สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จีน เปิดใช้งานสะพานข้ามทะเลที่มีระยะทางยาวที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 23 ต.ค. โดยเป็นสะพานยาว 55 กม.ที่เชื่อมระหว่างเมืองสำคัญทางภาคใต้ของจีน คือ เกาะฮ่องกง มาเก๊า และเมืองจูไห่ ที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ของจีนบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล
สะพานแห่งนี้สำคัญอย่างไร?
มีรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะเดินทางไปเปิดสะพานแห่งนี้ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการเดินทางของผู้นำจีนครั้งนี้เป็นการกระตุ้นความเชื่อมั่นให้ประชาชนในช่วงที่จีนกำลังทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็อาจมีการบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางเศรษฐกิจของจีนด้วย
โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของประธานาธิบดีสี ในการทำให้บริเวณที่เรียกว่า Greater Bay Area ซึ่งหมายถึงอ่าวกวางตุ้ง ฮ่องกง และ มาเก๊า กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อแข่งขันกับเมืองท่าสำคัญของโลก อย่าง นครซานฟรานซิสโก นครนิวยอร์ก และกรุงโตเกียว เพราะจะช่วยย่นเวลาการเดินทางระหว่าง 3 เมืองลง
โดยจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางทางบกระหว่างฮ่องกงกับเมืองจูไห่เหลือไม่ถึง 30 นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลานานถึง 4 ชม. และทำให้การขนส่งสินค้าจากท่าอากาศยานฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่คึกคักที่สุดในโลกไปยังจีนแผ่นดินใหญ่มีความสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังคาดว่าจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในแถบนี้ด้วย
รัฐบาลจีนตั้งความหวังว่า จะพัฒนาให้บริเวณ Greater Bay Area ซึ่ง ประกอบไปด้วยฮ่องกง มาเก๊า รวมทั้งอีก 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง ที่มีประชากรรวมกันราว 68 ล้านคนนั้น กลายเป็นเขตเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีเหมือนกับแถบ Silicon Valley ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียนั่นเอง
สะพานแห่งนี้น่าทึ่งอย่างไร?
นี่คือความสำเร็จในการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ สะพานแห่งนี้ใช้เวลาในการวางแผน 6 ปี และก่อสร้างนาน 8 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์ยาว 6.7 กม. จะช่วยให้เรือขนส่งสินค้าแล่นผ่านไปได้ นอกจากนี้ เกาะเทียมขนาด 625 เมตรก็น่าทึ่งอยู่ไม่น้อย
โครงการนี้เป็นการรวมระหว่างสะพานข้ามทะเลและอุโมงค์ใต้ทะเล มีข้อมูลว่าเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้สามารถใช้สร้างหอไอเฟลได้ถึง 60 หอ
ก่อนจะมีสะพานแห่งนี้ ทั้งฮ่องกง มาเก๊า ซึ่งเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน ไม่มีพรมแดนทางบกเชื่อมต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่ และใช้หลักการการปกครองที่เรียกว่า หนึ่งประเทศ สองระบบ จึงทำให้มีนโยบายว่าด้วยคนเข้าเมืองและศุลกากรของตนเอง รวมทั้งกฎจราจร ที่ขับรถชิดซ้ายแบบอังกฤษ ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ขับรถชิดขวา ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายด้านการขับขี่ยานพาหนะที่สะพานแห่งนี้
นอกจากนี้ ยังเกิดคำถามว่าจะมีการใช้งานสะพานแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่หรือไม่
เดิมทีทางการจีนประเมินว่าจะมียานพาหนะข้ามสะพานแห่งนี้วันละประมาณ 9,200 คัน แต่ได้ลดตัวเลขประมาณการณ์ดังกล่าวลง เพราะมีการสร้างเครือข่ายการคมนาคมขนส่งแห่งใหม่ในภูมิภาค ทำให้คาดว่ารายได้จากการเก็บค่าผ่านทางที่สะพานแห่งนี้จะลดลง
ขอบคุณข้อมูลจาก : khaosod.co.th
ขอบคุณรูปถภาพจาก : AFP
ดูบทความดีๆได้ที่ : //www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Thaihomeonline.com หรือ Line@ : thaihomeonline - ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน
คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com