ตอนช่วงที่ลูกเรายังอายุน้อยๆ ตอนนั้นเรายังไม่รู้จัก "จักรยานทรงตัว หรือ Balance Bike" เลยค่ะ ก็เลยมองหาแต่รถจักรยาน 3 ล้อแบบนี้ ตอนนั้นเล็งของ Radio Fryer แบบนี้เอาไว้ อยากได้มาก ตัดสินใจจะสั่งออน์ไลน์ดีหรือไม่ดี ลังเลอยู่นาน แต่โชคดีที่เราลังเลนะคะ เพราะว่าเราไม่เคยเห็นของจริงเลย เห็นแต่ในรูปอย่างเดียว เห็นว่ามันปรับเบาะถอยหลังหรือไปข้างหน้าได้ก็คิดว่าดี แต่พอไปเห็นตัวจักรยานของจริงที่ร้านแถวหลังตึกการบินไทย เลยยกเลิกควาามอยากได้เลยค่ะ มันเล็กเกินไป เล็กจริงๆ แต่บอกตามตรงว่าตัวจักรยานมันน่ารักจริงๆ ค่ะ แต่พอคิดถึงขนาดแล้วก็ต้องตัดใจ

จนสุดท้ายก็มาได้เจ้าจักรยานคิตตี้คันนี้นี่ละคะ แต่ก็เอาไว้เข็นเล่นๆ ไปมาในบ้านนอกบ้านบ้างแค่นั้นเอง เด็กวัยนี้ยังไม่กำลังเท้าปั่นเท่าไหร่ จักรยานคันนี้ก็ดีค่ะ เล่นได้สนุกอยู่ช่วงนึง เข็นพาไปขี่จักรยานเล่นนอกบ้านได้ แต่พอเค้าเริ่มเดินเก่งมากขึ้น จักรยานคันนี้ก็หมดความหมายละ เพราะเธอจะชอบวิ่งมากกว่า

จนเราได้มารู้จักเจ้า "จักรยานทรงตัว" ของ Strider นี่ละคะ เลยนั่งหาข้อมูลอยู่พักนึง เห็นว่ามันดีจริงๆ เด็กๆ แทบทุกมุมโลก จะชอบจักรยานทรงตัวมาก เราหาข้อมูลอยู่นานจนตัดสิตใจว่าจะซื้อยี่ห้อ Strider นี่ละ น่าจะเหมาะที่สุดแล้ว

เลยตัดสินใจถอย Strider St-3 สีชมพูมาก่อนเลย คำว่า ST-3 นี่คือรุ่นนะคะ มันจะออกมาเป็นรุ่นๆ ตั้งแต่ st-1 st-2 st-3 ตอนที่เราซื้อ ST-3 ตัวนี้ รุ่นใหม่กว่านี้ยังไม่ออกมานะคะ ตอนนั้นได้ราคาน่ารักมาที่ 2800 บาทได้นะ ถ้าจำไม่ผิด

อันนี้เป็นเบาะรถเทียบกันค่ะ เบาะด้านขวามือจะเป็นเบาะแบบปกติที่มากับตัวรถ จะเป็นพลาสติกแข็งๆ เลย แต่ได้ยินว่าเด็กๆ จะไม่ค่อยชอบเพราะมันแข็งเกิน เราก็เลยให้ที่ร้านเสริมเบาะนิ่มให้เลยค่ะ ราคาค่าเสริมคุ้นๆ ว่าจะประมาณ 150-200 บาทนี่ละคะ พอเสริมมาแล้วก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามรูปซ้ายมือเลยค่ะ เทียบกัน

อันนี้เบาะของเราที่เสริมมาเรียบร้อยแล้ว แต่แอบเสียใจที่ทำใบเบาะข้างในมันไม่เป็นสีดำตามแบบ standard ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นสีชมพูให้เราน๊า เราไม่ชอบเลย แต่ทำงัยได้ของมันทำมาแล้ว ไม่อยากเรื่องมากแล้วค่ะ

ได้ของมาครบเรียบร้อย สองพ่อลูกก็ช่วยกันประกอบเลยค่ะ แต่ประกอบเสร็จแล้วก็เล่นแป๊บๆ ก็เลิกนะคะ แล้วเธอก็ไม่จับอีกเลย คงเป็นเพราะยังเล็กเกินไป ยังประคองรถเองไม่ได้

เราซื้อรถคันนี้ตอนลูกได้ขวบครึ่งได้มั้งค่ะ วางไว้นาน เก็บลืมเลย ลูกไม่เหลียวแล ไม่ใยดีเลยค่ะ เลยขนขึ้นไปเก็บห้องเก็บของอยู่พักนึง

ยังไม่ถอดใจนะคะ เพราะเรามีความมั่นใจเล็กๆ ว่าของมันวางไว้ก็ดีอยู่แล้ว ให้ลูกได้เห็นทุกวันจะได้ชินๆ ทำความรู้จักกันไว้

ให้บังเอิญว่ามีเพื่อนมาชวนเสียตัง ชวนถอยจักรยานอันปังหรือคิตตี้ของญี่ปุ่นกัน ไอ่เราก็เห็นว่าจักรยานมันน่ารักมีรูปตุ๊กตา น่าจะดึงดูดให้ลูกชอบเล่นจักรยานในระยะแรกได้ ก็เลยตัดสินใจเลือกถอยอันปังมาค่ะ 1 คัน จักรยานของจริงมันน่ารักมากเลยค่ะ

พาไปเล่นไถจักรยานกับเพื่อนๆ บ่อยๆ เค้าก็ชอบนะคะ ก็ไถๆ ไปเรื่อย แต่อาจจะไม่เก่งเท่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพราะไม่ค่อยได้ซ้อมเท่าไหร่

แต่ดูแนวแล้ว ลูกสนุกมากเลยค่ะ ที่ได้ไปเล่นจักรยานกับเพื่อนๆ

ตอนช่วงนั้นเลยมีจักรยานทรงตัว 2 คัน แต่ก็ตัดสินใจปล่อย strider สีชมพูให้เพื่อนไป เพราะคิดว่าลูกชอบเล่นจักรยานที่มีรูปการตูนน่ารักๆ มากกว่า แล้วเราคิดว่าเราตัดสินใจถูกนะคะ เพราะเค้าหยิบจักรยานขึ้นมาเล่นบ่อยมากขึ้นกว่าเดิม

พอเริ่มเล่นมากขึ้น เริ่มจะคล่องละ ไถเป็นละ เราก็เริ่มมองแล้วว่าเจ้าจักรยานอันปังนี่มันหนักอยู่เหมือนกันนะเนี่ย

แล้วที่สำคัญเลย .... จากที่เรานั่งสังเกตตอนลูกเล่นจักรยานมานาน  ลองสังเกตรูปข้างล่างนะคะ ตรงสัดส่วน proportion ระหว่างอานเก้าอี้ กับความสูงของมือจับ แล้วมือจับที่โค้งเข้าหาตัวเด็ก และระยะห่างระหว่างลำตัวเด็กกับแขน มันใกล้กันมากเกิน มันทำมาไม่เหมาะที่จะฝึกให้เด็กทรงตัวบนจักรยานเลยค่ะ มันเหมาะกับเป็นของเล่นๆ ให้เด็กได้ไถไปมาสนุกๆ แค่นั้นเอง เพราะจากสัดส่วนที่เห็นตามรูป เด็กจะไม่มีกำลังแขนที่จะบังคับแฮนด์จักรยานได้ เพราะข้อศอกก็พับอยู่ แถมแฮนด์จับก็สูงอีกต่างหาก

พอเริ่มเห็นว่าท่าจะไม่เหมาะแล้ว เราก็เลยมองหาจักรยานทรงตัวคันใหม่ คราวนี้น่าหาคันที่ดีไปเลย เพราะลูกเริ่มชอบละ เล่นบ่อยๆ แล้วด้วยสิ 

ตอนนั้นเนี่ย Strider ST-4 ออกใหม่แล้วค่ะ ราคาตอนนั้น 3990 บาท แล้วก็มีตัวเลือกใหม่มาอีกหลายยี่ห้อเลย แต่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มรู้จัก Strider Pro เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ราคาก็สูงทีเดียว เทียบน้ำหนักก็ Strider Pro อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม เบากว่า st-4 เยอะเลย สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเอา Strider Pro มาค่ะ เหตุผลก็คือเรายังเชื่อใจในแบรนด์ Strider ที่มีมานานมากกว่า

แล้วก็สั่งเบาะสีขาวมาเพิ่ม 1 อัน ให้เสริมเบาะนิ่มไปด้วย (ราคา 500 บาทถ้วน) แต่ตอนนั้นลืมนึกไปว่า ตัว accessory เบาะที่ให้เสริมมันเป็นก้านเบาะรุ่นเก่า มันจะหนักพอสมควร เลยลังเลว่าจะเอาก้านเบาะของ Pro ไปเสริมอีกอันดีมั้ยเนี่ย เอาไว้ก่อนดีกว่านะ หมดตรูดดดแย้ว

ได้จักรยานคันนี้มา ลูกชอบมากเลยค่ะ คงเป็นเพราะ นน รถเบาขึ้นกว่าเดิมเยอะ เค้าสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นแล้ว

สังเกตแขนเด็กกับลำตัวนะคะ มันมีระยะห่างที่พอดี แขนตรงไม่พับ ทำให้เค้ามีกำลังแขนที่จะกดแฮนด์ลงแล้วบังคับแฮนด์รถได้ดีขึ้น มันช่วยจริงๆ ค่ะ ลองสังเกตกันดู

ลองดู Proportion ของรถนะคะ เทียบกับ อันปังข้างบน อันนี้ Strider มันใช่จริงๆ ค่ะ ตอบโจทย์แม่ได้ครบทุกข้อเลย ไม่เสียดายเงินที่ตัดสินใจเลือกคันนี้มาเลยค่ะ 

ไปเที่ยวทะเล หรือไปเที่ยวไหน ๆ ก็เอา strider ไปขี่เล่นได้ด้วยเสมอ ลูกชอบจริงๆ ค่ะ แต่รองเท้านี่ควรจะใส่ผ้าใบหุ้มส้นเรียบร้อยจะดีกว่านะคะ ใส่ crocs เล่น strider นี่ไม่ควรเลย อิอิ

คุยเรื่องจักรยานมาเยอะแล้ว ไปคุยเรื่องหมวกกันน๊อคกันต่อค่ะ

หมวกกันน๊อคเด็ก

อย่างที่บอกค่ะ เราเป็นคนช่างเลือก เรื่องเยอะ เวลาเลือกของแต่ละชิ้น ก็มีเลือกผิดเลือกถูกบ้าง พอมาเรื่องหมวกกันน๊อคก็เริ่มเรื่องเยอะอีกแล้วค่ะ เพราะว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญเลย ช่วยป้องกันศรีษะลูกเวลาล้มได้ เลยต้องเลือกอันที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยจริงๆ ไม่เลือกยี่ห้อที่เป็นการ์ตูน หรือทำเพื่อความสวยงามแน่นอนค่ะ ความปลอดภัยมาก่อนเสมอ

นี่เลยค่ะ รูปนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เรามากๆ เลย เห็นหมวกใบนี้แล้วปิ๊งเลยค่ะ มันสวยมาก แถมรับกับหัวเด็กได้ดูดีสุดๆ เลยพยายามหาชื่อยี่ห้อ แล้วไปหาข้อมูลว่ายี่ห้อนี้เป็นยังงัย ดีมั้ย แต่ตอนนั้นก็แอบชอบหมวกกันน๊อคของ Nutcase อยู่นะคะ ชอบมากเลยแหละ แต่อ่านรีวิวมาหลายที่แล้ว บอกกันเป็นเสียงเดียวว่า Nutcase มีช่องระบายอากาศน้อยมาก รูเล็กด้วย ใส่แล้วเด็กจะร้อน หัวเปียกกัน แล้วข้อแนะนำในการเลือกหมวกกันน๊อค จะบอกตรงกันเลยว่า ให้เลือกหมวก ที่มีช่องระบายอากาศใหญ่ จะทำให้ระบายอากาศได้ดี หัวไม่เปียก ลองสังเกตหมวกผู้ใหญ่นะคะ ช่องระบายอากาศใหญ่มาก ตรงนี้มันสำคัญจริงๆ ค่ะ

แล้วก็นั่งหาข้อมูลอีกสักพักนึง ดูยี่ห้ออื่นไปด้วย อ่านโน่นนี่นั่นไปเรื่อย สุดท้ายเราก็ตัดสินใจว่าจะซื้อยี่ห้อ Specialized นี่ละ น่าจะดีที่สุดแล้ว

แต่ปัญหาคือ เมืองไทยไม่มีขาย .... !!! มีอยู่ร้านเดียว คือร้านขายจักรยานใต้ตึกอื้อจื่อเหลียง ลองโทรไปถามแล้ว ปรากฏว่าไม่มีไซส์เด็กเล็กเลย มีไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แล้วมีแต่สีดำ ด้วย ใบนึงก็สองพันกว่าบาทละ

เอางัยดี .... เลยตัดสินใจสั่งจากอีเบย์ละกัน ไหนๆ ก็สั่งแล้ว เลยสั่งมา 2 ใบเลยละกัน ใบนึงก็ไซส์เล็ก จะเป็นรุ่น Small Fry Toddler ค่ะ รุ่นนี้เหมาะกับเด็กอายุถึงประมาณ 3 ขวบ ที่มีรอบหัวประมาณ 44-52 เซนติเมตร ด้านในปรับระดับความกระชับได้ตามรอบหัวจริงเลยค่ะ

รุ่นนี้เลยค่ะ ที่ใส่ประจำอยู่ตอนนี้ จะสังเกตว่าช่องระบายอากาศใหญ่จริงๆ ชอบตรงนี้ละคะ แล้วก็ใส่แล้วกระชับมาก วัสดุดีจริงๆ

ส่วนอีกใบที่สั่งมาจะเป็นสีชมพู จริงๆ อยากได้สีแบบนางแบบในรูปใส่ค่ะ แต่ว่าหายากจริงๆ อันนี้เป็น 2 ใบที่เราพอจะหาได้ ณ ตอนนั้น แล้วราคารับได้นะคะ เลยต้องเอามา ใบนี้ไซส์ใหญ่กว่าใบสีฟ้าข้างบน เป็นรุ่น Small Fry Child เหมาะกับเด็กอายุ 3-7 ขวบ ขนาดหมวกรอบหัวประมาณ 47-55cm เป็นอีกใบที่เราชอบจริงๆ ค่ะ ช่องระบายอากาศใหญ่สมใจจริงๆ

เราชอบสายรัดของยี่ห้อนี้นะคะ มันดูดี ดูมีคุณภาพเลยล่ะ

สนับเข่า-ข้อศอก

มีจักรยานแล้ว มีหมวกกันน๊อคแล้ว ที่ลืมไม่ได้คือสนับข้อศอก กับเข่านะคะ ถึงลูกจะไม่ค่อยชอบให้ใส่ แต่ก็ต้องมีเก็บไว้ เผื่อไว้เสมอค่ะ

ตอนนี้ลูกเราก็ไม่ค่อยยอมใส่ค่ะ แต่ก็ยังโอเคเพราะตอนนี้เธอยังเล่นเบาๆ ไม่เร็วมาก แต่ต่อไปคงจำเป็นเพราะคงเริ่มทรงตัวได้บ้างแล้ว ตอนนั้นคงต้องใส่กันล้มเข่าข้อศอกกระแทก ไม่งั้นแผลเต็มตัวแน่ๆ อันนี้ซื้อแบบเน้นสวยงามน่ารักอย่างเดียวเลยค่า ไม่ได้เข้ากับหมวกเล้ยยย

ความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับจักรยานทรงตัว ที่เราเคยสรุปแปลเป็นภาษาไทย เก็บไว้อ่านเองนานแล้วค่ะ เอามาแปะๆ แบ่งปันกัน

ข้อที่ 1 สำคัญที่ขนาดของจักรยาน กับความสูงของเด็ก

ความสูงของเบาะนั่งเมื่อตั้งไว้ที่ระดับความสูงที่ต่ำที่สุดเทียบกับความสูงของเด็กจากพื้นไปจนถึงเป้ากางเกง (Inseam Length)  ควรจะต้องมีพื้นที่เหลือไว้ประมาณ 1 นิ้ว ยกตัวอย่างเช่น วัดความสูงของเด็กจากพื้นไปจนถึงเป้ากางเกงได้ที่ 13 นิ้ว ความสูงของเบาะนั่งจากพื้น ควรจะได้ประมาณ 12 นิ้ว ให้มีช่องว่างไว้ประมาณ 1 นิ้ว  แต่ถ้าวัดความสูงของเด็กได้ที่ 11 นิ้วเทียบกับเบาะที่สูงถึง 12 นิ้ว เด็กจะเล่นได้ไม่ถนัด บังคับรถได้ยาก และจะทำให้เด็กไม่อยากจะเล่นจักรยานได้ เพราะแค่ขึ้นเล่นครั้งแรกก็รู้สึกไม่สะดวกสบายแล้ว

โดยปกติแล้วเด็กอายุประมาณ 18 เดือน จะมีความสูงของช่วงหว่างขา (Inseam Length) ประมาณ 11 นิ้ว  และจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 12 นิ้ว เมื่ออายุเข้า 2 ขวบ ซึ่งจะเหมาะกับความสูงของเบาะที่ต่ำที่สุดของ Strider ได้ที่ 11 นิ้ว และเมื่อเด็กอายุ 3 ขวบเข้า 4 ขวบ  ช่วงขาของเด็กจะยาวขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงมีความสูงของช่วงหว่างขาที่ 16 นิ้ว หรือมากกว่านี้ ซึ่งจะเหมาะกับความสูงของเบาะนั่งของ Strider ที่สามารถปรับได้สูงสุด 16 นิ้ว และถึงตอนนั้นเบาะนั่งอาจจะเล็กไปต้องเปลี่ยนขนาดเบาะนั่งใหม่ให้ยาวขึ้น ซึ่ง Strider มีเบาะขนาด XL จำนวนเป็นอะไหล่ด้วย

สาระสำคัญของจักรยานทรงตัวที่เหมาะสำหรับเด็กวัยขวบครึ่งคือน้ำหนักเบาและมีอานนั่งที่สั้น ส่วนเบรกและที่วางขาไม่มีความจำเป็น

ข้อที่ 2 ขนาดของโครงจักรยาน และการปรับ

จักรยานทรงตัวแต่ละยี่ห้อจะมีโครงสร้างแตกต่างกัน บางยี่ห้อมีโครงสร้างเล็กและสามารถปรับเปลี่ยนได้เยอะ แต่อาจจะไม่เหมาะกับเด็กโต (ปรับความสูงของเบาะ และมือจับ) บางยี่ห้อมีโครงสร้างไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่ปรับเปลี่ยนได้น้อย บางยี่ห้อมีโครงสร้างใหญ่และปรับเปลี่ยนได้เยอะ ซึ่งจะไม่เหมาะกับเด็กเล็ก

ข้อที่ 3 จักรยานที่ทำด้วย Metal

จักรยานจะทำด้วย steel หรือ aluminum alloys ซึ่งทำให้จักรยานมีน้ำหนักเบา แต่จักรยานที่ทำด้วย  Steel จะมีน้ำหนักมากกว่า และขึ้นสนิมได้เมื่อมีโดนขูดขีด แต่สามารถรับน้ำหนักคนขี่ได้ถึง 100 ปอนด์ ในบางยี่ห้อ ส่วนจักรยานที่ทำด้วย Aluminum จะมีน้ำหนักเบากว่า แต่รับน้ำหนักคนขี่ได้น้อยกว่า โดยปกติไม่เกิน 75 ปอนด์

แต่จักรยานที่ทำจาก composite จะมีน้ำหนักเบามาก แต่รับน้ำหนักคนขี่ได้มากเช่นกัน แต่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังใหม่ในตลาดจักรยานทรงตัว

ข้อที่ 4 น้ำหนักของจักรยาน

จักรยานที่มีน้ำหนักถึง 10 ปอนด์ หรือประมาณ 4.5 กิโลกรัม จะหนักเกินไปสำหรับเด็กอายุ 2 ขวบ ซึ่งจะควบคุมรถได้ยาก แต่จะง่ายสำหรับเด็กอายุมากกว่า 3.5 ขวบไปแล้ว  สำคัญที่จักรยานยิ่งมีน้ำหนักเบาเท่าไหร่จะยิ่งทำให้เด็กควบคุมรถได้ดีมากขึ้นเท่านั้น

Strider แจ้งว่าน้ำหนักจักรยานของเค้าน้อยกว่า 6.4 ปอนด์ (หรือน้อยกว่า2.9 กิโลกรัม)

ข้อที่ 5 ยางรถ

จักรยานทรงตัวจะมียางอยู่ 4 ประเภท ยางที่ไม่ต้องใช้ลม ยางที่ต้องใช้ลม  ยาง EVA Foam และ Hard Rubber

ยางที่ไม่ต้องใช้ลม ข้อดีคือน้ำหนักเบา ไม่ต้องบำรุงรักษา ดีสำหรับการขี่ในบ้านและบนฟุตบาทถนน ข้อเสียคือ หากหน้ายางสึก จะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งอัน แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่

ส่วนยางที่ต้องใช้ลม ข้อดีคือ ทน และทำให้การขี่นิ่มกว่า  ยางประเภทนี่จะดีสำหรับการขี่บนทางขรุขระ  ข้อเสียคือต้องมีการบำรุงรักษา เติมลมยาง อาจะต้องมีซ่อมปะยางได้ และยางประเภทนี้ค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควร และจะต้องมีอุปกรณ์เติมลมจักรยาน

ยางประเภท Foam จะมีน้ำหนักเบา ทนทาน และไม่มีแบน ไม่สามารถเจาะยางให้เป็นรูได้ และเป็นยางประเภทที่เหมาะสำหรับเด็กเริ่มหัดเล่นจักรยานทรงตัว แต่จะต้องเปลี่ยนเมื่อยางใช้งานไปนานและสึก ดังในรูปที่จะเห็นว่าดอกยางเริ่มหายไปแล้ว ตรงนี้ต้องเปลี่ยนล้อใหม่ทั้งอัน ในการใช้งานของเด็กเล็กล้อจะไม่สึกง่ายขนาดนี้ แต่ถ้าเด็กโตเล่นคล่องแล้ว และมีการใช้งานหนัก เล่นในพื้นหินขรุขระก็จะสึกเร็วตามในรูป

เด็กในช่วงอายุ 2 ขวบครึ่ง หรือต่ำกว่านี้ จักรยาน Strider จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ในเรื่องของความสูงของเบาะนั่งที่สามารถปรับได้ต่ำสุดที่ 11 นิ้ว และปรับสูงสุดได้ถึง 16 นิ้ว มากที่สุดในบรรดาจักรยานทรงตัวทุกยี่ห้อ เทียบกับน้ำหนักที่เบาประมาณ 3 กิโล นั่นก็คือความคุ้มค่าของจักรยานยี่ห้อนี้ที่เทียบกับยี่ห้ออื่น

ที่สำคัญอีกข้อคือให้จักรยานทรงตัวเบาและธรรมดาที่สุด ไม่ควรติดกริ่งที่จักรยาน

ในเรื่องของราคาจักรยานทรงตัว ควรจะเตรียมเงินไว้ประมาณ 3000 พันบาท สำหรับจักรยานที่มีคุณภาพ จักรยานราคาถูกมีขายทั่วไป แต่จักรยานที่มีคุณภาพสูงย่อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ซึ่งจะมีมูลค่าขายต่อที่สูง และอายุการใช้งานที่ยาวนาน จักรยานที่มีคุณภาพสูงจะมีความปลอดภัยมากกว่าจักรยานราคาถูก อย่างเช่นในเรื่องของคุณภาพยาง และ...

จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำที่ทำให้เด็กสามารถทรงตัวบนจักรยานที่ความเร็วต่ำได้ (low center of gravity allows kids to balance and remain balancing at slower speeds)

Create Date : 06 พฤษภาคม 2557
Last Update : 21 กรกฎาคม 2557 8:49:08 น.		14 comments
Counter : 26825 Pageviews.
Share Tweet