If you love someone, do not think of what she or he does for you. But think of 'Have you done anything for him or her yet?'...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
1.3 ขวบ หนูเลิกจุกหลอกแล้ว

แบ่งปันเรื่องราว ประสบการณ์ ให้แม่ๆ ที่ให้น้องใช้จุกหลอกนะคะ ... 

 

เริ่มแรกเราก็ไม่ได้ใช้จุกหลอก เพราะที่บ้านเราปู่กับย่าไม่ชอบจุกหลอกมากๆ (แบบว่ามากที่สุด) เคยเกริ่นๆ ว่าจะซื้อมาใช้ก็โดนบ่นทันทีเลยว่าไม่อยากให้หลานใช้ ไม่ต้องซื้อมา

ช่วงแรกๆ ที่ไม่ได้ใช้ เหม่งน้อยเราก็กินนมเก่งมาก กินเกือบตลอดเวลา จนน้ำหนักขึ้นพรวดๆ อ้วนจุ้มปุ๊กเลยล่ะ แล้วก็จะร้องเก่งมากกก ช่วง 3 เดือนแรก จนเกือบจะเข้าเดือนที่ 2 คุณพ่อเค้าคงเห็นว่าไม่ไหวล่ะ ร้องเยอะเกิน (แต่ไม่ได้ร้องโคลิกค่ะ) พอร้องเยอะเสียงดัง คุณปู่คุณย่าก็บ่นอีกว่าร้องเยอะ เป็นไรหรือเปล่า คุณพ่อก็เลยตัดสินใจไปซื้อจุกหลอกมาให้ลูก (ไปซื้อเองคนเดียวด้วยนะ แล้วไม่บอกใคร กลับมาบ้านพร้อมจุกหลอก 2 กล่อง 4 อัน เลือกของ Avent มาด้วย ใช้ได้เลย) เหตุผลที่ไปซื้อมาอีกข้อก็คือคุณหมอแนะนำว่าเป็นวิธีที่จะลดปริมาณนมที่เค้าทานได้ค่ะ เพราะเด็กวัยนี้ไม่รู้ว่าหิวคืออะไรแต่ด้วยธรรมชาติเด็กก็อยากจะดูดๆ อย่างเดียว แล้วก็ช่วงนั้นแบบว่า overfeeding กลางคืนนอนครืดคราด กินจนล้นออกทางปากทางจมูกทุกครั้งเลยตอนกลางคืน หลายๆ อาการตรงกับ overfeeding เลย ก็เลยคิดว่าเจ้าจุกหลอกจะช่วยให้เค้าทานนมน้อยลง แล้วก็ร้องน้อยลงด้วย

พอเอามาใช้เจ้าเหม่งน้อยก็ดีขึ้นค่ะ ทานนมเป็นเวลา ร้องน้อยลง คนเลี้ยงที่บ้านก็เครียดน้อยลงด้วย

 

 

เราก็ใช้มาเรื่อยๆ ก็ช่วยได้เยอะ ช่วงกลางคืนก็ช่วยให้เค้าหลับได้ดี แต่ก็พยายามดึงออกถ้าเค้าหลับแล้ว แต่ถ้ากลางคืนร้องก็เอาจุกใส่ปากก็จะเงียบ นอนได้นานเลย ส่วนกลางวันก็เหมือนกัน

 

ปฏิบัติการ ละ ลด เลิก

จนเจ้าเหม่งน้อยจะเข้าขวบโน่นแน่ะคะ ก็มีคุยกับเพื่อนๆ เรื่องจุกหลอกว่าจะเลิกกันยังงัย จะต้องทำยังงัย กลัวลูกไม่เลิก เดี๋ยวฟันไม่สวยนะ เดี๋ยวปากเจ่อนะ เราก็เครียดสิ เอาไงดี

ว่าแล้ว เราก็นั่งคิดนอนคิดว่าจะทำยังงัยดีให้เค้าใช้จุกน้อยลง แล้วค่อยๆ เฟดหายไป เริ่มแรกเลยเราตัดสินใจเก็บจุกหลอกที่เคยซื้อมาใช้ที่มีสีสันสวยงาม เก็บให้หมด แล้วซื้อ lot ใหม่มา แต่ให้เป็นสีขาวใส ไม่มีลวดลายดึงดูดใจ

แบบนี้เลย

 

ก็เริ่มใช้แบบสีใสมาตั้งแต่ใกล้ขวบ จนขวบนิดๆ ก็เตรียมเริ่มแผนสอง คือปกติตอนกลางวันเหม่งน้อยจะอยู่กับพี่เลี้ยง แล้วก็คุณย่าใช่มั้ยค่ะ แล้วคุณย่าเนี่ยช่วงหลังๆ ชอบเจ้าจุกหลอกมากกกก กลางวันชอบพาหลานเข้านอน (แบบว่าชอบให้นอนเยอะๆ) ก็จะให้เค้าเอาจุกไปอมเล่น เดินเล่น นานนนน เลย กว่าจะนอน

เราก็ไม่เข้าใจนะคะว่าแต่ก่อนเห็นไม่ยอมให้ใช้จุกหลอก แต่พอเดี๋ยวนี้เรียกหาจุกหลอกให้หลานตลอดเลย เห็นพูดบ่อยๆว่าเดี๋ยวฟันไม่สวย เดี๋ยวโน่นนี่นั่น แต่ก็ยังหยิบจุกมาให้เค้าจุ๊บๆ เล่นตลอด

ช่วงกลางวันเราก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะเหม่งน้อยอยู่กับคุณย่า กับพี่เลี้ยง แต่ก็คอยบอกพี่เลี้ยงว่าให้ช่วยลดการใช้จุกหลอกหน่อยน๊า ใช้ให้น้อยลง ถ้าหลับแล้วก็รีบดึงออกเลย (ประมาณนั้น ทำได้แค่นี้ล่ะ)

 

แผนสองของเรา ... ก็คือเริ่มปฏิบัติการเลิกจุกหลอกตอนกลางคืนนี่ล่ะ รู้ว่ามันยากนะ เพราะเด็กส่วนใหญ่ยังชอบจุ๊บๆ ตอนก่อนนอนกลางคืน แล้วก็ดึกๆ ก็ยังมีตื่นมาร้องไห้ขอจุ๊บๆ อยู่ แต่ก็เป็นทางเดียวที่เราจะทำได้ด้วยตัวของเรา ถ้าจะเริ่มปฏิบัติการเราก็ต้องทำใจว่าต้องตื่นบ่อยๆ ขึ้นแน่นอน (ปกติกลางคืนนี่ใส่จุกในปากให้เค้า เค้าก็จะหลับต่อได้เองค่ะ ส่วนใหญ่เค้าจะตื่นมาขอจุกตอนกลางคืน 1-2 ครั้ง แต่บางคืนก็หลับยาวเลยก็มี แต่นมมื้อดึกนี่เลิกไปนานแล้วค่ะ เลิกตั้งแต่ 3 เดือนแล้ว โชคดีไป)

ก่อนนอนตอนกลางคืน เราก็ให้เค้าทานนมแล้วก็พยายามเล่าโน่นนี่นั่นเพลินๆ ให้เค้าหลับเองได้โดยไม่ต้องใช้จุก ก็มีตบก้นตบตูดลูบหลังไปบ้าง ถ้าดูแนวโน้มว่าไม่หลับขอจุกก็จะให้ค่ะ พอหลับก็จะดึงออกเลย พอกลางดึกถ้าขอเราก็จะตื่นเลย แบบว่ามาตบก้น ลูบหลัง เปิดเพลงกล่อม  หรือร้องเพลงกล่อมให้เค้าหลับต่อเอง แต่ก็ดูแนวโน้มนะคะว่าถ้าไม่ไหวเค้าจะเอาจริงๆ เราก็ใส่จุกให้ค่ะ ก็พยายามตื่นมาใช้เวลากับลูกให้มากกว่าปกติ บางคืนก็ได้ผล บางคืนก็ไม่ได้ผล สลับกันไป จนสุดท้ายผ่านไป 1 เดือนที่เราตั้งใจอยู่กับเค้า ทั้งก่อนนอน และช่วงกลางดึกก็ได้ผลค่ะ .... กลางคืนก่อนนอนไม่ต้องใช้จุกแล้ว หลับเองได้ แล้วกลางคืนก็ไม่ตื่นมาร้องขอจุกแล้วค่ะ มีแต่ร้องปีนมาขอนอนกับพ่อแม่บ้างบางครั้ง

ช่วงเดือนนั้นเราเหนื่อยมากเลยค่ะ กลางคืนก็ต้องตื่นเองตลอด (ปกติจะสลับกับคุณพ่อตื่นมากลางคืนใส่จุกแล้วก็หลับต่อ) ก็ปล่อยให้คุณพ่อหลับไป เพราะเราต้องใช้เวลากล่อมเค้าให้หลับต่อเองให้ได้ แต่จุดสำคัญคือ ถ้าเค้ายังงอแงขอจุ๊บๆ จริงๆ ก็ให้จุ๊บค่ะ ไม่ได้ฝืนอะไร แต่ถ้าโชคดีหลับเองต่อได้ก็ปล่อยไป ผ่านไปครึ่งเดือนแรกที่เริ่มวิธีนี้เราก็เหมือนจะท้อนะคะ เพราะดูแนวโน้มไม่มีทีท่าจะเลิกเลย แต่พออดทนไปอีกหน่อยก็เริ่มดีขึ้นค่ะ เริ่มงอแงน้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ

จนสุดท้าย หนูไม่ตื่นมาร้องขอจุ๊บๆ กลางดึกเลยค่ะ หนูเลิกจุกหลอกเองช่วงกลางคืนได้ที่ประมาณ 1.1 ขวบค่ะ  ดีใจมาก แต่ก็ยังวางจุกหลอกเอาไว้บนหัวเตียงตลอดนะคะ เผื่อจำเป็นต้องใช้ พอช่วงเค้าตื่นเห็นจุกก็ปีนจะไปหยิบ ก็จะบอกเค้าประมาณว่า โตแล้ว ไม่ดูดจุ๊บๆ แล้วนะคะ บ๊าย บาย จุ๊บแล้วนะคะลูก เค้าก็ดูเหมือนเข้าใจนะคะ แต่ก็มีให้เราแกะเอามาอมเล่นบ้างพักนึง แล้วก็คืนให้

จากที่เค้าเลิกจุ๊บๆ กลางคืน ส่งผลดีระยะยาวค่ะ เดี๋ยวนี้หลับยาวไม่ตื่นระหว่างคืนแล้วค่ะ เข้านอน 3 ทุ่ม ตื่นอีกทีก็ 7 โมงเช้าเลย เราก็ได้หลับยาวจนเช้าเหมือนกัน รู้สึกว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ ที่อดหลับอดนอนในช่วงแรกๆ เพื่อให้เค้าเลิกจุ๊บๆ กลางคืนได้

อ่อ มันจะมีหนังสือเล่มนึงที่ชื่อว่า bye bye จุ๊บ อะไรสักอย่างด้วย เราเปิดหนังสือเล่มนี้อ่านให้เค้าฟังบ่อยๆ ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการเลิกจุกด้วยค่ะ อ่านทุกวัน เปิดมันทุกวัน แบบว่าวางไว้บนหัวเตียงเลย บางทีเหม่งน้อยเค้าไม่สนใจหนังสือเล่มนี้ เราก็พยายามค่ะ เปิดอ่านคนเดียว ข้างๆ เค้า อ่านไปเรื่อย พูดไปเรื่อย "เห็นมั้ย เด็กหญิงลูกชุบไม่ดูดจุ๊บๆ แล้ว เก่งจังเลย" ให้เค้าฟังจนชินไปเอง 555 พอคราวหน้าบอกเค้าเรื่องจุ๊บๆ เค้าจะเข้าใจนะคะ

 

SmileySmiley

 

กลางคืนเลิกแล้ว ทีนี้ก็เหลือกลางวัน ไม่น่าจะยากเท่าไหร่นะ ก็ขึ้นอยู่กับพี่เลี้ยงกะคุณย่านี่ล่ะ

เราก็ทำได้แค่คุยกับพี่เลี้ยง ขอความช่วยเหลือให้เค้าพยายามกล่อมเจ้าเหม่งน้อยให้นอนกลางวันโดยไม่ต้องใช้จุกหลอก

แรกๆ พี่เลี้ยงก็บอกว่า บางวันไม่ต้องใช้แล้วค่า แต่เราก็สังเกตุนะว่ามันมีจุกหลอกต้องล้าง 1 อันทุกวันเลย แล้วบางวันไม่ต้องใช้นี่มันเป็นยังงัย งงอ่ะ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ปล่อยไปเรื่อยๆ เชื่อใจพี่เลี้ยงเป็นหลัก ก็ได้แค่ถามๆ ตอนเย็นว่าวันนี้นอนตอนบ่ายได้เองหรือเปล่า ถ้าเค้าบอกว่าได้เอง ไม่ต้องใช้ วันรุ่งขึ้นเราก็จะมีขนมของฝากติดมือไปให้พี่เลี้ยงเป็นกำลังใจ

ส่วนคุณย่า... ก็ให้คุณพ่อจัดการค่ะ ฝากเธอให้ไปเกริ่นๆ ให้คุณย่าฟัง ประมาณว่า กลางคืนหลานเลิกจุกหลอกแล้วนะ กลางวันก็ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าใช้นะ เดี๋ยวหลานฟันเหยิน ปากเจ่อ นู่นนี่นั่นไปเรื่อย

 

จนผ่านไปเดือนกว่าๆ เราแกล้งเก็บจุกหลอกเลยค่ะ ทำเป็นว่ามันหายไปจากในกล่องที่เคยเก็บ แบบว่าหายไปไหน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ก็สองวันที่จุกหายไป พี่เลี้ยงก็ไม่ได้หยิบอันข้างบนไปใช้นะคะ (ข้างบนห้องนอนก็จะมีวางไว้ 2 อันเสมอ ไม่ได้เก็บไปไหน แต่อันข้างล่าง 2 อันมันหายไป) เราก็คอยดูใจว่าเค้าจะมาหยิบอันข้างบนลงไปใช้ข้างล่างหรือเปล่า เค้าก็ไม่ได้หยิบค่ะ แล้วเค้าก็คงพยายามใช้วิธีอื่นให้เจ้าเหม่งน้อยหลับได้เอง

5 วันผ่านไปเราก็แกล้งถามพี่เลี้ยงว่าเอ...จุกมันหายไปไหนค่ะ ไม่เห็นเลย พี่เลี้ยงก็บอกว่า สงสัยมันคงตกหล่นอยู่แถวนี้ล่ะคะ เดี๋ยวจะหาให้ แต่เอ่อ น้องเค้าไม่ได้ใช้จุกแล้วนะคะ แต่ก็มีร้องขอ ชี้ไปที่กล่องบ้าง แต่พี่ก็บอกเค้าไปว่า "หนูโตแล้ว ไม่ต้องใช้แล้วนะคะ บ้าย บายจุ๊บๆ แล้วนะคะ" อย่างที่เราสอนให้พี่เลี้ยงบอกเหม่งน้อยอ่ะคะ บอกเหมือนกัน ทำเหมือนกัน จากนั้นเค้าก็ไม่เคยขอจุ๊บๆ อีกเลยค่ะ

 

เลิกเองแบบไม่เสียน้ำตา ไม่เอาจุ๊บๆ แล้ว ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่ประมาณ 1.3 ขวบค่ะ ตอนนี้จุกหลอกเราก็เก็บเข้าตู้หมดแล้ว ไม่มีวางให้เห็นค่ะ หนังสือเล่มนั้นก็เก็บเหมือนกัน

เด็กๆ เหมือนผ้าขาวค่ะ เราสามารถที่จะเติมแต่ง สอนอะไรให้เค้าได้เสมอ  เพียงแต่เราต้องมีความอดทน ใจเย็น เพราะทุกๆ อย่างมันต้องใช้เวลาเสมอ  

"กำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวค่ะ ... " เป็นกำลังใจให้นะคะ เหม่งน้อยทำได้ หนูก็ต้องทำได้ค่ะ

 

 

ปฏิบัติการต่อไปคือ --- >  เ  ลิ  ก  ข   ว  ด  ให้ได้ก่อนเข้าโรงเรียน




Create Date : 10 มกราคม 2556
Last Update : 11 มกราคม 2556 9:49:45 น. 1 comments
Counter : 1761 Pageviews.

 
ขอบคุณนะค่ะ ที่แชร์ กำลังตั้งใจจะให้ลูกเลิกจุกหลอกค่ะ แต่ใจแข็งไม่พอ เห้อออ จะเริ่มใหม่แล้วค่ะ พอเห็นคุณแม่เล่า มีกำลังใจขึ้นเยอะ เพราะทดลองกับลูกมา 3 วันแล้วค่ะ วิธีเดียวกันเลยค่ะ


โดย: คุงแม่โอริว IP: 49.230.187.97 วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:13:50:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bigcrab
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 160 คน [?]




Friends' blogs
[Add Bigcrab's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.