Bloggang.com : Bigcrab : เที่ยวอังกฤษ - เวลส์ - สก๊อตแลนด์ (วันที่ 1)

เที่ยวอังกฤษ - เวลส์ - สก๊อตแลนด์ (วันที่ 1)

เที่ยวสหราชอาณาจักร & สิงค์โปร์ ระหว่าง 10-22 เมษายน 2010

วันเสาร์ ที่ 10 เมษายน 2010

(วันที่ 1 - ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และ Changi International Airport)

จริงแล้วโปรแกรมทัวร์ของเราจะเป็นทัวร์ อังกฤษ เวลส์ สก๊อตแลนด์ วันที่ 10-18 เมษายน 2010 แค่นั้นล่ะ แต่ที่เกินไปกว่านั้นเป็นเพราะภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศไอซ์แลนด์ ทำให้สนามบินปิด เดินทางกลับไม่ได้ โปรแกรมของเราก็เลยยาวขึ้นกว่าปกติ

โปรแกรมรอบนี้ ท่านพ่อท่านแม่ หรือสปอนเซอร์หลักของเรา เป็นคนตัดสินใจที่จะเลือกไปกับบริษัท เร้นจ์ และเลือกสายการบินสิงค์โปร์แอร์ไลน์ เพราะว่าช่วงบินระหว่างสิงค์โปร์ จนถึงลอนดอน 12 ชั่วโมงนั้น พวกเราจะได้นั่ง Airbus A380 (จริงๆ แล้วอันนี้คุณแฟนขอมาเลย เพราะเธอเคยทำธีสีสตอนจบโทที่ซิดนีย์ เป็นเรื่องของ Airbus A380 ทำตั้งแต่เครื่องบินยังผลิตไม่เสร็จเลย เธอเลยรู้รายละเอียดทุกอย่างของเครื่องบินรุ่นนี้ ตั้งแต่เริ่มวางแผนการผลิต ประกอบเครื่อง จนขั้นตอนนำส่งเครื่องให้ลูกค้า เราก็ช่วยเธอทำรายงานตัวนี้เหมือนกัน ยังคิดเลยว่ามันอัศจรรย์มาก เครื่องใหญ่ขนาดนี้ กว่าจะประกอบมาเป็นรูปเป็นร่างได้ ขั้นตอนมันซับซ้อน ละเอียดมากมายจริงๆ)

เปรียบเทียบให้ดูว่า Airbus A380 ใหญ่ขนาดไหน

วันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
พวกเราออกเดินทางจากบ้านค่อนข้างเร็วกว่าปกติ เพราะเกรงว่ารถจะติดจากคนชุมนุม ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ บ่าย 2.30 นั่งรอ เดินเล่น จนถึงเวลานัดประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง ก็เข้าคิวรอเช็คอิน เครื่องออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 18.30 น โดยประมาณ นั่งเครื่องไปสิงค์โปร์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็ไปต่อเครื่องที่สิงค์โปร์อีกทีนึง ได้เดินๆ ในสนามบิน Changi ที่สิงค์โปร์แล้วตื่นตาตื่นใจดีค่ะ ร้านค้าเยอะมาก มีร้านหลากหลาย กว้างใหญ่โอ่โถงมากทีเดียว แต่เดินนานๆ แล้วตาลาย เพราะลายพรมเค้าชวนให้ตาลายมาก ลายพร้อยซะ

ขาไป ดูจาก Boarding Pass ปรากฎว่าเราได้นั่ง Lower Deck หรือโซนหลังสุดของเครื่อง พี่ไกด์บอกว่าที่นั่งของเครื่อง A380 จะขายดีมาก ทางสายการบินสิงค์โปร์เค้าจะให้ที่นั่งด้านหน้าๆ กับคนของเค้าก่อน ส่วนที่เหลือด้านหลังๆ ก็ออกขายให้ทัวร์

เคยได้ยินว่าเครื่อง A380 จะเงียบมาก นั่งสบาย ก็จริงสมคำร่ำลือละคะ นั่งสบายเงียบ แถมเวลาเจอลมแรงๆ หรือตกหลุมอากาศ เครื่องบินจะไม่เสียการทรงตัวง่ายๆ แต่เผอิญว่าเรานั่งแถวเกือบท้ายเครื่อง เลยรู้สึกว่ามันจะเหวี่ยงๆ ไปหน่อย (ที่รู้สึกเพราะว่าเทียบกับขากลับ ที่เราได้นั่งตรง Main Deck จะไม่ค่อยรู้สึกเหวี่ยงๆ เท่าไหร่ แต่พอเดินมาท้ายเครื่องมันจะรู้สึกเหวี่ยงๆ มากกว่า หรือคิดไปเองก็ไม่รู้นะ) แต่ทั่วๆ ไปก็โอเค ชอบค่ะ

แต่ที่ชอบมากที่สุดก็ทีวีจอส่วนตัวนี่ละคะ มีหนังให้เลือกมากจริงๆ คุณภาพหน้าจอก็ชัดกว่าเครื่องบินเล็กมาก ปุ่มควบคุมก็มีลูกเล่นให้เลือกเล่นมากกว่าเครื่องบินเล็กอีก

ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่านะ เรารู้สึกว่านั่งเครื่องของสิงค์โปร์แอร์ไลน์ แล้วไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เวลาเครื่องบิน take off และ landing รู้สึกว่าจะขึ้นลงได้ค่อนข้างนิ่มทีเดียว ทั้งขึ้นลงกรุงเทพ-สิงค์โปร์ และสิงค์โปร์-ลอนดอน

แต่ที่ชอบมากที่สุดก็อาหารของเค้านี่ละ อร่อยมากกกก อร่อยทุกอย่างเลย อิอิ ปกติเราไม่ค่อยชอบอาหารบนเครื่องเลย เพราะกินยังงัยก็ไม่อร่อย แต่พอเจอของที่นี่เท่านั้นล่ะ ทานเกลี้ยงซะ คุณแฟนก็ยังชมเลยค่ะว่าอาหารอร่อย เทียบกับสายการบินบ้านเราตอนนี้ไม่ได้เลย คุณภาพบริการ อาหาร ดิ่งลงเหวไปแล้ว

พวกเราเดินทางถึงสนามบิน Heathrow ประมาณ 7 โมงเช้า ของวันอาทิตย์ ที่ 11 เมษายน ก็ผ่านพิธีการ ตรวจคนเข้าเมือง เรียบร้อยดี แต่ก็แอบง่วงนิดนึง โทรมๆ หน่อย เพราะนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อย นั่งนิ่งๆ นานเกิน

หลังผ่านพิธีการเสร็จ ก็มานั่งรอใน terminal ประมาณ 30 นาที่ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่รถบัสจะมารับตอน 8 โมงครึ่ง ช่วงระหว่างรอก็ต้องเปิดกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้หนาขึ้น เพราะอากาศตอนเช้าๆ นี่เย็นเอาการอยู่

***** ติดตาม ตอนที่ 2 - วันแรก Stonehenge - Bath - Cardiff (City of Wales) ******

Create Date : 28 เมษายน 2553

Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 14:49:38 น.

7 comments

Counter : 1459 Pageviews.