|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
| 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
| 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
| 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
| 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวอังกฤษ - เวลส์ - สก๊อตแลนด์ (วันที่ 10)
วันจันทร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553
วันที่ 10 โปรแกรมทัวร์จัดเอง - Buckingham Palace - Big Ben - London Eye - Harrods
สมาชิกในกรุ๊ปทัวร์จะไปไหนกันเราก็ไม่รู้นะ แต่พวกเราจะไปตามโปรแกรมที่เราจัดกันเอง ตามแต่หัวใจจะบอกมาว่าอยากไปไหน อิอิ ได้ยินว่าสมาชิกทัวร์ในกลุ่มเค้าอยากจะไป British Museum กัน และพี่ไกด์เองก็จะพาไป เนื่องจากในโปรแกรมทัวร์เรามีต้องพาไป British Museum ด้วย แต่พี่ไกด์ skip ไป จริงๆ เราก็ไม่ชอบและไม่อยากเดินมิวเซียมอยู่แล้วก็เลยไม่มีปัญหา เราอยากไปในที่ที่มีคนพื้นที่เดินไปเดินมา อยากได้บรรยากาศริมถนนมากกว่า
"ลืมเล่าไปกว่า กรุ๊ปทัวร์เรารอบนี้มีสมาชิกที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่สิบกว่าคนกลุ่มนึง แล้วก็จะมีครอบครัวเล็กๆ อีก 3 ครอบครัวที่มากันกลุ่มละ 4 คน และมากัน 2 คนครอบครัวนึง กลุ่มของเราซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยในกรุ๊ปนี้ก็ต้องเสียสละพี่ไกด์ให้ไปดูแลสมาชิกที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่แทน เพราะช่วงหลังจากหมดโปรแกรมทัวร์พี่ไกด์ก็ต้องไปดูแลกลุ่มใหญ่นั้นเป็นหลักๆ เลย พวกเราก็แยกตัวกันออกมาจัดทริปไปกันเอง เพราะไม่อยากไปในสถานที่ที่เราไม่อยากไปกัน แต่ไอ่เรื่องจัดทริปแบบนี้ ต้องหาข้อมูลเส้นทางเองนี่เป็นงานถนัดเลย เราเก่งเรื่องจัดทริปไปโน่นไปนี่มาตั้งแต่สมัยอยู่ซิดนีย์แล้ว ถึงตอนนี้กลับมาจากซิดนีย์หลายปีอยู่ ก็ยังมีคนมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยจัดทริป ดูที่พัก แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารอยู่เป็นระยะ ช่วงหลังๆ ก็เลยพยายามเก็บข้อมูลเอาไว้ลงใน Blog ดีกว่าเผื่อว่าใครสนใจจะได้บอกให้มาดูที่บล๊อก เราจะได้ไม่เหนื่อยงัย .... นอกเรื่องไปซะไกล"
กลับมาเรื่องเดิมต่อ ... เช้านี้พวกเราไม่ได้ลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรมเพราะค่าห้องพักเราไม่รวมอาหารเช้า ก็เค้าอุตส่าห์ลดให้เหลือ 90 ปอนด์แล้วยังจะเอาอาหารเช้าอีกเหรอ (แต่ถ้าได้ก็ดีน๊า) พวกเราก็หาอะไรทานกันง่ายๆ
บรรยากาศ Lobby ของโรงแรมที่พวกเราในกรุ๊ปทัวร์ต้องมานั่งประชุมกันตอน 2 ทุ่มทุกวัน เพื่อปรึกษา ช่วยกันคิด เกี่ยวกับเรื่องโรงแรม ห้องพัก เรื่องสนามบิน อัพเดทข่าวสาร อะไรต่ออะไรจิปาถะ คุยกันจนถึงขนาดว่าจะไปสถานทูตกันเพื่อขอวีซ่าด่วน เพื่อข้ามไปฝรั่งเศส เพื่อไปขึ้นเครื่องที่อิตาลีโน่น ... มีแต่คนอยากกลับเมืองไทยเร็วๆ อิอิ แต่เราไม่อยากกลับเร็วๆ นี่สิ ก็เลยเฉยๆ เฉี่อยๆ ไม่ค่อยกระตือรือล้น ลูกทัวร์ไปสถานทูตกัน เราก็ไม่ไป (ไปเที่ยวดีกว่าเนอะ ใช้เวลาที่อยู่ในลอนดอนให้คุ้มค่าดีกว่า)
เช้านี้ก็ใช้ Lobby โรงแรมที่เดิมนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวประจำวันให้ท่านพ่อกับท่านแม่ฟัง ว่าวันนี้เราจะไปที่นี่กันนะ แล้วเดี๋ยวจะต่อด้วยที่นี่ บลา..บลา... จบ ท่านๆ ก็โอเค แต่ก็บอกท่านไปนะคะว่าโปรแกรมเรานี่เดินอย่างเดียว ไม่นั่งรถไฟ รถบัส (เพราะนั่งไม่เป็น ฮ่าๆๆ จริงๆ แล้วขี้เกียจศึกษาเส้นทางรถบัส ส่วนรถไฟใต้ดินหรือ Tube นี่ลืมไปได้เลย ขี้เกียจเดินลงใต้ดิน เพราะพี่ไกด์เคยพาลงไปครั้งนึงมันแบบว่าเดินเยอะมาก แล้วก็อึดอัดด้วย ก็เลยไม่อยากนั่งกัน อยากสูดอากาศบนถนนมากกว่า) แต่เส้นทางที่เดินก็ไม่ไกลมาก ประมาณคร่าวๆ แล้วว่าคงเดินไหว ก็เดินช้าๆ ไปเรื่อยๆ ชมบรรยากาศคนเดินถนนกัน
แผนที่เส้นทางที่เราจะเดินเท้ากันวันนี้ ดูจากแผนที่มันก็ไม่ถึงกับไกลมากนะ พอไหวคับ
พวกเราเริ่มต้นก็ออกเดินทางไป Buckingham Palace เพื่อไปดูทหารม้าเดินสวนสนามกัน ก็ในข้อมูลท่องเที่ยวเค้าบอกไว้ว่าจะเป็นวันนี้เวลานี้แน่นอน พวกเราก็ออกเดินทางจากโรงแรม เดินเท้าไปที่พระราชวังกัน แค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว ไปถึงก่อนเวลาด้วย เห็นมีนักท่องเที่ยวไปยืนจับจองพื้นที่กันค่อนข้างเยอะทีเดียว ยืนคอยสักพัก ก็เห็นแค่ทหารม้าขี่ม้าผ่านด้านหน้าพระราชวัง แล้วก็ผ่านไปแค่นั้น สักพักก็ได้ยินเค้าบอกกันว่า วันนี้ไม่มีเดินสวนสนาม ต้องเป็นพรุ่งนี้ ... แป่ววววว อดเลย
จริงๆ ตามโปรแกรมเราก็ได้ไป Buckingham Palace แล้วนะ แต่เป็นเวอร์ชั่นนั่งรถผ่าน ชะโงกมองจากรถเอาอย่างเดียว ก็เลยรู้สึกว่าอยากจะมาเกาะขอบรั้วดูใกล้ๆ ให้เห็นชัดๆ มากกว่า
ว่าแล้วพวกเราก็เริ่มออกเดินเท้าต่อไปยัง Big Ben ก็เดินไกลพอสมควร ประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ ระหว่างทางก็หยุดถ่ายรูปที่ Westminster Abbey และทิวทัศน์ข้างทางเป็นระยะ แล้วก็นั่งพักเหนื่อยด้วย ตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปกับพี่ Big Ben แล้วก็ขึ้น London Eye ให้ได้ เพราะตามโปรแกรมเรา ไม่ได้แวะ Big Ben เลย แค่เห็นไกลๆ แว่บๆ แค่นั้นเอง
คราวนี้ก็เลยสมใจเสียที เมื่อวานก็ได้ไป Harrods สมใจ เพราะตามโปรแกรมเราก็ไม่ได้ไป พี่ไกด์พาไป Selfridges แทน
ระหว่างเดินขึ้นสะพานก็ถ่ายรูปไปเรื่อยตามปกติ มุมโน้นบ้างมุมนี้บ้าง เดินไม่ค่อยเหนื่อยเพราะอากาศดี กำลังเย็นสบาย เดินตั้งเยอะ เหงื่อยังไม่ตกซักกะหยดเลย แต่เมื่อยขาแทน
ชมวิวบนสะพานสักพัก พวกเราก็มุ่งหน้าไปทาง London Eye แล้วก็แวะกิน Mc Donald เพิ่มพลังกันคนละชิ้น ค่าตั๋วขึ้น London Eye คนละประมาณ 19 ปอนด์ หรือประมาณ 1,000 บาทไทยนี่ล่ะ ราคานี้ก็จะรวม 4D Experience ให้เข้าชมด้วย แต่ไอ่ 4D นี่ก็ไม่มีอะไรมากนะ ไปยืนๆ ดูพักนึกก็เฉยๆ หลังจากนั้นก็เดินเข้าคิว เพื่อที่จะขึ้นกระเช้ากัน ขึ้นไปก็ถ่ายรูปๆๆ ชมวิว เราไม่รู้สึกเวียนหัวเพราะกระเช้าหมุนช้ามากถึงมากที่สุด แทบจะไม่ค่อยรู้สึกเลยว่ากระเช้าหมุนอยู่
ลงจากกระเช้าก็ยังงงอยู่ หมุนครบรอบแล้วเหรอ แป๊บเดียวเอง 4 คน 4,000 บาท หมดแร๊ะ
แล้วพวกเราก็ค่อยๆ เดินข้ามสะพาน กลับไปเส้นทางเดิมที่เราเดินมา แต่ก็แวะห้างโน้นห้างนี้ตามทางไปเรื่อยๆ พอใกล้ถึงโรงแรมผ่านร้าน Mark&Spencer ร้านเดิมที่เราแวะมาตอนเย็น เดินมา 2 วัน เดินจนห้างปิดนั่นล่ะ ท่านแม่ก็เปรยๆ ว่าอยากเข้าไปเดินเล่นอีก ทั้งคุณแฟน ทั้งท่านพ่อ เสียงมาพร้อมกันเลย จะเดินไปทำไมอีก เข้ามันทุกวันเลย เหอ เหอ
กลัวท่านแม่น้อยใจ พวกเราก็เลยเสนอโปรแกรมใหม่บอกว่า เดี๋ยวเย็นๆ สักบ่าย 3 4 จะพาท่านแม่เดินไป Harrods กัน ไปซื้อกระเป๋า กะซื้อของฝากทุกอย่างให้เรียบร้อยเลยดีกว่า แต่ตอนนี้ให้กลับไปพักผ่อนเอนหลังที่ห้องก่อน ท่านแม่ก็เลยยิ้มออก
เกือบบ่าย 4 โมงเย็น พวกเราก็เตรียมตัวออกเดินทางไป Harrods กัน ไม่ลืมเอารายการฝากซื้อจากเพื่อน หลาน คนรู้จัก ที่ฝากๆ กันมา เอาไปด้วย เมื่อวานที่ยังไม่ได้ซื้อก็เพราะลืมเอาโพยพวกนี้ไปนี่ละ ก็เลยตัดสินใจว่าค่อยมาซื้อคราวหน้าแทน วันนี้ก็เตรียมตัวอย่างดี ไปถึง Harrods ก็เลือกๆ ตามโพยแล้วก็ซื้อแบบที่ตัวเองอยากได้กลับมาด้วย ของเราคนเดียวซื้อไปประมาณเก้าพันเก้าร้อยกว่าบาท ของท่านพ่อท่านแม่ก็อีกประมาณเจ็ดพันกว่าบาท
เส้นทางจากโรงแรมไป Harrods ที่เราจะเดินกัน
กำลังจ่ายตังค์
แอบแว่บไปดูกระเป๋า Balen นิดนึงตอนรอเอกสาร claim tax ของ Harrods ไปแอบปิ๊งน้อง Town สีเขียวมะนาว สีสวยมาก ไซส์ก็แบบว่าพอดีเลย ใหญ่กว่า First หน่อยนึง แต่ก็ไม่ใหญ่เท่า City มันเป็นไซส์ที่ใช่เลยสำหรับเรานะ แต่แอบไม่ชอบสายสะพายที่ยาวเกินความจำเป็นไปหน่อย แหม่ถ้าสั้นกว่านี้ก็จะแจ่มไม่น้อย คิดคำนวณราคาเสร็จสรรพ หลังหัก Tax Refund ก็จะเหลือประมาณ 51,xxx เอง แต่ก็ไม่ได้ซื้อมานะ เพราะซื้ออย่างอื่นมาเยอะเหมือนกัน น้ำหนักกระเป๋าก็ท่าทางเกินไปเยอะแล้ว แถมเกรงใจคุณแฟน ก็เลยไม่ได้ซื้อมา เดี๋ยวถ้าอยากได้จริงๆ ค่อยว่ากัน
มื้อเย็นวันนี้ก็นำเสนอท่านพ่อท่านแม่ว่าเราจะไปทานร้านอาหารที่เจ้าหน้าโรงแรมเค้าแนะนำกันมั้ย เค้าบอกว่าถนนด้านข้างสถานี Victoria จะมีร้านอาหารอยู่หลายร้านทีเดียว เป็นร้านอาหารนานาชาติให้เลือกหลายสัญชาติ ทุกๆ คนก็ตกลงไปกัน พอเดินไปถึงโซนร้านอาหารมันมีร้านให้เลือกเยอะจริงๆ เยอะจนเลือกไม่ถูกเลย เราก็เดินไปเดินมาจนไปเจอกับพี่ผู้ชายคนไทยคนนึง เค้าเดินเข้ามาทักพวกเรา เพราะเห็นว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน เค้าก็บอกประมาณว่าถ้าอยากจะไปไหนก็บอกนะ เค้ามีรถบริการให้ด้วยประมาณนั้น แล้วเค้าก็ช่วยแนะนำร้านอาหารให้เราบอกว่าร้านนี้อาหารอร่อย ราคาไม่แพง เป็นร้านอาหารเวียตนาม ก็เลยลองดู เค้าอุตส่าห์เดินพาพวกเราไปส่งให้ถึงหน้าร้านแล้วก็ร่ำลาไป เราก็ดูเมนูกะราคาอาหารหน้าร้านแล้วก็โอเคนะ ราคารับได้ ก็เลยตัดสินใจทานร้านนี้กัน สุดท้ายเราเสียเวลากันที่ร้านนี้พอสมควรเพราะพอเรามานั่งได้แป๊บนึง คนก็เริ่มมากันเยอะจนเต็ม อาหารก็รอนานทีเดียว รอจนหงุดหงิดเพราะหิวนั่นล่ะ แถมตอนเก็บเงินก็นานมาก พวกเราก็เลยไม่ค่อยประทับใจกันเท่าไหร่ รู้งี้กิน Subway ที่เราชอบดีกว่า
นามบัตรร้านที่เราไปทานกัน
หมดไปอีก 1 วัน สนามบินก็ยังไม่เปิด ดีใจจัง เดี๋ยวคืนนี้กลับไปเล่นอินเตอร์เนทหาข้อมูลสักหน่อยว่าพรุ่งนี้ กะวันต่อๆ ไปจะไปเที่ยวไหนดี คริ คริ
*******************************************
วันอังคาร ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553
วันที่ 11 โปรแกรมทัวร์จัดเอง Oxford Street ไป John Lewis Selfridges & Co. Mark & Spencer Primark
ไฮไลท์ของวันนี้อยู่ที่ John Lewis นี่ล่ะ เป็นห้างที่อยากเดินมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเริ่มจะติดผ้าม่านในห้อง เพราะเราเกิดไปติดใจลายผ้าม่านของที่นี่เอามากๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาเดินที่นี่ด้วยตัวเอง
| Create Date : 24 มิถุนายน 2553 |
| Last Update : 6 ตุลาคม 2553 13:56:18 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 4315 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Bpearl  วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:20:22:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 160 คน [