บล๊อกก่อนหน้านี้เราก็เขียนเรื่องเล่าทำอาหารให้ลูกสาวตัวน้อยไปคร่าวๆ บ้างแล้ว

ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเพิ่มเติม เพราะเราทำอาหารให้ตัวเล็กมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ก็นานเหมือนกันนะเพราะมือใหม่อย่างเรา ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวเท่าไหร่ จริงๆ ก็ไม่ได้ทำเลยล่ะ ตรงๆ ก็ทำไม่ค่อยเป็นนั่นล่ะ

อยากเล่าเรื่องเจ้าเครื่องปั่นอาหารมูลิเน็กซ์ก่อนเลย เพราะเป็นเครื่องปั่นอาหารเครื่องแรกที่เราซื้อมาใช้ แบบไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน เอายี่ห้อที่ติดปากเคยได้ยินว่าดีเป็นใช้ได้ เครื่องนี้ก็ราคาพันต้นๆ ไม่แพงมาก ราคาก็เท่าๆ กับเครื่องปั่นยี่ห้ออื่นล่ะ

ตอนที่ซื้อเครื่องนี้มา พนักงานขายก็ไม่ได้สอนอะไรเรามาก แค่บอกวิธีการทำงานคร่าวๆ แล้วเราก็ไม่ได้ถามอะไรมากด้วยเพราะคิดว่ามันใช้งานเหมือนเครื่องปั่นทั่วๆไปล่ะ

เครื่องปั่นมันจะมีโถเล็ก สำหรับปั่นแห้ง และโถใหญ่สำหรับปั่นน้ำ ตอนแรกเราก็ไม่รู้คิดว่าโถเล็กก็น่าจะปั่นอาหารแห้งๆ ที่มีน้ำนิดหน่อยได้บ้าง ก็เลยเอาเจ้าโถเล็กมาปั่นอาหารให้เจ้าตัวเล็กด้วย ... โถเล็กนี่ก็ใช้งานยาก เวลาจะถอดฝาครอบออกนี่มือเราได้เลือดทุกทีเลย แล้วจะโดนที่เดิมทุกครั้งเจ็บมาก ตัวเปิดมันแข็งมากค่ะ กว่าจะเปิดได้นี่ลุ้นทุกทีว่าจะโดนเนื้อฉันอีกมั้ยเนี่ย แล้วก็โดนแทบทุกครั้งจริงๆ ด้วย ...

แล้วก็เพิ่งมาสังเกตช่วงหลังๆ ว่า เอ.. ทำไมมันมีกลิ่นน้ำมันฉุนจัง แล้วก็เวลาล้างแล้วคว่ำไว้ พอเอามาวางเก็บในตู้ มันจะมีน้ำมันออกมาจากตรงแกนใบมีดทุกครั้ง เราก็ต้องเอาไปล้างก่อนใช้ทุกครั้ง แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะใช้งานครั้งแรกๆ ก็เป็นได้ แต่มันก็มีมาทุกครั้ง ชักไม่ได้การแล้ว ตอนนั้นเราก็ตั้งใจแล้วว่าจะเปลี่ยนเครื่องปั่นดีกว่า แต่ยังงัยเราจะลองโทรไปถามที่ Service Center ของ มูลิเน็กซ์ก่อนดีกว่า ปรึกษาเค้าดูก่อน เผื่อว่าเราทำอะไรผิดไป

ทางพนักงานของมูลิเน็กซ์ เค้าบอกว่า โถเล็กปั่นแห้งนี่ สำหรับปั่นอาหารที่แห้งจริงๆ เท่านั้น แล้วห้ามล้างน้ำด้วย ห้ามโดนน้ำว่างั้นเถอะ ให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดเท่านั้น เพราะตัวฐานใบมีดไม่มีตัวกันน้ำมัน แต่ถ้าเป็นโถใหญ่ปั่นน้ำ จะมีตัววาวล์ กันน้ำมันให้ ... อันนี้เราไม่เคยรู้เลย เพราะไม่ค่อยได้เข้าครัว

แล้วอีกอย่าง โถใหญ่นี่ใช้ปั่นอาหารที่เย็นแล้ว ไม่ร้อน เท่านั้น แต่เราก็ปั่นอาหารค่อนข้างร้อนไปหลายรอบด้วยความไม่รู้จริงๆ

พลาดไปหลายอย่างด้วยความไม่รู้ ไม่ได้หาข้อมูลก่อนเริ่มทำอาหาร ... แล้วเจ้าตัวเล็กก็กินอาหารที่อาจะมีน้ำมันปนเปื้อนไปหลายมื้อแล้วด้วย เศร้าจริงๆ

ยิ่งรู้แบบนี้เราก็เตรียมเปลี่ยนเครื่องปั่นอาหารแน่นอน แล้วก็เก็บเจ้าโถปั่นแห้งลงกล่องไปเลย

หม้อนึ่งอาหารของหนูน้อย

ก่อนหน้านี้เวลาจะอุ่นอาหารเราก็จะใช้ Microwave เพื่อความง่าย แต่ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ อยากใช้เครื่องนึ่งมากกว่า ...  แต่ไม่มีเครื่องนึ่งนี่สิ ... พอดีมีน้องที่ทำงานที่เค้าเพิ่งมีลูกสาวเหมือนกัน อายุมากกว่าลูกเรา 4 เดือน เค้าต้องทำอาหารให้ลูกเองทุกวัน เค้าก็แนะนำให้เราซื้อหม้อตุ๋น+นึ่งอาหารของ Hitachi ใบนี้ มันดีเพราะใช้หุงข้าว ตุ๋นข้าว แล้วก็ที่สำคัญนึ่งได้ด้วย เราก็เลยซื้อตามเค้า ลองเอามาใช้ดู

หลังจากใช้ไปซักพักนึง เราว่ามันก็ดีตรงที่มีฟังก์ชั่นทำงานได้หลายอย่าง มีนึ่งได้ เราก็ใช้เจ้าหม้อตัวนี้ไว้ตุ๋นข้าว+ถั่ว แล้วก็เอาไว้นึ่งข้าวกับเนื้อปลาที่ freez เอาไว้ทุกเช้า ก็ถือว่าสะดวกดี ตอบโจทย์ความต้องการเราได้

แต่อุปกรณ์ พลาสติก อะไรต่างๆ เราว่ามันดูก๊องแก๊งไปนิดนึงนะ

เมื่อต้องซื้อหม้อนึ่ง+ตุ๋น ของ Avent

ช่วงที่เจ้าตัวน้อยใกล้ถึง 6 เดือน เราก็ไปเดินที่งาน BBB ตอนนั้นก็สนใจหม้อตุ๋นของ Avent มากเลย แต่ติดตรงราคาที่ค่อนข้างสูงไปหน่อย แล้วเราก็ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารเองกับตัว ก็เลยยังไม่เห็นถึงความจำเป็น เพราะเราคิดว่าเครื่องนึ่งกับปั่นไม่ต้องเป็นเครื่องเดียวกันก็ได้ ใช้เครื่องแยกกันราคาก็จะถูกกว่ากันเยอะ

แต่พอใช้เครื่องแยกกัน เวลาที่ใช้ทำก็จะมากขึ้น อุปกรณ์ในการล้างก็จะเยอะขึ้นตามมา (ถึงไม่ได้ล้างเองก็เถอะ) จะทำอาหารให้ลูกแต่ละอาทิตย์นี่กินเวลาครึ่งวันเลยทีเดียว

แต่หลังจากที่เจอเจ้าน้ำมันของเครื่องปั่นก็เลยต้องตัดสินใจ ถอยเจ้า Avent เครื่องนึ่ง+ปั่น มาเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อย และความสะดวกรวดเร็วของแม่มาน

อีกอย่างมันตรงกับความต้องการเรามากที่สุด จริงๆ เราน่าจะซื้อนานแล้วล่ะ แต่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มทำอาหารเลยไม่รู้ว่าการทำอาหารแต่ละขั้นตอนมันจะยุ่งยากแล้วก็เครื่องนี้มันจะช่วยเราได้แค่ไหน

จำได้ว่าก่อนที่เราจะซื้อตัวนี้มา เราก็เดินๆ ที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้านานมาก ดูอยู่ว่าจะซื้อเครื่องปั่นอะไรดี ที่มันจะไม่มีน้ำมันออกมา มีเครื่องปั่นอยู่ตัวนึงของเมกา ดูท่าทางดี ราคาก็ประมาณสามพัน แต่สุดท้ายเดินมาที่แผนกเด็ก บังเอิญมีพนักงาน Avent กำลังสาธิตเครื่องนี้อยู่พอดี ก็เลยยืนมองๆ ดูเค้าปั่นอยู่พักนึง ถูกใจกับเสียงปั่นมาก ก็เลยตัดสินใจซื้อมา ตอนนั้นลด 30% เหลือประมาณหกพัน แถมมีประกันศูนย์ไทยด้วยก็โอเค

ที่เราตัดสินใจซื้อตอนนี้ ถึงแม้ลูกเราจะ 8 เดือนแล้วก็ตาม เราก็คิดว่าถึงแม้จะเหลือเวลาใช้อีกไม่นาน หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่คุ้มนะ  แต่เราก็คิดว่าทุกวันที่กำลังเข้ามามีค่าเสมอ ทุกวันต่อไปเค้าก็จะได้ทานอาหารที่มีสดใหม่ มีคุณค่า สะอาด ปลอดภัย ... อีกอย่าง ต่อไปหนูก็จะต้องทานอาหารเพิ่มจากวันละมื้อเป็น 2-3 มื้อ เครื่องนี้ก็ยังคงใช้ได้อยู่ เอาไว้นึ่งผัก แล้วก็ปั่นยังน้ำผลไม้ให้หนูทานได้ค่ะ 

บอกไว้เป็นข้อมูลนิดนึงว่า โถปั่นของ Avent มีขายแยกต่างหากนะคะ หาซื้อได้ที่ศูนย์ DKSH ขายทั้งชุดเลย ก็จะมีโถใส่อาหาร ฝาปิด ไม่แน่ใจว่ามีใบมีดให้ด้วยหรือเปล่า แต่เดาว่าน่าจะมีด้วย ยกเว้นตัวฐานที่เป็นมอเตอร์

เค้าขายชุดละ 1,000 บาทค่ะ  เผื่อมีแม่ๆ ท่านไหนจำเป็นจะต้องซื้อมือสอง ก็สามารถหาซื้อโถปั่นของใหม่เพื่อสุขอนามัยที่ดีได้ค่ะ

ติดต่อ DKSH ดีทแฮล์ม แผนก Avent ได้ที่เบอร์ 02 790 8687

นอกจากอุปกรณ์ดีเด่นแล้วยังต้องมีคัมภีร์เป็นตัวช่วยอีกแรง ไม่งั้นเราไม่รอดแน่

นี่เลยค่ะคัมภีร์ประจำตัวเรา

หม่ำอร่อยนี่ซื้อมาทั้งเล่ม 1 กะ 2 แต่เล่มสองให้เพื่อนที่ทำงานยืมไปอ่านก่อน เพราะลูกเค้าโตกว่าเรา  เล่มถัดมานี่ก็ดีเหมือนกันค่ะ ส่วนเล่มที่ 3 นี่แถมมากับเครื่องนึ่ง+ปั่น

สามเล่มนี้ก็นั่งเปิดอ่านมันทุกวันตอนกลางคืน เวลานั่งปั้มนม ก็อ่านไปเรื่อยๆ เพลินดี ได้ไอเดียในการซื้อผักผลไม้มาทำอาหารให้เค้าได้หลายอย่างอยู่นะ

แต่ก่อน (หมายถึงก่อนที่จะได้เจ้าเครื่อง Avent นี้มานะ) เราจะทำอาหารให้เค้าอาทิตย์ละครั้ง ทำครั้งเดียววันเสาร์แล้วก็จะแช่ฟรีซเอาไว้ให้พี่เลี้ยงเอามาอุ่นให้เค้าทานทุกวัน วันละกระปุก

แต่เดี๋ยวนี้เราสามารถทำให้เค้าทานใหม่ๆ สดๆ ได้ทุกวันเลย เพราะเจ้าเครื่อง Avent นี้ละคะ ก็ตอนเช้าตื่นมาก็มาเอาข้าว+ถั่ว แล้วก็เนื้อปลาที่ฟรีซเอาไว้เข้าเครื่องนึ่ง แล้วก็เตรียมหั่นผักเข้าเครื่องนึ่ง Avent แล้วก็ไปทำอย่างอื่นสักพัก กลับมาอีกทีก็พลิกอีกด้านเพื่อปั่น เท่านี้ก็เสร็จ ง่ายมากเลยค่ะ

แต่ละวันเราก็สามารถเปลี่ยนเมนูผักให้เค้าได้ทานหลากหลายได้มากขึ้น ไม่ต้องซ้ำซากจำเจตลอดทั้งอาทิตย์ 

อีกอย่างเครื่องนี้ก็ใช้งานง่ายมาก ทั้งพี่เลี้ยง และคุณย่าก็สามารถทำแทนเราได้เลย

lil' Ice at 8 months 12 days

หนูทานอาหารที่คุณแม่ทำให้ หมดทุกวันเลยค่ะ

แล้วหนูก็ชอบดื่มน้ำผลไม้ที่คั้นใส่แก้วใบนี้มากด้วยเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นน้ำผลไม้นี่จับไม่ปล่อยเลย จนกว่าจะดูดหมด

lil' Ice at 8 months 6 days

รายละเอียดวิธีที่เราทำอาหารเสริมให้เจ้าตัวน้อย ลองไปอ่านเล่นๆ เผื่อใช้เป็นแนวทางได้ที่นี่นะคะ

ครบ 6 เดือน ต้องเริ่มอาหารเสริมแล้ว
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=comeandsee&month=28-02-2012&group=14&gblog=12

Create Date : 20 เมษายน 2555
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 9:04:19 น.		9 comments
Counter : 21844 Pageviews.
Share Tweet