไปยังเมือง Bourton on the Water เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักมาก เป็นเมืองที่เราเห็นแล้วอยากไปมากทีเดียว ระยะทางจากโรงแรม Novotel Blu ไปยังเมืองนี้ก็ประมาณ 135 กิโลเมตร เมือง Bourton on the Water เป็นหนึ่งใน Cotswold Village ที่มีชื่อเสียงในเมือง Gloucestershire บ้านแต่ละหลังที่นี่จะสร้างด้วยหินคอทสวอลด์ (Cotswold) ทั้งหมู่บ้าน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Windrush
พวกเรามีเวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมง เดินเล่นถ่ายรูป ซื้อของชำร่วย นั่งทานกาแฟ ก็พอดีๆ ไม่น้อยเกินไป ที่นี่เราซื้อที่แขวนกระเป๋ากับโต๊ะทานข้าวมาอันนึง กระเป๋าผ้าสีสันสดใสลดโลกร้อนมา 2 ใบ (ซื้อมาหลายใบแล้ว ไอ่กระเป๋าลดโลกร้อนเนี่ย ไม่เห็นจะลดโลกให้ร้อนน้อยลงยังงัยเลย ว่าแล้วก็ยังซื้อต่อไป สงสัยเราต้องว่าเป็นโรคจิตแน่ๆ เลย เห็นกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ ไม่ได้เลย เห็นแล้วต้องซื้อมาทุกที ตอนนี้มีหลายใบมาก ใช้อยู่คนเดียว จะให้คนอื่นก็แอบเสียดาย) แล้วก็ Magnet ติดตู้เย็นอันนึง
รูปภาพบางส่วนของ Bourton on the Water





ถ่ายกับตู้โทรศัพท์สีแดงซักหน่อย เดี๋ยวเค้าจะว่ามาไม่ถึง

หลังจากนั้น พี่ไกด์ก็พาพวกเราออกเดินทางไปยังเมือง Stratford Upon Avon นั่งรถไปอีกประมาณ 40 กิโลเมตร เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ มีแม่น้ำ Avon ไหลผ่าน พี่ไกด์พาพวกเราไปชมบ้านเกิดของกวีเอก Shakespeare ที่นี่เป็นที่รวบรวมชีวประวัติ และผลงานทั้งหมดของเชคสเปียร์

ภายในบ้านของเชคสเปียร์ ก็จะมีห้องต่างๆ ให้พวกเราเดินเข้าไปชมได้ มีห้องอ่านหนังสือ ห้องนอน เดินขึ้นไปชั้น 2 แล้วก็เดินลงมาข้างล่าง
บ้านเกิดของเชคสเปียร์

ต้นไม้รูปร่างแปลกๆ มีแต่กิ่งไม้งอๆ งุ้มๆ อยู่ตรงข้ามบ้าน

หลังจากชมบ้านเกิดของเชคสเปียร์เสร็จ พี่ไกด์ก็ให้เวลาพวกเราอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เดินเล่นชมเมือง Stratford ที่นี่ก็มีหลากหลายร้านค้าให้เราได้เดินชมกัน
บรรยากาศ ถนนคนเดิน ด้านหลังบ้านของเชคสเปียร์

ช่วงที่เราเดินเล่นกันในเมืองเล็กๆ ก็เริ่มรับรู้นิดๆ แล้วว่าคนขับรถที่นี่ขับรถกันเร็วมากก (ขอบอกว่าเร็วมากจริงๆ) กระทั่งในเมืองยังเหยียบคันเร่งกันปี๊ดๆ ซะ เวลาเห็นคนจะข้ามถนน (ขนาดเป็นถนนเล็กๆ ไม่มีไฟแดงนะ) โดยส่วนใหญ่เค้าจะไม่ชะลอให้คนข้ามนะ จะเร่งเครื่องแบบว่าขอตูไปก่อนนะเฟ้ย พวกเราก็แบบว่าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้าข้ามถนนไม่ดูตาม้าตาเรือมีหวังโดนรถสอยก้นเอาได้ จำได้ว่าตอนเรากำลังจะเดินออกจาก M&S ได้ยินเสียงรถบีบแตรดังมากกก ไอ่เราก็ตกใจนึกว่ามีอะไร ปรากฎว่าเค้าบีบแตรไล่เด็กผู้หญิงคนไทย 2 คน กับคนวัยกลางคนที่มาด้วยกัน ทั้ง 3 คนเค้าไม่ได้ข้ามทางม้าลาย แล้วคงไม่มองรถด้วยมั้ง ได้ยินเสียงน้องผู้หญิงบอกกับเพื่อนเค้าว่า สงสัยมันท่าจะบ้า เออ.. มันก็ไม่น่าบีบแตรซะดังขนาดนั้น เมืองนั้นก็เป็นเมืองเล็กๆ รถก็ไม่ได้เยอะมาก ขนาดคนจะข้ามถนนตรงทางม้าลายคนขับรถยังไม่หยุดให้คนข้ามเลย เราต้องดูจังหวะเอง นี่ขนาดเป็นเมืองเล็กๆ เมืองชนบท ไม่ใช่เมืองหลวงใหญ่ๆ นะ คนที่นี่ออกแนวโหดนะเนี่ย (เอ..เป็นเพราะว่าเราโชคร้ายไม่เจอคนขับดีเองหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ)
ทำให้เราอดคิดถึงสมัยที่เราอยู่ซิดนีย์ไม่ได้ ที่นั่นเราค่อนข้างรู้สึกประทับใจกับคนขับรถที่นี่มาก เวลาที่พวกเราคนเดินเท้าจะข้ามถนนตรงทางม้าลายนะ คนขับรถแทบจะทุกคันเลย เค้าจะรีบชะลอรถ จอดให้เราข้ามก่อนที่เราจะเตรียมตัวข้ามเสียอีก แถมบางครั้งเรายังเดินไม่ถึงทางม้าลายเลยนะ ประมาณว่าเดินอยู่ข้างถนนเกือบจะถึงทางม้าลายแล้วหล่ะ ปรากฎว่าคนขับรถรีบชะลอรถ แล้วยังชะโงกหน้ามาดูว่าเราจะข้ามหรือเปล่า แบบว่าประทับใจมาก แถมทำให้เราต้องรีบก้าวข้ามถนนอย่างเร็ว เพราะเกรงใจให้เค้าคอยนาน
หลังจากที่เดินเล่นชมเมือง Stratford Upon Avon แล้ว โดยที่เราไม่ได้ซื้ออะไรติดมือมาเลย (คนอื่นซื้อกันเยอะแยะ ถือกันพะรุงพะรังเลย) ก็มายืนรอตรงอนุสาวรีย์เล็กๆ รอรถมารับไปทานอาหารกลางวัน มื้อนี้ก็เป็นอาหารจีน และได้ข่าวว่า อีกหลายๆ มื้อที่จะตามมาก็มีอาหารจีนอยู่หลายมื้อเหมือนกันนะเนี่ย
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งรถไปอีกประมาณ 180 กิโลเมตร เพื่อไปยังเมือง Chester (ขึ้นไปด้านเหนือของเกาะอังกฤษ) ตอนที่ไปถึงก็เริ่มเย็นแล้วหล่ะ พี่ไกด์กลัวว่า ถ้าพาพวกเราไปทานอาหารกันก่อนก็จะไม่มีเวลาเดินเล่นในเมือง (แต่ตอนที่เราไปถึง ร้านก็ทยอยปิดกันหมดแล้วนะพี่ไกด์) พี่ไกด์ก็เลยพาพวกเราลงเดินเล่น เข้าไปดูในเมือง แล้วก็เดินไปที่ร้านอาหารกันเลย ขาไป ปรากฎว่าพี่ไกด์จำร้านอาหารไม่ได้อ่ะ เค้าจำไม่ได้แน่ชัดว่าต้องเลี้ยวเข้าซอยไหน ก็เลยให้พวกเรายืนรอเล่นๆ อยู่ก่อน แต่สุดท้ายก็หาเจอจนได้ ร้านอาหารจีน Slow Boat (เป็นร้านอาหารที่เราว่าไม่อร่อยที่สุด เทียบกับร้านอื่นๆ ที่ทานมาทั้งหมดเลยนะ) อาหารเค้าสุดยอดจืดทุกอย่างเลยค่ะ ทานแล้วคิดถึงส้มตำ ไก่ย่างบ้านเราเป็นที่สุด
บรรยากาศเมือง Chester ยามเย็น ร้านค้าปิดเงียบเหงามาก

หลังจากทานอาหารเสร็จ พี่ไกด์ก็พาพวกเราเดินกลับมาตรงที่รถบัสจอดคอยอยู่ที่เดิม แล้วก็พาพวกเราเข้าพักที่โรงแรม Crowne Plaza Chester
โรงแรมค่อนข้างดีทีเดียว แต่ว่าไม่มีอะไรให้เดินเล่นในเมืองยามค่ำคืน พวกเราก็เลยต้องอยู่แต่ในโรงแรม ตอนมืดๆ เราก็ลงมานั่งเล่นอินเตอร์เนทของโรงแรมเล่นๆ เค้าคิด 15 นาที 3 เหรียญ (150 บาท เล่นได้ 15 นาที) แพงเหมือนกันนะ เพราะ 15 นาทีนี่ก็แป๊บเดียวเอง อ่านโน่นอ่านนี่ก็หมดไป 5 นาทีแล้ว ตกลงเราก็เลยเล่นไป 30 นาที 6 เหรียญ เช็คข่าวสารบ้านเมืองนิดหน่อย ส่งข้อความ แค่นั้นหล่ะหมด 30 นาที ได้เสียตังสักหน่อย ก็นอนหลับสบายแล้วล่ะ
*********************************************
ติดตาม ตอนที่ 4 Old Trafford Stadium (Manchester) Windermere / Lake District Edinburgh
Create Date : 04 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 14:56:24 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1084 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|