If you love someone, do not think of what she or he does for you. But think of 'Have you done anything for him or her yet?'...
Group Blog
 
<<
กันยายน 2559
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
1 กันยายน 2559
 
All Blogs
 

เมื่อต้องเริ่มต้นสอนภาษาอังกฤษให้ลูกสาววัย 5 ขวบ







ชั้นหนังสือภาษาอังกฤษของหนูค่ะ แม่ของหนูหมดเงินไปเยอะเลยกับภาระหน้าที่ตรงนี้ แต่ก็สู้ๆ ค่า เราเดินไปด้วยกัน ก้าวไปอย่างช้าๆ นะคะ สมัยแม่หนูเรียนภาษาอังกฤษก็ยังเรียนตกๆ ตลอดจนถึง ม6 เลยค่ะ จำได้เลย ภาษาอังกฤษได้เกรด 1 ตอนจบ ม6 ภาษาด๋อยมากค่ะ ค่อยมาพัฒนาดีขึ้นตอนเริ่มเรียนนานาชาติช่วงอุดมศึกษา แต่ก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ มาเริ่มพัฒนาดีขึ้นอีกทีก็ตอนช่วงทำงาน เริ่มตั้งใจพัฒนาภาษาอังกฤษมากขึ้น ลงคอร์สเรียนตลอดทุกวันหยุดกันเลย ... ไม่มีคำว่าช้าไปเสมอ ถ้าเรามีขยันและมีความตั้งใจนะคะ

ว่าแล้ว สำหรับลูกสาว เราก็เริ่มกันที่ระดับ pre-school กันเลยค่ะ ระดับ level 1 ก็ยังยากเกินไปสำหรับหนูนะคะ 




********************************

งานยากเริ่มแล้วค่ะ 

เด็กน้อยที่บ้านปีนี้ขึ้นอนุบาล 2 แล้วค่ะ แต่ภาษาอังกฤษของเธอจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เวลาพ่อแม่พูดภาษาอังกฤษกับเธอๆ มักจะบอกว่าให้พูดภาษาไทยได้มั้ยคะแม่ หนูเป็นคนไทยพูดภาษาไทยดีกว่านะคะ ตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่พยายามพูดภาษาอังกฤษกับลูกอีกเลยค่ะ ที่บ้านเราจะค่อนข้างไม่ซีเรียสเรื่องภาษาอังกฤษเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ทำไมนะคะ ทั้งที่หลายๆ ครอบครัวตื่นตัวพยายามให้ลูกเรียน 2 ภาษาหรือไม่ก็อินเตอร์ฯ กันเยอะแยะ คุณปู่ที่บ้านก็นักเรียนนอกจบจากอเมริกา ส่วนคุณพ่อลูกสาวก็นักเรียนนอกปริญญาโทสองใบจากเมืองนอกเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นพยายามเน้นสอนภาษาอังกฤษให้ลูกกันเล้ยยยย เพลียจริงๆ 

จนช่วงหลังๆ เริ่มสังเกตว่าชั้นเรียนระดับอนุบาลเนี่ย เด็กๆ ต้องท่องศัพท์กันเยอะมาก ยิ่ง อ3 ยิ่งศัพท์เยอะมาก เวลาสอบก็สงสารเด็กๆ ต้องมานั่งท่องศัพท์กันหลายคำเลย บางคำนี่สมัยเราเรียนก็ ป4 แล้วนะ เห็นแบบนี้ก็เลยต้องกลับมาเริ่มคิดแล้วค่ะ คงต้องเริ่มภาษาอังกฤษแล้วนะคะ ให้เค้าเคยชินกับภาษาอังกฤษบ้างก็ดี ก็เลยเป็นที่มาของการเริ่มซื้อหนังสือภาษาอังกฤษที่เหมาะกับวัยและระดับอายุของเด็กนะคะ สำคัญมากเลยตรงนี้ 

หนังสือสำหรับเด็กเล็กเริ่มอ่านจะมีอยู่ 2 เซทที่แม่เพื่อนๆ แนะนำมาค่ะว่าดีมาก ก็จะมีหนังสือของ Oxford Reading Tree - Read with Biff Chip and Kipper แล้วก็เซทหนังสือของ Dr.Suess
ทั้งสองเซทค่อนข้างแตกต่างกันนะคะ แต่ก็มีสอนในเรื่อง phonics ด้วยกันทั้งคู่ 

พูดถึงเรื่องการออกเสียงแบบ Phonics สมัยเราเรียนภาษาอังกฤษนี่ไม่มีสอนเลยค่ะ อ่านออกเสียงตามที่ครูสอนกันแค่นั้นเอง บางคำก็ออกเสียงผิดมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะไม่มีสื่อการสอนอื่นที่จะหาเพิ่มเติมได้ แต่พอสมัยนี้การสอนเรื่อง phonics เริ่มสำคัญมากจริงๆ ค่ะ เพราะช่วยให้เด็กออกเสียงคำ อ่านคำได้ถูกต้อง แต่เนื่องจากเราไม่มีความสามารถสอนลูกเรื่องนี้ ก็ต้องอาศัยพึ่งจากเพลงค่ะ เปิดให้เค้าฟังบ่อยๆ ว่าแต่ละตัวในภาษาอังกฤษออกเสียง Phonics ว่ายังงัย เราว่าเพลงนี้ก็ใช้ได้ดีพอควรเลยค่ะ 

ยกตัวอย่างคำว่า elephant ลูกอ่านเป็น อี เลฟ' เฟ้น มาตลอด แต่พอมาเจอเสียง phonics ของคำว่า E เป็น เอะ เธอก็จะเริ่มรู้แล้วว่าต้องอ่าน เป็น อี เอะ เอ้ฟ' เล เฟ้น  เน้นที่ตัว E แทน 





เริ่มแรกเราก็ไม่กล้าซื้อทั้งสองเซทค่ะ เพราะราคาไม่ถูกเลย เซทนึงก็หลักพันเลย ก็เลยลองเริ่มต้นพริ้นท์หนังสือของ Dr Suess เล่มแรกออกมาทดลองอ่านกับลูกดูแนวโน้มก่อนค่ะว่าพอไปได้มั้ย 

เล่มแรกที่ควรเริ่มคือ Hop on Pop นะคะ เล่มนี้ต้นๆ เล่มจะค่อนข้างง่ายไปทางยากอีกนิด เล่มนี้ลูกค่อนข้างชอบมากค่ะ แต่เป็นหนังสือของพ่อแม่นะคะ ทีต้องอ่านกับลูก สอนลูกไปด้วย ที่บ้านใช้วิธีอ่านก่อนนอนกันทุกคืนค่ะ ได้วันละ 4-5 หน้าก็โอเคแล้ว หลังๆ มานี่ลูกเริ่มอ่านได้เองหลายหน้าแล้ว เริ่มจำคำศัพท์โดยผ่านการอ่านนิทาน ไม่ต้องท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองละค่ะ ส่วนศัพท์คำอื่นก็จะมีผลพลอยได้ไปด้วย เพราะเด็กจะเริ่มชินกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษผ่านการอ่านบ้างแล้ว 

วิธีการอ่านที่บ้านแรกๆ ก็จะมีแปลเป็นภาษาไทยให้เค้าพอเข้าใจบ้าง แต่หลังๆ ก็จะอ่านแล้วก็จะชี้ที่ตัวหนังสือไปทีละคำ พอเริ่มอ่านหลายรอบ ก็จะอ่านไปแล้วก็จะชี้ที่ภาพแทนการชี้ที่คำบ้าง ให้รู้ว่าคำนี้คืออะไรจากในรูป ประมาณนี้ค่ะ



ข้างในเล่มก็จะเป็นศัพท์ง่ายๆ 




พอเห็นลูกเริ่มสนุกกับการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษด้วยกันก่อนนอน แม่ก็เริ่มมีกำลังใจค่ะ กำลังใจเริ่มมาเริ่มฮึกเหิมมากขึ้น 555 จัดชุดหนังสือ oxford reading tree เซท Level 1-3 จากเอเซียบุคส์เลยค่ะ เซทนี้มี 33 เล่ม แบ่งเป็น 2 ประเภทคือสอน phonics และเป็น story ไล่ลำดับจาก level 1 ไปจน level 3 ก่อนซื้อเซทนี้ก็ต้องทำใจสุดๆ ค่ะ เซทนึงก็เหยียบ 4พันกันเลย แต่ลองเปิดหนังสือดูแล้ว แต่ละหน้า อืมมม มันดีมากๆ สมราคาจริงๆ ค่ะ

แต่เซทนี้เราก็พลาดซื้อแพงอีกแล้วนะคะ เสียใจๆ เพราะ เซทนี้จริงๆ สั่งจาก UK เองก็ตกประมาณ 1300 บาทเองค่ะ เสียใจสุดๆ 




ในเซทนี้จะเป็นเรื่องราวของครอบครัวที่มีลูก 3 คน และก็หมา 1 ตัว ลูกสาวชอบมากเหมือนกันค่ะ อ่านกันทุกคืน วันละ 1 เล่ม แล้วก็อ่านซ้ำวนไปวนมาเรื่อยๆ ลูกก็จะเริ่มจำคำศัพท์ผ่านการอ่านนิทานไปด้วย แล้วก็ได้ออกเสียงภาษาอังกฤษไปด้วยทุกครั้ง จากเดิมเป็นเด็กที่ไม่เอาภาษาอังกฤษเลย สำเนียงพูดภาษาอังกฤษนี่ไม่ได้เลย ตอนนี้เริ่มค่อยๆ ดีขึ้น เห็นผลพัฒนาการที่ดีขึ้นทีละนิดแล้วค่ะ ดีใจจัง 




หน้าตาหนังสือในเซทนี้ค่ะ 




แต่ก่อนที่จะซื้อ oxford reading tree เราซื้อเล่มนี้ก่อนค่ะ ซื้อมาจาก Kinokuniya ไปนั่งหาหนังสือในระดับที่เริ่มต้นนี่ยากจริงๆ ค่ะ เพราะหนังสือ จะเยอะมาก แนะนำหาข้อมูลแล้วซื้อ online จะดีที่สุดค่ะ 
เล่มนี้ก็อ่านไม่ยากเหมือนกัน เราเลือกเรื่องราวที่เกี่ยวกับสิ่งที่ลูกชอบเป็นหลักเลยค่ะ 

เล่มนี้จะเป็นระดับ pre-level 1 ค่ะ ซึ่งจะเหมาะกับเด็กที่เริ่มต้นมากๆ 





ศัพท์ที่ใช้ก็จะง่ายๆ ค่ะ เวลาอ่านไปก็น่าจะควรยกตัวอย่างประโยคจริงในชีวิตประจำวันของลูกด้วยนะคะ เค้าจะได้เห็นภาพมากขึ้น 

อย่างหน้านี้ This is Henry. อ่านแล้วก็ควรยกตัวอย่างโดยใช้ลูกเป็นศูนย์กลาง ก็จะชี้ไปที่ตัวลูกแล้วก็บอกว่า This is ... ชื่อของลูก... แล้วก็ชี้ไปที่เราแล้วก็บอกว่า This is mother อะไรประมาณนี้ค่ะ 



เด็กจะเรียนรู้คำศัพท์ผ่านนิทาน ผ่านชีวิตจริง คิดว่าน่าจะช่วยให้เค้าจำคำศัพท์ได้ดีมากขึ้น ไม่ท่องเป็นนกแก้วแบบไม่รู้เรื่องนะคะ




เซทถัดมาที่เราก็อยากได้มากค่ะ เป็นเซทที่เราพริ้นต์เล่มแรก Hop on Pop ออกมา อยากได้เล่มจริงแต่ราคาก็ปาดเหงื่อเลย เพิ่งซื้อ oxford reading tree มา แต่สุดท้ายก็จัดมาจนได้ค่ะ เซทนี้

ซื้อมาจากเอเซียบุคส์ เซทนี้มี 5 เล่มค่ะ แต่เด็กระดับนี้ก็อ่านได้แค่เล่มเดียวก่อนค่ะ hop on pop ที่เหลือก็จะยังยากเกินไปอยู่ค่ะ 

เซทนี้ก่อนหน้าติดราคาที่ 1,425.- แต่วันที่เราไปซื้อ ราคาติดใหม่เป็น 1,795.- แล้วค่ะ  ช้ำใจมาก แพงขึ้นไปหลายร้อยเลย แต่ก็ใช้บัตรสมาชิกเอเซียบุคส์ลดได้อีก 10% (หมายเลขสมาชิก 071012679 ค่ะ เผื่อใครจะยืมไปใช้ลดได้เลยค่ะ ^^)  แล้วก็ใช้คูปองลดไปได้อีก 250 บาท 



เซทนี้จะเป็นหนังสือปกแข็ง คุณภาพรูปภาพสวยงามดีมากค่ะ ชอบเลย ลองหารเฉลี่ย ตกเล่มละ 300 บาทก็พอรับได้นะคะ ก็เลยจัดซะเลย 

เซทนี้จะเป็น Beginner จะมีหนังสือตามรายชื่อนี้
1) Cat in the Hat
2) Hop on Pop
3) Foxs in Socks 
4) Green Egg and Ham
5) One Fish Two Fish Red Fish Blue Fish

ส่วน Level ถัดไปที่เราจะซื้อก็จะเป็น Second Beginner ค่ะ ก็จะมีหนังสือชือตามนี้
1) The Cat in the Hat comes back
2) Dr Seuss ABC
3) I can read with Ng Eggs Shut 
4) Oh the thinks you can think
5) Oh Say can you say?

เล่มที่เราอยากได้คือ Dr Seuss ABC ค่ะ เลยคิดว่าเซทหน้าอาจจะหาซื้อแยกดีกว่า เพราะคงอีกนานกว่าลูกจะอ่านได้ครบ 5 เล่มของเซท Beginner 




แต่จริงๆ แล้วเราไม่ต้องซื้อก็ได้ค่ะ เราสามารถ print out ออกมาเข้าเล่มสวยงามแบบนี้ก็ใช้ได้เลย จัดการ print เล่มที่หาซื้อได้ยากมาด้วยค่ะ ใช้ได้ดีเหมือนกัน  ประหยัดเงินไปได้เยอะเลย 





ได้ flash card มาอีกกล่องนึงด้วยค่ะ ใจจริงก็อยากได้อีกกล่องด้วย แต่เอาไว้ก่อน เดือนหน้าค่อยมาซื้อใหม่ เดือนนี้ซื้อไปหลายเซทแล้ว



ราคาก็พอรับได้ค่ะ พอๆ กับสั่ง online ก็ซื้อที่เอเซียบุคส์ซะเลย จะได้ไม่ต้องรอของนาน




แล้วก็อีกเซทนึง Pre Level 1 นิทานเรื่องโซเฟียของ Disney ค่ะ เรื่องโปรดลูกก็น่าจะช่วยให้เธอชอบอ่านได้มากขึ้น ลองเปิดหนังสือดูแล้ว อ่านง่ายน่าอ่าน มากๆ ด้วยค่ะ เซทนี้ แถมราคาไม่แพงเลย 395 บาท 10 เล่ม คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ 




แล้วก็หนังสือลูกอ่านเล่น ที่ได้มาจากงาน Big Bad Wolf เมื่อต้นเดือน ได้มาหลายเล่มเหมือนกัน หมดเงินไปหลักหมื่นกันเลย 

เซทข้างล่างนี้ลูกสาวจะเลือกเองกับพ่อเค้าค่ะ ส่วนเซทที่เราเลือกให้ก็จะมีอีกกอง




เซทข้างล่างก็จะเป็น หนังสือของ Dr Seuss ที่ได้มารอบสอง (รอบแรกก็ได้มาเยอะพอควร)




หนังสือล้อตแรกที่ได้มาจากงาน Big Bad Wolf ค่ะ กองตรงกลางคือหนังสือลูกที่เลือกมาให้ในรอบแรก ราคาแต่ละเล่มน่ารักมาก 180 ไม่เกิน 




9 September 2016

จากที่เริ่มต้นอ่านหนังสือภาษาอังกฤษกับลูกก่อนนอนทุกวัน ทำให้เริ่มเห็นผลที่ดีขึ้นแล้วนะคะ จากเดิมที่ไม่เอาภาษาอังกฤษเลย มีแนวโน้มดีขึ้นเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้เราเอา flash card มาอ่านแล้วดูลูกจะชอบแนวนี้ด้วย เค้าสนุกกับการอ่านมากขึ้นเข้าทางแม่เลยค่ะ เลยรีบไปจัดเพิ่มในทันใด ไปนั่งเลือกมาจากร้านเอเซียบุคส์มาค่ะ กล่องไหนอยู่ในพลาสติก เราไม่เห็นข้างใน ขอที่ร้านแกะให้ดูได้เลยนะคะ เราจะได้เลือกถูกว่ามันเหมาะกับลูกเรามั้ย อย่าซื้อมาโดยที่เราไม่ได้เห็นของข้างในนะคะ







13 September 2016

หนังสือเซทที่เพิ่งสั่ง online ชุดนี้ได้รับเรียบร้อยค่ะ 
เซท Level 4-6 ของ Oxford Reading Tree อีก 25 เล่ม ลูกสาวจะชอบเซทนี้มาก เซทนี้เบ็ดเสร็จ 930 บาทค่ะ





แบบว่าแม่เริ่มตั้งใจเอาจริงแล้วนะคะ เพราะภาษาอังกฤษสมัยนี้สำคัญมากจริงๆค่ะ ถึงไม่เก่งแบบใครแต่เราอาศัยอ่านกันทุกวันค่ะ วันละนิดละหน่อย น้ำซึมบ่อทรายสักวันน่าจะพอไปได้นะคะ



หนังสือแต่ละเล่มน่าอ่านมากค่ะ 




ส่วนเซทนี้ก็ได้รับแล้วเหมือนกันค่ะ สั่งจากเฟสบุ๊คคนขายในไทยง่ายๆ เลยค่ะ เซทนี้ 700 กว่าบาทได้ค่ะ เป็นหนังสือที่เด็กๆ อ่านเองได้ง่ายค่ะ เล่มนึงก็มีแค่ 1-2 บรรทัด เซทนี้ค่อนข้างถูกใจเรามาก หาแนวนี้มาตั้งนาน 

แต่ๆ หนังสือเซทนี้เราซื้อมาจากใน FB ค่ะ ราคาค่าหนังสือ 710+50 ค่าส่ง เป็น 760 บาท 

ในขณะที่ Asiabooks ขายอยู่ 650 บาท ลด อีก 10% บัตรสมาชิก เหลือ 585 บาท เองค่ะ เสียใจๆ ไม่น่ารีบซื้อเลย น่าจะเช็คราคาหลายๆ ที่ก่อน 










16 September 2016

เซท Farmyard ของ Urbourne อีก 20 เล่ม เดินทางมาถึงเรียบร้อยค่ะ เซทนี้เบ็ดเสร็จ 930 บาทรวมส่งมาไทย หนังสือน่ารักดีงามมากค่ะ















หนังสือเซทนี้ก็อ่านง่ายค่ะ เท่าที่ไปอ่านรายละเอียดมา แต่ละหน้าเนี่ย เค้าจะมี 2 ส่วน ส่วนคำศัพท์แถวบนสุดของเล่ม เป็นส่วนที่ให้เด็กเพิ่งหัดอ่าน อ่านตามได้ค่ะ ส่วนภาษาอังกฤษ ด้านล่างของเล่ม เป็นส่วนที่ีให้พ่อแม่อธิบาย อ่านเพิ่มเติมให้เด็ก พอเด็กโตขึ้นอ่านเก่งแล้ว ก็สามารถอ่านบรรทัดด้านล่างได้ค่ะ ซึ่งภาษาอังกฤษแถวบนจะใช้ภาษาที่อ่านได้ง่าย และก็ cover คำอธิบายเนื่อเรื่องได้เพียงพอค่ะ 



หนังสือเซทอีกชุดที่ซื้อมาคือ Curious George เซทนี้มี 12 เล่มค่ะ แนวอ่านง่ายๆ เหมือนกับเซทของ Sightwords ของ Scholastic เซทนี้ราคา 475 บาท ลด 10% สมาชิกก็เหลือ 427 บาท ค่ะ 







Smiley





 

Create Date : 01 กันยายน 2559
4 comments
Last Update : 23 กันยายน 2559 11:11:44 น.
Counter : 8452 Pageviews.

 

เยอะเลยนะคะ ดีจังค่ะ

 

โดย: kae+aoe 6 กันยายน 2559 14:01:40 น.  

 

เพียบเลย จะค่อยๆ เลือกซื้อตามที่แนะนำนะคะ

 

โดย: ผิง IP: 110.164.108.132 12 กันยายน 2559 14:47:59 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลเป็นประโยชน์มาก กำลังมองหาแหล่งซื้อ Oxford Reading Tree: Read with Biff, Chip and Kipper level 1-3 อยู่พอดี ที่บอกว่าสั่งตรงจาก uk แค่ 1,300฿ ไม่ทราบว่าสั่งจะ web ไหนหรอคะ
รบกวนถามอีกเรื่องที่บอกว่า print นิทานบางเล่มมาลองอ่านก่อนได้ ต้อง download จากweb ไหนคะ

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

 

โดย: Nana IP: 182.232.183.109 25 ธันวาคม 2559 22:45:54 น.  

 

สั่งซื้อที่ให้มาส่งไทย สั่งจากที่ไหนหรอคะ

 

โดย: Jiab IP: 184.22.249.193 6 กุมภาพันธ์ 2561 21:06:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bigcrab
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 160 คน [?]




Friends' blogs
[Add Bigcrab's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.