ยามอัสดง .. เยี่ยมเยือน ราตรีคือเพื่อนรอหน้า
พ้นสงัดข้ามห้วงเวลา อรุณเบิกฟ้า .. ทิวาครอง
|
||||
.. หลวงพ่อ .. ตอนที่ ๒ ทั้งๆที่เป็นเดือนห้ายังไม่ทันจะถึงวสันตฤดู วันนี้ท้องฟ้ากลับมืดครึ้มทึมเทา หมู่เมฆลอยคล้อยต่ำทำท่าว่าจะมีเม็ดฝนหยดมิหยดแหล่ แต่ถือว่าอากาศเป็นใจอย่างยิ่งที่จะทำการหักร้างถางพงอย่างที่ยายเมี้ยนตั้งใจ แม้จะอบอ้าวไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าทำงานท่ามกลางเปลวแดดแผดร้อนอย่างที่เคยเป็น วันนี้ทิดริดรวบรวมแรงงานที่จะมาช่วยได้อีกสองคน นอกจากทิดริดก็ยังมีทิดปลอดและทิดสาย ส่วนยายเมี้ยนนั้นทำกับข้าวกับปลาหาน้ำหาท่ามาพร้อมสรรพ แกช่วยลงแรงไม่ได้ก็เอาน้ำจิตน้ำใจมาตอบแทนกัน ทิดริดแจกแจงงานว่าใครทำอะไร ตรงไหนก็ลงมือทำงานกันทันที งานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ที่รกๆเริ่มโล่งเตียนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะรวมแรงกันอีกครั้งมาจัดการกับกลุ่มเถาวัลย์กาฝากเป็นเป้าหมายสุดท้าย ในไม่ช้าวัชพืชที่ไม่พึงประสงค์ถูกตัดถูกรั้งออกไปจนเกือบจะหมด เผยให้เห็นซากสถูปปรักหักพังปรากฏอยู่เบื้องหน้า ที่มีประจักษ์พยานร่วมกันถึงสี่คน แล้วก็เป็นทิดริดที่ตวัดสายตาหันมาที่ยายเมี้ยนในทันใด พี่เมี้ยน .. แกพยักหน้าให้คนที่เรียกชื่อ โดยไม่พูดอะไรเพราะต่างรับรู้ถึงกันว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น อย่างน้อยแกก็มั่นใจแล้วว่า สิ่งที่แกเห็นในฝันไม่ใช่สิ่งที่เลื่อนลอย หากแกยังไม่เข้าใจว่า ทำไม สิ้นสุดวันงานก็สิ้นสุดตาม สามคนสามแรงของชายฉกรรจ์ทำให้งานแล้วเสร็จ ที่ตรงนั้นเหี้ยนเตียน ตรงสถูปร้างที่ถูกแอบซ่อนไว้ก็ไม่มีวัชพืชมาบดบังสายตา ขากลับจะด้วยเรี่ยวแรงที่ยังเหลือหรือเพราะดีกว่าเดินกลับเฉยๆ ทั้งสามคนเดินไปก็ถางหญ้าตามเส้นทางที่เข้ามาไปด้วย เพื่อเปิดทางให้เดินไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อกลับออกมาแล้ว ก่อนจะแยกย้ายกันไป ยายเมี้ยนบอกให้ทิดริดและพรรคพวกรอแกประเดี๋ยว ก่อนที่จะก้าวขึ้นบันไดเรือนและลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมถุงผ้าใบย่อมสามถุง แล้วแจกจ่ายให้ทุกคนอย่างทั่วถึงอย่างที่แกตั้งใจไว้แล้วว่า จะต้องมีสินน้ำใจตอบแทนคนมาช่วยงานบ้าง ทีแรกทั้งสามคนอิดออดไม่อยากรับเพราะถือเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป จนยายเมี้ยนต้องแค่นให้รับไว้ ทั้งสามคนจึงต้องรับน้ำใจของแกอย่างขัดเสียไม่ได้ แล้วสองในสามคนจึงแยกย้ายกันกลับบ้านไป มีเพียงทิดริดเท่านั้นที่ยังไม่ขยับไปไหน เขาอยากจะถามสิ่งที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อบ่ายหลังจากเห็นสถูปร้างนั่นแล้ว แต่เพราะโอกาสไม่อำนวยจึงได้เก็บไว้ก่อน พรรคพวกที่มาช่วยไม่มีใครรู้เรื่องที่ยายเมี้ยนเล่าให้เขาฟัง แค่เขาขอแรงพวกนั้นก็กระตือรือร้นมาช่วยด้วยความเต็มใจ อาจจะแปลกใจอยู่บ้างที่มีสถูปเก่าในดงหญ้าดงเถาวัลย์ แต่ก็คงไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอย่างที่เขาคิดขณะนี้ ยายเมี้ยนคงเห็นว่าทิดริดมีเรื่องจะคุยด้วย จึงได้เรียกให้ตามแกขึ้นไปคุยที่นอกชานข้างบน คนแถวนี้ต่างก็รู้ว่าใครเป็นใคร อุปนิสัยยังไง แกจึงไม่กลัวคำครหาที่จะอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง เพราะชานเรือนไม่ใช่ที่รโหฐาน ใครไปใครมาก็เห็น อีกทั้งจะว่าไปแล้วแกกับทิดริดก็เป็นคล้ายลูกพี่ลูกน้องกันหากจะนับตามสาแหรก ข้ารู้ เอ็งคงอยากถามข้าเต็มแก่ ยายเมี้ยนพูดขึ้นหลังจากนั่งลงแล้วโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายเอ่ยปาก ข้าสงสัยว่ามันจะมีอะไรในสถูปนั่นรึเปล่าสิ พี่เมี้ยน ทิดริดเอ่ยออกมาอย่างใจนึก พลางยกมือขึ้นคลึงตะกรุดพันเชือกที่ห้อยคอท่าทางครุ่นคิดจริงจัง ยายเมี้ยนมองดูหนุ่มใหญ่กายบึกบึนตามวัยอย่างพิจารณา วันนี้ทั้งวันตัวเขาไม่ได้ใส่เสื้อติดตัว ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะไม่ว่าจะเป็นวันไหนเวลาใด จะทำงานหรืออยู่บ้าน แม้แต่ออกไปเดินเล่นเยี่ยมบ้านโน้นบ้านนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายยุคนี้ นอกจากจะมีงานมีการสำคัญจริงๆ ยิ่งอยู่หัวเมืองที่ไม่ใช่พระนครด้วยแล้ว เสื้อผ้าก็ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับชีวิตชาวนาชาวไร่อย่างเราๆมากนัก แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องพกติดตัวเสมอกลับเป็นเครื่องรางของขลังขึ้นอยู่กับความนิยมชมชอบว่ามีต่อเกจิอาจารย์สำนักไหน เอ็งเชื่อที่ข้าเล่ารึ พ่อทิด อันที่จริงเรื่องนี้แกยังไม่อยากแพร่งพรายออกไปให้มากความ ด้วยเกรงว่าคนจะแตกตื่น ดีไม่ดีแกอาจจะถูกหาว่าบ้าได้ จึงอยากจะพิสูจน์ให้แน่ใจเสียก่อน จะมีก็ทิดริดนี่ล่ะพอจะเป็นที่พึ่งให้แกได้ เพราะทิดริดก็เปรียบเสมือนน้องชายของแกอีกคน ขนาดนี้แล้วพี่เมี้ยน ข้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด คิดว่ารู้จักแถบนี้ทะลุปรุโปร่งทุกเส้นทุกวา ข้ายังไม่รู้เลย ว่าไอ้ที่ตรงนั้นมันมีสถูป ที่ข้าฝันเห็น เขาคงอยากให้ข้าบูรณะกระมัง แกพึมพำคาดเดา แต่เจ้าของร่างกำยำกลับโบกไม้โบกมือเป็นการใหญ่ว่า มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น แต่ถกกันไปมาก็สุดจะรู้ได้ว่ามันคืออะไร จนเห็นว่าตะวันอ้อมจนสุดขอบฟ้าตะวันตก ทิดริดจึงลากลับก่อนที่จะค่ำมืดไปกว่านี้ แต่ก็ไม่ลืมหันมาขอบใจยายเมี้ยนอีกครั้งเรื่องสินน้ำใจที่ให้มา เอาไปเถิดพ่อทิด ข้าไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเอ็ง ข้าก็ต้องตอบแทนในสิ่งที่ข้าพอจะมีสิ ขุดสิ .. ขุดลงไป .. ขุดให้ถึงตาน้ำ ยายเมี้ยนเดินลงมาจากเรือนแล้วก้าวเดินไปตามทางที่เคยรกเรื้อไปด้วยหญ้า มาบัดนี้มันเตียนโล่งเดินสบายเท้าเปล่าเปลือยของแกนัก แสงสลัวของดวงจันทร์ที่มีเพียงเศษเสี้ยวไม่เป็นอุปสรรคในการเดินไปในความมืดของแกได้ แกรู้ว่าต้องเดินไปทางไหน อย่างไร ทิศทางเหมือนถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว แกเดินตามร่างชราในชุดโจงกระเบนขาวมีผ้าพาดเฉียงไหล่ขวาสีขาวเช่นกัน ซึ่งมันควรจะโบกพลิ้วยามเคลื่อนไหวหรือต้องลม แต่ที่แกเห็นมันสงบนิ่งทั้งๆที่แกเองเดินจนผ้าถุงปลิวสะบัด เป็นอีกครั้งที่แกมาหยุดอยู่ตรงหน้าสถูปร้าง ทันเห็นชายชราเคลื่อนกายอ้อมไปทางด้านหลัง ก่อนที่ตรงนั้นจะมีแสงสว่างวาบขึ้น มันบาดตาเสียจนแกต้องยกมือขึ้นปิดหน้าทันที รอจนเวลาผ่านไปสายตาคืนมาใช้การได้ตามปกติ แกหันไปมองตรงนั้น คราวนี้แกเห็นเป็นแสงนวลเรื่อเรืองออกมาจากด้านหลังสถูป ก่อนที่หูแกจะแว่วเสียงทรงอำนาจกึกก้องไปทั่วบริเวณ ขุดสิ .. ขุดลงไป .. ขุดให้ถึงตาน้ำ ยายเมี้ยนสะดุ้งตื่นทันทีอกใจสั่นไหวไปกับน้ำเสียงนั้นราวกับว่าได้ยินอยู่ไม่ไกล ความฝันมันชัดเจนเหลือเกิน แต่เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างฟ้ายังไม่สาง แกจึงคิดว่าจะนอนเอาแรงอีกสักหน่อย ในใจอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมแกเหนื่อยอย่างนี้ราวกับเดินทางไปที่ไหนไกลๆ ก่อนจะหลับตาผ่อนลมหายใจเหนื่อยอ่อนช้าๆจนหลับไปในที่สุด ทิ้งให้ปลายเท้ากับชายผ้าถุงของแกเปื้อนดินเปื้อนโคลนอยู่อย่างนั้น เช้าวันนี้หลังจากที่ไปทำบุญตักบาตรในวันพระแรกของเดือนมาแล้ว ด้วยความคลางแคลงสงสัย เมื่อยายเมี้ยนจัดการธุระปะปังเรียบร้อย ก็เดินไปยังจุดมุ่งหมายโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรอีกแล้ว แกเดินอ้อมไปข้างหลังสถูปทันที ตรงนั้นมีร่องรอยประหลาดบางอย่างคล้ายถูกเผาไหม้ แต่พื้นดินกลับมีความชุ่มชื้น แกจึงลองหาไม้แข็งและมีความยาวพอสมควรที่อยู่แถวๆนั้น ทดลองแทงลงไปในดินปรากฏว่า มันอ่อนตัวเสียจนแทงลงไปได้เกือบมิดท่อนเหลือแต่ส่วนที่แกจับไว้ หรือว่าตรงนี้จะเป็นตำแหน่งของตาน้ำที่แกได้ยิน ตื่นเต้นในอกในใจ ความอยากรู้แล่นขึ้นมาจากส่วนลึกทันใด แต่ในขณะที่อีกใจหนึ่งยังฉุดรั้งแกเอาไว้ ด้วยว่าวันนี้เพิ่งทำบุญรับศีลมา หากทำการใดๆลงไป ไม่ว่าจะถาก ขุดหรืออะไรก็ตาม สรรพสัตว์ที่อยู่ข้างใต้ก็จะเดือดร้อนจากผลการกระทำของแกด้วย อีกทั้งศีลที่รับมาถือก็จะขาดเสียเปล่าๆ เอาไว้พรุ่งนี้ก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากันอีกที คิดทบทวนครู่หนึ่งแกก็เดินกลับบ้าน กะการในใจว่า คงต้องไปขอแรงทิดริดอีกรอบ แต่หนนี้คงต้องให้หาพรรคพวกมาหลายคนหน่อย เพราะธรรมดาการขุดตาน้ำใช่ว่าจะเจอได้ง่ายๆ อาจต้องใช้แรงคนมากกว่าครั้งที่แล้วที่มาช่วยถากถางวัชพืชก็เป็นได้ ความที่มุ่งมั่นและนึกถึงบุคคลที่จะมาช่วยแกได้ ทำให้เท้าพาแกเดินไปหยุดที่หน้าบ้านทิดริด กว่าจะรู้ตัวก็ได้ยินเสียงทักของนางบัวสีเมียทิดริดแล้ว พี่เมี้ยน มาหาพี่ทิดหรือจ๊ะ เสียงเรียกทำให้ได้สติว่าเดินมาถึงไหน หากก็งุนงงอยู่พัก แล้วตอบรับคำทักนั้นไปทันที จ้าแม่บัว แล้วผัวเอ็งอยู่ไหมล่ะ ข้ามีเรื่องจะไหว้วานหน่อย อยู่จ้ะ ผัวข้าเพิ่งกลับมาจากทำบุญพร้อมข้านี่ล่ะ เดี๋ยวข้าไปตามให้นะ เออๆ ขอบใจเอ็งนะแม่บัว ข้านั่งรอตรงนี้แล้วกัน ยายเมี้ยนบอกแล้วก็ไปนั่งที่เตียงใหญ่ใต้ถุนเรือน หลังจากนางบัวสีหายเข้าไปในบ้านก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับทิดริด พ่อทิด ข้าอยากให้เอ็งไปช่วยงานข้าพรุ่งนี้นะ ออ หาพรรคพวกมาหลายคนหน่อยก็ดี ข้าจะให้ขุดหาตาน้ำใน ที่ ของข้า เป็นคำขอให้ช่วยงานโดยไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง ปฏิเสธหรือแม้แต่เวลาคิด ซึ่งทิดริดเองก็รู้ดีว่าเพราะเหตุใด จะว่าไปเขาก็แอบคิดอยู่เหมือนกันหลังจากกลับมาถึงบ้านคราวนั้น มันอดเก็บมาสงสัยไม่ได้ว่า ในสถูปจะมีอะไร เขาคิดไปจนถึงว่า อาจจะมีกรุพระซุกซ่อนอยู่ในนั้น แล้วถ้าเป็นจริงขึ้นมา แค่คิด โอ้ .. มันจะเป็นพระเด่น พระดีมาตั้งแต่ครั้งไหนนะ พรุ่งนี้ข้าไปรอที่นั่นเลยแล้วกัน เช้าหน่อยนะพี่เมี้ยน ช้ากว่านั้นเดี๋ยวแดดจะร้อนเสียก่อน บ่ายนั้นทิดริดออกไปหาพรรคพวกที่เคยช่วยงานครั้งที่แล้ว ซึ่งก็ได้รับการตกปากรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมาช่วยของทั้งทิดปลอดและทิดสาย ทิดริดจึงไหว้วานเพื่อนให้หาคนมาอีกสองสามคน เผื่อต้องการใช้แรงมากกว่านี้ มันมีอะไรที่นั่นหรือวะ ไอ้ริด เป็นทิดปลอดที่ออกปากถาม ด้วยมั่นใจแล้วว่าที่ตรงนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ ก่อนจะหันไปสบตากับทิดสายโดยไม่ให้ทิดริดเห็น ข้าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน หนุ่มใหญ่ญาติห่างๆของยายเมี้ยนตอบไปตามตรง เพราะไม่มีอะไรจะปิดปัง เขาเองก็ไม่รู้จริงๆว่า มันจะมีหรือไม่มีอะไร เฮ้ย เอ็งไม่ต้องปิดบังพวกข้าหรอกน่า ทิดสายพยายามถาม เขาเองสงสัยตั้งแต่เจอสถูปแล้ว ว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เกิดมาจนจะแก่ยังไม่เคยรู้ว่ามี ถ้าพวกเอ็งสองคนอยากรู้ พ้นวันนี้ไป รุ่งเช้าก็จะได้รู้ เตรียมตัวไว้แล้วกัน ข้าอยากทำงานแต่เช้า ออ..แล้วอย่าลืมหาคนมาช่วยอีกสองสามคนล่ะ ข้าไปล่ะ ทิดริดก้าวเดินจากไปทันทีที่สั่งงานเพื่อนจบ โดยไม่รู้เลยว่า เพื่อนอีกสองคนกำลังคิดอะไรอยู่ *************************************************************************** โปรดติดตามตอนต่อไป ... ขอบคุณฮะ .. สำหรับ มาการองตองแตง
วันนี้ไปเที่ยวไหนมั้ยฮะ .. วันหยุดนี่เนอะ โดย: โค อัสดง วันที่: 30 มีนาคม 2556 เวลา:3:23:56 น.
|
โค อัสดง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] .. ตามนั้น อย่างที่มันควรจะเป็น ..
Group Blog
All Blog Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ทานขนมกันนะคะ
มีความสุขมากๆในวันหยุดค่า